Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
พวกลัทธิ "กระดูกแก้ว" ถ้อยคำของผู้ที่คอดว่าตัวเองเก่ง(รถเรณู) ขอเชิญทุกท่านร่วมแสดงความเห็น ติดต่อทีมงาน

กลุ่มคนที่อ้างว่า เป็นลูกศิษย์ลูกหา พระสุปฏิปัณโณ สายพระป่า และตั้งกลุ่มเป็นพวกลัทธิ "กระดูกแก้ว"   คนกลุ่มนี้จะเชื่อว่า พระสงฆ์เหล่านั้น เมื่อมรณภาพแล้ว กระดูกก็จะกลายเป็แก้ว หรือเรียกกันว่า "พระธาตุ"   หากใครไปแตะต้อง ไม่เชื่อเข้า เขาเหล่านี้ก็จะโกรธเคือง สาปแช่งให้ตกนรก ต่าง ๆ นานา

            นี่คือคำพูดของนาย  รถเรณู  ผู้ที่อวดอ้างว่าตัวเองเก่งไปทุกเรื่องทั้งที่กิเลสเต็มหัว    มีแตปริญัติแต่  เข้าไม่ถึง  ปฏิบัติและปฏิเวธ   มีแต่ปัญญาทางโลกแต่ไม่มีปัญญาทางธรรมเลยแสดงความโง่  ของตัวเองออกมาดั่ง  ลาที่ปลอมตัวเป็นราชสีห์   ตามชาดกข้างล่างนี้


              ลาปลอมตัวเป็นราชสีห์ (สีหจมฺมชาตกํ) ๑๘๙

[๒๒๗] เนตํ  สีหสฺส  นทิตํ... ชมฺโม  นทติ  คทฺรโภ ฯ
[๒๒๘] จิรมฺปิโข  ตํ  ขาเทยฺย คทฺรโภ  หริตํ  ยวํ
ปารุโต  สีหจมฺเมน รวมาโนว  ทูสยีติ ฯ


ความนำ
พระพุทธเจ้าทรงอาศัยพระนครสาวัตถี  ประทับอยู่ ณ วัดพระเชตวัน ได้ทรงปรารภพระโกกาลิกะรูปเดิมอีกครั้งหนึ่ง ได้ตรัสพระธรรมเทศนาคือคาถาที่ปรากฏ ณ เบื้องต้น  

ปัจจุบันชาติ
  มีเรื่องเล่ามาว่า วันหนึ่ง พระโกกาลิกะเห็นเพื่อนพระภิกษุรูปอื่นแสดงธรรมด้วยเสียงอันไพเราะเป็นทำนองเสนาะสรภัญญะ ท่านจึงอยากจะแสดงพระธรรมเทศนาเป็นทำนองอย่างนั้นบ้าง แต่ก็ไม่สามารถจะทำได้จึงทำให้ท่านได้รับความอับอายมาก
ต่อมา มีภิกษุรูปหนึ่งได้นำความไปกราบบังคมทูลให้พระพุทธเจ้าทรงทราบ เมื่อทรงทราบเรื่อง พระพุทธองค์จึงมีรับสั่งว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โกกาลิกะทำอย่างนี้ไม่เฉพาะในชาตินี้เท่านั้น แม้ในอดีตกาล เธอก็เคยทำมาแล้วอย่างนี้มาแล้วเหมือนกัน”
จากนั้น ได้ทรงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่าให้ฟัง ดังนี้

อดีตชาติเนื้อหาชาดก
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี ครั้งนั้น มีชายคนคนหนึ่งประกอบอาชีพด้วยการทำนาเลี้ยงครอบครัว ในครั้งนั้น มีพ่อค้าเร่คนหนึ่งบรรทุกสินค้าบนหลังลาเที่ยวขายสินค้าไปเรื่อย ๆ
เมื่อเขาไปถึงที่ใด พอขนสินค้าลงจากหลังลาเสร็จ เขาจะเอาหนังราชสีห์คลุมตัวลาแล้วปล่อยให้มันออกไปหากินที่นาข้าวสาลีและข้าวเหนียวของชาวบ้าน ชาวนาพอเห็นเข้าก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นราชสีห์จริง ๆ จึงไม่กล้าไปไล่เพราะความกลัวจะได้รับอันตรายต้องปล่อยให้มันกินรวงข้าวในนา
วันหนึ่ง พ่อค้านั้นพักอยู่แถวประตูบ้าน ในขณะกำลังหุงอาหารเช้าอยู่ เขาก็ปล่อยลาออกไปหากินตามปกติ โดยเอาหนังราชสีห์คลุมตัวลาแล้วก็ปล่อยให้ออกไปหากิน มันจึงเดินลงไปกินในนาข้าวเหนียวของชาวบ้าน
คนเฝ้านาเห็นเข้าก็ไม่กล้าไล่เพราะคิดว่าเป็นราชสีห์จริง ๆ เขาจึงรีบกลับไปตามเพื่อนบ้านให้มาช่วยกันขับไล่ราชสีห์ปลอม
พวกชาวบ้านรวมตัวกันได้ต่างก็พากันถืออาวุธพร้อมมือพากันโห่ร้องขับไล่ราชสีห์ ฝ่ายลาปลอม เพราะความกลัวตายจึงเปล่งเสียงร้องออกมา    
ครั้งนั้น มีชาวนาคนหนึ่งจึงได้กล่าวคาถาที่ ๑ ว่า


นี่ไม่ใช่เสียงคำรามของราชสีห์
ไม่ใช่เสียงร้องของเสือโคร่ง
ไม่ใช่เสียงคำรามของเสือเหลือง
แต่เป็นเสียงลาโง่ผู้คลุมตัว
ด้วยหนังราชสีห์ต่างหาก


ฝ่ายพวกชาวบ้านพอรู้ว่ามันเป็นลาปลอมตัวมา พวกเขาก็ยิ่งโกรธใหญ่ที่ถูกลาหลอก  จึงพากันรุมกระหน่ำตีอย่างไม่ยั้งมือ ทำให้มันกระดูกหักได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนร้องด้วยที่นั้นด้วยความทรมาน ก่อนจากไป พวกชาวบ้านได้ฉวยเอาหนังราชสีห์ที่มีค่าจากไป
ฝ่ายพ่อค้าผู้เป็นเจ้าของลา ออกตามหาลาเพื่อจะได้พาไปค้าขายต่อไป เมื่อเห็นลาของตนได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงได้กล่าวคาถาที่ ๒ ว่า


เจ้าลาได้เอาหนังราชสีห์คลุมตัว
เที่ยวหากินข้าวเหนียวนานมาแล้ว
พอมันร้องออกมาจึงทำให้เขารู้ว่า
มันเป็นลา ได้ทำร้ายตนเองเสียแล้ว


ความหมายของคาถา
ลาเที่ยวหลอกชาวบ้านด้วยการใช้หนังราชสีห์คลุมตัวออกเบียดเบียนชาวบ้านด้วยการหากินในนาข้าวชาวบ้านมานาน แต่เมื่อมันถูกชาวบ้านรุมล้อมพากันโห่ร้องขับไล่ เพราะความกลัวตายจึงทำให้มันร้องออกมาจึงทำให้ชาวบ้านรู้ว่าถูกหลอกจึงกล่าวคาถาที่ ๑
  ฝ่ายพ่อค้าผู้เป็นเจ้าของผู้ใช้อุบายหลอกชาวบ้านกำลังมองลาด้วยความสงสารพร้อมกับคิดว่า เป็นความโง่ของลาเองที่ร้องออกมาทำให้ชาวบ้านจับได้ เพราะเสียงร้องของมันจึงกลับมาทำร้ายตัวของมันเอง ไม่ใช่ความผิดของหนังราชสีห์เลย จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ออกมา
ในขณะที่พ่อค้าผู้เป็นเจ้าของลากำลังตรวจสภาพของลาตนเองอยู่นั้น ลาไม่สามารถทนต่อพิษบาดแผลที่ถูกทำร้ายก็สิ้นใจตายไปต่อหน้าเจ้าของนั้นเอง
      พระบรมศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า “ลาในครั้งนั้นได้กลับชาติมาเป็นพระโกกาลิกะในบัดนี้ ส่วนชาวนาผู้ฉลาดได้มาเป็นเราตถาคตนั้นเอง”
             
   

   สรุปสุภาษิตจากชาดกนี้
"โง่อย่าอวดฉลาด"

แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 55 16:20:05

จากคุณ : wutthitham
เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 13:28:13




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com