ความคิดเห็นที่ 1 มารออ่านด้วยคนครับ จากคุณ : ความเชื่อ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 09:53:24

ความคิดเห็นที่ 2 นำคำสอนพระอาจารย์รูปหนึ่งมาให้อ่าน หวังว่าจะได้คำตอบครับ ๑. การรักษาศีลเพื่อป้องกันกิเลส มีขั้นตอนดังนี้               ก) ใหม่ๆ จะเคร่งและเครียดมาก ขนาดต้องจดศีล ๒๒๗ ใส่กระเป๋าไว้ และหมั่นทบทวนเมื่อมีโอกาสทุกครั้ง จนจำขึ้นใจได้               ข) ศีลพระ จะเอาแต่เจตนาเป็นหลักตัวเดียวไม่ได้ เพราะจะรู้ - จะไม่รู้ หรือสงสัยหรือสำคัญผิด ก็มีอาบัติปรับทั้งสิ้น               ค) ในที่สุด จะต้องมาดูอารมณ์จิตของตนว่า มันเกิดกิเลสหรือไม่          เพราะพระพุทธเจ้าทรงมีบัญญัติศีลก็เพื่อประโยชน์กับผู้ปฏิบัติเอง ทรงตรัสไว้ ๑๐ อย่าง (๑๐ ข้อ)          ในข้อ ๕ เพื่อป้องกันอาสวะ (กิเลส) ที่จะเกิดในปัจจุบัน (มิให้เกิดขึ้น)          ในข้อ ๖ เพื่อกำจัดอาสวะ (กิเลส) ที่จะเกิดในอนาคต (ให้หมดไป)          จุดนี้ทำให้ท่านพิจารณาใคร่ครวญจน เห็นคุณของการมีศีล และเห็นโทษของการไม่มีศีล จนกระทั่งใจไม่ยอมละเมิดศีลอีก (เพียรหมั่นรักษาศีลด้วยปัญญา จนกระทั่งศีลรักษาใจ ไม่ให้ละเมิดศีลอีกเป็นอัตโนมัติ) จึงเท่ากับระมัดระวังจิตไม่ให้เกิดกิเลสนั่นเอง (ยกตัวอย่างง่ายๆ ไม่ปาณาติบาต ก็ตัดความโกรธ ไม่อทินนาทาน ก็ตัดความโลภ ไม่กาเม ก็ตัดความหลง เป็นต้น) ๒. ท่านจึงเข้าใจดีว่า รักษาศีลทำไม รักษาศีลเพื่อป้องกันกิเลสตัวใหญ่ๆ คือ โลภ - โกรธ - หลง ผลจากความเพียรระมัดระวังศีลจนศีลรักษาใจท่าน ไม่ให้ละเมิดศีลเป็นอัตโนมัติ เท่ากับป้องกันจิตไม่ให้เกิดกิเลสไปในตัว ผลทำให้จิตสงบเยือกเย็นมาก เพราะการรักษาศีลก็คือการรักษาจิตไม่ให้เกิดกิเลส การระมัดระวังศีลก็คือการระมัดระวังจิตไม่ให้เกิดกิเลส ซึ่งเป็นอันเดียวกัน ๓. เมื่อจิตเป็นสีลานุสสติ จิตเป็นฌานในศีล จึงเท่ากับศีลรักษาจิตไม่ให้เกิดกิเลสได้ไปในตัว นี่แหละคือศีล - สมาธิ - ปัญญา ต่างอาศัยซึ่งกันและกัน แยกกันไม่ได้ในการปฏิบัติ รวมกันเป็นหนึ่งตรงจุดนี้แหละ คือ ต้องเกิดมรรคผลก่อนจึงจะรู้จริงได้ ดังนั้น ศีลพระจึงละเอียดกว่าศีล ๕ และศีล ๘ ของฆราวาสมาก เมื่อศีลรักษาใจท่านไม่ให้ละเมิดศีลได้เป็นอัตโนมัติแล้ว จึงเท่ากับตัดอารมณ์ราคะ โลภะ และปฏิฆะ (โทสะ) ได้ไปในตัวเช่นกัน จากคุณ : แมวเปอร์เซีย เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 11:26:42

ความคิดเห็นที่ 3 อารมณ์ศีล              วูบหนึ่งความรู้สึกบอกว่าศีลมีอารมณ์ด้วย นี่แหละเป็นอารมณ์ของศีล มันดื่มด่ำยินดีและรู้ได้เองโดยมิได้ออกมาจากความคิด              อยากถามว่า              1. อารมณ์ศีลมาจากไหน              2. อารมณ์ศีลเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นเหตุปัจจัยจากการปฏิบัติภาวนาหรือไม่    หรือรักษาศีลขั้นอุกฤษฏ์มากกว่า              3. อารมณ์ศีลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสีลานุสติหรือไม่ หรือไม่เกี่ยวกัน เพราะอนุสติอาจเป็นสติอย่างอื่น แต่มีอารมณ์ศีล ขอบคุณมากนะ จากคุณ : ning JFK. เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 09:29:42              คำว่า มันดื่มด่ำยินดี              ขยายความว่า คำนี้น่าจะเป็นส่วนเนื่องกับอานิสงส์ของศีล ดังเนื้อความในกิมัตถิยสูตร.              กิมัตถิยสูตร http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=24&A=1&Z=45                   ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=24&i=1              คำถามว่า 1. อารมณ์ศีลมาจากไหน              ตอบว่า ศีลคือการสำรวมกายวาจา ไม่ให้ตกไปในฝ่ายอกุศล ศีลก็เป็นกุศลธรรม เช่นเดียวกับหิริโอตตัปปะเป็นต้น              ว่าโดยอารมณ์  ทั่วไปแล้ว ศีลก็มีสัตว์สังขารนั่นเองเป็นอารมณ์ และประกอบด้วยเจตนาอันเป็นกุศล ในอันที่จะละเว้นทุจริตทางกายวาจา.              อรรถกถาสีลมยญาณนิทเทส http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=31&i=86&p=4 http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=31&i=86              ว่าโดยการเว้น แบ่งเป็น 3 หรือเรียกว่า วิรัติ 3              คำว่า วิรัติ 3 http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=วิรัติ_3 http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=วิรัติ              คำถามว่า              2. อารมณ์ศีลเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นเหตุปัจจัยจากการปฏิบัติภาวนาหรือไม่ หรือรักษาศีลขั้นอุกฤษฏ์มากกว่า              ตอบว่า คำว่า เป็นเหตุปัจจัยจากการปฏิบัติภาวนา              คำนี้มีส่วนสอดคล้องกับพระพุทธพจน์ที่ว่า              [๑๙๔] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพราหมณ์ ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ข้อนี้เป็นอย่างนั้น              ปัญญาอันศีลชำระให้บริสุทธิ์ ศีลอันปัญญาชำระให้บริสุทธิ์              ศีลมีในบุคคลใด ปัญญาก็มีในบุคคลนั้น              ปัญญามีในบุคคลใด ศีลก็มีในบุคคลนั้น              ปัญญาเป็นของบุคคลผู้มีศีล ศีลเป็นของบุคคลผู้มีปัญญา              และนักปราชญ์ย่อมกล่าวศีลกับปัญญาว่าเป็นยอดในโลก เหมือนบุคคลล้างมือด้วยมือ หรือล้างเท้าด้วยเท้าฉะนั้น              ดูกรพราหมณ์ ศีลนั้นเป็นไฉน ปัญญานั้นเป็นไฉน              พราหมณ์โสณทัณฑะทูลว่า              ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พวกข้าพระองค์มีความรู้เท่านี้เอง เมื่อเนื้อความมีเช่นไร     ขอเนื้อความแห่งภาษิตนี้ จงแจ่มแจ้งแด่พระโคดมผู้เจริญเองเถิด. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=9&A=2833&Z=3477#194              คำถามว่า              3. อารมณ์ศีลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสีลานุสติหรือไม่ หรือไม่เกี่ยวกันเพราะ อนุสติอาจเป็นสติอย่างอื่น แต่มีอารมณ์ศีล ขอบคุณมากนะ              ตอบว่า สีลานุสติเป็นการระลึกถึงศีล ส่วนอารมณ์ศีลได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น.              สีลานุสติ เป็นอย่างไร เพื่ออะไร ศึกษาได้จากมหานามสูตรที่ ๑                    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖              อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต                      มหานามสูตรที่ ๑ http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=24&A=7955&Z=8067                            ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=24&i=218              หมวดหนังสือธรรมะ              เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html แนะนำ :-              อ่านและค้นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม              อรรถกถาชาดกทั้งหมด ๕๔๗ เรื่อง              พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์              พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม     http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/              พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม                สารบัญประเภทธรรม http://84000.org/tipitaka/dic/d_type_index.php?                   หมวดหนังสือธรรมะ http://84000.org/tipitaka/book/              เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html              เรื่อง สิ่งที่เป็นมงคล (มงคล ๓๘) http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html              เรื่อง ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html จากคุณ : ฐานาฐานะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 12:31:53

ความคิดเห็นที่ 4 1. อารมณ์ศีลมาจากไหน อารมณ์ศีลมาจากการ วิรัติหรืองดเว้นเฉพาะหน้า ที่เราคุ้นเคยว่า วิรัติ หรือ เวรมณี ----------------------------------------------------------------------------------- 2. อารมณ์ศีลเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นเหตุปัจจัยจากการปฏิบัติภาวนาหรือไม่ หรือรักษาศีลขั้นอุกฤษฏ์มากกว่า อารมณ์ของศีล  ที่เกิดจากการงดเว้นในสิ่งที่ชั่วนั้น  มีวิรัติ คือการงดเว้นดังนี้ วิรัติ หมายถึง การงดเว้นจากบาปและความชั่วต่างๆ จัดเป็นมงคลธรรมข้อหนึ่งจำแนกออกเป็น 3 ประการ คือ - สัมปัตตวิรัติ ได้แก่ การงดเว้นจากความชั่ว เพราะมีหิริความหายชั่วและโอตตัปปะ ความกลัว บาป นั่นคือ เมื่อมีเหตุการณ์ที่เป็นใจให้เราทำผิดหรือทุจริตคอร์รัปชั่น เราสามารถห้ามใจตัวเองได้เพราะรู้สึกอายตัวเอง หรือเพราะกลัวเสียหน้า กลัวเสียเกียรติ เป็นต้น   - สมาทานวิรัติ ได้แก่ การงดเว้นจากบาป ความชั่วและอบายมุขต่างๆ ด้วยการสมาทานศีล 5 หรือศีล 8 จากพระสงฆ์โดยเพียรระมัดระวังไม่ทำให้ศีลขาดหรือด่างพร้อย แม้มีสิ่งยั่วยวนภายนอกก็ไม่หวั่นไหวหรือเอนเอียง - สมุจเฉทวิรัติ ได้แก่ การงดเว้นจากบาป ความชั่วและอบายมุขต่างๆ ได้อย่างเด็ดขาด ข้อนี้ เป็นคุณธรรมของพระอริยเจ้า ถึงกระนั้น สมุจเฉทวิรัติอาจนำมาประยุกต์ใช้กับบุคคลทั่วไปนั่น คือ ผู้งดเว้นบาป ความชั่วละอบายมุขต่างๆ ในระหว่างพรรษากาลได้แล้ว แม้ออกพรรษาแล้วก็ไม่กลับไปกระทำหรือข้องแวะบาป เหล่านั้นอีก เช่น กรณีผู้งดเว้นจากการดื่มสุราและสิ่งเสพติดระหว่างพรรษาแล้วก็งดเว้นได้ตลอดไป ----------------------------------------------------------------------------------- 3. อารมณ์ศีลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสีลานุสติหรือไม่ หรือไม่เกี่ยวกันเพราะอนุสติอาจเป็นสติอย่างอื่น แต่มีอารมณ์ศีล อารมณ์ของศีล  กับสีลานุสสตินั้น  ต่างกันตรงที่   อารมณ์ของศีล ใช้ในขณะกำลังกระทำ  กำลังงดเว้นต่อการทำชั่วเฉพาะหน้า  เช่นกำลังจะฆ่าสัตว์ แล้วระลึกถึงศีลของตนที่สมาทานไว้ ตั้งใจไว้     จึงงดเว้นเสีย   แต่สิลานุสสตินั้น  หมายถึงการะลึกนึกถึงศีลที่ตนได้รักษาไว้ดีแล้ว   คือทำได้แล้ว มีแล้ว มาระลึกถึง เป็นอนุสสติ การเจริญสีลานุสสติ  หมายความว่า  การระลึกถึงความบริสุทธิ์ของศีลที่ตนรักษา ไว้โดยปราศจากโทษ 4 อย่าง มีอขัฑฑะ เป็นต้นอยู่เนืองๆ ชื่อว่า "สีลานุสสติ" แสดงวัจนัตถะว่า  สีลํ อนุสสติ = สีลานุสสติ  การระลึกถึงความบริสุทธิ์ของศีล ที่ตนรักษาไว้ โดยปราศจากโทษเนืองๆ  ชื่อว่า สีลานุสสติ องค์ธรรมได้แก่ สติเจตสิก ที่ในมหากุศลจิต  ที่มีการเว้น                     การรักษาตามสิกขาบทนั้นๆ ศีลที่มีโทษ 4 คือ 1. ขณฺฑสีล  ขาดข้อต้นหรือข้อปลายข้อใดข้อหนึ่ง  ถือว่า ศีลขาด 2. ฉิทฺทสีล   ขาดเพียงข้อใดข้อหนึ่งในท่ามกลาง ถือว่าศีลเป็นรู (ทะลุ) 3. สพลสีล   ขาดมากกว่า 1 ข้อ  ไม่ติดต่อกันในท่ามกล่าง   ถือว่า ศีลด่าง 4. กมฺมาสสีล  ขาดมากกว่า 1 ข้อ ติดต่อกันในท่ามกลาง  ถือว่า ศีลพร้อย และสามารถศึกษาวิธีทำสีลานุสสติได้ที่นี่คะ  แบบอ่านอย่างย่อ เลือกหัวข้อ  สีลานุสสติ   นะคะ http://www.buddhism-online.org/pdf/section9.2.pdf เจริญในธรรมคะ แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 55 17:50:24 จากคุณ : goodsthailand เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 13:13:25

ความคิดเห็นที่ 5 1  จากคำถามที่ว่า อารมณ์ศีลมาจากไหน ตอบว่า มาจากจิตใจ ที่เห็นชอบ เป็นสัมมาทิฏฐิ ของคนดีเท่านั้น อย่างน้อยก็เห็นว่า เรารักสุข เกลียดทุกข์ฉันใด ผู้อื่น สัตว์อื่นก็รักสุข เกลียดทุกข์ฉันนั้น เหมือนกัน การรู้จักเอาใจเขา มาใส่ใจเรา เป็นเหตุให้เกิดการเห็นอกเห็นใจ เป็นเหตุให้เกิดการรักษาศีลเป็นอารมณ์ตามมา ... บุคคลที่เจริญแล้ว  ใช้ชามหรือจานเป็นภาชนะใส่อาหาร เพื่อบริโภคอาหาร เขาย่อมต้องล้างชามหรือจานนั้นให้สะอาดปราศจากเชื้อโรคก่อน ก่อนที่เขาจะใส่อาหารเพื่อบริโภค ฉันใด บุคคลที่ดี จะทำบุญคือความดี จึงย่อมต้องฃำระชะล้างจิตใจให้สะอาดปราศจากความคิด ๆจะทำ  หรือการกระทำอันชั่วร้ายก่อน ก่อนที่จะทำดี คือละชั่วก่อน ๆ ที่จะทำดี ฉันนั้นเหมือนกัน ... บุคคลที่หวังจะละกิเลส ย่อมต้องรัษาศีลเป็นอารมณ์ให้ได้ก่อน เพราะศีล เป็นธรรมดับและห้ามกันกิเลสอย่างหยาบ ศีลเป็นบทพิสูจน์ของผู้ปฏิบัติธรรม ถ้ารักษาศีลไม่ได้ ก็อย่างหวังว่าจะละกิเลสใด ๆ ได้  ฉะนั้นผู้ปฏิบัติธรรมย่อมต้องรักษาศีลเป็นอารมณ์ให้ได้ก่อน... 2  จากคำถามที่ว่า อารมณ์ศีลเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นเหตุปัจจัยจากการปฏิบัติภาวนาหรือไม่  ตอบว่า อารมณ์ศีลเกิดขึ้นได้จาก ความเห็นถูก อันเป็นสัมมาทิฏฐิของคนดีตามข้อ 1 แต่จะเจริญอยู่ได้ ต้องมีสติ เป็นตัวสำคัญ ในการรักษา เป็นธรรมที่ต้องภาวนา เป็นธรรมแห่งการภาวนา คือต้องอบรมขึ้นมา เป็นภาวนาธรรมอยู่แล้วในตัว และเป็นเหตุเป็นปัจจัย ต่อการปฏิบัติ เป็นสัมมาสมาธิต่อไป และต่อไปถึงสัมมาปัญญาด้วย... ศีลเป็นบารมี ขั้นอุกฤตของศีลมีชื่อว่า ศีลปรมัตถบารมี...ท่านกล่าวไว้ว่า ศีลจะบริสุทธิ์เกิดขึ้นได้จากธรรมชื่อ ปาริสุทธิศีล มี 4 คือ   1 ปาติโมกข์สังวรศีล คือ สำรวมระวังต่อการปฏิบัติ ตามข้อปฏิบัติ  คือ ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล227   2 อินทริยสังวรศีล คือ สำรวมระวัง อิทรีย์ทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ ไม่ให้ผิดศีล   3 อาชีวปาริสุทธิศีล คือประกอบการเลี้ยงชีพ ด้วยอาชีพที่บริสุทธิ์ ไม่ให้ผิดศีล   4 ปัจจยปัจจเวกขณศีล คือเมื่อจะบริโภคปัจจัย ๔ ก็พิจารณาก่อนไว้ ไม่ให้ผิดศีล 3  อารมณ์ศีลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสีลานุสติหรือไม่  ตอบว่า สีลานุสติ  เป็นธรรมอย่างหนึ่งใน อนุสติ 10 คือธรรมที่ควรระลึกตั้งไว้ในใจเสมอ ถ้าจะว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ โดยความเป็นธรรมที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ตัดกิเลสอย่างหยาบ และตั้งอยู่ในใจ  แต่ถ้าจะว่าไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะผู้มีศีลบริสุทธิโดยแท้จริง  จะไม่ต้องตามระลีก คอยตามเอามาตั้งไว้ในใจเสมอ  แต่ศีลของผู้มีศีลอันบริสุทธิ์  จะถูกตั้งไว้ในใจเป็นปกติ โดยปกติ อยู่แล้วเสมอ ไม่ว่าหลับหรือตื่น ครับ ... จากคุณ : นิ่งหนอ (นิ่งหนอ) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 13:49:42