 |
จีนต่อต้านการนำวัดดังเข้าตลาดหุ้น จีน : สืบเนื่องจากรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ เมื่อเดือนมิถุนายน 2012 ที่ระบุว่า ฝ่ายบริหารของบริษัทพัฒนาการท่องเที่ยวยอดเขาผู่โถวซาน ที่ดูแลยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ผู่โถวซาน (เป็นหนึ่งในสี่ยอดขุนเขาแห่งพุทธศาสนาของจีน อันเป็นสถานที่สถิตแห่งองค์เจ้าแม่กวนอิมศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวจีนและคนทั่วโลกนิยมมาสักการะขอบุตร) ซึ่งอยู่ในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และเตรียมการณ์เป็นเวลา 1 ปี เพื่อระดมทุน 750 ล้านหยวน (ราว 3,600 ล้านบาท) โดยนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรกนั้น หลิว ไว ผู้อำนวยการกองบริหารงานศาสนาแห่งประเทศจีน กล่าวในที่ประชุมในนครเซี่ยงไฮ้ ว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลท้องถิ่น ในการนำวัดต่างๆ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะจะส่งผลเสียต่อสิทธิทางกฎหมาย ทำลายภาพพจน์ของพุทธศาสนิกชน และยังทำร้ายความรู้สึกของผู้มีจิตศรัทธาด้วย โดยระบุว่า วัดเป็นสถานที่ให้ผู้มีจิตศรัทธาใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร อีกทั้งยังไม่เคยมีที่ไหนในโลก ที่นำวัดเข้าตลาดหุ้น ซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจควรมีข้อจำกัด และไม่ควรก้าวข้ามเส้นแบ่งทางศีลธรรม ที่ผ่านมา มีวัดพุทธของจีนและลัทธิเต๋าหลายแห่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งสร้างรายได้ให้รัฐบาลท้องถิ่น ดังนั้น จึงมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้วัดมีเสน่ห์ดึงดูด และสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น และหนึ่งในความพยายามนั้นคือการนำวัดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้หรือฮ่องกง ดังเช่นในปี 2009 มีความพยายามที่จะผลักดันวัดเส้าหลิน ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน ตั้งอยู่ในมณฑลเหอหนาน เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุน และนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องล้มเหลว เพราะพระชิยงซิน เจ้าอาวาสวัด และหน่วยงานด้านศาสนาของรัฐ ได้ออกมาคัดค้าน ปัจจุบัน จีนมีศาสนสถานทั่วประเทศราว 139,000 แห่ง แบ่งเป็นวัดพุทธ 33,000 แห่ง วัดเต๋า 9,000 แห่ง สุเหร่า 35,000 แห่ง และโบสถ์คริสต์ 56,000 แห่ง (จาก Xinhua)
จากคุณ |
:
Mr.Terran
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ส.ค. 55 13:36:05
|
|
|
|
 |