ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเพื่อนผมมันจะมาบ้านผมแล้วมันถามว่าหิวไหมจะกินอะไรไหม ผมก็ไม่ตอบ จากคุณ : ซุนจื๊อ เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 19:32:31

ความคิดเห็นที่ 2 ขอขอบพระคุณ คุณ ต่อmcu มากครับ ที่ได้นำความรู้ดีๆ มาบอกกล่าว จากคุณ : 13th friday เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 19:33:58

ความคิดเห็นที่ 3 5 สรีระ (ร่างกาย) และชีพ (วิญญาณ) เป็นอันเดียวกัน  6. สรีระ (ร่างกาย) และชีพ (วิญญาณ) เป็นคนละอย่างกัน ตอนอ่านเจอหนแรก ในพระไตรปิฏก "ชีพก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น"   "ชีพก็อย่างหนึ่ง สรีระก็อย่างหนึ่ง" เล่นเอาไปต่อไม่เป็น "อันนั้น" นี่อันไหนหว่า? กว่าจะเข้าใจได้ เป็นนานสองนาน เฮ้อ หลวงปู่ที่แปลเป็นไทยก็น่าจะแปลให้อ่านง่ายๆกว่านี้น้า ชาวบ้านชาวช่องจะได้อ่านเข้าใจง่ายๆ ผมนี่อ่านพระไตรปิฏแบบ offline ไม่ได้เลย มึนตลอด ต้องเข้า อากู๋อธิบายตลอด เกือบทุกบรรทัด 555 จากคุณ : cantona_z เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 19:35:10

ความคิดเห็นที่ 4 ขออภัยที่แสดงความเห็นโดยยังไม่ได้อ่านรายละเอียดให้ครบนะคะ ^^ -- คุณเคยเห็น "เด็กช่างจ้อ" ไหม?? เด็กๆบางคน จะชอบถามคำถามผู้ใหญ่ แต่ไม่ได้ถามแบบปัญญาชน ถามแบบ.. "คำถามปัญญาอ่อนมาก! --' " แรกๆก็จะขยันตอบ เพราะเห็นว่าเป็นเด็กขี้สงสัย บวกกับความน่ารักและไร้เดียงสาของเด็กด้วย แต่.. พอถามไปเรื่อยๆ ไม่หยุด ถามไม่หยุด.. (แล้วคำถาม มีแต่คำถาม ไร้สาระ และ ปัญญาอ่อน --') แล้วบางที เราตอบไป เด็กก็ไม่เข้าใจ (เช่น เด็กอายุ 3 ขวบถามเรื่อง Space-Time Theory เรานั่งอธิบายจนหัวหงอก เด็กมันก็ยังไม่เข้าใจ) สุดท้าย เราก็ขี้เกียจตอบ! -------- อันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องปัญหาที่พระพุทธเจ้าไม่ตอบหรอกนะคะ เราคิดว่า บางท่าน อาจจะเคยเจอเด็กแบบนี้ (เราเจอบ่อยมาก O.O เพราะเราชอบเล่นกับเด็ก รักเด็ก คลุกคลีกับเด็กๆบ่อย แล้วจะบอกเลยว่า มันจะมีเด็กบางคน ที่ช่างสงสัย แต่.. ไม่ได้สงสัยในสิ่งที่มีสาระ และบางครั้งเราตอบไปแล้ว อธิบายไป แต่น้องเขาก็ยังไม่เข้าใจ เพราะคำถามของน้องเขามันเกินที่สมองของน้องเขาจะเข้าใจได้) เปรียบไปก็เหมือน คนที่ชอบถามเรื่องโลก จักรวาล กับพระพุทธเจ้า พวกคุณลองไปศึกษาวิทยาศาสตร์ ด้าน ดาราศาสตร์ ควอนตั้มฟิสิกส์ เสร็จแล้วก็ลองศึกษาเรื่อง"สมอง" พวกระบบเซลประสาทในสมอง เกี่ยวกับการทำงานของประสาทสัมผัสต่างๆ แล้วจะรู้เลยว่า จักรวาล และวัตถุูธุาตที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ มันไม่ได้หน้าตาแบบนี้ O.o แล้วนี่ ขนาดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แค่.. หางอึ่ง ยังซับซ้อนขนาดนี้(ซึ่งเราคิดว่า พระพุทธเจ้าต้องตรัสรู้และรู้เห็นแจ้งกว่านี้) เราพนันเลย 100% ว่า สิ่งที่พระองค์ตรัสรู้เกี่ยวกับ โลกธาตุ(รูป) พระองค์ไม่สามารถอธิบายให้มนุษย์อย่างเราๆ เข้าใจได้ อีกทั้ง.. เรื่องพวกนี้ เป็นเรื่อง "ไร้สาระ" รู้ไปก็ไม่ช่วยให้พ้นทุกข์ แล้วถ้าจะให้อธิบายกันจริงๆ คงต้องใช้เวลาเป็นพันๆปี กว่าสมองของมนุษย์โง่ๆอย่างพวกเราจะเข้าใจ --' (ซึ่ง.. พอเข้าใจแล้ว ก็คงจะมาคิดได้ในภายหลังว่า.. เออ.. ไม่น่าถามเลย เพราะมัน "ไร้สาระ" มากๆๆๆๆๆๆ!! --') แต่สิ่งที่พระองค์ สอนพวกเรา เป็นเรื่องที่ "ทุกคนเข้าใจได้" และเป็นสิ่งที่ "มีสาระ" เหมือนกับที่เด็กๆ สามารถรู้ได้ว่า เวลาร้องไห้คือ "เสียใจ" เวลากระโดดโลดเต้นเพราะได้ของเล่นใหม่คือ "ดีใจ" แต่เด็กๆ ยังไม่สามารถเข้าใจ Relativity Theory ของไอน์สไตน์ได้ ต้องใช้เวลาเป็นปี ในการศึกษาพื้นฐานก่อน >< จากคุณ : Gretchen เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 01:00:50

ความคิดเห็นที่ 5 อนุโมทนาทุกๆ คห ครับ จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 10:31:52