ความคิดเห็นที่ 1 เค้าว่ากันว่าการทำบุญสังฆทานคือการทำบุญกับ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ 3 อย่างพร้อมกันในทีเดียว  เพื่อความสบายใจก็นึกว่าทำบุญแด่พระพุทธเจ้าละกันครับ หรือไม่ก็ถือว่าฝึกการเป็นผู้ให้ที่ต่างจากสัตว์โลกอื่นที่เป็นแต่เพียงผู้ล่าหรือหากินหาเก็บอย่างเดียว ... = = ปล.ส่วนวันหลังจะเปลี่ยนไปวัดใหม่เพื่อความสบายใจก็ไม่ว่ากัน  อะไรที่ทำไปแล้วอย่ามามัวคิดมากเลย จากคุณ : หน้าม้าคุง ... ฮี้ฮี้ เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 18:22:38

ความคิดเห็นที่ 2 เวลาหาคู่รักก็ให้ระวังไว้ให้ดีแล้วกัน 55555 ขำ จากคุณ : ซุนจื๊อ เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 19:20:42

ความคิดเห็นที่ 3 ได้ทำไปเสร็จแล้ว  ก็อย่ากังวลไปเลย ทีหลังถ้าจะทำอีก ก็ไปทำคนเดียวเลย ไม่ต้องรอเพื่อน ถ้ามันมีปัญหาเยอะ ส่วนเรื่องเจ้าอาวาสจะผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ มันก็เรื่องของท่าน ท่านจะผิดหนัก หรือผิดเบา ท่านก็ย่อมได้รับผลเอง แต่คุณไม่ได้ทำกับเจ้าอาวาสนี่  ถ้าคุณตั้งจิตอุทิศไปให้คนตาย ด้วยจิตที่มีเจตนาดี ตั้งใจให้ถึงแก่คนตายจิง ๆ และถ้าพระรูปที่รับการถวาย เป็นพระที่บริสุทธิ์ มันก็ถึงนั่นแหละ จากคุณ : มีดกรีดใจ เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 19:31:07

ความคิดเห็นที่ 4 การถวายของเป็นสังฆทาน  คือ การทำใจถวายแก่สงฆ์  ไม่อาจจะเลือกได้ว่า พระที่เป็นตัวแทนสงฆ์ที่มารับของนั้น จะเป็นพระดี หรือ พระไม่ดี .... ผู้ถวายจะต้องทำใจให้เป็นกลางเสมอเท่ากันหมด ... ทานที่ทำไปนั้นจึงจะได้ผลนับไม่ถ้วน   ไม่ว่าพระที่มารับนั้นจะเป็นพระชั่ว ทุศีล เป็นอลัชชี ก็ตาม ..แต่ยังไงก็ตามบุญของผู้ถวายก็จะมากมายมหาศาล  นับไม่ได้ ...   ในยุคอนาคตเมื่อศาสนาพุทธใกล้จะสิ้นสูญ  พระในยุคนั้นมีแค่ผ้าเหลืองพันมือ เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเป็นพระ  แต่ไม่มีศีลอะไรสักข้อ  ดำเนินชีวิตแบบคนธรรมดา  ทำมาหากินมีอาชีพเหมือนคนทั่วไป  มีครอบครัวลูกเมีย  เรียกกันว่า โคตรภูสงฆ์ (สงฆ์ที่เป็นกึ่งพระ กึ่งฆราวาส)   ..แต่แม้กระนั้นก็ตาม  ถ้าคนในยุคนั้นถวายสังฆทานกับโคตรภูสงฆ์เหล่านั้น  ผลจากการทำทานนั้น ก็ยังมีอานิสงส์นับประมาณมิได้   เพราะฉะนั้น  เมื่อใดที่ทำสังฆทาน  ก็ไม่ต้องกังวล  ยังไงก็ได้บุญนับไม่ถ้วนนั่นแหละ และอย่าเลือกทำเฉพาะเจาะจงกับพระกลุ่มไหน    ..ถ้าเจาะจง ก็จะไม่เป็นสังฆทาน แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 55 00:19:06 จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 19:51:48

ความคิดเห็นที่ 5 ขออนุโมทนาในบุญที่ จขกท ได้ทำแล้วด้วยนะคะ ขอแสดงความรู้อันน้อยนิดที่ได้เล่าเรียนจากครูบาอาจารย์มาให้ จขกท ทราบสักเล็กน้อยนะคะว่า สังฆทาน นั้นเป็นทานที่ 1. ให้กับหมู่สงฆ์ ไม่เฉพาะเจาะจง มีเจตนาให้เป็นของกลางของหมู่สงฆ์ พระรูปใดจะหยิบใช้ก็ได้ทั้งสิ้น ในที่นี้ ให้ถือว่าพระรูปที่รับสังฆทานเป็นตัวแทนของหมู่สงฆ์ 2. หมู่สงฆ์นั้นต้องนับถือพระพุทธเจ้าเป็นประมุข การทำทานและผลแห่งทานนั้น ท่านว่าพิจารณาถึงปัจจัย 3 ประการ คือ 1. เจตนาของผู้ทำทาน ที่จะต้องมีเจตนาเป็นจาคะ คือ สละ ให้ ซึ่งเจตนาก็ควรจะบริสุทธิ์ใน 3 กาลคือ ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ นะคะ 2.ความถูกต้องของวัตถุทาน ที่ได้มาอย่างถูกต้อง ไม่ได้เบียดเบียนใครมา รวมถึงต้องไม่เบียดเบียนตัวเองด้วยนะคะ 3.ความบริสุทธิ์ทางจิตหรือคุณธรรมของผู้รับ ซึ่งทำทานต่อผู้มีคุณธรรมสูง ผลของทานที่ได้รับก็จะสูงและประณีตมากขึ้นไปด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้รับนั้น เราอาจไม่สามารถรู้ถึงระดับของคุณธรรมที่แท้จริงของผู้รับได้ จึงขอเรียนให้ จขกท สบายใจว่าอย่าได้กังวล ขอแค่ จขกท ได้ทำทานตามโอกาสโดยตั้งใจก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะทานทุกแบบมีผลเป็นบุญกุศลทั้งสิ้นถ้าองค์ประกอบถูกต้อง และอย่าลืมว่าองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด คือ เจตนาของ จขกท นั่นแหละค่ะ อย่ากังวลเลยนะคะ จากคุณ : Star_Success เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 19:56:27

ความคิดเห็นที่ 6 ได้บุญครับ ไม่ต้องกังวล สมมติว่าถึงแม้ผู้รับจะพระที่ทุศีลก็ตามที แต่ผู้ให้ตั้งจิตมุ่งตรงต่อ พระรัตนตรัย ถวายเป็นสังฆทาน ไม่ได้มีจิตเจาะจงในบุคคลนั้น ก็ถือว่า เราได้ถวายเป็นสังฆทาน แล้ว ------------------------------------------ คุณเจ้าของกระทู้ได้กระทำสิ่งที่ดีแล้วนะครับ การที่ได้ตั้งใจไปทำบุญถวายสังฆทาน ด้วยตนเอง เชื่อมั่นในผลแห่งกรรม ไม่ต้องมีใครมาชักชวน เช่นนี้ ถือเป็นติเหตุกกุศลกรรม ที่เป็น อสังขาริกะ (ไม่ต้องมีสิ่งมาชักชวน ก็ได้ทำกุศลนั้นด้วยตนเอง) ถือว่ามีกำลังมาก ------------------------------------------  [๗๑๓] ดูกรอานนท์ ก็ในอนาคตกาล จักมีแต่เหล่าภิกษุโคตรภู มี ผ้ากาสาวะพันคอ เป็นคนทุศีล มีธรรมลามก คนทั้งหลายจักถวายทานเฉพาะ สงฆ์ได้ในเหล่าภิกษุทุศีลนั้น ดูกรอานนท์ ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์แม้ในเวลานั้น เราก็กล่าวว่า มีผลนับไม่ได้ ประมาณไม่ได้ แต่ว่าเราไม่กล่าวปาฏิปุคคลิกทานว่า มีผลมากกว่าทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์โดยปริยายไรๆ เลย ฯ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=14&A=9161&Z=9310 จากคุณ : ชาวมหาวิหาร เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 19:56:42

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากๆค่ะ สบายใจขึ้นเยอะเลย แต่ คห 2 เกี่ยวกับคู่รักได้ไง งง ฮ่าๆๆ แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 55 20:01:30 จากคุณ : kanpi เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 19:58:58

ความคิดเห็นที่ 8 ทำใหม่สิครับ ทำบ่อย ๆ จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 20:19:28

ความคิดเห็นที่ 9 อนุโมทนาครับ  บุญแล้วอย่าคิดมาก จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 04:20:03

ความคิดเห็นที่ 10 ทำความดีแล้วอย่ากังวลค่ะ  มีเพื่อน ๆ ตอบแล้วหลายประเด็นที่มีประโยชน์ แต่ทีหลัง ลองศึกษาเรื่องสังฆทานให้ดีก่อนนะคะ  ตั้งใจให้ดี ทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ เราถวายเพื่อ "สงฆ์" ค่ะ ไม่ได้เจาะจงถวายพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง แล้วก็ไม่จำเป็นต้องชักชวนเพื่อน หรือรอใคร ๆ เลย  อยากทำก็ทำ ยกเว้นว่าเค้าขอร่วมทำกับเราด้วย อนุโมทนานะคะ จากคุณ : PIK-DIK-DEE เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 08:26:29

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาอ่าน จากคุณ : ย่าอ้วนแพน เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 13:01:22