ความคิดเห็นที่ 1 เอาเข้ามาใกล้ๆ นะครับ ชัดๆ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:16:42

ความคิดเห็นที่ 2 มาดูความลึกกันว่าขนาดใด  ปกติจะลึก มิดหัว คนเลยละครับเพื่อป้องกันสัตว์มาคุ้ยเขี่ย ที่เห็นป้ายขาวๆนั่นแหละของคุณ ยาย ผมเอง เห้นไหมครับ เราไม่จับจองที่ตายกัน  จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:20:42

ความคิดเห็นที่ 3 การฝังมีสองลักษณะ คือ  1.  ใส่โลกฝัง 2.  ใช้ลูกหลุม  สองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างไร  ใส่โลง คือตามปกติ ขุดๆๆๆ  พอลึกได้ที่ ฝังพร้อม ศพ พร้อมโลง ส่วนลูกหลุม คือ กรณี ดินแห้งแข็ง จะขุดตรงๆ ลงไปให้ลึก พอประมาณ แซะ ผนังข้างๆเป็นลิ้นชัก เอาศพไม่ต้องมีโลง วางเอาไว้ในลิ้นชัก เอาไม่กระดานมาปิด จากนั้นกลบ ลงไป ดินก็ไม่ถูกตัวศพแล้ว หรือถ้าไม่เวาะดินก้ได้ เอาสะ นอน ตะแคง แล้วเอาไม้กระดานแปะทับเอียงๆเอาไว้จากนั้นกลบดินครับ เป้นอันว่าจบ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:24:20

ความคิดเห็นที่ 4 มาดู ว่าบางหลุม จะมีพวงมาลัยมาวาง นั้น เกิดเพราะว่าไม่ใช่ ฝีมือมุสลิมลูกหลานมาเยี่ยม แต่เกิดจากลุกหลาน ที่ หันไปรับนับถือศาสนาอื่นมาเยี่ยมสุสาน มุสลิมจะเอาดอกไม้พวงมาลัยไปวางที่สุสานไม่ได้โดยเด้ดขาดนะครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:28:13

ความคิดเห็นที่ 5 รูปภาพนี้คือหลุมของคุณยาย ผมครับ เห้นไหมครับ เราไม่จับจอง ไม่ให้ความ พิเศษ กับสิ่งที่เป็น ของอุปโหลกมาในโลกนี้ ตายแล้วคือจบ ชีวิตบนโลกใบนี้ไม่มีอะไร เป้นของเราเองสักอย่างแม้นกระทั่งที่นอนตาย จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:31:27

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับท่านใบไม้กำนัน ติดใจแกงกระหรี่ปลา ต้องใช้ใบกระหรี่ หรือ ใบกาลาปูเล ผมเคยแนะนำว่าหาได้เยอะมากมาย ในสุสาน อิสลาม ไปเด็ดได้เลยครับ สาวนใหญ่ปลุกบนหลุมฝังศพ งามดี  เมื่อวานผมไปขุดต้นเล้กๆ สูง คืบนึง เอามาปลุกที่บ้าน จะได้แกงกระกรี่ได้ง่ายๆหน่อย จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:34:19

ความคิดเห็นที่ 7 ต้นนี้คือเป้าหมายแรกในการขุดเอามา แต่รากลึกมาก ขุดไม่ไหว จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:36:09

ความคิดเห็นที่ 8 มาดูบรรยากาศภายใน สุสาน อิสลาม น่านอน น่าอ่านหนังสือ จะตายไป บรรยากาศเงียบสงบ หลัง โรงพยาบาลหัวเฉียว ร่มรื่น จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:38:31

ความคิดเห็นที่ 9 ตึกด้านหลัง ขาวๆนั่นคือโรงพยาบาลหัวเฉียว  จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:41:13

ความคิดเห็นที่ 10 ผมชอบไปสุสานบ่อยมาก เพราะจะได้รำลึกถึงความตายตลอดเวลา จะได้ไม่ตั้งตนบนความประมาท ใกล้ ศาสนามากๆๆ อิสลามให้พูดเรื่องตายบ่อยๆ  ผิดกับเพื่อนๆผมที่นับถือต่างศาสนิกเวลาจะพูดเรื่องตาย จุๆๆๆๆๆ อย่าพุดเป้นลางไม่ดี  เรื่องตาย อิสลาม ถือว่าเรามีหน้าที่ตาย ก้ตายไป  ไม่ต้องไปห่วง อะไรมากมาย ไม่ต้องไปสั่งเสียว่าฉันจะฝังที่นู้นที่นี่  ให้ปวดหัว หน้าที่จัดการศพ ของเราคือหน้าที่คนเป้น คนตายมะเกี่ยว  จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:44:12

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนผมลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือแม้น ไปทำงานในอีสาน ช่วงโครงการอีสานเขียว ผมก็บอกคนที่บ้านว่า ไม่ต้องลากศพ ผมกลับบ้าน เปลืองตังค์ ตายตรงไหน ฝังตรงนั้นไม่ต้องยุ่งยาก เพราะอิสลามถือว่า แผ่นดินกุโบรื หรือหลุมฝังศพ คือผืนดินเดียวกัน นอนตรงไหนก็เหมือนกัน  เพราะไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากความดี ความชั่วของเราที่สะสมมานั่นเอง ต่อให้โลงติดกับ ผู้รู้ศาสนา ติดกับของพ่อของแม่ เราก็ช่วยไม่ได้ ตัวใครตัวมันเด้อ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:47:12

ความคิดเห็นที่ 12 ทะนี้  ดูสุสาน ทำความรู้จักกับสุสานอิสลาม ภาคพื้นดินแล้ว อิสลาม ยังมีสุสานน้ำ อีกด้วย ครับ กรณีเดินทาง ด้วยทางทะเล ไม่ต้องแช่ห้องเย็น ให้เมื่อยตุ้ม ตายปุ้บ ห่อ ศพ เสร็จ ละหมาด ให้  เอาไม้กระดาน ปู  มัดศพให้แน่นกับกระดาน เอาหินถ่วง หรืออะไรถ่วงก็ตาม  ละหมาดปุ้บ เล่นสไลเดอร์ ปล่อยลงทะเลไปเลย เราจะเห็นขาวๆแวบๆๆๆ  พริ้วๆลงสู่ก้นทะเล ให้ศพเป้นอาหารแก่ปูปลาไป  จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:50:18

ความคิดเห็นที่ 13 อิสลาม บอกว่าโลก ใบนี้เรามาท่องเทียว ทัวร์ ดุนยา กัน เวลาจี้ดเดว ถึงเวลา หมดลมกลับไปหาพระองค์ อัลเลาะห์ ก็ละทิ้งทุกอย่างบนโลกใบนี้  ในหีบห่อ ศพ  เอาอะไรไปไม่ได้เลยแม้นกระทั่งฟันปลอม  สัปเหร่อ อดไปเลย ญาตถอดออกหมด  มาแต่ตัวไปแต่ตัว ไม่มีเสื้อผ้ามีแค่ผ้าขาวที่ห่อศพเรานั่นเองครับ ครุบาอาจารยื ผมบอกว่าจะเอาอะไรกันนักหนา บนโลกใบนี้ ดิ้นๆๆกันไป พอตาย ได้กำไร ผ้าขาว 1ชิ้นก็เพียงพอแระ เอาสมบัติใส่โลงไปก็ไม่ได้ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 11:53:53

ความคิดเห็นที่ 14 55 เหมือนดัชเลยครับ พูดเรื่องตายแทบทุกวัน เรียกว่า พูดประจำมากจนเป็นคำติดปาก ไปไหนมาไหน นั่งกินนอน ตาย ตาย ตาย ระลึกตลอดจนเย็นใจสบายใจเห็นอะไรรอบตัวก็เป็นกำไรไปหมดเพราะว่า มันเป็นอารมณ์เป็นสติไปแล้ว ไม่เครียดไม่แคร์ว่าใครจะอะไรกับใคร ความตายทำให้เรามีความเย็นใจในชีวิตได้อย่างดีเยี่ยมเลยครับ ^^ จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 13:11:16

ความคิดเห็นที่ 15 ดัชอยากจะฝังเช่นกันครับ เพราะการเผานั้น แม้นิดเดียวก็เป็นการทำลายธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แถมเผลอ ๆ หากจิตเรายังไม่ตายดีร้อนอิ๋ิบ ๆๆๆ เลย หรือไงก็เหอะมองไม่เห็นประโยชน์ของการเผา นอกจากคนที่อุปาทานกลัวไปว่า เผาเพื่อจะไ้ด้ไปสุขคติ จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 13:14:09

ความคิดเห็นที่ 16 อิสลามมีคำสอนว่าเรา มาจากดินกลับสู่ดิน นันเองครับ ส่วนผมไม่แน่ใจว่าการเผา นั้นเป้นของพุทธ หรือ พราหมณ์ กันแน่นะครับ ต้องรอผู้รู้ทางพุทธ มาขยายความนะครับ การฝังนั้นดีอย่างนึง คือปุ่ย ชั้นเยี่ยมยอด ที่ไหนปลุกไม่ขึ้น ขึ้นยาก ปลูกที่สุสานนะครับต้นไม้งามเชียว อ้อ  ผม มีเรื่องที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้อย่างนึงคือ ถ้าเราเอาใบโหระพา ไปปลุกในสุสาน พอ 40 วันมันกลายเป้นกระเพรา ได้แหะ ตอนแรกมีคนบอกผมไม่เชื่อลองมาหลายที่แล้วครับ สงสัยต้องให้นักวิทยาศาสตร์ มาดูสิว่า มันเป็นผลจากแร่ธาตุในดินผสมปุ๋ย จากร่างกายมนุษยืหรือไม่ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 13:21:19

ความคิดเห็นที่ 17 ====วันนี้มีคำถามคาใจครับพี่จิมมี่==== เขาบอกว่า พระเ้จ้านั้นมีหลายแง่มุม ที่มนุษย์เข้าถึงไม่ได้ ในใจมนุษย์มีความดีอย่างไร พระเจ้ายิ่งกว่าแลมนุษย์ไม่อาจเีทียบถึงได้ ในมนุษย์มีความชั่วอย่างไรเช่นกันทรงยิ่งกว่า มนุษย์ไม่อาจเทียบถึงได้ ทั้งสองสิ่งนี้หรือสิ่งนั้นหรือสิ่งอื่นใดที่ไม่กล่าวถึงก็ตาม  ทรงเหนือกว่ายิ่งกว่า เราจะเอาแต่จินตนาการว่าทรงมีแต่ความยุติธรรมนั้นหาไม่หรือทรงมีแต่ความรัีกนั้นหาไม่เราไม่อาจเข้าใจภาวะที่ลึกล้ำเกินจะเข้าใจได้ในตัวพระเจ้า เช่นมนุษย์มักแสดงออกต่อกันมีแต่ความรัก แต่อีกด้านก็มีความดำมืดอยู่ ทรงสร้างสองสิ่งนี้ มีพลังพอ ๆ กัน ในแต่ละด้านที่แสดงออกนั้นเหนือจินตนาการมนุษย์จะเข้าถึง ิ ดังนั้น เหมือนผู้มีพลังไร้ขอบเขตแปรปรวนได้ตามใจตนเองต้องประสงค์ โดยไม่มีใครเท่าทันคาดการณ์ได้ ในประสงค์ใด ๆ ฟังแล้วมันทำให้ดัชนึกตระหนักและคิด Awake and Aware อย่างตรึกตรองวิเคราะห์อย่างแท้จริง ว่าตัวเรานี้ก็ไ้ร้ขอบเขตยิ่งนักแล้วในสมมุติแห่งโลกที่ผู้คนรอบตัวยอมรับ ทั้งดีชั่วโอ้ว แล้วพระเ้จ้่าหละ คาดไม่ถึง โอ้แล้วเราจะเืลือกทางไหนดี หากเรายอมเราก็ต้องวางใจไว้ชีวิตไว้กับผู้ที่ทำไรก็ไ้้ด้ตามประสงค์อร้าก เกิดนึกคึกอยากทำลายนึกคึกอย่างมะลาย ฉะแว้บนั้นเรยคิด โอ้วหรือเพราะเหตุนี้พุทธะจึงเกิดขึ้นเพราะความเบื่อหน่ายในอำนาจนั้น ๆ นี้ ๆ เพื่อหลุดพ้นไปจากอำนาจ นั้น ๆ นี้ ๆ จากนั้นดัชตรึกตรองอย่าง รอบคอบและพิจารณาอย่างสมบูรณ์ ผนวกกับความจริง ทำให้รู้สึกว่า ยังต้องค้นคว้าต่อไป เลยเอามาถามเพื่อหาคำตอบนี่หละครับ แล้วเด็วดัชเอาไปต่อยอดอีกที จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 13:24:06

ความคิดเห็นที่ 18 ดัชกดให้กิ๊ฟใครไม่ได้เลยนะครับกิ๊ฟหมดอิอิ จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 13:24:55

ความคิดเห็นที่ 19 ในอิสลาม ตาย เป็นคำมงคล เพราะทำไห้เรารำลึก อยู่เสมอ ว่า ต้องตาย แล้ว จะได้ รับการตอบแทน จากสิ่ง ที่ทำไว้ ไม่ว่าดีหรือ ชั่ว ดังนั้น ถ้าคิดได้ ความชั่ว ก็จะเลิกทำ ความดี ก็จะรีบทำ นักวิชาการสาย ซูฟี บางท่านถึงกับ บอกว่า ชีวิต เรา มี แค่ สาม ลมหายใจ ลมหายใจแรก คือ ลมหายใจที่แล ลมหายใจที่สอง คือ ที่กำลังหายใจอยู่ ลมหายใจที่สาม คือ ลมหายใจถัดไป ไม่รู้ว่ายจะมีหรือเปล่า ดังนั้น ตอนนี้ ท่าน ทำดี ทิ้งชั่ว แล้วหรือยัง จากคุณ : ghanee.s เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 13:34:37

ความคิดเห็นที่ 20 ตัวอย่างความจริงที่เคยมีเกิดขึ้นเช่นฆาตรกรต่อเนื่อง เ่่ช่นคนเหล่านี้ ------------------------ http://variety.teenee.com/foodforbrain/12097.html http://xn--10-9ritg5i2ac.** ไม่ใช่ลิควิด **/2009/09/10_12.html ------------------------ ที่ ฆ่าเด็ก ๆ และกินเด็ก ๆ นับสิบนับร้อยราย หรือฆ่าโสเภณี หรือฆ่าใครก็ตาม มองดูแล้วมุมมองเราอาจโหดร้าย แต่จริง ๆ อาจไม่ก็ได้ ถ้าหากว่ามองในแง่มุมที่แตกต่าง มนุษย์คนนั้น อาจเป็นเครื่องมือสังหารที่พระเจ้ารู้ดีว่าจะเป็นจะมีจะเกิดขึ้น เพราะไม่มีสิ่งใดที่ทรงไม่รู้ ในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ทรงรู้ว่า คนคนนั้นจะเติบโตจากวัยเด็กและกลายเป็นนักล่าสังหาร จากนั้นก็ดำเนินการไล่เก็บเกี่ยวฆ่า เรียกว่า ตัดไฟแต่ต้นลมเ็ด็ก ๆ เหล่านั้นจะได้ไม่ต้องเติบโต มนุษย์คนนั้นอาจเป็นเครื่องมือกำจัดที่พระเจ้าทรงเจตนาให้ดำรงอยู่เพื่อกิจการนั้น ๆ ก็ได้ มองในมุมยอมรับต่ออำนาจและเข้าใจ เจตนาพระเ้จ้า เพราะถ้าหากไม่ยอมรับหรือขัดขืนต่อแนวคิดแตกต่างทั่วโลก ไม่ว่าดีหรือเลว ก็แสดงว่าเราไม่ยอมรับต่อความคิดทีว่า ไม่มีอะไรที่พระเจ้าไม่ทรงรู้ และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า อืมคิดแบบนั้นก็ทำให้เข้าใจได้ว่าลึกล้ำเกินจะจิตนาการจริง ๆ ว่าที่แท้ทรงต้องการอะไรแน่ เพราะเครื่องมือนักล่าเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีแต่ความสุขที่ได้ฆ่า หรือแม้กระทั่งถูกจับได้มาประหารก็ตาม เหมือนพวกเขาเป็นเครื่องมือที่ มีความคิดที่มนุษย์อย่างเราเข้าไม่ถึง คล้ายว่าทรงสร้างให้เหนือกว่า เพราะโลกเรามีมนุษย์ที่เหนือมาก ๆ ระดับอัจฉริยะด้านสันติภาพ และมีมนุษย์ที่เหนือกว่าระดับอัจริยะแห่งการทำลายล้าง และมีมนุษย์ที่อัจริยะที่ฉลาดกว่าใคร ๆ และโง่กว่าใคร ๆ ก็มี และในด้านอื่น ๆ ที่ลึกเกินเราจะเข้าใจอีก แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 14:20:51 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 14:06:18 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 14:04:39 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 14:03:34 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 14:02:08 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 13:43:01 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 13:41:57 จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 13:38:09

ความคิดเห็นที่ 21 ดัชเองชักอยากเป็นเครื่องมือสังหารบ้างแล้ว จะได้รับรางวัลโนเบลกับเขาบ้าง หรือได้บันทึกไว้ในหน้าประวัติศาตร์โลกที่ต้องจาระรึกไว้อีกนับร้อยปีพันปี ต้องให้ดังกว่า ฮิตเลอร์หรืออะไร ๆ ในโลก หากจะได้เป็นเครืืื่่องจักรสังหารก็คงดูดีไม่น้อยทีเดียว ต้องโหดกว่า เร้ากว่า สยองกว่า นับร้อยพันเท่าต้องคิดวิธีการ ให้เหนือคาดการณ์ แหะ ๆ รอพี่จิมและท่านอื่น ๆ ให้ความรู้ไม่ได้มาก่อกวนนะครับดัช ถามไรตรงไปตรงมาหาความรู้น่ะครับ  ขออภัย้ด้วยนะครับ จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 13:46:05

ความคิดเห็นที่ 22 คุณดัชคิดว่า เจ้า โมกุล พระเอก ดร้ากอนบอล เกิด เบื่อหน่าย เรื่อง ดร้ากอนบอล อยากหลุดพ้นจากเนื้อเรื่อง คุณดัชคิดว่า เจ้าโมกุล นั่งสมาธิอีกกี่ร้อยชาติ จะสามารถ หลุดจากเนื้อเรื่อง หรือครับ เจ้าโมกุลทำไม่ได้หรอกครับ ถ้าคนเขียน ยังอยากจะเขียน อยู่ นอกจากคนเขียน เลิกเขียนถึงเจ้า โมกุล เท่านั้น เช่นเดียว กันชีวิต มนุษย์ จะสามารถ หลุด ออกจาก กรอบ ของผู้สร้างได้เหรอ ถ้ามีสิ่งใดหลุดจากกรอบ ของพระผู้สร่้างได้ พระผู้สร้าง ย่อมไม่่ใช่พระเจ้าในทันที เพราะ พระองค์ บกพร่อง มีสิ่งที่ พระองค์ มีสิ่งที่ควบคุมไม่ได้อยู่ จากคุณ : ghanee.s เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 13:54:16

ความคิดเห็นที่ 23 ครับดัชคิดได้สองทางเอง หากดัชยอมรับพระเจ้า คือยอมรับกับทุำกสิ่งที่ทรงสร้างและทรงกำหนด ไม่ว่าจะคิดว่าตนเองหลุดพ้น หรือคิดว่าตนเองต้องยอมรับและศรัทธา นั่นก็คงที่สุดแล้วว่าพระองค์กำหนดมา หรือไม่ได้เอาแต่คิด ลองไปปฏิบัติตามแนวพุทธะบ้าง ว่าจะหลุดได้จริงหรือเปล่า ไปเห้นสิ่งละอันพันละน้อยยิ่งใหญ่ สว่างจ้านับล้านดวงอาทิตย์รวมตัวและทำลายสิ้นอย่างที่ เขาบรรยายว่าพ้นไป อะไรอย่างนั้น แต่ก็ได้แต่ศึกษาเชิงทฤษฎีเสียมาก กว่าจะออกไปเริ่มต้นจริงจังเพราะยังไม่พร้่อมอะไร บางสิ่งหรือไงนะ จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 13:57:55

ความคิดเห็นที่ 24 พระองค์ ย่อมรู้ดี กว่าไครๆ และชีวิตมนุษย์ คือการทดสอบ พระองค์ ทรงรู้ในหัวอกของฆาตกร ว่าต้องการอะไร และพระองค์เป็นผู้ทรงอนุมัติ มันให้ทำสำเร็จ จากคุณ : ghanee.s เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 14:01:27

ความคิดเห็นที่ 25 ชีวิตคุณ คุณมีสิทธ เลือก พระองค์ ได้ บอก กับคุณ แล้ว ว่าคุณจัะประสบอะไรในฐานะผู้ปฏิเสธ คุณ จะเลือกสิ่งใด พระเจ้าให้สิทธนั้นกับคุณ จากคุณ : ghanee.s เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 14:06:40

ความคิดเห็นที่ 26 ลิงค์ที่สองทำไงก็โพสต์ไม่ได้ แปลกดีครับ  ถ้าอย่างนี้แสดงว่าดัชเริ่มเข้าใจถูกทางแล้วใช่ไหมครับ จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 14:08:22

ความคิดเห็นที่ 27 หรือถ้าคุณไม่เลือก นั่นเท่ากับการที่คุณ ได้เลือกแล้ว พระเจ้าจะตอบแทนสิ่งนั้นกับคุณครับ จากคุณ : ghanee.s เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 14:09:14

ความคิดเห็นที่ 28 เริ่มครับ แต่ยังไม่ทั้งหมดต้อง ศึกษาเยอะๆครับ แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 14:23:04 จากคุณ : ghanee.s เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 14:13:30

ความคิดเห็นที่ 29 ในมุมมองอิสลาม แนว พุทธ นั้น ไม่จริง ที่ ว่าหลุดพ้นแล้ว เห็น นั้น ก็เพราะเราอยากเห็น พระองค์ ก็ ให้เห็น เพื่อทดสอบว่าเรายังเชื่อพระองค์อยู่ไหม คุณได้สิทธิ้เลือก คุณดัช จากคุณ : ghanee.s เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 14:21:15

ความคิดเห็นที่ 30 คุณดัชเหมือนพยายามค้นหา และพยายามวิเคราะห์ แต่ข้อมูลที่เอามาวิเคราะห์ คาดว่าจะน้อยมากกกกกกกกกกกกเกินไป ก็เลยสับสนงงงวยแบบนี้นะคะ พระเจ้าทรงรู้ว่าเราจะทำอะไร แต่ให้มนุษย์ตัดสินใจเอง และถ้ามนุษย์ตัดสินใจทำสิ่งไม่ดีมนุษย์ก็ต้องรับผลนั้นไปเอง   ส่วนถ้าใครถูกฆ่าอย่างอยุติธรรมหลังจากตายไปแล้ว คนนั้นจะได้รับความยุติธรรมเอง อย่าลืมว่าไม่ว่าคนคนนั้นจะถูกฆ่าหรือตายโดยอุบัติเหตุหรือแก่ตายเขาก็ต้องตาย ดังนั้นการที่มนุษย์ตายไม่ได้หมายถึงพระเจ้าใจร้ายนะคะ แต่เป็นวิธีหนึ่งของการตายเท่านั้นเอง ซึ่งหากมันไม่ยุติธรรมกับคนคนนั้น เขาจะได้รับความยุติธรรมในวันติดสินโทษเองนั้่นล่ะค่ะ จากคุณ : LuNaTicCaT เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 14:27:05

ความคิดเห็นที่ 31 ผู้ที่ถือโชคถือลาง โดยเฉพาะ เมื่อพูดถึงเรื่องความตายแล้ว รู้สึกว่ากลัว และถือว่าเป็นคำพูดที่ไม่เป็นมงคลนั้น. แท้จริง ไม่ใช่อิทธิพลทางความเชื่อจากพุทธศาสนาหรอกครับ พี่จิม    เป็นความเชื่อจากศาสนาไหนผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน. แต่ไม่ใช่พุทธแน่ ๆ  เพราะหากเป็นชาวพุทธที่แท้จริง จะต้องไม่ถือว่า คำว่าตายนั้นเป็นอัปมงคลเด็ดขาด ชาวพุทธที่แท้จริง ต้องรู้จักการเจริญมรณสติ. คือการระลึกนึกถึงความตายอยู่เสมอ จึงจะทำให้เข้าถึงธรรมแห่งความไม่่ประมาทได้ ผมเองพูดเสมอ ๆ ว่า ผมเป็นเพื่อนกับทั่นยม หรือพยามัจจุราช เป็นเพื่อนซี๊ปึ๊กซะด้วย นั่นผมกำลังหมายถึง "ผมสนิทสนมกับความตาย อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน". นั่นเองครับ ผมพูดว่า ผมสนิทสนมกับพระอินทร์ หรือเทพเทวดา นั่นผมย่อมหมายถึง "การใช้ชีวิตให้มีความสุข บนโลกใบนี้" เพื่อน ๆ ชาวพุทธของผม จำนวนหนึ่ง ไม่เข้าใจบุคลาธิษฐาน ในส่วนนี้ หาว่าผมเพี้ยนไปแล้วก็มีครับ หมายเหตุ.    บุคลาธิษฐาน แปลว่า การยกตัวอย่าง สิ่งที่เป็นนามธรรม ที่เข้าใจยาก ให้เห็นเป็นภาพ เป็นบุคคล ตัวตน  เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ นั่นเอง. แต่มีข้อแม้ว่า คนที่จะเข้าใจได้ ก็ต้องมีพื้นเพความรู้ในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ บ้างพอสมควร. คล้าย ๆ กับการเล่านิทาน เพื่อสอนคติเตือนใจ นั่นเอง ชาวพุทธที่ไม่เข้าใจในบุคลาธิษฐาน ก็มักจะเชื่อในทุก ๆ อย่าง ไป แม้แต่ในนิทาน ในเรื่องชาดก หรือเรื่องเล่าใด ๆ ก็จะเชื่อว่า มีตัวตนจริง ๆ ตามที่เล่านั่นเอง. โดยไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่า  คติ เตือนใจ ในเรื่องนั้น คืออะไรกันแน่ แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 14:32:40 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 14:30:55 จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 14:29:44

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ ดัช  ครับ  เคยได้ยินใช่ไหม ครับ ว่าหลักศรัทธาอิสลาม มี 6ประการ ข้อสุดท้ายต้องเชื่อว่า กิจกรรมบนโลกใบนี้พระผุ้เป้นเจ้ากำหนด ถ้าเราฟังแค่นี้เราก็ต้องตีขลุม สำหรับผู้ร้ายลื่นไถล ว่าเวลาฆ่าคนพระเจ้าสั่ง เวลา ไปจีชิงทรัพย์ใครพระเจ้าสั่ง เมื่อมันพูดดังนี้ เจ้าพนักงานก็บอกว่า ที่กูจับเอ็งประหารชีวิตก็พระเจ้าสั่งเช่นกัน พระเจ้าของอิสลาม ให้สติปัญญามา และให้ผลลัพท์มาด้วย ให้สติปัญญามาว่า จะเลือกทางสายสีขาว หรือเลือกสายโจร เลือกสายสีขาว ชีวีมีสุข  เลือกสายโจร ก็ เครื่องประหาร และ ตะแลงแกง นั่นเอง  ความยุติธรรมของพระผุ้เป้นเจ้า ถ้าด้วยสติปัญยาของคนก็ว่าไม่ยุติธรรมก้เป็นได้ เช่น  มีเพื่อนบ่านผมคนนึง เป็นคนจีน นับถือพุทธศาสนา ถูกติดคุก เพราะเลินเล่อ เรื่องการเงินในแบงค์ เค้ามาบอกว่าเค้าไม่ได้ดกงเงินแม้นแต่บาทเดียว ทำไมต้องติดคุก พระเจ้าไม่ยุติธรรม  แม่ผมบอกว่าอย่าไปพูดอย่างนั้นอิสลาม ถือว่าเป้นแนวทางนึง ปรากฎว่าระหว่างไปอยู่ในคุก ไปเจอขาใหญ่ กลายเป้นเพื่อนขาใหญ่ในคุก  พอพ้นโทษมา ขาใหญ่ฝากฝังให้ไปทำงานกับญาต ขาใหญ่ในคุกที่อเมริกา  อยู่ร้านอาหารกาลเวลาไวเหมือนโกหก ผ่านไป 30 ปีกลับมาเมืองไทยอีกครา มาไหว้แม่ผมที่บ้าน เดวนี้เป็นอาเสี่ยใหญ่มีร้านอาหารไทยในเมกา หลายสาขา  ลูกสาว ได้แฟน อียิปต์ มุสลิม ตอนนี้ฐานะดีมากๆ เค้าบอกว่าเค้าเข้าใจแล้วว่า ความยุติธรรมของพระเจ้าเป้นเช่นไร สิ่งที่เลวร้ายตรงหน้าคือหนทางเดินที่จะเดินต่อไป ในอนาคตนั่นเอง ถ้าวันนั้นไม่ติดคุก วันนี้ก็ไม่มีมา  จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 14:32:11

ความคิดเห็นที่ 33 คือกรณีนี้ เด็ก ๆ เขาทรมานมากนะครับขณะนั้นที่ถูกแล่เนื้อโดยยังไม่ตาย โดนทรมานข่มขืนก่อนนานบางทีหลายวัน กักขังไว้ให้อดอาหาร จากนั้นจึงลงไม้ลงมือทุบตี และเริ่มแล่เนื้อทั้งเป็นโดยที่จับล่ามไว้ ความเจ็บปวดอย่างที่ตายดีกว่าเป็นนั้น มัน อธิบายไมู่ถูกและฆาตรกรคนนั้นยังมีีชีวิตอยู่ต่อได้ ฆาตรกรทำดั่งใจที่อยากทำ เหมือนเป็นการทดลองสนุกสนาน เขาออกล่าฆ่าเหยื่ออีกนับร้อยรายพันรายเด็ก ๆ ทั้ง ญ และ ช นับร้อยคนพันคนเหล่านั้นเขายังโตไม่พอที่จะ ทำอะไรผิดหรือปฏิเสธพระเจ้าเลยนะครับ   และสุดท้ายฆาตรกรถูกจับได้เขาไปอยู่ในคุกก็มีแต่ความสุข ยิ้มแปร้ หัวเราะเยาะคนอื่นด้วยซ้ำและที่สุด ทางการก็วิบอกว่าเขาวิกลจริตแต่ความจริง เขาปกติยิ่งกว่าใคร เขามีจิตที่ลึกซึ้งมากจนคนอื่นเข้าไม่ถึง และคิดว่าเขานั้นโรคจิตเสียสติ หรือเขาจะเสียสภาพจิตไปแล้ว จริง ๆ ก็ได้ ทั้งสองอย่าง คนแบบนี้เดินทางผิดแต่รู้สึกว่าในการมีชีวิตเขาจะมีแต่ความสะใจและความสุขแทบจะเข้าเส้นเลือดและจิตวิญญาณทุกอณูของการมีชีวิตเลยนะครับ ไม่มีคำว่าสำนึกผิดหรืออะไรทั้งสิ้น ทางพี่น้องวิเคราะห์ว่าเขาเป็นสิ่งที่พระเจ้าออกแบบ หรือว่าเขาเลือกเดินผิด หรือเพราะเหตุปัจจัยทางธรรมชาติทำให้เขาเ็ป็นแบบนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับพระเจ้าอย่างที่นักจิตวิทยาำบำบัดเขาทำการศึกษาหรือว่าอย่างไรแน่ครับ เพราะการค้นคว้าอดีตก็มีบางทีบอกว่าเป็นเพราะเขาตอนเด็ก ๆ ถูกกระทำมาเช่นกัน ตั้งแต่ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนทุบตี ใช้งานกดขี่ ทารุณ ถูกทำร้ายสารพัดแต่เด็ก แม่ก็ตายและอื่น ๆ และเนื่องด้วยเขาเป็นเด็กที่คิด และเก็บกดความทุกข์เรื่องราวเหล่านั้นไว้ เขาไม่เคยมีความสุข เขาจึงกลายเป็น เครื่องจักรสังหาร ที่มีความสุขกับความทุกข์ ขนาดเอามีดกรีดตัวเองยังยิ้มแสยะ แล้วเรื่องแบบนี้ที่เกิดขึ้น สรุปแล้วมันเกี่ยวกับอะไรแน่ครับ สำหรับจิตวิญญาณ ของฆาตรกรคนนี้ และเด็กเหล่านั้น  จะเป็นอย่างไร ลองคิดและตรึกตรองอย่างที่เราพอจะคิดได้ครับ และพระเ้จ้าจะทรงทำการใด จะทรงลงโทษฆาตรกรจะเป็นธรรมกับเขาหรือครับ เพราะเหตุปัจจัยดังว่าทำร้ายเขา หรือไม่ลงโทษอภัยให้เขาแต่มันก็จะเป็นธรรมเหรอกับการที่เด็กตายไปมากมายขนาดนั้น ถ้าเป็นลูกหลานของพวกท่านรู้ข่าวและบันทึกวีดีโอการทารุณ ระหว่างถูกจับตัวไปขังนานนับอาทิตย์ที่หายไปและค่อย ๆ ถูกฆ่าอย่างช้า พอท่านได้ดูจะรู้สึกอย่างไร   และที่สุดแล้ว วิญญาณ ของ ทั้งผู้กระทำ กับถูกกระทำ จะหาความยุติธรรมจากมนุษย์ด้วยกันได้การตัดสินอย่างไรครับ หรือให้พระเจ้าตัดสินฝ่ายเดียว แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 15:10:53 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 15:08:28 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 15:06:54 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 15:04:11 จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 15:00:10

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าตามหลักอิสลาม ไอ้ฆาตกร คนนี้ไม่เหลือหลอ ครับ ก่อนอื่นเราต้องมามองแบบบูรณภาพว่า ทำไมคนนี้ ต้องเป็นฆาตกรโรคจิต สิ่งเหล่านี้คือคำตอบ ถ้าครอบครัว และสังคมเลี้ยงดู ตามหลักการ ของศาสนาอิสลาม 100% โอกาสนั้นแทบจะปิดประตุไปได้เลย การศรัทธาของอิสลาม เลยต้องควบคู่ไปกับหลักปฏิบัต 5ข้อโดยเคร่งครัด ศรัทธาแต่ไม่ปฏิบัติ มันก็เหมือนคำสอนที่แปะไว้บนฝาผนังนั้นเอง ดังนั้นอิสลามจึงเน้นย้ำการปฏิบัติ คือเครื่องแสดงออกเบื้องต้นของหลักศรัทธานั้นเองครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 16:31:44

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าอธิบายง่ายๆ ฆาตกรนั้น และระบบยุติธรรม นั้นยังเข้าไม่ถึงหลักการขงพระผู้เป้นเจ้านั้นเองครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 16:44:38

ความคิดเห็นที่ 36 ครับพี่จิม โทษและระบบยุติธรรมหลักสากลแบบนี้ไม่แน่ใจว่าดีพอหรือเหมาะสมหรือยังครับพี่จิม มีตั้งแต่ ตักเตือน กักขัง จำขัง ตามอัตราโทษ ประหาร โดยมีการกำหนดไว้ สำหรับแยกแยะความผิดในกรณีต่าง ๆ ใช้หลักการทางด้านวิชาการต่าง ๆ มากำหนดบทลงโทษ โดยเขาจะเริ่มต้นให้เข้าใจดังนี้ก่อนน่ะครับ --เริ่มต้น อธิบาย เรื่อง ราว เกี่ยวกับ คำว่า เหตุ และ ผล ในการกระทำ  ดี และ เลว มนุษย์ต่างเผ่าพันธุ์และเชื้อชาตินั้น เนื่องจากแตกต่างกัน ด้านพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ความประพฤติการแสดงออกก็แตกต่างกัน เนื่องมาจาก พันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม เหนือจากนี้ไม่มี ความเชื่อศรัทธาที่นำมาประพฤติปฏิบัติ นั้นก็แตกต่างกันตาม วัฒนธรรม และประเพณี ที่มนุษย์เป็นสมาชิกอยู่   ( สิ่งแวดล้อม ) พันธุกรรม ด้านอารมณ์ จิตใจ สติปัญญา ฯลฯ ซึ่งอยู่ในเลือด เนื้อ กระดูกเซลส์ และ ฯลฯ สืบทอดถึงสกุลเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ ..1....พันธุกรรม ทำให้เกิดคนพิการ คนสมบูรณ์ คนมีอารมณ์ขัน คนขี้ขลาด คนฉลาด คนโง่ ฯลฯ ..2.... สิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดคนพิการสมบูรณ์ ขี้ขลาด ฉลาด โง่ ฯลฯ   พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม  เป็นอิทธิพลกับความแตกต่างของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นด้านศาสนาความเชื่อความคิดลัทธิ แม้แต่ความเห็นที่เราเรียกว่า ผิด หรือ ถูก นักจิตวิทยามักใช้เป็นบรรทัดฐานในการรักษาผู้ป่วยทางจิต แยกแยะว่าผู้ป่วยแต่ละคนมีพันธุ์กรรมและสิ่งแวดล้อมอย่างไรและจะเป็นคำตอบว่า ผู้ป่วยแต่ละคนคิดและแสดงออกอย่างไรนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ก็จะสามารถรักษาอาการได้อย่างถูกต้องเสมอ --กรณีตัวอย่าง นาย ไก่. ฆ่าข่มขืน ด.ญ.ไข่. กรณีนี้ เรามองชัดเจนว่า นายไก่กระทำผิดกฎหมายของสังคมระดับประเทศ และระดับโลก แต่โดยความเห็นของนักจิตวิทยาอาจไม่เป็นอย่างที่สังคมพิพากษา เพราะนักจิตวิทยา ( กรณีตัวอย่าง ) อาจทำการตรวจสอบประวัติย้อนหลังถึงภูมิหลังและความเป็นมาของครอบครัว นาย ไก่ ซึ่งอาจมีผลที่ ศาลอาจยกฟ้องได้ หรือ ลงโทษสถานเบาได้ หรืออาจไม่มีความผิดใด ๆ เลยก็เป็นได้ --การตรวจสอบจะเริ่มจาก ประวัติการพัฒนาการของนายไก่ ตั้งแต่ เด็กทารก จนถึงวัยรุ่น ว่ามีแนวโน้มไปด้านใด ผลอาจออกมาเป็น นายไก่ก็ไม่ต่างจากเรา คือเคยเป็นเด็กเล็ก ๆ น่ารัก ซุกซน เช่นกับเราทุก ๆ พ่อแม่เอาใจใส่เลี้ยงดูได้ดีพอสมควร แต่ทำไมกลับโตมาจึงเปลี่ยนไปสามารถกระทำเรื่องราวแบบนี้ได้ --หากตรวจสอบประวัติการพัฒนาการของนายไก่ แล้วตั้งแต่ เด็กจนถึงวัยรุ่น มีแนวโน้มไปด้านลบ การเลี้ยงดูขาดการเอาใจใส่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แย่ เช่นสลัม แหล่งมั่วสุม พันธุกรรมที่ถ่ายทอดมาจากตระกูลก็มีความรุนแรง เราน่าจะเดาออกนะครับว่าเหตุใดนายไก่จึงสามารถทำกระทำผิดได้ --ดังนั้นการกระทำทุกอย่างมีเหตุมีผล ไม่มีสักเรื่องของมนุษย์ที่จะกระทำโดยไร้เหตุผล เพียงแต่เหตุผลที่มีนั้น น้อย หรือ มาก และ ความคิดที่กระทำนั้น มีภาวะซีกสมองด้านของการควบคุม หรือ ส่วนอยาก มากกว่ากัน --หากเหตุผลน้อยแต่สมองส่วนควบคุมอารมณ์สามารถควบคุมได้ดีก็สามารถควบคุมการกระทำให้ดีได้ หากเหตุผลมากแต่สมองส่วนควบคุมอารมณ์ไม่สามารถควบคุมได้ดีก็ไม่สามารถควบคุมการกระทำให้ดีได้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุเป็นผล ตามพันธุ์กรรม และสิ่งแวดล้อมเท่านั้นที่ทำให้มนุษย์กระทำสิ่งต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป จะเห็นได้ว่ามนุษย์ไม่มีความผิดเรย แต่ผิดที่เหตุผลของพันธุกรรม และ สิ่งแวดล้อมต่างหาก ที่ถ่ายทอดและหล่อหลอมมนุษย์ ดังนั้นนายไก่จึงไม่มีความผิดแม้แต่น้อยตาม หลักทฤษฎี ที่เข้าถึงความเป็นไปของธรรมชาติ จึงเรียกว่าเป็นธรรมดาของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่สังคมมนุษย์ ประชากรที่มีพื้นฐานความสมบูรณ์ทางจิตใจและอารมณ์ควบคุมส่วนดีนั้นมีมาก และเป็นสัดส่วนมากกว่าความไม่สมบูรณ์ของมนุษย์ที่เกิดมาและถูกเลี้ยงอย่างผิดพลาด เพื่อความสงบของสังคมส่วนใหญ่ จึงมีกฎระเบียบเพื่อนำมาตัดสินลงโทษคนเหล่านั้น การจำขัง ก็เพื่อที่จะนำบุคคลที่ไม่สมบูรณ์ด้านพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม มาปรับตัวฝึกฝนหล่อหลอมขึ้นใหม่ให้สามารถเข้ากับสังคมได้ หากเป็น โทษประหาร ก็เป็นการกระทำที่เรียกว่าสุดท้ายแล้วจริง ๆ เรียกว่าเสียสละส่วนน้อยเพื่อสังคมส่วนใหญ่ นั่นเอง ดังนั้นสังคมต่างหากที่ตัดสินว่าผิดหรือถูก แต่โดยทฤษฎีธรรมชาตินั้นเรียกว่าเป็นธรรมดาของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  (ผลสรุปจะได้เพียงแค่นั้นก่อน) แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 17:52:55 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 17:49:43 จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:47:58

ความคิดเห็นที่ 37 เขาจะยืนยันไว้เลยครับว่า มนุษย์โดยพื้นฐานต้องการความสงบ สันติ ต้องการทำความดี แต่จะกระทำสิ่งที่ไม่ดี ก็ต่อเมื่อหรือเพราะเกิดจากความรู้สึกว่า ไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่เท่าเทียม และแปรปรวนผสมผสานกับสภาพพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ  ไปเป็นการแสดงออก ต่าง ๆ จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 19:13:27

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่ว่าจะได้รับอะไรมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด  พระเจ้าได้ประทานสติปัญญามาให้ ด้วย และ พระองค์ก็สอนเรื่องคุณธรรม ดังนั้นมันก็อยู่ที่เจ้าตัว ละ ว่า จะ ตามอารมย์ หรือ ตามใจตน หรือ จะใช้เหตุผล ตามกำลังสติปัญญาที่พระเจ้าประทานให้ แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 21:45:02 จากคุณ : ghanee.s เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:32:26

ความคิดเห็นที่ 39 แหมน้องดัช  ร่ายสะยาวเลย ที่น้องดัช ว่ามานั้น  อิสลามได้ดีไซน์ไว้หมดแล้วครับ ทั้งกระบวนการ ตั้งแต้การป้องกันทาง พันธุกรรม ทางการสืบพันธ์ไปด้วยในตัว อิสลามเชื่อว่าต้นไม้ที่ดีย่อมไม่ให้ผลเป้นพิษ  พ่อแม่ดี จิตใจมีคุณธรรม สวดมนต์ทุกขณะจิต ใจรำลีกถึงพระเจ้าตลอดเวลา โอกาส ที่เด้กจะเกิดมามีความบกพร่องทางด้านอุปนิสัย มียากครับ ถามว่ามีอะไร พิสูจน์ ทฤษฎีของน้ำไงครับ ที่ ศาตรจารย์ ญี่ปุ่นค้นพบ จากกรุอาน  ในร่างกายมนุษย์มีน้ำ 3 ส่วนใน 4ส่วน   พ่อแม่ละหมาดตลอดเวลา จิตใจดีงาม เหล้า ของมึนเมาไม่ดื่ม เวลาจะมีเพศสัมพันธืกันก้ด้วยความมีสติ มีสอนหมดทุกอย่างแม้นกระทั่งการหลับนอนกันของสามีภรรยา ทำอย่าไร ให้ลุกออกมาดี  พอบุตรในครรภ์ ก็เห่กล่อม ด้วยบทสวดในคัมภีร์  ออกมาก้กรอกหูด้วยบทสวด  โตมาก็เรียนศาสนาอย่างเคร่งครัด ด้วยการป้องกันแบบนี้ โอกาสที่จะผิดพลาดเป้นภาระ และปัญหา ของสังคมน้อยมาก  เอาง่ายสถิติ คดีอาชญากรรม ในประเทศมุสลิมมีค่าใกล้เคียง 0 คดีอาชญากรรม ในประเทศไทย ผู้ต้องหา ที่เป้นมุสลิม มี เปอร์เวนต์ นั้นใกล้เคยง 0 เช่นกัน ด้วยประการดั่งนี้  พี่จิม ถึง ย้ำระบบคิดอิสลาม ถ้าเดินตามแผนเปะ ทุกอย่างไม่มีปัญหาครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 22:05:50

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณครับพี่จิมและ คุณghanee.s ที่แนะนำสิ่งดี ๆ มากมาย จากคุณ : powerinvincible เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 22:29:22