ความคิดเห็นที่ 1 โลกุตตระ หรือ โลกียะ หละครับ จากคุณ : a235 เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 14:17:57

ความคิดเห็นที่ 2 ศาสนาพุทธ ก็ เวิลด์ คลาส  มานานแล้วครับ อยู่มาตั้ง 2600 ปี นี่ ก็ เรียกว่า ผ่านร้อน ผ่านหนาว มาเยอะ มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ตามกาลเวลา มามาก แต่โดยเนื้อแท้ ยังเหมือนเดิม แต่ที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ  คือ  อุปมา เหมือนต้นโพธิ์  จะเป็นต้นโพธิ์ได้ ดำรงอยู่ได้ มันต้องมี เปลือก กิ่งก้าน ใบ ราก  ใบเก่า ใบใหม่ผลัดเปลี่ยนกันไป  แต่ สังคมปัจจุบัน จะเอาแต่ แก่น แต่ราก  เพราะว่าต้องการแต่สิ่งที่ดีที่สุด ไม่ดีไม่เอา เล็ก ๆน้อย ๆ ไม่เอา จะเอาแต่แก่น  เพราะศึกษา มากขึั้น รู้มากขึ้น เข้าใจมากขึ้น   พอตัด ออกไปหมด กิ่งเล็ก ใบน้อย   เอาแต่แก่นไป อีก สัก 50-100 ปี หมดยุคไป  เหลือ แต่แก่นทิ้งไว้ คนรุ่นหลังเห็น ก็จะมองเห็นแต่ ตอไม้   ไม่เห็นว่าต้นโพธิ์ เป็นยังไง ก็มันมีแต่ตอ ใบเป็นยังไง  เปลือกเป็นยังไงก็ไม่เห็น ก็เห็นแต่ตอนี่หน่า เออ  แล้ว จะทำยังไงละ ทีเนี้ยะ  เกี่ยวกับกระทู้ที่ถามไหมเนี้ยะ จากคุณ : แฟนพันธุ์ทาง (อาจารย์ไข่) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 19:30:31

ความคิดเห็นที่ 3 คคห1 --เสนอ world class "แบบ"โลกุตตระ หรือ world class "แบบ"โลกียะ หละครับ ใช่ไหมครับ ******************************************************** ที่เสนอ^^^^ --- เข้าข่าย---- world class "แบบ" (๑) แบบ มหาจุฬาฯ นิยม (๒) แบบ มหามงกุฏ ฯ นิยม (๓) แบบ "สายพระป่า" นิยม (๔) แบบ "สวนโมกข์" นิยม (๕) แบบ "เจริญสติ" 14 จังหวะ นิยม (๖) แบบ "พุทธธรรม" นิยม (๗) แบบ "ธัมมกาย" นิยม (๘) แบบ "มหาเถรสมาคม" นิยม (๙) แบบ "สันติอโศก" นิยม (๙) แบบ "ดูจิต" นิยม (๙) แบบ "มหาวิทยาลัย ฯ" นิยม (๑๐) แบบ "เถรวาท" นิยม (๑๑) แบบ "มหายาน" นิยม (๑๒) แบบ "วิสุทธิมัคค์" นิยม (๑๓) แบบ "อภิธัมมัตถสังคหะ" นิยม (๑๔) แบบ "ตัวกุ ของกุ" นิยม (๑๕) แบบ "ฯลฯ" นิยม ข้อไหนครับ คุณa235 ?                   *********************************** หมายเหตุ ๑ ลอง สอบทาน กับ ที่ตรัสแก่ ภิกษุรุ่นแรก 60 รูป (ถ้าจำไม่ผิด ก่อน รุ่นที่สอง 1250) และหรือ รุ่นที่สอง ---- ฯ ที่ตรัสนั้น "เข้าข่าย (ตามมุมมองของผู้นั้นๆ) world class --- แบบพุทธประสงค์"  ไหม? หมายเหตุ ๒ ทำไม ต้อง "อะไรๆ ก็ ----- โลกียะ กับ โลกุตตระ" ? (หรือ ที่ เนื่องกับ) ทำไม แอะอะๆ ก็ "บัญญัติ  กับ ปรมัตถ์" ?            ลอง สอบทานกับ  ที่ตรัส  "โอวาทปาฏิโมกข์" ว่า  (จากความจำ) ไม่ทำชั่วทั้งปวง  (แม้นเพียงเล็กน้อย  ดู มูลปริยายสูตรด้วย) ทำดีทั้งปวงให้ถึงพร้อม ทำจิตให้ขาวรอบ นี่ เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า (คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า) ทั้งหลาย                    ซึ่่ง  ทั้ง ๓ ข้อ -- ก็ คือ ที่ตรัสไว่า (ใช่หรือไม่)   --- ก่อนก็ดี เดี๋ยวนี้ก็ดี  ตถาคตบัญญัติสอนแต่เรื่องทุกข์ (ปฏิจจสมุปบานสาย เกิด (สมุทัย)  และความดับสนิท (นิโรธ)ไม่เหลือแห่งทุกข์ (ปฏิจจสมุปบาทสายดับ (นิโรธ)  เท่านั้น                   ซึ่ง ทรงสรุปไว้ว่า  (ใช่หรือไม่?) --- ว่าโดยย่ออุปาทานขันธ์ เป็นตัวทุกข์อริยสัจ (ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ฯ)                  ***********************************                                        สรุป                            พุทธศาสนา world class   ทำไม ไม่ = จิตตภาวนา (อธิจิตตสิกขา) ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้  (ทุกๆ พระสูตร / ที่สาวสกเสนอ อย่าเอามา ฯ)--- คือ เหตุ --- เพื่อ ผลคือ --- ทำจิตให้ขาวรอบ  --- จาก --- --- ว่าโดยย่ออุปาทานขันธ์ เป็นตัวทุกข์อริยสัจ (ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ฯ) เพราะ (๑)  ชอบใจ ใน สัมมาทิฏฐิ ของพระพุทธองค์  คือ --- --- ก่อนก็ดี เดี๋ยวนี้ก็ดี  ตถาคตบัญญัติสอนแต่เรื่องทุกข์ (ปฏิจจสมุปบานสาย เกิด (สมุทัย)  และความดับสนิท (นิโรธ)ไม่เหลือแห่งทุกข์ (ปฏิจจสมุปบาทสายดับ (นิโรธ)  เท่านั้น และ -- ว่าโดยย่ออุปาทานขันธ์ เป็นตัวทุกข์อริยสัจ (ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ฯ) เมื่อ ฉันทะ ใน สัมมาทิฏฐิของพระพุทธเจ้า  เกิด สัทธา  แบบเดียวกับ อุปติสสะ ทำไม ไม่ ใช่ ไม่ทำชั่วทั้งปวง  (แม้นเพียงเล็กน้อย  ดู มูลปริยายสูตรด้วย) ทำดีทั้งปวงให้ถึงพร้อม ทำจิตให้ขาวรอบ                ขั้น ---- "ได้ดวงตาเห็นธรรม" ---- แบบ ปัจจุบันธรรม สอดคล้องกับ ที่ตรัสว่า  "เป็นอยู่โดยชอบ  โลกจักไม่ว่างจาก พระอริยเจ้า (ในธรรม วินัยนี้)                   **********************************                             ข้อความ ตรง สรุป คือ (๑๕) "พุทธศาสนา ระดับ world class" แบบ "เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม" นิยม ----- หรือไม่? คุณ a235 --- มี ความเห็น เป็นประการใด ? ครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:01:24

ความคิดเห็นที่ 4 คคห 2 ตรงข้อความที่เสนอ  "มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ตามกาลเวลา มามาก แต่โดยเนื้อแท้ ยังเหมือนเดิม" มั่นใจ ด้วยข้อมูลด้วย หลักฐานใดด้วย บ้างครับว่า ที่ -- "มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ตามกาลเวลา มามาก แต่โดยเนื้อแท้ ยังเหมือนเดิม" นั้น ตรงส่วนไหน ^^^^ "คือเนื้อแท้"  ที่ยังเหมือนเดิม ตาม มุมมองของคุณ แฟนพันธุ์ทาง (อาจารย์ไข่) โดย  ไม่ต้อง "คิดเองก่อน สรุปเองก่อน หรือ สังเคราะห์เอง ด้วยอะไรๆ  นะครับ" แค่ อ้างอิง หลักฐานปฐมภูมิ  คือ พระบาลีพุทธภาษิต ที่แปลไทย สำนวนแปลใดนั้น "ก่อน"  เป็น หลักฐาน  เพื่อ สนับสนุน วาทะ หรือ มุมมองว่า --- แต่โดยเนื้อแท้ ยังเหมือนเดิม"" คุณ แฟนพันธุ์ทาง (อาจารย์ไข่)  อ้าง ไหมครับ         ******************************************* ผม เสนอ พระบาลีพุทธภาษิต  ที่ ทรง อุปมา "ดั่งกลอง หรือตะโพนชื่อ อานกะ" ตรัสถึง เนื้อไม้เก่า (ดั้งเดิม)  กับ เนื้อไม้ใหม่ที่ปะเข้าไป  ฉันใด ธรรมที่ตรัส ที่เนื่องด้วย สุญญตา (ดู สัญญตาวิหาร  ใน วิหารธรรม ๔ / ดูจูฬสุญญตสูตร)  คือ  เนื้อไม่เก่า  คือ -- เป็นคำของพระตถาคต เนื่องเฉพาะด้วย สุญญตา (ความว่างจาก ฯ  ไม่ใช่ เรื่อง สูญเปล่าไม่มี อะไรเลย รวมทั้ง ไม่มีพระพุทธเจ้า พระองค์นี้  (โดยบัญญัตินั่นแหละ)           **************************************** ประเด็น --- แต่ที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ ฯ ไม่ค่อยเข้าใจ  แปลว่า  ? ละครับ --- ต่างกับ "ไม่ถูกใจ"  ไหมครับ               แล้ว ตรงนี้  ก็ เลยออกไปจากประเด็นกระทู้ เสียแล้ว                     (ตรงคำว่า --ที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ)            **************************************** ประเด็น -- อุปมา เหมือนต้นโพธิ์  จะเป็นต้นโพธิ์ได้ ดำรงอยู่ได้ มันต้องมี เปลือก กิ่งก้าน ใบ ราก  ใบเก่า ใบใหม่ผลัดเปลี่ยนกันไป แต่ สังคมปัจจุบัน จะเอาแต่ แก่น แต่ราก  เพราะว่าต้องการแต่สิ่งที่ดีที่สุด ไม่ดีไม่เอา เล็ก ๆน้อย ๆ ไม่เอา จะเอาแต่แก่น ข้อนี้  "เป็นไปได้หรือไม่ว่า" คุณ แฟนพันธุ์ทาง (อาจารย์ไข่)  -- กำลัง เอา ความรู้ ความเห็น + ที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ -- เสนอ  -- เพื่อ ผล อะไรก็ตาม ข้อนี้ ทำไม ไม่ พิจารณา หยั่งลง สอบทานกับ  "มูลปริยายสูตร"   ที่ตรัส ถึง (๑) ภูมิปุถชน (๒) ภูมิพระเสขะ สาวกของพระองค์ (๓) ภูมิพระอรหันต์ขีณาสพ (หรือ พระอเสขะ นั่นแหละ) และ (๔) ภูมิพระศาสดาคือ พระองค์เอง  ที่ "อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ  อันเป็น พุทธวิสัยหนึ่ง) พิจารณา มูลปริยายสูตร แล้ว จะแสดง คคห เพิ่มเติม  ไหมครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:17:51

ความคิดเห็นที่ 5 จากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12593499/Y12593499.html มูลปริยายสูตร มีคำ พระบาลี ๒ คำ คือ คำว่า (๑) คำว่า -- สัญชานาติ (รู้เพราะ จำได้หมายรู้) กับ (๒) คำว่า -- อภิชานาติ  (รู้ยิ่งด้วยปัญญา  เพราะ มีการสดับ  - ดู ความรู้ที่ทำให้มีการอบรมจิต  -เรื่อง จิตประภัสสร พ้นวิเศษจาก อุปกิเลส ฯ) เนื่องกับ ภูมิ ๔  (โดยย่อ) ดู (๑) พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้้า ๓๖๙ (๒) http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=12&A=0&Z=237 จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:20:22

ความคิดเห็นที่ 6 คุณหลังไมค์ --- (ความในวงเล็บ ผม เสนอเอง) เมื่อวานบ่าย ก็ตามดู ตามเห็น แบบผ่อนคลาย สบายๆ  ไม่มีปฏิกิริยาทางลบใดๆ เกิดขึ้นทางร่ายกาย... รู้สึกโปร่งโล่ง เบาสบาย และไม่เครียด ... (แปลว่า มีในทางบวก ?   แล้ว  เนื่องกับ ที่ตรัสคำว่า อตัมมยตา  หรือไม่? --              เพื่อความไม่ประมาท ในธรรมที่ตนส่งไปแล้วฯ)              ************************************ แล้วก็แลเห็นว่า ตัวเองเผลอไปประพฤติตามอำนาจจิตบ่อยมากๆ  โดยเฉพาะความกำหนัดไปตามอำนาจความตริตรึก ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตแทบจะทุกครั้งที่เผลอสติ (ถ้ากำหนดว่า เข้าข่าย ดูจิต เห็นจิต แบบหนึ่ง --แบบไหน / แบบ จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน  ของอริยสาวกผู้มีการสดับ +รู้ชัดว่า พ้นวิเศษจาก อุปกิเลส - ไม่ใช่ข่มไว้ได้ -- ที่ เนื่องกับ ญาณ ๕  นั้น  "มั๊ย)                *********************************** ... และรู้ตัวว่า เวทนาทั้งหลายทั้งปวง ยังปรุงแต่งจิต จูงใจได้ ยังเพลินเฉพาะต่อเวทนาอยู่อย่างมาก ... (ดู มูลปริยายสูตร เพื่อ เพลาๆ -- ตามที่ตรัส ก่อน เลยสูงขึ้นไป ต่อไป แบบ  ตัวไม้สอนช่างไม้ ฯ) พอรู้สึกตัวก็รีบทิ้งๆๆๆๆๆ แล้วกลับมาตั้งสติใหม่ รู้ตัว (ยืน เดิน นั่ง นอน) อยู่ด้วยอุเบกขา หายใจเข้า-ออก เป็นปกติ อย่างนี้ตลอด... พอสติหลุดไปอีก ก็วนทำใหม่ แบบสบายๆ ไม่เคร่งครัด ... (แบบ ^^^^ นี้  อาการตรง ขณะไหนคือ ---- วิตกวิจาร  ปีติสุข  เพราะวิเวก แล้วแลอยู่  ด้วย เอกัคคตาจิตแบบ ???? -- พิจารณาเอง + พระสูตรนั้นๆเอง) แปลกดีเหมือนกัน ที่ขณะนึงของความรู้สึก มันเกิดความเบื่อหน่ายขึ้นมาอย่างนั้น ... คล้ายๆ กับการเห็นความซ้ำซาก จำเจของเวทนา ที่วกไปเวียนมา วนแล้ววนเล่าอยู่อย่างนี้ ... พอรู้ได้ถึงความรู้สึกนี้เข้า จิตมันสงบขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องทำอะไรเลย... (ดู ๒ พระสูตร ทำความแจ่มแจ้ง (วิทิตา) ตามที่ตรัสสนั้น --จิตนี้เป็นประภัสสร + มูลปริยายสูตร  -- ตรงคำว่า สัญชานาติ  กับ คำว่า อภิชานาติ ฯ) หมายเหตุ ภาวะธรรม  ที่คุณหลังไมค์ เสนอ นี้ เข้าข่าย ""พุทธศาสนา ระดับ world class" ---- world class แบบไหน ? ลอง พินิจดูว่า ตรงกับ ข้อไหน (๑) แบบ มหาจุฬาฯ นิยม (๒) แบบ มหามงกุฏ ฯ นิยม (๓) แบบ "สายพระป่า" นิยม (๔) แบบ "สวนโมกข์" นิยม (๕) แบบ "เจริญสติ" 14 จังหวะ นิยม (๖) แบบ "พุทธธรรม" นิยม (๗) แบบ "ธัมมกาย" นิยม (๘) แบบ "มหาเถรสมาคม" นิยม (๙) แบบ "สันติอโศก" นิยม (๙) แบบ "ดูจิต" นิยม (๙) แบบ "มหาวิทยาลัย ฯ" นิยม (๑๐) แบบ "เถรวาท" นิยม (๑๑) แบบ "มหายาน" นิยม (๑๒) แบบ "วิสุทธิมัคค์" นิยม (๑๓) แบบ "อภิธัมมัตถสังคหะ" นิยม (๑๔) แบบ "ตัวกุ ของกุ" นิยม (๑๕) แบบ "ฯลฯ" นิยม จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:56:25

ความคิดเห็นที่ 7 ต่อ มีความรู้สึกเย็นกายเย็นใจ ไม่ฟุ้งซ่านกระวนกระวายอะไร ตั้งแต่บ่ายถึงค่ำ ... เมื่อผัสสะกับอายตนะนอก ๖ ใดๆ ก็ตาม ก็จะเฉยๆ คล้ายๆ กับว่า รับรู้แล้วก็ผ่านไปเป็นเรื่องๆ ไม่มีอารมณ์ร่วมแบบถลำลึกสักเท่าไหร่ ... มีแต่ความรู้สึกเป็นสุข ฉ่ำๆ เย็นๆ อยู่ข้างใน (ครูจะรู้มั๊ย ว่าอาการนี้มันเป็นอย่างไร) ... -:) จนกระทั่งเข้านอนก็ยังคงมีความรู้สึกแบบนี้อยู่ ล้มตัวลงนอนก็ท่องในใจ ... เอตัง สันตัง เอตัง ปะณีตัง ยะทิทัง สัพพะสังขาระสะมะโถ สัพพูปะธิปะฏินิสสัคโค ตัณหักขะโย วิราโค นิโรโธ นิพพานัง … อนารัมณเวเมตัง เอเสวันโต ทุกขัสสะ .... จนกระทั่งหลับไปโดยไม่รู้ตัว .... วันนี้เลยอารมณ์ดี แจ่มใส เบิกบาน ไม่รู้สึกว่ามีสิ่งใดให้เป็นกังวล หรือค้างคาใจหลงเหลืออยู่เลย … _/\_ ขอบพระคุณมาก ที่เมตตาช่วยชี้แนะแนวทางให้ ... ไม่ทราบว่า ยังมีจุดใดที่ผิดเพี้ยนไปอยู่อีกหรือไม่ ******************************************************* (๑) คำว่า --- (ครูจะรู้มั๊ย ว่าอาการนี้มันเป็นอย่างไร) ... -:)   หมายความว่า ????       ************************************************* ไม่ทราบว่า ยังมีจุดใดที่ผิดเพี้ยนไปอยู่อีกหรือไม่ ดู มูลปริยายสูตร + จูฬสุญญตา  ซิครับ ว่า " ที่ตรัสนั้น ----คุณหลังไมค์ รู้หมาย (ไม่วิปลาส เพราะภูมินั้นๆ ตาม มูลปริยายสูตร) ว่า  "มี อาการ สอดคล้อง ตรงตามที่ตรัส  ตาม ที่แปลไทยนั้น" ที่ ไม่ขัดกับ  กาลามสูตรด้วย  ไม่ขัดกับ ญาณ ๕ ด้วย ^^^^  คือ คำแนะนำ  "จากผู้ที่ สำเหนียกตนเองว่าดีกว่าต้นไม้ฯ ดังที่เคยสื่อสารอุปมาไว้)" ----- ซึ่ง  คุณหลังไมค์ให้เกียรติ์ ใช้ สรรพนาม คำว่า "ครู" ซึ่ง ครู แบบ เซนเถรวาทฯ --- สำเหนียกเสนมอๆๆว่า --- "อาศัยตถาคตเป็นกัลยาณมิตร (ซิครับท่าน) สัตว์ที่มีความเกิด (นันทิในขันธ์ ขั้นประณีตคือ ขั้นของพระอนาคามีฯ) เป็นธรรมดา  ย่อม พ้นจากความเกิดนั้น (ตามสามัญผลสูตร ฯป อ่าน มาถึง 5 บรรทัดบน --- ด้วย อาการ "วันนี้เลยอารมณ์ดี แจ่มใส เบิกบาน ไม่รู้สึกว่ามีสิ่งใดให้เป็นกังวล หรือค้างคาใจหลงเหลืออยู่เลย …"แล้ว มี จุตูปปาตะ  หรือไม่ --- ต้อง มี สติในสมาธิปัญญาสัมปชัญญะ (ขั้นใด ดู มูลปริยายสูตร) ---- หรือ ต้องมี อภิเจตสิก  ที่ตรัสไว้  ประกอบ จิต ขณะนั้นๆ --- เป็น "สภาวะธรรม รู้"----- เจตสิก  จึง สำคัญกว่า จิต --- ตามที่ตรัสว่า "สังขารธรรม ที่ประเสริฐที่สุด คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ / ไม่ขัดกับ สัมมัตตะ ๑๐ ด้วย ฯ) หมายเหตุ คคหนี้ เข้าข่าย ""พุทธศาสนา ระดับ world class" ---- world class แบบไหน ? ลอง กำหนดดู  ฯ ตามนิยามคำว่า  ปริยัติ แบบ เนื่องสู่ ปฏิบัติ และ ผลของการปฏิบัติ (ปฏิเวธ / ตาม มูลปริยายสูตร) จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:10:28

ความคิดเห็นที่ 8 ต่อ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาระดับ World Class (ระดับโลก) อย่างแท้จริง ด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้ ... 1. กว่า ๒,๖๐๐ ปี ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนามา ยังไม่เคยมี "สงครามศาสนา / สงครามลัทธิ" เกิดขึ้น พุทธศาสนานับเป็นศาสนาแห่งสันติภาพในโลกอย่างแท้จริง ... ด้วยพระปรีชาญาณ ทรงมีแนวคิดและกระบวนการสร้างความปรองดองอย่างดีเลิศ ที่คือ อปัณณกธรรม คือ ธรรมที่ผิดไม่ได้ทั้งสองฝ่าย ระงับผลร้ายเสียได้ ในเมื่อเกิดการขัดแย้งระหว่างลัทธิ ... (-ม.ม. ๑๓/๑๐๑-๑๐๕/๑๐๔-๑๐๙., - ม.ม. ๑๓/๑๐๕-๑๑๐ /๑๑๐-๑๑๔., -ม.ม. ๑๓/๑๑๑ - ๑๑๕/๑๑๕-๑๑๙., -ม.ม. ๑๓/๑๑๕/๑๒๐., ) พระองค์ เป็น "ธรรมวาที" เป็นผู้ไม่กล่าวขัดแย้งกับผู้ใดในโลกเลย ... พระองค์ตรัสกับภิกษุว่า ... เราย่อมไม่กล่าวขัดแย้งกะโลก แต่โลกต่างหากย่อมกล่าวขัดแย้งต่อเรา … ผู้เป็นธรรมวาที ย่อมไม่กล่าวขัดแย้งกะใครๆ ในโลก … สิ่งใดที่บัณฑิตในโลกสมมติ (รู้เหมือนๆ กัน) ว่าไม่มี แม้เราก็กล่าวสิ่งนั้นว่าไม่มี … สิ่งใดที่บัณฑิตในโลกสมมติว่ามี แม้เราก็กล่าวสิ่งนั้นว่ามี … - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๖๙/๒๓๙ 2. เป็นศาสนาเดียวในโลก ที่ให้อิสระเสรีภาพในเรื่องศรัทธาความเชื่อ โดยพระองค์ทรงวางหลักในการใช้ปัญญา พิจารณาให้เห็นถึง "คุณ / โทษ" ๑๐ ประการ (กาลามสูตร) ก่อนปลงใจเชื่อ และเป็นศาสนาเดียวในโลกที่ไม่ข้องเกี่ยวกับการดลบันดาล อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือ พระเป็นเจ้า ฯลฯ 3. พระธรรมคำสอนทั้งหมด เกิดจากปัญญาการตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ที่คือ ปฏิจจสมุปบาท หรืออริยสัจ ๔ ... สัจจะความจริงอันประเสริฐที่จะทำให้เป็นพระอริยะ … ทรงตรัสรู้ หนทางสายกลางที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์ ที่คือ วิถีปฏิบัติที่ไม่สุดโต่งไปในแนวทางใดแนวทางหนึ่งจนเกินไป มุ่งเน้นการใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิต ไม่ยืดถือหลักการหรือความเชื่ออย่างงมงาย … กระทำกาย วาจา ใจ ตามหลักศีล สมาธิ ปัญญา หรือ กรรมไม่ดำไม่ขาว ที่เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม... ซึ่งผู้ประพฤติปฏิบัติตามคำสอนอย่างถูกต้อง จะเห็นผลได้ด้วยตัวเองว่า ความทุกข์จะดับไปทุกขั้นตอนแห่งการกระทำที่ได้กระทำแล้ว และจะเป็นบุคคลผู้ประกอบด้วยอสาธารณญาณ (ที่ไม่ทั่วไปแก่พวกอื่น) เป็นพยานได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเชื่อใคร ... - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๐/๓๖๘. 4. เป็นศาสดาที่ทรงรู้แจ้งโลก และสามารถค้นพบวิธีที่จะอยู่เหนือโลกได้ ... แน่ะเธอ ! ในร่างกายที่ยาวประมาณวาหนึ่งนี้ ที่ยังประกอบด้วยสัญญาและใจนี่เอง, เราได้บัญญัติโลก, เหตุให้เกิดโลก, ความดับสนิทไม่เหลือของโลก , และทางดำเนินให้ถึงความดับสนิทไม่เหลือของโลก ไว้. - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๖๒/๔๕. พระพุทธเจ้าทรงรู้โลกทั้งหมด ในโลกทั้งปวงด้วยพระปัญญาอันยิ่ง ตามความเป็นจริง ทรงพรากแล้วจากโลกทั้งหมด ไม่มีผู้เปรียบในโลกทั้งปวง เป็นนักปราชญ์ ทรงครอบงำมารทั้งหมด สังขารทั้งหมด ทรงปลดเปลื้องกิเลสเครื่องร้อยรัดได้ทั้งหมด ความสงบอย่างยวดยิ่ง คือ นิพพาน ซึ่งไม่มีภัยแต่ไหนๆ พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ ทรงถูกต้องแล้ว พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ ทรงมีอาสวะสิ้นแล้ว ไม่ทรงมีทุกข์ ทรงตัดความสงสัยได้แล้ว ทรงถึงความสิ้นไปแห่งกรรมทั้งหมด ทรงน้อมไปแล้ว ในธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งอุปธิ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ชื่อว่าเป็นสีหะผู้ยอดเยี่ยม ทรงประกาศพรหมจักรแก่โลกพร้อมทั้งเทวโลก … _/\_ ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ..                 ********************************** คคหนี้ เข้าข่าย ""พุทธศาสนา ระดับ world class" ---- world class แบบไหน ? ลอง กำหนดดู  ฯ ตามนิยามคำว่า  ปริยัติ แบบ เนื่องสู่ ปฏิบัติ และ ผลของการปฏิบัติ (ปฏิเวธ / ตาม มูลปริยายสูตร) จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:38:17

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อ              ********************************** หมายเหตุ -- ที่ เอามา เสนอ  "เพื่อ ให้ ยุวพุทธ พิจารณาว่า -- สิ่งที่ เซนเถรวาทฯ เสนอ "ด้วยภาษาไทยแบบที่เสนอ" --- "ในที่สุด" ---- ยังมี ผู้ที่ เข้าใจ ได้ ฯ (ดู มูลปริยายสูตรประกอบ) และ ----- เป็น ความเห็นส่วนตัวของบุคคลนั้น (คุณหลังไมค์) ที่น่าจะเนื่องกับกระทู้นี้ และกระทู้โน้น http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12593499/Y12593499.html#24 คคห 15  (มั๊ง)                 ********************************** สุดยอดจริงๆ ... ครูอธิบายได้อย่างวิจิตรจริงๆ ... ปัญญาของ "------" ยังไม่ลึกซึ้งแตกฉานเท่าครู เดี๋ยวจะอ่านใหม่อีกหลายๆ รอบและจะค่อยๆ ทำความเข้าใจที่ครูอธิบาย มีความสุขที่สุดที่ได้อ่านธรรมที่ครูแสดง ... ครูเก่งจริงๆ ปัญญาครูลึกล้ำมากจริงๆ ... "------" ยกให้ครู เป็น ธรรมถึกที่ "World Class" ที่สุดในห้องนี้ และเป็น "The best Buddhist master in my heart forever... It's you it must always be you ... รักและเคารพครูมากที่สุด ขอให้ครูทำทุกๆ กิจกรรมในวันนี้อย่างมีความสุขและได้ผลสำเร็จแบบ "World Class" ที่สุด เฉกเช่น "ธรรมะ" ที่ครูแสดง ... Have a great great time ... Lots of Love & Trust in you ...           ***************************************** ื                                       กลับเข้าประเด็น          "พุทธศาสนา ระดับ world class" ---- world class แบบไหน ? (๑) แบบ มหาจุฬาฯ นิยม (๒) แบบ มหามงกุฏ ฯ นิยม (๓) แบบ "สายพระป่า" นิยม (๔) แบบ "สวนโมกข์" นิยม (๕) แบบ "เจริญสติ" 14 จังหวะ นิยม (๖) แบบ "พุทธธรรม" นิยม (๗) แบบ "ธัมมกาย" นิยม (๘) แบบ "มหาเถรสมาคม" นิยม (๙) แบบ "สันติอโศก" นิยม (๙) แบบ "ดูจิต" นิยม (๙) แบบ "มหาวิทยาลัย ฯ" นิยม (๑๐) แบบ "เถรวาท" นิยม (๑๑) แบบ "มหายาน" นิยม (๑๒) แบบ "วิสุทธิมัคค์" นิยม (๑๓) แบบ "อภิธัมมัตถสังคหะ" นิยม (๑๔) แบบ "ตัวกุ ของกุ" นิยม (๑๕) แบบ "ฯลฯ" นิยม *************************** แก้ไขเพิ่มเติมใหม่ ข้อ (๑๕)  ข้อแก้เป็น (๑๕) แบบ "พระวัจน" นิยม  (แบบ วัดนาป่าพง) เพื่อใหม่ คือ (๑๖) แบบ "ฯลฯ" นิยม แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 55 10:55:18 จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:53:59

ความคิดเห็นที่ 10 นึกถึง คำว่า ธรรมธาตุนั้นมีอยุ่ แม้จะมี ตถาคตหรือไม่ก็ตาม (จากความ่จำ) จากคุณ : a235 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:48:14

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่มีพระเถระครั้งปฐมสังคายนา  ที่ รักษา พระพุทธวจนะ คุณ a235  จะนึกถึงคำว่า  นั่นได้ ไหมครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 12:59:48