ผมสลดใจมากกว่ามองเป็นกุศโลบาย เพราะทำให้กลายเป็นศาสนาแห่งการปลุกเสกศ่าสนาของขลัง ศาสนาไสยศาสตร์ ศาสนาที่มีวัตถุจำหน่ายทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ
หากจะมองว่าเป็นวัตถุนอกศาสนาก็ไม่เห็นจะผิด
เพราะพระวินัยกล่าวไว้ชัดๆ ชัดเจน ไม่รู้ว่าจะบอกว่าชัดอย่างไรอีกแล้วว่า
ห้ามการปลุกเสก ภิกษุใดทำการปลุกเสกต้องอาบัติ
แต่เราก็ไปเอาวัตถุที่คณะปลุกเสกอาบัติกันทั้งคณะ เอามาห้อยคอกัน
พระวินัยมีชัดๆ ห้ามกันชัดๆ
แต่ไม่เห็นจะเคารพพระธรรมวินัย ไม่เห็นจะเคารพพระศาสดา นี่หรือเคารพพระศาสดา
ปลุกเสกกันทั่วบ้านทั่วเมือง แล้วก็จำหน่ายกันเป็นว่าเล่น
_____________________________________________________________
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 315
มหาศีล
(๑๑๔ ) ๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉาน-
วิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วย
ศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทาย
อวัยวะ ทายนิมิต ทายฟ้าผ่าเป็นต้น ทำนายฝัน ทำนายลักษณะ ทำนาย
หนูกัดผ้า ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดแกลบ
บูชาไฟ ทำพิธีซัดรำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธีเติมเนย
บูชาไฟ ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ ทำพิธีเสกเป่าบูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วย
โลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา เป็นหมอ
ปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู
เป็นหมอยาพิษ เป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอ
ทายเสียงนก เป็นหมอทายเสียงกา เป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกัน
ลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง
.....