พิจารณาจนเห็นทุกข์ให้แจ้งก่อนเลย
หลักคือ ถ้าเรายังเห็นว่าใครในโลกนี้ยังมีสุขอยู่ จะให้รักเมตตาสงสารเค้าด้วยความจริงใจคงไม่มีทางหรอก
ต้องพิจารณาจนรู้แจ้งว่า เราเขาก็ต้องทนทุกข์อยู่ในโลกนี้เหมือนกัน
ทุกข์กันทุกวันทุกเวลา คือเป็นเพื่อนร่วมทุกข์กันจริงๆ
แบบนี้เมตตา กรุณาในพรหมวิหารสี่จึงจะเจริญ
มีเคล็ดอีกนิดว่า ถ้าเรายังเห็นทุกข์เค้าไม่ชัด ก็ให้คิดว่าถ้าเราเป็นเขา
ถ้าเราอยู่ในฐานะเดียวกับเขา เราจะรู้สึกยังไง
พิจารณาทุกข์ตลอดวัน จากเรื่องต่างๆที่มากระทบใจเราว่า
ตัวเราเองก็ทุกข์ คนอื่นก็ทุกข์ สัตว์อื่นก็ทุกข์
พระราชาก็ทุกข์ ยาจกก็ทุกข์
คนได้ลาภก็ทุกข์ คนเสื่อมลาภก็ทุกข์
คนได้ยศก็ทุกข์ คนเสื่อมยศก็ทุกข์
คนโดนชมก็ทุกข์ คนโดนด่าก็ทุกข์
คนโปร่งใจก็ทุกข์ คนอึดอัดใจก็ทุกข์
คนทำร้ายคนอื่นก็ทุกข์
ไม่มีใครเลยในโลกนี้ที่ไม่ทุกข์ ไม่มีใครในโลกนี้เลยที่ไม่น่าสงสาร
ดังนั้น ถ้าไม่เกินวิสัยที่เราจะช่วยคลายทุกข์ให้ใครได้ด้วยเงิน ด้วยของ ด้วยแรง ด้วยสติปัญญา เราจะทำ
ใครที่ยังไม่เหมาะสมที่จะช่วยเราก็ยอมรับได้ ว่ายังไม่ช่วย เพราะช่วยไปตอนนี้ ก็ไม่เกิดประโยชน์กับเค้าจริง ถ้าเลวอยู่เราก็ต้องยังไม่ช่วย ช่วยคนดีก่อน
ใครที่มีโอกาสได้ทำความดีตามพระพุทธเจ้าเพื่อออกจากโลกนี้ไปได้ จึงน่ายินดีกับเขายิ่งนัก
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 05:32:25
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 05:30:21
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 05:27:55
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 05:26:19