ความคิดเห็นที่ 1 เราเลิกฝันแระ พอมันเลิกกลัว เลิกหลอน ก็เลิกฝัน อิอิ... สมัยก่อนฝันเยอะเลย (ดีใจที่ไม่แม่น..) เหตุที่เลิกกลัว เพราะเชื่อว่าเกิดแน่ จะช้าหรือเร็วเท่านั้น พอเชื่อว่าเกิดแน่ ก็เลยเตรียมการ .. พอเตรียมการแล้วก็หมดกังวล เป็นไงเป็นกันล่ะนะ.. เขาจะบอกว่านอกจากไม่ประมาทส่วนตนแล้ว มรณานุสติแล้ว ช่วยกันสวดมนต์ป้องกันภัยพิบัติได้นะจ๊ะ  ที่เราเลิกกลัว ส่วนหนึ่งเพราะว่าได้เข้าร่วมขบวนการพิทักษ์โลก   หลังจากเสพข้อมูลทุกด้านจนทะลุว่า มันเกิดแน่ๆ 555  แต่ที่มันยังไม่หนักทุกวันนี้ ต่างหากที่แปลก ที่จริงมันน่าจะหนักแอ้กแล้วนะเนี่ย  ดูข้อมูลจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก  ก็สะใภ้แล้ว.. อะไรที่มันน่าจะเกิด มันยังไม่เกิด นี่ต่างหากที่แปลก..อิอิ หมอดูทั้งหลายก็ทายผิดกันเป็นแถวๆ บางทีเขาอาจไม่ได้ทายผิดหรอก แต่บุญบารมีของประเทศยังพอมี บางทีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาอาจจะช่วยกันพยุงไว้นะ   อาจจะให้ ยืดเวลาให้พวกเราภาวนา ทำความดีกันอีกสักหน่อย ถ้าเราเอง รักษาศีล อยู่ในธรรม  ตัวเรามันก็แคล้วคลาดปลอดภัยได้ด้วย ถ้าพวกเราช่วยกันสวดมนต์ จำนวนคนช่วยกันสวดเยอะๆ เข้า มันก็ผ่อนหนักเป็นเบาได้หนา ไม่เชื่อลองดู สวดที่บ้าน อากาศร้อนๆ เย็นลงทันที คือเรื่องแบบนี้มันคิดได้หลายอย่างนะ  แต่เราเลือกที่จะเชื่อว่ามันจะเกิด แล้วก็เอามันมาเป็นองค์ธรรมในการพิจารณาซะเลย.. มันช่วยให้ชีวิตตัดอะไรที่เป็นส่วนเกินออกง่ายมากเลยล่ะ  เอ๊ะอะอะไรก็ อย่าไปยึดมากเลย เด๋วก็ตายแล้ว อิอิ.. เราเตรียมใจของเราให้พร้อม ภัยพิบัติ ถึงเกิดก็เผชิญได้ ถึงไม่เกิดก็สบาย  Win-win อ้อ.. น้องเราก็ฝันคล้ายคุณเลยเมื่อวาน เขามาบอกเราเมื่อเช้า และน้องอีกคนก็นิมิตเห็น 16 ก.ย. มาหลายวันแล้ว  ก็สงสัยวันหวยออกล่ะนะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 21:24:53

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องภัยพิบัตินี้คิดว่าหนักที่สุดก็คงเป็นอเมริกา โดนแบบเต็มๆ โดนทั้งลมหมุนจากทะเล บนบก น้ำท่วมแล้วก็ยังมีแผ่นดินไหวอีก บางแห่งก็แห้งแล้งเหมือนทะเลทราย รองลงมาน่าจะเป็นญีปุ่น  ประเทศไทยที่เด่นๆน่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม สาเหตุจากการตัดไม้ทำลายป่า การบริหารทรัพยากรน้ำล้มเหลว เกิดจากฝีมือมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ ธรรมชาติมีส่วนร่วมน้อย ก็ต้องรับกรรมกันไปโดยถ้วนหน้า เห็นด้วยกับคุณ chaosy ครับ ช่วยกันสวดมนต์อย่างน้อยก็ทำให้จิตใจเราร่มเย็นขึ้น ความรุนแรงของภัยพิบัติอาจลดลงได้ถึงระดับที่ไม่รุนแรงมากนัก พูดถึงการดำรงชีพด้วยความไม่ประมาทนั้น เพื่อนบ้านผมมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี กักตุนอาหารแห้งอยูได้ประมาณหนึ่งเดือน เตรียมไฟฉาย เทียนไข ยา เสื้อชูชีพ เครื่องนอนแบบกระทัดรัด ผมเองกลับดำรงชีพด้วยความประมาท ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย เตรียมไฟฉาย เทียนไข ยา ซึ่งมีไว้ใช้ตามปกติ แต่ไม่ได้กักตุนอาหาร อื่นๆ แต่เตรียมใจไว้พร้อม คงต้องไปหาเสื้อชูชีพมาเก็บไว้บ้าง จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 23:26:23

ความคิดเห็นที่ 3 ผมสนใจ นิมิตรของน้อง อาจารย์ chaosy จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 01:38:11

ความคิดเห็นที่ 4 แผ่นดินไหวใหญ่ ใกล้แล้วครับ เมื่อวานไปวัด พระอาจารย์บอกเดี๋ยวนี้คนป่วยกันง่ายขึ้น เพราะแม่เหล็กโลกไม่ยอมกลับเข้าขั้วโลกเหนือ ทำให้กระแสจากนอกโลกเข้ามาทำลาย ร่างกายมนุษย์ได้ง่ายขึ้น จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 07:06:25

ความคิดเห็นที่ 5 ปกติความสามารถผมรู้ล่วงหน้าได้แค่ ๗ วัน (หางอึ่งจริงๆ เรา) คืนวันที่ ๙ ที่ฝัน บวกไป  ๗ เลยตรงกับวันหวยออกที่คุณ Caosy บอกไว้ อย่างไรก็ต้องไม่ประมาทแล้วครับ เห็นด้วยกับคุณแพนด้าว่าอยากฟังข้อมูลจากคุณ Caosy บ้างครับ อะไรจะฝันวันเดียวกันเป๊ะๆ ฝากคาถาบริกรรมไว้นะครับหลวงพ่อแถวเพชรบูรณ์ฝากมาให้ท่องกันภัยยามคับขันครับ "อะ นิ มะ เท - อะ นิ เท หิ" ท่านว่าเทพมีกายสีเขียวเป็นผู้แจ้งคาถาให้ทราบครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 08:15:11

ความคิดเห็นที่ 6 ที่จริงเรารู้ล่วงหน้าได้นานนะ นานจนลืม แต่เพราะเป็นคนบันทึก เลยเช็คได้ง่าย แต่เพราะรู้ล่วงหน้านาน มันก็ไม่มีความหมายอะไร นอกจากเอาไว้เป็นเครื่องภาวนาส่วนตนอ่ะ น้องเราอีกคนที่ฝึกกันมามีนิมิตรายงานข่าวประจำวันเลย ถ้ารู้แล้วจะหลอนมาก ที่พูดไม่ได้บอกไม่ได้มันมีเหตุ ส่วนน้องคนที่ฝันนี้ก็คมชัดลึก อยู่เกาะอังกฤษ เขาก็เล่นห้องนี้  นิมิตนี้เล่าได้ "หนูฝันว่า ทำงานแล้วมีเหตุให้คนอพยพออกหมดจากตึก วิ่งกันวุ่นวาย รถติดไปหมด หนูต้องอพยพออกมา แต่โชคดีมีรถมารับ"  (เมื่อคืนวันก่อนเมื่อวานนะ  ของอังกฤษ น่าจะวันเดียวกับคุณสติ) จะให้ขุดก็ได้ แต่เราไม่ขุดกันไง รู้แล้วละ.. ไปตีความเรื่องอื่นๆ ที่เป็นข้อธรรมแทน ละเรื่องภัยพิบัติไว้ ไม่ขุดต่อ ไม่อยากรู้ 55 เรามีนิมิตสองระบบทั้งในสมาธิ และผ่านสุบินนิมิต  จะมาเมื่อมีเหตุ ปกติถ้าเข้าสมาธิประจำวันจะว่างหมด อนิมิต แต่เราเฉยๆ เพราะว่าตกใจเรื่องภัยพิบัติไปเมื่อปีนึงมาแล้ว  ส่วนปีนี้ทั้งปี ชินกับนิมิต สารพัดสารเพกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ อะไรก็ตาม มันชินแล้ว บอกได้ว่าเป็นจริง มีจริง แต่ว่ามันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นจริง กลุ่มของเรามีนิมิตรายวัน ยังกะ breaking news  เรายังว่ามันจะข้อมูลข่าวสารล้นเกินไปไหมเนี่ย มันเยอะจนเฝือ เราก็ศึกษาปรากฏการณ์กันไป แต่พอบ่นกันว่าสงสัยจะปรุงมาก เหตุการณ์มาทันที มาตบเรา 555 เราก็เช็คกันแล้วว่าไม่ผิดหรอก ในแง่ธรรม นิมิตธรรม ในแง่สถานการณ์  แต่ว่าโดยระบบของนิมิตน่ะ เมื่อเขาให้ลายแทงมา คุณต้องถอดรหัส ถ้าคุณถอดได้ หนักเป็นเบา เขาก็เมตตาให้รู้ เพื่อตนเอง เพื่อหมู่คณะ เท่าที่เป็นประโยชน์ต่อสภาวะธรรม แต่การที่จะเป๊ะ มันจะไม่เป็นอย่างนั้นนะ เพราะพอเรารู้มันเคลื่อน นึกออกป่ะ เราคิดว่ากระทู้นี้คุยกันตามประสาคนงมงวยแล้วกันนะ  (ต้องขีดเส้นไหมว่า ติดเรท ผู้ปกครองควรพิจารณา)  แต่เราเล่าสู่กับเพื่อน เล่าสู่กันฟังนะ  คือระบบใหญ่ เขาทำงานกันหลายภาค แต่ละภาคทำงานของตนเอง มีหน้าที่ของตน เราเป็นตรงกลาง ภูมิมนุษย์เป็นแดนกลาง ธรรมาธรรมะสงครามเขารบกัน เราก็เป็นตัวกลาง เป็นหมากรุกคนไง เทวดา ช่วยอุปถัมภ์ ดลใจให้ทำดี  มาร ก็เป็นฝ่ายกั้น   พระคือผู้ชี้ทาง ผู้ส่องทาง  คนทำคือมนุษย์ อยู่ที่เรา ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทั้งในระดับจิต และระดับมหภาค ถ้ามีเจโตมีจักขุรู้ได้เห็นได้ ถ้าไม่มีเครื่องมือรู้เห็น มันก็มีในจิตเรานั่นแหละ สภาวะในจิตเป็นตัวยืนยันของพวกสุกขวิปัสโก จิตเราเป็นแบบจำลองจักรวาล ถ้ารู้ในจิตก็รู้ทั้งหมด พระพุทธองค์จึงสรุปว่าให้รู้ลงที่จิต  เป็นโมเดลขนาดเล็ก สะท้อนภาพจริงของระบบทั้งหมด ระบบมันต้องเป็นอย่างนี้ เป็นกลไกสังสาร หมุนเวียนสืบเนื่องกันต่อไป จนกว่าจะถึงที่สุดในทางใดทางหนึ่ง ระบบจะล่ม แล้วก็เกิดขึ้นมาใหม่ (ถ้าศึกษา chaos theory จะเห็นภาพเลย)  เมื่อระบบปั่นป่วนถึงจุดวิกฤต จะมีทางเลือกผุดบังเกิดขึ้นมา เป็นทางแพร่ง เลือกถูกก็วิวัฒน์ก้าวกระโดด ไปสู่ความสมดุลใหม่ ถ้าเลือกผิด ระบบจะปั่นป่วนจนถึงขีดสุด แล้วล่มสลาย ก่อนจะเริ่มก่อตัวขึ้นใหม่ เป็นลูปไปเรื่อยๆ ที่เราบอกว่า นิมิตส่วนใหญ่มันเล่าไม่ได้ เพราะว่าเมื่อเล่าแล้ว ผลเสียมากกว่าผลดี และเอาจริงๆ การที่รู้เห็นอะไรมากมาย ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย รู้ไปก็เท่านั้น รู้มากๆ ก็วางไปเอง  เพราะว่าความรู้ที่ต้องใช้ แค่ใบไม้ในกำมือจริงๆ บางทีคนใกล้ตัวยังช่วยให้เขาเลิกประมาทไม่ได้เลยนะ ศาสนาพุทธมีคำอธิบายว่า วาสนา บุพเพกตปุญญตา คนมันไม่เท่ากัน บางคนไม่เคยรู้จักกัน อยู่คนละซีกโลก ฟังเราคำเดียว เก็ทเลย เปลี่ยนแปลงทันที อันนี้ก็โชคดีไป คนหมู่มากปัญญาน้อยไง พอรู้ก็ตื่นตระหนก พอมีการเตือน มันจะเคลื่อน เขาก็คิดว่าโดนหลอก ทีนี้ยิ่งประมาทใหญ่เลย ประมาทไม่พอ ปรามาสด้วยนะ ก็ที่เขามาเตือน เขาก็ต้องการให้มันเคลื่อนนี่แหละ  ที่เราอยู่รอดปลอดภัยกันมา หมอดูตกงาน พระโดนโจมตี  ก็เพราะว่าผู้รู้ครูอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายท่านช่วยกันอุดหนุน ช่วยกันค้ำ ทุกสายเลย ช่วยกัน ต่างคนต่างทำส่วนของตน เพื่อช่วยพยุง มันจึงไม่เกิดตามที่เขาฉายหนังตัวอย่าง มันเกิด แต่เกิดน้อย จนไม่พอแทงทะลุถึงหัวใจคนหมู่มากไง ลองสังเกตปรากฏการณ์ก็ได้ในทางธรรม ครูอาจารย์ทุกสายท่านไม่ได้นิ่งเฉย ต่างคนต่างทำ ฝ่ายสร้างๆ สร้างพระอะไรก็ว่าไป ฝ่ายสอน สอน รวมคนให้ปฏิบัติ รวมคนให้สวดมนต์ ศิษย์ใครตามเร่งกันเอาเอง ช่วยให้ได้มากที่สุดเท่าที่ช่วยได้ เป็นขบวนการต่อรองของชนกลุ่มน้อย แต่ชนกลุ่มใหญ่กลับประมาทหนัก สร้างปัญหาหนัก เราก็ยังไม่เห็นว่าจะแก้ไขได้ยังไง  เมื่อปีที่แล้วเป็นเด็กน้อยก็คิดว่ามันน่าจะมีทางออก แต่พอปีนี้  พูดไม่ออกนะ มันยอมรับความจริงไปแล้ว จากเด็กก็แก่เลย ครูอาจารย์ก็เปรยความกังวลหนักๆ ออกมาเป็นระยะ  ใครมีอาจารย์ก็รู้คล้ายๆ กัน อย่างที่คุณไฟๆ พูดน่ะ สอดคล้องกันทั้งนั้น หลายๆ สาย พวกเสพข้อมูลวิทยาศาสตร์ เขาก็มอร์นิเตอร์รายวัน เขามีตัวชี้วัดด้านปรากฏการณ์ ซึ่งจับต้องได้ ข้อมูลเพียบ แม้กระนั้นคนยังไม่เชื่อเลย   แต่วิทยาศาสตร์เขาไม่มีตัวแก้ แต่พุทธศาสนามีตัวแก้ แต่คนสมัยนี้มองว่างมงาย มันเลยต้องสุดแต่บุญแต่กรรมไง.. แต่เราเบาใจ เพราะรู้ว่าแต่ละภาคส่วนท่านทำงานเต็มที่ ส่วนพวกเราเองเราก็ทำงานเต็มที่ เท่าที่เราทำได้ ด้วยปัญญาและกำลังน้อยๆ ของเรา พอทำงานแล้ว มันไม่มีเวลากังวล คือพร้อมไง เตรียมพร้อมตลอด ช่วยคนที่ช่วยได้ เตือนคนที่เตือนได้  ที่ว่าไม่ประมาท เร่งเตรียมตัว ไม่ใช่แค่เสบียงของกิน   แต่เป็นเสบียงของใจ เตรียมตัวเตรียมใจน่ะ วิธีป้องกันแก้ไข ในอัตภาพมนุษย์มันไม่ยาก แต่ก็ทำกันไม่ได้ คือศีล สมาธิ ปัญญา สวดมนต์ภาวนา  อย่างพวกเราไม่น่าห่วงน่ะ  ถ้าจมน้ำก็มีห่วงยาง 555 ถ้ากลัวจะจมดินบูชาแม่พระธรณีไว้นะ "เม กะ มะ อุ" ว่างๆ ไปดูปรากฏการณ์ของแผ่นแปซิฟิกแผ่นอะไรต่างๆ จะเห็นว่า ทุกอย่างพร้อม เขาแค่รอเวลา   ก็สุดแล้วแต่ว่าพวกเราจะเอากำลังอะไรไปต่อรอง.. ว่าจะปลอบขวัญ แต่จะเขย่าขวัญมั้ยเนี่ย... หลวงพ่อบอกว่า ถ้าทุกคนช่วยกันสวดมนต์แค่วันละสิบห้านาที ก็พอช่วยแบ่งเบาได้แล้ว ทุกชาติภาษา ขอหยุดโลภโกรธหลงวันละ 15 นาที  กระแส chaotic มันจะเบาลงได้ ภัยพิบัติอะไร ก็ไม่เท่าภัยพิบัติในใจอ่ะนะ ว่าแต่เพื่อนๆ เตรียมตัวอะไรกันแล้วมั่งอ่ะ   ปล. เราเขียนจัดเต็มในแง่นักวิชาการไปก่อนนะ ถ้าเห็นท่าไม่ดี จะมาลบออก รีบๆ มาอ่านกันนะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 11:17:43

ความคิดเห็นที่ 7 นึกได้อีกคำ "ก็ภัยพิบัติในใจ นี่และสร้างภัยพิบัติขึ้นมา" ทีนี้ถ้าพวกเราบังเอิญสนใจเรื่องภัยพิบัติ ก็ต้องรู้ว่า วิธีแก้ไขที่ได้ผลทันทีคือแก้ไขที่จิตเรานั่นเอง ทุกอย่างแก้ไขได้ที่จิตค่ะ ระงับภัยพิบัติในใจเราเอง เมื่อเราได้ข้อมูลข่าวสารจากทางใดก็ตาม ให้วางเฉย ใจเป็นกลาง ไม่ตื่นตกใจ พิจารณาด้วยปัญญา ยกเอาเป็นองค์ธรรมตั้งไว้ เตือนให้ไม่ประมาท มรณานุสติ หรือกรรมฐานอื่นใดก็ได้ จัดการให้เรามั่นคงก่อน เมื่อใจเรามั่นคงแล้ว ก็ช่วยกันส่งต่อความมั่นคงให้ใจดวงอื่นๆ เมื่อกระแสความมั่นคงขยายออกไป  แผ่นดินใต้ฝ่าเท้าเราก็พลอยมั่นคงไปด้วย แล้วก็อย่าลืมกฏของความปลอดภัย "สวมชูชีพและหน้ากากช่วยหายใจ ให้ตัวเราเองก่อน แล้วค่อยสวมให้คนที่เรารัก" ค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 11:29:25

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับคนที่ภาวนาจะช่วยกันได้ยังไงคะ คือเราก็ภาวนาอยู่ทุกวัน แผ่เมตตาให้ทุกคนที่รู้จักจนวนไปหลายรอบแล้ว เราอยากจะภาวนาช่วยโลกมั่ง จากคุณ : =U_U= PoRpLe เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 12:23:12

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ =U_U= PoRpLe  ก็เราทำอย่างที่ทำแหละค่ะ  นั่นก็คือช่วยโลกแล้วค่ะ ภาวนาแล้ว สวดมนต์ด้วย เพราะยามมีภัยพิบัติ พระพุทธเจ้าให้เจริญพระพุทธมนต์ พลังงานจากการสวดมนต์ ช่วยล้างกระแสพลังงานที่ไม่ดีได้ บ้านเราร่มเย็น คนข้างบ้านก็สบายไปด้วย ตัวเราเย็น คนรอบข้างก็เย็นไปด้วย   ถ้าภาวนาแล้วอยากจะช่วยโลกมากกว่าเดิม  ก็ลองอธิษฐานจิตได้ค่ะ เราอุทิศกุศล ถวายในหลวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองประเทศ ที่รู้จักกันเช่นพระสยามเทวาธิราช เป็นต้น หรือจะอุทิศแบบไม่ยึดสมมติก็ได้ คือแผ่กำลังเมตตา ที่เราได้ภาวนามา ให้กับทุกรูปทุกนาม ที่คุ้มครองป้องกันประเทศไทยให้ปลอดภัยอันตราย ขอกุศลนี้ช่วยให้แผ่นดินสงบร่มเย็นอะไรอย่างนั้น อันนี้ก็ขยายวงกว้างขึ้นได้ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 12:58:38

ความคิดเห็นที่ 10 มาเล่าฝันให้ฟังต่อจากที่พี่ Chaosy พิมพ์ไว้ มีนิมิตประมาณว่า ทำงานอยู่บนตึก มองนอกหน้าต่างมีคนหนีวุ่นวายกันไปหมด มีแต่รถพยายามขับหนี รถติดไปหมด ทุกช่องทางถูกบล็อคไว้ แล้วภาพก็ตัดมาว่าตัวเองนั่งอยู่บนรถตู้จะเดินทางไปอีกเมืองหนึ่ง พอไปถึงปรากฏว่า รถไปจอดอยู่บนที่สูง เป็นเนินเขา เราก็ไปยืนบนเนินนั้น มองลงไปที่จุดที่ยืน เห็นมดเป็นรังเลยอยู่ใต้เท้า แต่มดก็ไม่ยักโดนมดกัด ภาพหมุนย้อนกลับไปอีก มองไปก็เห็นตัวเองยืนอยู่จุดเดิมอีก แต่เป็นมดฝูงใหม่  พันธุ์ใหม่ ตกลงภาพหมุนย้อนให้เห็นสามหน กับมดสามพันธุ์ แต่เราไม่โดนมดกันเลย จนหนที่ 4 มีผู้ชายเดินมาบอกว่า “หนีเถอะ มดชนิดนี้อันตรายมาก ใครโดนกัดตายทุกราย” เราก็เลยขยับหนีมาอีกจุดหนึ่ง พอเปลี่ยนมายืนอึกมุมหนึ่งก็เห็น มดเดินตามแถวกันยาวเหยียดเดินขึ้นเนินข้างหน้าไป แล้วก็มีเสียงมาบอกว่า “ให้จำไว้นะ เราจะไม่ไปขัดขวางทางเดินของมด จะไม่เดินทับทางเดินของมด เพราะมันผิดธรรม ถ้าจะต้องทำต้องเดินไปข้างหน้า จะต้องเดินขนานไปกับมันแทน” แล้วก็ตื่นขึ้นมา แต่ก็มีแนวคิดประมาณเดียวกันนะว่า เป็นกระแสกระตุ้นให้เร่งภาวนาเป็นอย่างดีเลย 555 เร่งภาวนาเข้า จะเกิดหรือไม่เกิดไม่รู้ รู้แต่เราไม่ควรประมาท จากคุณ : Tarocchi เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 19:08:11

ความคิดเห็นที่ 11 บูชาแม่พระธรณีไว้นะ "เม กะ มะ อุ" --------------------------- อันนี้ใช่ เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขาไหมครับ? ถ้าใช่อันเดียวกันน่าจะ เม กะ มุ อุ หรือเปล่าครับ จะได้หัดท่องครับ ขอท่านอาจารย์ รีคอนเฟิร์มหน่อยขอรับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 20:04:55

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ใช่อะค่ะ  เป็นคาถาหัวใจแม่พระธรณี ตอนน้ำท่วมท่านให้ช่วยกันท่อง บอกช่วยภาวนา ขอให้แม่พระธรณีรับน้ำลงไปไวๆ ไม่รู้ว่าช่วยกันให้กำลังใจแม่ธรณี หรือว่าจะขอพรเธอกันแน่ แต่ภาวนาแล้วดี อิอิ.. หลวงปู่หงษ์ ของท่านจะเป็นอีกคาถามนึง  "นะ เม ติ" (12 จบ) ถ้าหัวใจพระแม่คงคา ก็ "อา ปา นุ ติ"   เวลาเราจะออกจากบ้าน เอาพระคล้องคอก็จะ นะโม พระไตรสรณคมณ์ อาราธนาพระรัตนตรัย แล้วก็ต่อด้วยคาถาบูชาหลวงพ่อ หลวงปู่ทวด แล้วก็หลวงปู่หงษ์ค่ะ นะ เม ติ ค่ะ ต่อด้วยท่านท้าวเวสสุวรรณ เวสสะพุสะ แล้วก็เมกะมะอุ   ส่วนคาถาที่อยากชวนให้ช่วยกันสวด อันนี้เลยค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 21:05:37

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเหมือนเป็นคนบาปนะ คิดอยู่ในใจทำไมไม่เกิดซะที เอาให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย จะได้จบๆกันไปซักที เพราะคนหมู่มากเป็นพวกประมาท มีดีอยู่อย่างเดียวคือ "ปาก"   คิดอยู่เสมอๆคนพวกนี้บอกไป สอนไป เตือนไป พูดไป ให้มันฟังจนมันตาย ตายแล้วเป็นผี มันยังไม่สำนึกเลยด้วยซ้ำ ชอบอยู่คำๆหนึ่งคือ "วัวใครเข้าคอกคนนั้น" คนอะไรใจดำจังเนอะ จากคุณ : รวดเดียว เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 22:16:08

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ chaosy พูดถึง แม่พระธรณี ก้อเลยมีเรื่องเล่าอะคับ หลังจากเกิดเหตุ สึนามิ ถล่มแถวภาคใต้ของ และ ประเทศใกล้เคียง ได้ไม่กี่ปี ผมไปอบรม โยคะ สายนึง หลังจากมะได้ไปเป็นปีๆแล้ว  เค้าฉาย เทปที่บันทึกได้ คือ มีคลื่น จากทะเล ไหลเข้าถล่ม บ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง ที่อยู่ชายหาด ด้วยความเร็ว แต่ที่น่าแปลกใจ คือ  มีบ้านหลังนึง โดนผลกระทบน้อยมาก ภาพที่เห็น เป็นคลื่นแยกเป็น ซ้าย ขวา ไม่พุ่งเข้าสู่บ้านหลังนี้ตรงๆ แปลกดีคับเหมือนมีกำแพงที่มองมะเห็นด้วยตาเปล่า สกัดไว้ให้ เฉลยคือ  คุรุ โยคะสายนี้ ท่านเตือนไว้ ว่าจะเกิดภัยพิบัติ ให้ มารวมตัวกันนั่งสมาธิบ่อยๆ แล้วให้มีการ บูชา พระแม่ธรณี จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ ลูกศิษย์ก้อทำตามมาเรื่อย จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ก้อเป็นสิ่งก่อสร้างที่ไม่พังอะคับรอบๆไปกันหมด จากคุณ : PAKAVAKORN เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 00:29:07

ความคิดเห็นที่ 15 คาถากันภัย ของหลวงปู่ พิศดู คับ มะก่อนท่าน ปราถนาเป็น พระปัจเจก คับ พอมาเป็น ศิษย์ ท่านพ่อลี ท่านก้อละ ความปราถนาเดิม ปัจจุบันท่านละสังขารแล้วคับ จากคุณ : PAKAVAKORN เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 00:34:09

ความคิดเห็นที่ 16 ว่าจะมาบอกตั้งแต่เมื่อวาน แต่ไม่ไหว..หุหุ เอาข้อความที่บอกน้องๆในกลุ่มมาแปะให้เลยนะ ปุกาศ..ด่วน ! "ขอระดมสรรพกำลัง ร่วมกันสวดมนต์ค้ำจุนโลก" 9 โมงวันอาทิตย์ ไม่ว่าใครจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ขอให้พร้อมเพรียงกันสวดมนต์ เริ่มที่พระปริตร จบที่บทยันทุน (12 ตำนาน ถ้าไม่ไหวก็ 7 ตำนาน) และสวดพาหุงต่อให้มากที่สุด ถ้าได้ 108 จะถือว่าสมบูรณ์ คิดว่าที่จริงแล้ว ต้อง 108 ล่ะนะ (ถ้าต่อเนื่องไม่ไหว ให้สวดพระปริตรต่อเนื่อง แล้วสวดพาหุง 9 จบ แล้วค่อยเก็บแต้มต่อก็ได้) ต้องขอแรงกันค้ำจุนโลก และช่วยกันพิทักษ์พิทักษ์โลก ผู้รู้เมตตามาบอกว่า วันอาทิตย์ที่ 16 เวลา 9 โมง เป็นต้นไป เป็นวันที่เหมาะแก่การสวดมนต์ ค้ำจุนโลก   เป็นวันเวลาที่  หากร่วมสวดมนต์กันเยอะๆ แล้ว จะมีผลดีต่อระบบภัยพิบัติอย่างมาก ถ้าร่วมกันสวดมนต์ตามที่บอก จะมีผลดีมากต่อไปในภายภาคหน้า ในระหว่างสามวันนี้ 14-15-16 ควรสำรวมระวังกาย วาจา ใจ ระมัดระวังการรักษากำลังใจ ไม่ออกไปไหน ไม่ไปทำอะไรที่ไม่ใช่กิจธุระ และไม่ใช่กิจแห่งธรรม รักษาศีลให้ครบ ถ้าแปดได้ แปดไปเลยค่ะ ให้ระวังจิต ไม่ให้ต้องกระเพื่อมสั่นไหวไปด้วยกิเลสนิวรณ์ต่างๆ ไม่นำเข้าสิ่งสกปรก จนเป็นปัญหาให้จิตของเราต้องไม่ปกติ ดังน้ันการสำรวมกายจะช่วยได้ ไม่ทำตนเองให้เป็นปัญหา ถ้ามีนัดแบบโลกๆ ขอให้เลื่อนไปก่อน งดเว้นสิ่งบันเทิงมึนเมา ให้ทำสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เพื่อเอาเวลามาภาวนา สวดมนต์และช่วยกันทำกำลัง รักษาตนเอง ครอบครัว และขยายออกไปยังบริเวณที่พักอาศัย ปริมณฑลของเรา ถ้ายังมีพอ ก็ถวายในหลวง ถวายแผ่นดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองแผ่นดินของเรา หรือจะแบ่งก็ได้ ทำถวายภาคใหญ่ก่อน ค่อยทำถวายภาคส่วนตนของเราเอง อันนี้แล้วแต่กำลังใจ โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ที่ 16 ไม่ควรเดินทางไปไหน ควรอยู่บ้านกับครอบครัว และขอให้มาช่วยกันสวดมนต์ตอน 9 โมงโดยพร้อมเพรียงกัน ใครอยู่ที่ไหนให้ทำที่นั่นค่ะ ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะติดกิจจริงๆ เอาเสียงพาหุงเสียบหู สวดมนต์ในใจก็ยังดีค่ะ สวดไปทำกิจไปค่ะ ดังนั้นใครทำไม่ได้ไม่ต้องบอก ใช้ปัญญาพิจารณาแล้วจัดสรรเวลาให้ตัวเอง ยืดหยุ่น ปรับให้สอดคล้อง ทำเท่าที่ได้ แต่ต้องทำ! เพื่อตัวเราเอง เพราะเขาเมตตาบอกมาแล้ว ความปลอดภัยของเราก็คือทำสิ่งที่บอกมาข้างต้นนั่นแหละค่ะ มันเป็นหนึ่งเดียวกัน ตัวเรา ครอบครัวเรา สังคมมวลรวม ครูอาจารย์ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ช่วยได้ด้วยตัวเราเอง คือทำที่เราในหน่วยย่อย จะส่งผลถึงทุกหน่วย แต่เราต้องทำ ! และต้องทำแล้วค่ะ ! ใครรักใครก็ทำเพื่อคนนั้นแหละ ศิษย์หลวงพ่อใหญ่ จะทำถวายหลวงพ่อก็ได้  ใครแบบรักในหลวง ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป ก็ถวายในหลวง   ใครรักแผ่นดินไทย ก็ทำเพื่อแผ่นดิน  ใครรักผู้นำคนไหน จะทำให้ผู้นำที่ตนรักก็ได้  หรือรักตัวเอง ก็ทำเพื่อตัวเองค่ะ สำหรับเพื่อนศาสนาอื่น ก็สามารถสวดมนต์ตามศาสนาของตัวเองได้ สวดถวายพระเจ้า ขอพรพระเจ้าก็ได้เหมือนกันค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 10:45:33 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 10:44:56

ความคิดเห็นที่ 17 วันที่ 15 กำลังจะหมดไป เดี๋ยววันที่ 16 มันก็จะหมดไปเหมือนกัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดา มาเห็น และยอมรับกับความเป็นธรรมดานี้มากๆ แล้วใจจะร่าเริงเบิกบานตั้งมั่นอยู่ได้เสมอ เมื่อต้องเจอกับความเป็นธรรมดาเช่นนั้น จากคุณ : รู้สึกตัว เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 23:55:25

ความคิดเห็นที่ 18 สาธุค่ะ คุณรู้สึกตัว วันนี้เป็นวันพระ ที่วัดตรีวิสุทธิธรรม สวดพาหุง 108 ทุกวันพระ เอาบุญมาฝากทุกท่านค่ะ   อย่างที่คุณรู้สึกตัวบอกไว้  วันนี้ผ่านไปแล้ว และพรุ่งนี้ก็จะผ่านไปได้ด้วยดี.. แต่จะดีมากขึ้นอีก  ถ้ากัลยาณธรรม ร่วมกันสวดมนต์ตอน 9 โมงค่ะ 555 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 02:06:06

ความคิดเห็นที่ 19 ไฟล์เสียงสวดมนต์ 12 ตำนาน http://www.visudhidham.com/12tamnanwattri.mp3 ไฟล์เสียงสวดพาหุง http://www.visudhidham.com/pahung109wattri.mp3 ไม่มีไรทำ หรือขับรถ เปิดฟังได้ค่ะ จะสวดตามไปด้วยหรือฟังเฉยๆ ก็ยังได้ หรือจะเปิดที่บ้านก็ได้ รับรอง บ้านสว่าง สะอาด ใสกิ๊งงงง จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 02:35:53

ความคิดเห็นที่ 20 การสวดมนต์ หรือได้ยินเสียงสวดมนต์เป็นสิ่งที่ดีค่ะ สามารถทำให้วันธรรมดาๆเป็นวันพิเศษที่มีความสุขได้ (ฟังเหมือนเวอร์ป่าว^^) เมื่อก่อนฟังพระสวดมนต์ยาวๆ จะรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะจบซักที ฟังจนเมื่อย เดี๋ยวนี้ ได้ยินแล้วมีความสุข จะหันหาต้นตอที่มาของเสียงทันที แล้วสวดตามได้ เป็นความสุขที่อิ่มใจกว่าฟังเพลงทั่วไป แต่ก้นะ กิเลสค่ะ ที่ดึงไปดู ไปฟังอะไรก้ไม่รู้ ทั้งๆที่เห็นชัดๆถึงความแตกต่าง คงเหมือนกับที่เราทานของเหม็นๆ เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ทุเรียน(บางคนบอกว่าเหม็นมาก) ด้วยความเอร็ดอร่อยมังคะ บางครั้งได้กลิ่นการปรุงอาหารว่าเหม็นมาก ยังขำกันกะครอบครัว ว่าเอออ ของเหม็นๆพวกนี้กินอร่อยเน้อออ จากคุณ : ปอตี้ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 06:04:11

ความคิดเห็นที่ 21 วันนี้ไปฟังธรรมครับ หลวงพ่อมาศาลาลุงชิน เมืองทอง ภาวนาไปด้วยฟังธรรมไปด้วย จิตใจสงบตั้งมั่นมากครับ กลับมาบ้านก็มาสวดมนต์ตามเสียงทั้ง ๒ ไฟล์ตามคุณ เคโอซี่ ส่งลิ้งค์มาให้ บ่ายๆ คุณภรรยาพูดไม่ถูกหู จิตมันฉุน เลยหลบฉากไปภาวนาที่ห้องพระมาอีก ๑ ตั้ง สรุปว่าให้ความร่วมมือกับโครงการลดโลกร้อนให้แล้วนะครับ จึงเรียนมาเพื่อส่งการบ้านครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 20:17:17

ความคิดเห็นที่ 22 ปอตี้นี่ปั๊ตตะนาแล้ว เดี๋ยวนี้เราฟังแต่เสียงสวดมนต์ไม่ได้ฟังเพลงแล้วค่ะ เสียงสวดมนต์เหมือนเพลงเลย มีหลายแนว ชอบฟัง ถ้าไม่อยู่เงียบๆ ก็ฟังเสียงพุทธมนต์ คุณสติ โมทนาด้วยอย่างสูง  ถือว่าเราป้องกัน "ภัยพิบัติในใจ" ไปได้อีกครานึงเนอะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 12:01:35

ความคิดเห็นที่ 23 เราได้สวดมนต์กันเป็นที่เรียบร้อยค่ะ เล่าให้ฟังว่า ตอนแรกก็ไม่ได้อะไรมาก ชิวๆ กับเรื่องที่คุยกันอ่ะ เราเฉยๆ นะ แต่มีผู้รู้มาเตือน ด้วยช่องทางที่น่าพิจารณา  ก็เลยพิจารณาประกอบกับนิมิตหลายๆคน หลายๆ วัน ก็เออ.. ชักเกรงจะถูกหวยวันที่ 16 ก็เลยออกประกาศชวนน้องๆ สวมมนต์กัน ทีนี้ในกลุ่ม ก็มีคนมาบอกว่า สายครูสมาธิเขาก็สั่งสวดนะ สายอื่นก็ได้ ชักเริ่มหลอน.. เลยไปกราบถามหลวงพ่อ ท่านก็ว่าไม่มีอะไร เขาสวดกันเรื่องน้องน้ำ จะได้ช่วยเรื่องน้ำท่วมให้น้อย หรือไม่มีเท่าที่ทำได้ อาศัยกำลังจิตของคนภาวนา ช่วยกัน ดันน้ำ ท่านๆ ก็เลยสั่งให้สวดมนต์กัน เราก็โล่งใจ  ที่วัดไม่ได้สวดมนต์พิเศษ เพราะว่าสวดเป็นปกติแล้ว คืน 15 ก็สวดพาหุง 108 วัดตรีวิสุทธิธรรมจัดเต็มเรื่องสวดมนต์ทุกวันค่ะ วันพิเศษเราจะเจอโปรโมชั่นแบบ 2609 จบอ่ะนะ เราเลยขอหลวงพ่อสวดค่ะ ก็มีทีมมาสวดที่วัด 10 คน  ร่วมสนุกจากทางบ้าน 20 กว่าๆ จากต่างประเทศด้วย รวมในพันทิป ก็รวมๆ สามสิบนิดๆ ซึ่งโอเคเลย ก็นัดสวดพร้อมกัน  ทางเราสวดแล้วต้องมีพักครึ่ง กินเพลและทำกิจ เลยเสร็จเอาห้าโมงเย็น ดีมากมายยยยย  สำหรับคนสวด.. ทั้งบุญ ทั้งความเพียร ความปีติ อิ่มเอมกันถ้วนหน้า มันยากมาก สำหรับพาหุง 108 สวด 4-5 ชั่วโมงอ่ะนะ ส่วนพระปริตร จิบจิบ..   ส่วนตัวได้เรียนรู้เยอะมากในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่สำคัญ ตื่นกลัวกันที กังวลกันที ก็นัดสวดมนต์กันทีก็ดีเหมือนกันนะ.. (เมื่อหลายปีก่อน มีอาจารย์เล่าว่า ที่บาหลี เขานิมิตกันว่าจะจม แม่หมอจำนวนมากมีนิมิตตรงกันเป๊ะ ช่วงซินามิไทยน่ะ  แล้วทุกคนก็กลัวกันมาก เพราะทางนั้นยังมีหมอผีอยู่เยอะ ปรากฏว่า หมอผีทุกศาสนาบนเกาะ ช่วยกันสวดมนต์ ภาวนาค่ะ  จนวันนี้ก็ยังไปเที่ยวบาหลีได้อยู่นะ) เปรียบเสมือนเรื่องนิมิตอนาคตัง  เป็นหวย  แน่นอนอยู่แล้วว่า หวยมันล็อก 555 เราก็ต้องถูกเจ้ามือกินไป คือไม่ถูกหวย  เป็นการดีมาก ยินดีที่หวยล็อก และไม่ออกเลขที่คาดว่าจะออก.. นิมิต แม้เกิดจากญาณ ก็เป็นได้แค่หวย ดังนั้นพูดกันไปเถอะ มันไม่จะไม่แม่นแบบนี้แหละ 555 (แต่ไม่รู้เลขที่เราทาย มันจะไปออกงวดหน้าป่าวนะอันนี้ไม่รู้) แต่สิ่งที่พวกเราทำกัน ที่เราสวดมนต์กัน เราเรียกว่าเป็น "การลงทุน" เป็นการลงทุนที่ยั่งยืนเลยค่ะ ถ้าเราลงทุน เรามีทุน ไม่ขาดทุน แถมกำไรเพียบ เผลอแผล่บเดียว รวยเป็นเศรษฐี ไม่ต้องพึ่งพาการเล่นหวยแระ หวยจะออกไรก็ช่าง เรารวยเป็นเศรษฐีขนาดไม่สนโพยหวยอ่ะ อิอิ ที่เราแสดงในกระทู้ ก็ให้ดู รูปแบบที่สอนเรามาตลอดหนึ่งปี ที่ความเห็นแรกบอกว่าเฉยๆ แล้วนะ เพราะเราผ่านมาอย่างนี้ไง จนเฉยๆ  แต่จะให้ตื่นเต้นก็ทำได้ คือสมมติพอ ผวาที ก็สวดมนต์ภาวนาใหญ่ แล้วก็ผ่านไป ไม่มีอะไร เดี๋ยวก็ประมาทอีก พอประมาท เขาก็เร่งเตือนด้วยช่องทางแปลกๆ อีก  เราก็ผวาอีก ก็มาเร่งความเพียร เร่งดูแลตัวเองทรัพย์สิน ตอนน้ันเจอไปสามสี่ครั้ง ก็ชิน.. อิอิ.. คือมันลงตรงที่ ให้ทำที่ใจ อย่างที่บอก คาดเข็มขัด "นิรใจ" จะมีอุบัติเหตุไม่คาดฝันอะไร ก็มักจะปลอดภัยเสมอ เราเน้นทำใจ ทำใจแล้ว อย่างอื่นก็ค่อยๆ ปรับให้พอดี ตอนนี้ ต่อให้เขาว่า ดาวจะชนโลกบ่ายนี้ เราก็คงนั่งทำงานให้เสร็จก่อน แล้วค่อยว่ากัน.. 555 เราชอบอาศัยกระแส ยิ่งกระแสภัยพิบัตินี่แหละดี มรณานุสติดีนักแล..  ถึงขั้นพร้อมตายได้เลย  ยังไงก็ได้.. บอกแล้วละน่ะง่าย ขยันสวดมนต์ให้สม่ำเสมอ ยากกว่า... 555 ท่านที่มาเตือนเรื่องให้สวดมนต์วันที่ 16 ท่านก็มาตบอีกรอบ.. ผ่านน้อง tarrochi ท่านว่า " สวดมนต์ก็ให้สวดเรื่อยๆ ไม่ไช่งานเดียว สวดแล้วก็จะเจริญเอง นำความเจริญมาให้ตนและหมู่พ้อง" "ทำให้ดี มีแต่ได้ ไม่มีเสีย" อิอิ.. แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 55 12:23:18 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 12:18:02

ความคิดเห็นที่ 24 อยากจะบอกว่า....จะช่วยสวดเหมือนกัน  แม้อยู่ ตจว. ที่ตั้งใจไว้ก็สวดอิติปิโสฯ  พาหุงฯ มหากาฯ รัตนสูตร กะระณียะเมตตาสูตร  อุตส่าบอกหัวหน้าไว้ก่อนว่าให้มาต่องานให้ตรงเวลา  พอเอาเข้าจริงๆลูกน้องที่ช่วยงานไม่มาทำงาน(แต่ก็ไม่เท่าไหร่..ทำงานเสร็จตอน 8.45 น. )  ส่วนหัวหน้าก็ดันลงมาสาย  เลยทิ้งหน้างานไม่ได้เลย.....เอา...สวดในใจก็ได้วะ  ทำงานไปสวดไป  ไม่คุยกับใคร  แต่จนแล้วจนรอด  แขกเจ้านาย(ชาวต่างชาติ) ก็มาถามนี่ โน่น นั่น.....เซ็งเลย   ก็ได้เท่าที่ได้ 5 5 5 ดูเถิด...บ้านหลังนี้...มืดไปทุกวันๆ  ( ไม่ได้นั่งสมาธิที่นี่ตั้งแต่หลังออกพรรษาปีที่แล้ว เซ็งเจ้านายกับเพื่อนร่วมงาน  ทุกวันนี้ที่นี่ก็มีเรื่องเรื่อยๆ 5 5 5 )  อีกฝ่ายเขาก็ทำงานของเขา...ไม่ให้เราทำไรสะดวก  พวกเขาก็มีหัวใจนะ...และก็มีกิเลสในใจเหมือนกัน ก็ไปตามเหตุปัจจัย...เกิดขึ้นดับไปตามประสา ตอนนี้มีสิ่งที่สำคัญที่ต้องทำให้ตัวเอง...ดับไฟบนหัวก่อน ขอท่านทั้งหลายจงเจริญก้าวหน้าในธรรมยิ่งๆขึ้นไป..สาธุ จากคุณ : Cathode_tube เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 22:18:44

ความคิดเห็นที่ 25 น้องๆ ในเฟสบุ๊คหลายคน ก็สวดไปทำงานไปค่ะ บางคนสวดไม่ได้ก็เปิดซีดีเสียบหู แล้วสวดในใจนะ ผ่านไปได้ด้วยดีมากๆ เลย ลองไปที่เว็บวัด โหลดเสียงสวดมนต์มาเปิดที่บ้านได้ เปิดไปเฉยๆ ฟังไป บ้านสว่างขึ้นได้นะ ไม่เชื่อลองดูค่ะ ส่วนไฟบนหัว ที่จริง อยู่เฉยๆ หมดเชื้อก็ดับเอง 555 สำคัญอย่าไปเติมเชื้อล่ะ อีกฝ่ายที่ว่านี่ เราเจอมาเยอะ เข้าใจเขาเหมือนกัน สุดท้ายแบบว่า ต่างคนต่างทำหน้าที่ แบบด้วยการเคารพซึ่งกันและกัน  เราไม่เผลอ เราทำความดี เขาก็มาอนุโมทนานะคะ แต่ถ้าเราเผลอ พลาด ก็นะ.. ต้องยอมรับกันไป ให้เขาสมน้ำหน้า หัวเราะเยาะเอา มันแปลกภาวนาไปๆ มาๆ ไม่มีศัตรูเลย  แม้แต่อีกฝ่ายที่ว่า เหมือนทอมกับเจอรี่มากกว่า มันขำๆ อ่ะค่ะคุณ  Cathode_tube  แม้บางทีจะขำไม่ออก ยังบอกว่าถ้าเราขยันได้ครึ่งเท่าเขาแล้ว เราคงภาวนาก้าวหน้ากว่านี้มาก อิอิ.. ไปๆ มาๆ มาเฝ้ากระทู้ให้คุณสติเลยนะเนี่ย จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 23:07:04

ความคิดเห็นที่ 26 ที่ว่าขำไม่ออกนั่นเพราะรู้อยู่เต็มหัวอกว่า  เราก็ทุกข์เขาก็ทุกข์  ต่างคนต่างทุกข์  ทุกข์เพราะกิเลสในใจตนที่ต้องเวียนว่าย  ต้องแบกรับผลกรรมทั้งหลาย ทั้งที่ยังต้องก่อกรรมต่อไปอีก ( ดังท่านแสดง..อะไรหว่า  ที่ว่า " มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็น..." คือจะฝืนก็ฝืนไม่ได้ต้องทำต่อไปเพราะกรรม  และต้องรับผลของกรรมนั้น..)  พอรู้สึกอย่างนี้ก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรเขา  แต่โกรธแค้นกิเลสในใจเราในใจเขามากกว่า.... วันก่อนคุยกับท่านนึงผ่านลูกน้องเก่า  ยังถามเปรยๆกับท่านนั้นว่า" แล้วทำไมเขาต้องทำอย่างนั้น  ทำทำไม  ทำให้ทุกข์กันมากขึ้นทำไม..."  มันสังเวทใจจริง  อยากกอดคอกันร้องไห้.... ถึงแม้นจะไม่เคยพบเจอพวกเขา..แต่ก็รู้สึกอย่างที่กล่าวน่ะครับ  เขาเหล่านั้นมีความเพียรมากๆ  ( คงเพราะเขาทุกข์มากกว่ามั้ง..) หากได้ทำความเพียร(ในทางที่ควร)ประมาณเขาเหล่านั้น..ไปโลดเลย สาธู..อนุโมทนาในกุศลทั้งหลายครับ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 55 08:01:52 จากคุณ : Cathode_tube เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 55 04:09:25

ความคิดเห็นที่ 27 เราไปตั้งโพสต์คุยเรื่องเขานะ อิอิ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 55 08:56:17

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณ อ.chaosy ที่เฝ้ากระทู้ให้ครับ หวยไม่ออกเบอร์ที่ซื้อ ก็ไม่เห็นเป็นไรครับ นึกว่าช่วยรัฐบาลไปก็แล้วกัน เขาคงเบาแรงเรื่องน้ำไปมั่งแหละครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 01:02:37

ความคิดเห็นที่ 29 ผมไม่ค่อยชอบสวดมนต์ไม่รู้เพราะอะไร ตอนบวชก็สวดไม่ได้(ไม่ได้ท่อง) จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 01:52:57

ความคิดเห็นที่ 30 จะว่าไปมันก็ออกนะ เบอร์น้องน้ำเนี่ย.. แต่ไม่ได้ซื้อเบอร์นี้  พอดีห่วงเบอร์อื่น พอดีห่วงบนมากกว่าห่วงล่าง 555   แล้วก็รู้สึกว่า ช่วยได้แค่ยืดเวลานิโหน่ย.. 5555 น้ำโชกเลย หลังวันที่ 16 ตื่นเต้นรายอันอีกแล้วว จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 08:59:52

ความคิดเห็นที่ 31 ตอนนี้รู้สึกเร่ิมกลัวว่าภัยพิบัตินี่มันใกล้เข้ามาจากคำทำนายของทั้งพระอาจารย์และนักวิทยาศาสตร์หลายๆท่าน ไม่รู้ทำไงเพราะก็อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือเสี่ยงแผ่นดินไหวอยู่เหมือนกัน เลยตั้งใจสวดมนต์ทุกๆวันก่อนนอน สวดพาหุง อิติปิโส 108 จบ(หรือไม่ก็เท่าอายุบวกหนึ่ง) ชินบัญชร คาถาจักรพรรดิ์ พระปริตร ธารณปริตร คาถาเมตตาใหญ่ แล้วก็อุทิศถวายพระเจ้าอยู่หัว เทวดาที่รักษาพระเจ้าอยู่หัวด้วย พระสยามเทวธิราช เทวดาที่ท่านคุ้มครองเรา บ้านของเรา ให้ท่านมีพลังบารมีเพิ่มขึ้นและขอให้ท่านได้คุ้มครองแผ่นดินไทยและจังหวัดเรา และครอบครัวเราด้วย โดยหวังว่าสิ่งที่ทำไปจะมีส่วนช่วยชาติบ้านเมืองได้บ้างค่ะ จากคุณ : Chicsecret เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 10:26:27

ความคิดเห็นที่ 32 ทำถูกแล้วค่า สวดมนต์ได้ขนาดนั้น อันนั้นเรียกว่าทำประกันชีวิตหมู่เลยนะคะ คุณ  Chicsecret เหงาๆ ตามไปแก้เหงาได้ที่ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12669617/Y12669617.html ค่ะ  หรือว่าจะมาฝึกภาวนาก็ได้ค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 10:56:14