ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาสนับสนุนค่ะ ว่าการรักษาศีล ๘ สามารถทำได้ที่บ้านคะ ^^ จากคุณ : anindita เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 19:32:33

ความคิดเห็นที่ 2 จริงๆ แล้วคงทำได้ครับ  แต่สภาวะหลายๆ อย่างอาจจะทำให้ไม่สะดวก และยิ่งมีลูกต้องดูแลด้วยแล้ว ไม่ทานข้าวเย็นอาจจะทำให้ร่างกายเราเพลียได้นะครับ  ใจสู้แต่กายไม่ไหว คนรอบข้างอาจจะไม่มีความสุข จะกลายเป็นบาปได้นะ...  แนะนำว่าศีล 5 ก็พอครับ  ไม่ว่าจะถือศีลเท่าใดก็ได้บุญเช่นกัน แต่จะได้บุญมากหรือน้อยก็ข้ึนอยู่กับว่า มีความเพียรในการระวังไม่ให้ผิดศีลมากน้อยแค่ไหนครับ  การรักษาศีลเมื่อจะพิจารณาในรายละเอียดแล้ว  จะพบว่าเราสามารถรักษาศีล ได้ทั้งแบบหยาบและแบบละเอียด ลองศึกษาดูครับ ถ้าละเอียดมากเท่าไร บุญก็จะได้มากเท่านั้นครับ  ขออนุโมทนาฯ กับความตั้งใจครับ.. จากคุณ : CAT (kwichien) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 19:34:31

ความคิดเห็นที่ 3 ขอโทษนะครับ ชม Clip ช่วงนาที ที่ 1.20 เพื่อในการพิจารณานะครับ ผิดพลาดประการใดขอโทษครับ จากคุณ : chiwat เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 19:42:26

ความคิดเห็นที่ 4 +1 จากคุณ : chiwat เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 19:42:55

ความคิดเห็นที่ 5 ศีล 8 - ห้ามเข้าข้างกิเลสตัวเองเด็ดขาด เช่น กินแค่นี้คงไม่เป็นไรมั้ง ฟังเพลงแค่นี้คงไม่เป็นไรมั๊ง เพราะศีล 8 หลุดง่ายมาก แต่โทษก็มากกว่าการผิดศีล 5 เช่นกัน - อย่ารักษาแบบอะลุ่มอะล่วย ตั้งกฏแล้วต้องรักษาให้ได้เท่านั้น เช่น ห้ามเปิดเพลงฟังเองเด็ดขาด หากมีคนอื่นเปิดก็ต้องรักษาใจอย่าไปตามเสียงนั้น ให้ปล่อยผ่าน อย่าให้ติดเข้ามาในใจ คือ อย่าไปสนใจนั่นแหละ คือ สักแต่ว่าได้ยิน ไม่ทำความเพลิดเพลินในเสียงนั้น - ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เช่น ถ้าเช้าไม่ได้กินข้าว เที่ยงไม่ได้กินข้าว เย็นก็ห้ามกินข้าว ถ้าคิดว่าทำได้อย่างนี้ ก็ต้องพยายามกินข้าวให้ตรงเวลาอย่าบ่ายเบี่ยง - หมั่นไปวัดสม่ำเสมอเพื่อทบทวนศีลและเพื่อให้มีกัลยาณมิตร เพราะทางโลกมีสิ่งล่อลวงเยอะ หากคิดว่าทำได้อย่างนี้ก็พอจะรักษาได้ ศีล 8 เป็นพรหมจรรย์อันยิ่ง ไม่ใช่แค่พรหมจรรย์พื้นฐานอย่างศีล 5 หากคิดว่ารักษาแล้วจะมีบกพร่องบ้าง ก็อย่ารักษา เพราะผลมันไม่คุ้มกัน สู้เรารักษาศีล 5 แต่ปฏิบัติตัวเหมือนศีล 8 ยังดีกว่า เอาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ก็ยังมีผลมากกว่า หากรักษาศีล 8 แล้วพร่อง ก็เหมือนพระต้องอาบัติบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย ผมพูดในฐานะที่รักษาศีล 8 ในเพศฆราวาสมา 1 ปีเต็มหลังจากลาสิกขามา กล่าวได้ว่าใน 1 ปีนั้น ผมรักษาได้อย่างที่ว่าไป แรก ๆ ฟังเพลงก็ยังมีต้องรักษาใจบ้าง หลัง ๆ เพลงมันไม่เข้าหูเลย ในใจมีความความสงบ ความนิ่ง ความเย็น ความสุข ไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรมาก่อกวนจิตใจมากนัก หนึ่งปีนั้นเป็นปีที่ผมคิดว่าไม่มีอะไรมาแลกได้ รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่ามากที่สุดก็ในช่วงนั้น แล้วผมก็หลุดจากศีล 8 อย่างรวดเร็วในปีที่สอง เพราะห่างไกลจากกัลยาณมิตรและเข้าไปใช้ชีวิตแบบชาวโลกมากเกินไป ตอนนี้ผมรักษาได้ยากแล้วครับ อย่างไรก็ดี หากตั้งใจรักษาศีล 8 ไม่ว่าจะ 1 ปี 1 เดือน 1 วัน หรือที่สุดแล้วจะรักษาแค่เพียงครึ่งวัน ก็ขอให้รักษาประดุจว่าเรารักษาอยู่ที่วัด เหมือนบ้านเป็นวัด เหมือนวัดเป็นบ้าน ศีล 8 เป็นศีลของพรหม ไม่ใช่ศีลของฆราวาส เพราะฉะนั้น ถ้าทำแล้วต้องทำให้ดีครับ อย่ารักษาแบบขอไปที หรือแค่อยากได้อานิสงส์ จากคุณ : พักผ่อน เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 20:26:04

ความคิดเห็นที่ 6 เอาเป็นว่าศึกษาข้อวัตรให้ดีครับ อย่าให้ศีลวิบัติได้ ถ้าคิดว่าได้ก็เอาเลย ทดลองแค่วันพระก่อนนะครับ และเก็บสิ่งที่หลวงพ่อพุธท่านแนะนำด้วยเพื่อความไม่ประมาท ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นบาปเอาได้ง่ายๆ ขออนุโมทนาด้วยครับ จากคุณ : ธรรมสถิต เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 20:26:58

ความคิดเห็นที่ 7 เรามองว่า ไม่เหมาะค่ะ กรณีจะถือศีล 8 ที่บ้าน และมีลูกเล็กๆที่ต้องดูเเล เราเกรงว่า เวลาคุณเตรียมอาหารเย็นให้ลูก อาจจะต้องมีการชิม หรือ ร้องเพลงกล่อมลูกนอน หรือเเม้เเต่ต้องเล่นกับเขา ..ฯลฯ ถือศีล5 ให้ได้อย่างเคร่งครัดจะเหมาะสมที่สุด ที่พูดไม่ใช่ขัดบุญคุณนะคะ อีกอย่างถือศีล5 ก็นั่งสมาธิ สวดมนต์ได้ค่ะ ยกตัวอย่าง วัดผาณิตาราม จังหวัดฉะเชิงเทรา ก็ถือเพียงศีล 5 ค่ะ จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 20:28:41

ความคิดเห็นที่ 8 1. งดอาหารหลังเที่ยง แรก ๆ อาจจะเป็นเรื่องที่แสนทรมาน แต่พอทำได้สามวัน วันที่สี่ จะรู้สึกได้เลยว่า ไม่กินก็เฉยๆ   เพราะตอนเช้าท่านไม่ได้ห้ามไว้ จะทานสิบจานยี่สิบจาน ก็ทานให้เต็มที่ไปเลย ท่านห้ามแต่เีพียงหลังเที่ยงเท่านั้นเอง และการไม่ทานอาหารหลังเที่ยงนั้นดีต่อสุขภาพอีกด้วยค่ะ 2. ไม่ใส่เครื่องประดับ ไม่ทา ไม่ผัดแก้ม แต่งหน้า ปล่อยตามธรรมชาติ 1 วัน แต่ล้างหน้าได้ 3. เวลานอน นอนบนพื้น ปูเสื่อ 4. ไม่มีกิจกรรมทางเพศ เพียงเท่านี้ ก็ทำงานได้ปรกติและรักษาศีลแปดได้นะคะ อุโบสถศีลก็ยังได้ ไม่มีปัญหาค่ะ  เราสมัยก่อน เราเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ช่วงทำงานแล้ว เราก็ยังทำแบบนี้ได้ ไม่ได้ทำให้ศีลขาดเลย น้อง ๆ หลายคน ที่พ่อแม่ปฏิบัติรักษาศีล เค้ารู้ว่าพ่อแม่ทำสมาธิ รักษาศีล หลายคนเค้าก็ไม่รบกวนค่ะ เราต้องสอนน้องแบบนี้ สอนให้เค้ารู้จักกาละเทศะ เวลาไหนควรเล่น เวลาไหนควรสำรวม สิ่งนี้จะดีกับน้องเค้าในอนาคตด้วยค่ะ จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 20:54:37

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเพิ่มเติมเรื่องที่นั่งและเรื่องข้อเจ็ดด้วยนะคะ ถ้าเป็นที่นั่งโซฟาหรือฟูก ไม่ควรนั่ง หากต้องนั่ง ให้นั่งเก้าอี้ธรรมดาอย่างเช่นเก้าอี้พลาสติกค่ะ จะได้ไม่ขาดในข้ออุจจาสะยะนะ มหาสะยะนา ส่วนโืทรทัศน์ การดูละคร ฟังเพลง ให้งด 1 วันค่ะ คุณจะรู้สึกว่าจิตบริสุทธิ์มาก ๆ คิดอะไรก็จะคล่องแคล่ว ไม่ฟุ้งซ่าน ทำได้ค่ะ ไม่ยากเลย จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 20:57:26

ความคิดเห็นที่ 10 เริ่มต้นรักษาศีลห้าให้ครบถ้วน จนกลายเป็นนิสัย เป็นธรรมชาติของเราให้ได้ก่อนค่ะ เมื่อมั่นคงดีแล้วลองถือศีลแปดทุกวันพระดูว่าทำได้หรือเปล่า ลองคิดดู ถ้าคุณไม่ทาครีมกันแดด ครีมบำรุงผิว ไม่ใช้ของหอม ไม่แต่งหน้า ทาแป้ง คุณทำได้หรือเปล่าค่ะ  คือต้องไม่ใช่ของเหล่านี้เพือเสริมความงาม อย่าหลอกตัวเองนะคะว่าใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแพ้แดด เพื่อรักษา ดูจิตใจตัวเองลึกๆจะรู้ตัวเองว่าไอ้ที่ใช้น่ะกลัวไม่สวยมากกว่า ก็รักษาศีลห้าไปก่อนก้ได้ค่ะถือว่าประเสริฐแล้วค่ะ จากคุณ : ขนมทองหยด เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 22:10:14

ความคิดเห็นที่ 11 ฝึกตัวเองให้ตายด้าน ในสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ในอาหารการกิน มีอยู่ก็ใช้ไป มีกินก้กินไป วันละครั้ง... แต่อย่าให้รู้สึกว่า นั่งบนโซฟานุ่ม มันสบายกว่านั่งบนพื้น กินข้าวมันอร่อยกว่ากินมาม่า ...แล้วลูกเต้าจะกินอะไร 3 ขวบ เอง ลูกค้ามาก็พูดความจริง ......ไม่โกหกบ้าง มันจะได้ขายรึ แค่ยกตัวอย่าง ผมว่า ไปรักษาศีลแค่วันพระก็พอครับ เด๋ว องค์กรก็ยุงกันไปหมดเสียระบบ ทุกข์จะเกิดขึ้นกับตัวคุณและคนรอบข้าง เอาให้มันพอดีๆ จากคุณ : หมูลิน เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 22:40:46

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ เช้านี้ได้สวดมนต์ และ อาราธนา ศีล5 ถ้าช่วงใดที่คิดว่าสามารถไปปฏิบัติที่วัดได้ ถึงถือศีล8 ดีกว่า เพราะอาชีพ ต้องมีการพูดปดบ้างเบื่ยงบ้าง และลูก ก็เป็นลูกชาย กังวลว่าถ้าถือศีล 8 ที่บ้าน คงกระทบไปหลายอย่าง จากคุณ : Ohe27 เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 55 09:01:31

ความคิดเห็นที่ 13 ขออนุโมทนาบุญกับความตั้งใจอันดีด้วยค่ะ สาธุ ลองดาวน์โหลดตามลิงค์นี้ฟังก่อนนะคะ ดีมาก ๆ ค่ะ เราฟังแล้วเข้าใจเรื่องการรักษาศีล8มากขึ้นค่ะ เป็นของวัดญาณเวศกวัน ท่าน ป อ ปยุตโต รักษาศีล ๘ อย่าพูดแค่ว่าได้บุญ ต้องรู้ว่าศีล ๘ มาหนุนให้ก้าวไปสู่การพัฒนาจิตใจและปัญญาอย่างไร http://www.watnyanaves.net/th/clip_detail/52 กับ ถ้ารู้คุณค่าของศีล ๘ ถูกต้องแล้ว จะรักษาอุโบสถแบบไหนๆ ก็เลือกได้อย่างสมเป็นพุทธชน http://www.watnyanaves.net/th/clip_detail/53 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 55 20:37:26 จากคุณ : Blue Tangmo เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 55 20:34:06

ความคิดเห็นที่ 14 พิจารณาว่าทำได้ มีกำลังใจพอ ก้ลองถือไปคะ เราเป็นฆราวาสทำงานอยู่กับบ้าน ปกติศีล5 เราก็ครบบริบูรณ์อยู่แล้ว โดยไม่มีปัญหายากเย็นอะไร คนที่เห็นว่าถือศีล5 เป็นเรื่องง่าย ไม่ใช่สิ่งยากเย็นอะไร เป็นเรื่องปกติของใจ ใจเราก็เป็นศีลโดยอัตโนมัติ   ดังนั้น จะเขยิบมาศีล 8 บ้าง ก็ไม่ได้ลำบาก  แค่เพิ่มมาอีก3ข้อเอง ล่าสุด เราถือศีล8 เมื่อเดือนก่อน  ถือไปเรื่อยๆไม่กำหนดออก ก็ปาไป2อาทิตย์  เวปก็เข้าแต่ห้องศาสนา หรือเวปธรรมะ ฟังเสียงสวดมนตร์ให้ใจเคล้าเคลียกับพระธรรมไป  เลือกอ่านแต่เรื่องพระธรรมคำสอน ไม่ได้เข้าหาความบันเทิงเริงใจ เรื่องแต่งหน้าออกจากบ้าน ปกติเราเป็นคนไม่แต่งหน้าอยู่แล้ว เลยไม่ได้มีปัญหามาก งดครีมสารพัดที่ใช้โบกหน้า  ทาครีมก่อนทากันแดดตัวเดียว +ทากันแดด (เพราะเคยไม่ทาครีมกันแดด หน้าเป็นจุดขาวๆแพ้แดดคะ + เคยไม่ทาครีมมอซเจอร์ก่อนลงกันแดด   ปรากฎว่าแพ้ครีมกันแดดอีก หมอสั่งให้ทา2ตัวนี้  ในเมื่อหมอสั่งไว้แต่20ปีก่อน  ดิฉันก็ต้องถือว่ามันเป็นยาต้องทาต้องใช้ละคะ) เวลาทา ใจเราต้องระมัดระวัง มีสติอย่าเผลอ ให้พิจารณาว่า ทาเป็นยา อย่าใจล่องลอย เสร็จแล้ว ทาแป้ง  พระท่านก็สอน ว่าทาไปเพื่อสงเคราะห์คนอื่นๆ ถ้าเขาเห็นหน้าเราดำคล้ำ  มาวิพากวิจารณ์ จิตเขาก็เป็นอกุศล ท่านให้พิจารณาเวลาทาไปแบบนี้  ใจเราก็ต้องวางแบบนี้ เวลาจะเข้าสมาธิ ทวนดูศีลตนเอง ว่าบริบูรณ์ไหม มันจะไม่เห็นความพร่องของใจ  ใจเต็มกำลัง  เข้าสมาธิง่ายดาย แต่ถ้าเราแอบโกง หยวนๆแอบๆละ วิบัตินะค๊ะ สมาธิก็จะเข้าลำบาก ใจหมดกำลังไปเลย บุญกุศลนี่หนุนนำกันนะ  ศีลมี สมาธิมี สุดท้ายจะบอกว่า ศีล8 ถือไม่ยาก มันอยู่ที่กำลังใจ ทำได้แล้ว ใจก็มีกำลัง สติฉับไว ส่วนตัว เวลากิเลสมันฟูฟ่องมากๆ ระเริงกับโลกมากๆ เริ่มทิ้งการภาวนา ถามจิตมันดู ว่าศีล8 เอาไหม  ถ้ามันโยเย อิดออด มารยาสาไถ เช้าตรู่อีกวัน  ดิฉันจะถือเลยคะ ยิ่งมันมีธุระปะปังแบบทำงานออกแรงหนักมากทั้งวันช่วงนั้น (เดินซื้อของให้ลูกค้าทั้งวัน เห็นของกินง่ายๆด้วย) ทำให้กิเลสดิ้นรนมากยิ่งมันอิดออดมีข้ออ้าง    ยิ่งต้องถือ แล้วถือแบบไม่มีกำหนดออกด้วย ให้มันรู้ไปเลย ไผเป็นไผ เวลาถือศีล5 เป็นปกติ  บางช่วงกิเลสระรานมาก ชวนไปกิน ชวนไปดู ชวนเที่ยวเล่น ไม่เว้นวัน  จิตก็ไม่กำลัง ไม่มีแรงจะสู้ไหว ไหลไปในกามอย่างมัวเมา ก็ต้องถือศีล8 เฆี่ยนมันบ้าง ช่วงนั้น กิเลสหยาบๆมันทำอะไรเราไม่ได้ ได้แต่มองเราปริบๆ  เพราะเราก็มีศีลครอบไว้   เป็นเวลา สมน้ำหน้ามันคะ ช่วงนั้นกำลังสมาธิจะดี จิตทรงสมาธิเป็นส่วนมาก  การภาวนาก็ราบลื่น ถ้าทำได้ ก็แนะนำให้ทำคะ จะได้ทราบ ว่ากำลังใจของศีล8นั้น ต่างจากศีล5 ถ้าภาวนาจะเห็นผลต่างกัน แต่ดิฉันไม่ได้ถือเอาบุญกุศลใดๆ เลยไม่ทราบเรื่องของบุญกุศล  ถือเพื่อกำหราบกิเลสเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 55 20:59:33 จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 55 20:49:52