ยึดดอนสวรรค์ ยึดขวัญไทสกล | |
ยึดดอนสวรรค์ ยึดขวัญไทสกล ?
ฉบับก่อนผมเพิ่งเขียนสัญลักษณ์ หรือลักษณะจำเพาะของเมืองสกลนคร โดยยกคำขวัญของจังหวัดที่ว่า
พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาร แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม
และส่วนที่เป็นธรรมชาติที่เป็นลักษณะจำเพาะของสกลนครก็คือ หนองหาร และ ภูพาน
หนองหารเป็นหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศ มีเกาะอยู่กว่าสิบเกาะ มีตำนานรัก ท้าวผาแดง นางไอ่ อันแสนเศร้า และเกาะใหญ่ที่สุดคือเกาะดอนสวรรค์ มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ฉบับนี้จำเป็นต้องนำเรื่องดอนสวรรค์มาเป็นประเด็นโสเหล่ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศร้อนรุ่มกลางสายฝนของคนสกลนครช่วงนี้ (5-9 กย.55)
หากใครอยู่ในแวดวงสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะเฟซบุ๊ค(Face Book) ประเด็นการจะออกโฉนดให้เป็นที่ธรณีสงฆ์บนดอนสวรรค์กำลังเป็นกระแสที่มีคนสนใจ และกระจายไปอย่างรวดเร็ว
สื่อกระแสหลัก ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และเคเบิลท้องถิ่น ต่างตามประเด็นเอาไปนำเสนอโดยตีหัวข่าวทำนองว่า ธรรมกาย ขยายสาขา เตรียมขอโฉนด 85 ไร่ ยึดเกาะดอนสวรรค์กลางหนองหาร จนเป็นประเด็น ท็อคออฟเดอะทาวน์ หรือ โสเหล่กันทั้งเมือง
พอมีการนำเอาชื่อวัดธรรมกายใส่เข้าไปด้วย เลยยิ่งไปกันใหญ่ สุ่มเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งของสังคมเมืองสกลนคร หรืออาจนำไปสู่ประเด็นทางการเมืองได้ไม่ยาก หากดำเนินการต่าง ๆ อย่างขาดความระมัดระวัง ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงทั้งใช่และไม่ใช่ เช่นนั้น
ดอนสวรรค์เป็นเกาะกลางหนองหารอยู่ในเขตเทศบาลนครสกลนคร อยู่ภายใต้กฎหมายหลาย ๆ ฉบับ เช่น
พรบ.ปกครองท้องที่,
พรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ,
พระราชกฤษฎีกาเขตพื้นที่หวงห้ามฯ ปี พ.ศ.2484
และ มติ ครม.ว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ (ซึ่งทำให้หนองหารเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่อยู่ในความสำคัญระดับนานาชาติ)
เรื่องราวความขัดแย้งต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างประชาชนสิบกว่าตำบลผู้อยู่รอบหนองหารกับรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากมีการออกพระราชกฤษฎีกาฯ ให้หนองหารเป็นพื้นที่หวงห้าม และ แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ ได้ไปครอบคลุมทับพื้นที่ไร่นา บ้านเรือน วัด โรงเรียน และหมู่บ้าน ที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเป็นปัญหามากว่า 70 ปี แล้ว
แต่ในวันนี้ ดอนสวรรค์ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ กำลังจะได้รับการแจกโฉนดให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ แน่นอนจะยกให้เฉย ๆ คงไม่ได้ ต้องมีกระบวนการตามกฎหมายจึงจะทำได้ จึงขอเท้าความที่มาที่ไปให้พอเข้าใจดังนี้คือ
เริ่มด้วยเจ้าคณะอำเภอเมืองยื่นขอขึ้นบัญชีวัดร้างที่ดอนสวรรค์ เมื่อ 31 พฤษภาคม 2532 (หลังจากที่เทศบาลเมืองสกลนครได้เข้าไปพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์) โดยนำหลักฐานมาประกอบหลายประการเช่น ข้อมูลจาก ปูมเมืองสกลนคร และจากหอจดหมายแห่งชาติ ที่บันทึกสรุปว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2472 นายอำเภอเมืองได้เรี่ยรายเงินไปสร้างอุโบสถที่วัดดอนสวรรค์ และเสนาบดีกระทรวงธรรมการได้รายงาน เพื่อกราบบังคมทูลฯ ผ่านราชเลขาธิการ และวันที่ 13 สิงหาคม 2472 กรมราชเลขาธิการ มีหนังสือตอบมาสรุปตอนท้ายว่า
.....คงจะทรงอนุโมทนาในเมื่อทรงทราบรายงานหนังสือราชการ เจ้าหน้าที่จะได้นำแจ้งความลงในราชกิจจาฯต่อไป
แต่ในที่สุดแล้วก็ไม่สามารถหาหลักฐานได้ว่ามีการลงทะเบียนวัดดอนสวรรค์ในราชกิจจานุเบกษา แต่อย่างใด
ในเมื่อไม่มีชื่อในทะเบียนวัด และไม่เคยมีรายชื่อเจ้าอาวาสองค์สุดท้าย และผู้เฒ่าผู้แก่ก็ยืนยันว่าไม่มีใครเคยเห็นพระอยู่ประจำที่ดอนสวรรค์
เอกสารทางที่ดินก็ไม่ปรากฏว่าบนดอนสวรรค์มีที่ธรณีสงฆ์ หลักฐานต่าง ๆ จึงไม่พอที่จะบ่งบอกว่าเป็นวัดมาก่อน
ดังนั้นจึงไม่ถือเป็นวัดร้างในความเห็นส่วนใหญ่ของคณะกรรมการการศึกษา การศาสนา และวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร
ดอนสวรรค์เพิ่งจะมีพระแปลก ๆ มาจำพรรษาอยู่บ้าง ก็หลังจากที่เจ้าคณะอำเภอเมืองยื่นขอ ขึ้นบัญชีวัดดอนสวรรค์(ร้าง) และจังหวัดก็เห็นชอบเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2532 ทั้ง ๆ ที่หลักฐานการเป็นวัด มาก่อนนั้นไม่สมบูรณ์ แม้จะมีการสร้างโบสถ์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2472 แต่ในข้อเท็จจริงไม่มีพระอยู่จำพรรษา เพราะไม่มีญาติโยมมาถวายอาหารบิณฑบาตได้ ในเกาะก็ไม่มีบ้านเรือนราษฎรแต่อย่างใด
และที่ว่ามีพระแปลก ๆ มาอยู่ก็คือ มีพฤติกรรมเป็นที่ติฉินนินทาของคนทั่วไป มาจนกระทั่งเมื่อสามปีที่แล้ว จึงได้ข่าวว่ามีพระจากธรรมกาย มาอยู่ที่ดอนสวรรค์หลายรูป แล้วเกิดเรื่องทะเลาะชกต่อยกับพระที่อยู่เดิม มีการเผาเต็นท์กัน จนมีการไล่พระที่อยู่เดิมออกไป นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหากับชาวบ้านที่ทำประมงหาปลาแถว ๆ นั้น
มาถึงปีนี้ดอนสวรรค์เริ่มมีข่าวมากขึ้น คณะกรรมาธิการศาสนาสภาผู้แทนราษฎรมาประชุมร่วมกับจังหวัดเรื่องวัดดอนสวรรค์ เหมือนเป็นสัญญาณว่าจังหวัดต้องทำให้เสร็จนะเรื่องนี้
อีกทั้งกิจกรรมของพระวัดธรรมกายที่ดอนสวรรค์ก็มีบ่อยและถี่ขึ้น ท่ามกลางการจับตามองอย่างไม่สบายใจของคนสกลนครส่วนใหญ่
มาถึงวันนี้สังคมออนไลน์ได้เห็นภาพ และเรื่องราวที่จะมีการแจกโฉนดดอนสวรรค์เป็นที่ธรณีสงฆ์ในขณะที่พระสายธรรมกายอยู่ที่นั่น ความไม่พอใจของชาวสกลนครจึงระเบิดออกมาในที่ต่าง ๆ สื่อต่าง ๆ มีการเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นขึ้นหลายที่ และกลุ่มที่ค่อนข้างรุนแรงก็มุ่งประเด็นไปที่ไม่เอาธรรมกาย
บางกลุ่มก็บอกว่าไม่ให้มีวัดที่ดอนสวรรค์เลย
บางกลุ่มขอให้เป็นเพียงที่พักสงฆ์ชั่วคราวเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นธรรมกายหรือไม่ก็ตาม
ในที่สุดเทศบาลนครสกลนครได้ทำหนังสือคัดค้านการแจกโฉนดที่ธรณีสงฆ์ในวินาทีสุดท้าย และเรียกประชุมขอคำปรึกษาจากประธานชุมชน และประชาชนทั่วไปว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครและคณะ ก็ออกแถลงการณ์คัดค้าน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครที่พยามยามหาทางออกให้ทุกฝ่าย ก็ต้องถอยออกมาให้คนสกลนครดำเนินการตามความต้องการในครรลองของกฎหมายต่อไป โดยยังไม่มีใครคาดเดาได้ว่า เรื่องนี้จะมีข้อสรุปสุดท้ายอย่างไรและเมื่อไร แต่อย่างน้อยสังคมเงียบ ๆ และไม่ค่อยจะเอาเรื่องใครตามนิสัยคนสกล ก็ได้แสดงอะไรบางอย่างให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักแล้วว่า หนองหาร และดอนสวรรค์นั้นสำคัญต่อจิตใจพวกเขามากมายเพียงใด หากใครยึดดอนสวรรค์ได้ ก็เท่ากับยึดขวัญไทสกลได้เช่นกัน มันจะยอมกันได้หรือ พี่น้อง.
โดย คุณประสาท ตงศิริ
อีสานบิซวีค 110
7 กย.55
จากคุณ | : ยาจก เจ้าสำราญ |
เขียนเมื่อ | : 11 ก.ย. 55 00:13:15 |
ถูกใจ | : downpourpns |