สิ่งที่เป็นมงคล ๒
การคบบัณฑิต
ขยายความมงคลข้อที่ ๒ การคบบัณฑิตเป็นอุดมมงคล
พระพุทธเจ้าตรัสลักษณะของบัณฑิต คือ
นักปราชญ์ ผู้รู้ ผู้ฉลาด ไว้ ๓ ประการ
คือ ทำดี พูดดี คิดดี
อันเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับคนพาลโดยแท้
ทำดี คือ การกระทำดีทางกาย ๓
มีการงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑
งดเว้นจากการลักทรัพย์ ๑
งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ๑
พูดดี คือ การกระทำดีทางวาจา ๔
มีการงดเว้นจากการพูดเท็จ ๑
งดเว้นจากการพูดส่อเสียด ๑
งดเว้นจากการพูดคำหยาบ ๑
งดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ เหลวไหลไร้สาระ ๑
คิดดี คือ การกระทำดีทางใจ ๓
มีการไม่เพ่งเล็งอยากได้ของผู้อื่นมาเป็นของตน ๑
การไม่คิดพยาบาทปองร้ายให้ผู้อื่นพินาศ ๑
มีความคิดไม่วิปริตเป็นสัมมาทิฏฐิ เช่น
เห็นว่าการกระทำบุญการกระทำบาป
มีผล เป็นต้น ๑
รวมความว่าบัณฑิต คือคนที่ทำดี
ทางกาย ๓ ทางวาจา ๔ ทางใจ ๓ อันเป็นสุจริตกรรม ๑๐
หรือกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการนั่นเอง
บัณฑิตที่มีความประพฤติดังกล่าวนี้นี่แหละ
ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้คบหาเข้าใกล้สนิทสนมด้วย
เพราะจะทำให้เรามีใจโน้มน้อม คล้อยตาม
ยินดีชื่นชมในความประพฤติของเขา
เอาเยี่ยงอย่างเขา อันจะทำให้เราเป็นบัณฑิตไปด้วย
เนื่องด้วยบัณฑิตย่อมชักนำให้เราทำแต่สิ่งดีมีประโยชน์เหมือนท่าน
บัณฑิตจึงเปรียบเหมือนของหอม มีไม้จันทน์หอม เป็นต้น
เมื่อเอาผ้าไปห่อไม้จันทน์หอม ผ้าที่ห่อก็พลอยหอมไปด้วย
พระพุทธเจ้าและพระสาวกของพระองค์ทรงเป็นบัณฑิต
ผู้ที่ได้คบหาเข้าใกล้พระองค์
และสาวกของพระองค์จึงได้รับประโยชน์สุขอันยิ่งใหญ่
เพราะพระองค์ทรงสอน ให้ทำ ให้พูด ให้คิด แต่สิ่งดีมีสาระประโยชน์
พระองค์และสาวกของพระองค์จึงเป็นที่ชื่นชมยกย่องสรรเสริญของคนทั่วไป
ใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ คบหาสมาคมด้วย
นอกจากพระพุทธเจ้าและพระสาวกของพระองค์
จะได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิตแล้ว แม้พระปัจเจกพุทธเจ้า
ตลอดจนผู้ที่มีลักษณะของบัณฑิต ๓ ประการดังกล่าวแล้ว
ล้วนได้ชื่อว่าบัณฑิตทั้งสิ้น
บัณฑิตเหล่านั้น เป็นผู้สามารถกำจัดอุปัทวะภัย
และอุปสรรคทั้งปวงให้แก่ผู้ที่ทำตามคำของบัณฑิตได้
บุคคลที่อาศัยบัณฑิตแล้ว ย่อมสามารถเข้าถึงสรณคมน์
เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เข้าถึงมรรคผลนิพพานได้