# 20
ถ้าอยากเห็นปาฏิหาริย์ ผมขอแนะนำดังนี้
ขั้นแรก เริ่มให้ทานด้วยแสงสว่าง อาทิเช่น พิมพ์หนังสือธรรมะแจก ถวายเทียนพรรษา เอาธูปเทียนไปถวายวัด บริจาคค่าไฟฟ้าให้โรงพยาบาล ฯลฯ บริจาคดวงตาที่กาชาด เป็นต้น
ขึ้นที่สอง สวดมนต์ทุกคืนก่อนนอน รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ เริ่มที่หนึ่งวันบ้าง สองวันบ้าง
ขึ้นที่สาม สร้างสัจจะบารมี ด้วยการพูดแต่สิ่งที่เราทำได้จริง พูดคำไหนคำนั้น บอกว่าจะรักษาศีลหนึ่งวันก้อต้องรักษาไม่ให้ขาดให้ครบวัน เป็นต้น บอกว่าจะสวดมนต์ทุกคืนก้อต้องทำจริง ไม่ว่าจะกลับบ้านดึกดื่นตีสองตีสาม เหนื่อยเพลีย ป่วย ก้อต้องทำ
พอได้ทานบารมีเต็ม และ ศีลบารมี เต็ม สัจจะบารมีเต็ม ประมาณเจ็ดปี ท่านจะมีโอกาสสูงที่จะเจอปาฏิหาริย์
..........
ผมขอแชร์ประสบการณ์ให้ฟังบางเรื่องนะครับ
โดยส่วนตัวผมชอบทำบุญ.. และบังเอิญที่กระผมเกิดเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือนที่วัดบวร มักจะมีงานสมโภชฉลองวันประสูตรของสมเด็จพระสังฆราช....
แทบทุกปีผมจึงถือโอกาสไปทำบุญที่วัดบวรนิเวศ ในช่วงเดือนตุลาคม...
เมื่อสิบกว่าปีก่อน ทางมูลนิธิของวัด ได้นำ พระกริ่งปวเรศ รุ่นที่ในหลวงทรงเททอง ปี 2530 มาออกให้ประชาชนทำบุญ เป็นการสมทบกองทุนของตึก ภปร โรงพยาบาลจุฬา..
ในเดือนตุลาคมนู้น ผมได้ทำบุญไป ห้าพันบาท ก้อได้พระกริ่งปวเรศ มาเป็นที่ระลึกหนึ่งองค์ พร้อมพระชัยวัฒน์อยู่ในกล่องสีแดงๆ
พอผมได้พระองค์นี้มา ผมก้อวางไว้บนหิ้งพระ ซึ่งผมสวดมนต์หน้าหิ้งพระทุกคืนมิได้เว้น..
มีอยู่วันหนึ่งต่อมา ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หน้าพระเครื่อง ว่าพระกริ่งปวเรศ ที่สร้างในสมัยเมื่อร้อยกว่าปีก่อน สามารถตัดสายรุ้งขาด
ผมก้อคิดในใจว่า เราก้อมีพระกริ่งวัดบวรหนึ่งองค์ ชื่อพระกริ่งปวเรศ เหมือนกัน แต่ของเราที่ได้มานั้น เป็นพระใหม่ สร้างเมื่อปี 2530 แต่ก้อคิดว่าท่านน่าจะศักดิ์สิทธิเหมือนของโบราณ เพราะ เป็นพระกริ่งที่สร้างและประกอบพิธีใหญ่ พิธีในหลวงทรงเททองเอง และพระชุดนี้ทางวัดบอกว่าเททองในพิธีทุกองค์ (ไม่ได้สร้างที่โรงงานแล้วนำมาเข้าพิธีทีหลัง)
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 08:21:19
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 08:12:29
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 08:06:23
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 08:02:41
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 08:01:05
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 07:14:21