|
กำเนิดมนุษย์ในแบบวิทยาศาสตร์ที่บังคับให้เชื่อในโรงเรียน
อัน ที่จริงแล้วมีเรื่องที่กล่าวถึง การกำเนิดจักรวาลและโลกในหลายลัทธิศาสนาคล้ายกันหรือต่างกันไปหลายแหล่ง ข้อมูล โดยเฉพาะจากอินเดีย แต่ฉันจะไม่ขอกล่าวถึงเพราะเรื่องตรงนี้จะยาวไป ขอพูดถึงอีกความคิดหนึ่ง ที่ถูกใช้เป็นแบบเรียนการศึกษาทั่วโลกก็ได้ว่ามนุษย์นั้นต้องมีจุดกำเนิดมา ในแนวทางนี้จึงถือว่าถูกต้องและเป็นมาตรฐานการศึกษา อาจจะเรียกได้ว่าเป็นความเชื่อสายวัตถุนิยมก็ว่าได้ตามทัศนะของฉันที่ครอบคลุมการศึกษา ในยุคนี้ ก็คือ แนวความคิดของ คุณลุง ชาร์ลส์ ดาร์วิน ที่เสนอทฤษฎี วิวัฒนาการในปี ค.ศ. 1843 ก็ราวร้องห้าสิบปีที่แล้ว ฉันพูดแบบรวบรัดถึงที่มาของความคิดนี้ก่อน เหตุมันเริ่มจากประสบการณ์ที่เขาเคยติดเรือไปกับนักสำรวจไปหมู่เกาะ กาลาปากอส เขาได้พบกับสัตว์ที่แปลกตามากมาย และพบว่ามันพยายามจะพัฒนาตัวเองเพื่อความอยู่รอด เช่น เต่าก็มีคอยาวขึ้น เพื่อจะหาอาหารได้ในที่สูงขึ้นเมื่อยามหน้าแล้ง เขาได้เขียนหนังสือ ชื่อ The origi 0f the spechies ได้เสนอเรื่องการอยู่รอดโดยการคัดสรรของธรรมชาติ (Natural selection) กลายเป็นหนังสือของผู้ที่คัดค้านเรื่องการสร้างสรรโดยพระเจ้าใช้กล่าวอ้าง และถือว่าเป็นคำตอบที่เป็นกลางๆจากทุกศาสนาและใช้สำหรับเป็นมาตรฐานการศึกษา ในความคิดกำเนิดสิ่งมีชีวิตและมนุษย์ โดยยึดว่าเป็นวิทยาศาสตร์และทันสมัยอย่างสุดๆ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้ แต่เปล่าเลยเพราะจริงแล้วการค้นพบในทางวิทยาศาสตร์ในปลายศตวรรษที่ 20 ต่อ ศตวรรษที่ 21นี้ ได้มีทฤษฎีใหม่ๆขึ้นมาหักล้าง ความคิดที่ใช้ตั้งต้นในแนวคิดนี้ทีละข้อๆ จนแทบจะหมดความนาเชื่อถือสำหรับเราแล้วในยุคนี้ แล้วเมื่อเราเดินทางมาถึงยุคของหนังสือเล่มนี้ฉันจะยกหลักฐานการหักล้างทฤษฎ นี้ในแต่ละข้อมาให้อ่านนะตอนข้ามๆไปก่อน เอา เข้าจริงแล้วมันก็มีน้ำหนักพอๆกับความเชื่อที่ต้องใช้ความเชื่อทั่วไปเท่า นั้นเอง ฉันหมายความว่าคนที่เชื่อทฤษฎีของดาร์วิน ที่ภูมิใจว่าตัวเองมีความคิดตามวิทยาศาสตร์นั้น ก็มิได้มีน้ำหนักมากชัดเจนมากไปกว่าผู้ที่ศรัทธาในศาสนาที่ว่าพระเจ้าทรง สร้างเลย ขอให้เรายืดอกได้เต็มที่กับความเชื่อของเราอย่าให้ใครเอาทฤษฎีแห่งความ บังเอิญอันลงตัวสูงสุด ผสมกับคำอธิบายบางอย่างด้วย ทฤษฎี เคออส ในเรื่องความวุ่นวายสูงสุด ที่ว่าทำให้เกิดสิ่งมีชีวิต "เซล"แรกขึ้น และต่อมาก็อาศัยเวลาวิวัฒนาการมาเป็น พืช สัตว์ น้ำ บก นก และมนุษย์ ว่ากันไป มาทำให้เราไขว้เขว อันที่จริงเรื่องแบบนี้เราก็อ่านและก็เรียนรู้ไว้ และก็มองเพียงแค่ว่า มันก็แค่ความเชื่อหนึ่งเหมือนกับที่เขามองความเชื่อของเรา เพราะความเชื่อก็คือความเชื่อแล้วแต่ใครจะเลือกขึ้นอยู่กับความพอใจและ เหตุผลที่ต้องกับปัญญาของตนเอง ความคิดเรื่องการวิวัฒนาการของมนุษย์ที่เด็กต้องเชื่อตามสถานศึกษา " บรรดานักวิชาการทางโบราณคดีที่เชื่อในทฤษฎีวิวัฒนาการของ ดาร์วิน ต่างพยายามขุดหัวกระโหลกและโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่มีรูปร่าง ลักษณะของมนุษย์ในยุค หินเก่า(Paleolithic Periad) ไปทั่วภูมิภาคของโลกโครงกระดูกเช่น ศรีษะและฟันกรามของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ที่ขุดพบในทวีปยุโรป เอเชีย อาฟริกา ออสเตรเลีย มีอายุย้อนหลังไปถึง 24 ล้านปี เรียกว่า โพรคอนซูล อยู่ในยุค ไมโอซีน ที่ใหม่ขึ้นไปอีกหน่อยมีชื่อว่า ออสตราโลพิทิซีนมีอายุ 14 ล้านปี อบู่ในยุคไมโอซีนตอนปลาย หรือตอนต้นของยุค โพลโอซีน โครงกระดูกและกระโหลกที่ขุดพบนี้มีชื่ออื่นๆ เรียกไปตามภูมิภาคที่ขุดพบ เช่น รามาพิธีคัส พบที่อินเดีย เคนยาพิธีคัส จากอาฟริกาตะวันตก และโอรีออนพิธิคัส จากอิตาลีเป็นต้น
ใกล้ เข้ามาอีกก็คือ โครงกระดูกและกระโหลก ขุดพบที่ทังกายิกา มีอายุ 1,750,000 เรียกว่า โฮโมฮาบิลิส และที่ขุดพบในทวีกอาฟริกาและเอเชียใต้ในยุคเดียวกันมีชือเรียกว่า ออสตรโลพิธิคัส และที่ขุดพบในชวา จีน และอาฟริกา มีอายุ 1,100,000 ปีขึ้นไป โฮโมอีเรคตัสและที่ใหม่ล่าสุดที่ขุดพบได้ในบางภูมิภาค มีอายุ 250,000 ปี มีชื่อเรียกที่รู้จักกันดีว่า โฮโมซาเปี้ยน กระโหลกและโครงกระดูกนี้ที่นักโบราณคดีเชื่อในทฤษฎีวิวัฒนาการ ต่างยึดถือไว้เป็นต้นตระกูลมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้.....
โฮโมอิเรคตัส(Homoerectus)
ถึงแม้โครงกรดูกและกระโหลกของสิ่งมีชีวิตที่ขุดพบโดยนักโบราณคดีตามภูมิภาค ต่างๆของโลกและกำเนิดเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ดังกล่าว จะถูกกำหนดไว้ให้เป็นยุคเริ่มต้นของการใช้อาวุธต่างๆทั้งการล่าสัตว์และการ ประกอบอาหารและจัดให้อยู่ในยุคหินเก่าและหินกลางก็ตาม เมื่อนำมาเชื่อมกับยุคหินใหม่ (Neo Lithic) อารยธรรมของมนุษย์เริ่มมีการปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดเมื่อประมาณกว่าหมื่น ปีที่ผ่านมาก็อยู่ในยุคหินใหม่" (นิตยสารเอกภาพ ปีที่2 ฉบับที่15ม.ค. 46 โดยอับดุลเลาะฮ์ บิน กอเซ็ม น. 12-15) "แม้กระทั้งในปัจจุบันนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ทราบว่าสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้อย่างไร" (เพลินเพลินกับวิทยาศาสตร์ ดร.ชัยวัฒน์ เจนวานิชย์ น.101 พิมพ์ครั้งที่1 ปี29)
จากคุณ |
:
atiw1000
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ก.ย. 55 02:33:01
|
|
|
|
|