|
สิ่งที่เหมือนกันระหว่างนบีมูซาอ.ล.(โมเสส)กับ นบีมูฮัมหมัด ซ.ล. ในทัศนะของอิสลาม
ในกรณีที่ว่าพระเจ้าทรงสัญญาจะให้มีผู้เผยวจนะอย่างโมเสสก็มีการถกเถียงกันไปว่า คือใคร เมื่อไร แต่ ละศาสนาก็อ้างอิงกันไปตามหลักฐานความเชื่อที่เขาหาได้และให้การยอมรับ ต่างฝ่ายก็อธิบายกันไป ซึ่งฉันเคยเห็นศาสนาคริสต์ก้มีตารางการอธิบายความเหมือนของพระเยซูกับโมเสส เช่นกันแต่ต้องขอโทษที่ฉันหามาให้อ่านไม่ได้ถ้าฉันหามาได้หรือท่านผู้อ่าน ที่เป็นคริสต์หรือมีข้อมูลทางฝ่ายคริสต์ฉันจะนำมาลงให้นะ และ แน่นอนอิสลามเราก็บอกว่าผู้เผยวจนะที่ถูกกล่าวถึงในคัมภีร์เตารอตนั้นหมายถึง ท่านนบีมูฮัมหมัด ซ.ล. ซึ่งเป็นศาสนทูตองค์สุดท้ายที่อัลเลาะฮ์ส่งมา ด้วยเหตุผลคือ “ศาสดาเหมือนอย่างโมเสส ในพระคัมภีร์เดิมของชาวยิวและคริสต์พระเจ้ากล่าวแก่โมเสส(เฉลยธรรมบัญญัติ18/18) “เราจะโปรดให้บังเกิดผู้เผยวจนะอย่างเจ้า(โมเสส)ในหมู่พี่น้องของเขา และเราจะใส่ถ้อยคำของเราในปากเขา และเขาจะกล่าวบรรดาสิ่งที่เราบัญชาไว้นั้นแก่แก่ประชาชนทั้งหลาย” (หากไม่มีพระคัมภีร์เดิมเข้าไปที่ http://www.oknation.net/blog/dragonball/2008/12/30/entry-1 มีข้อมูลส่วนนี้พอสมควรที่คัดลอกมา) 1)พี่น้องอิสราเอล(ลูกหลานฮับราฮัมที่เกิดจากอิสหาก(อิสอัค)ก็คือพวกพี่น้องอิชมาอีล(อิชมาเอล)เป็นลูกคนแรกของอับราฮัม)ในที่นี้ เยซัส(พระเยซู,นบีอีซา)ได้ถูกแยกออกไปเพราะท่านเป็นเชื่อสายอิสราเอล มิเช่นน้นแล้ว มันก็น่าจะถูกเรียกว่า “ผู้เผยวจนะในหมู่เจ้าเอง” 2)มูฮัมหมัดไม่เหมือนกับโมเสสกระนั้นหรือ ถ้าหากเรื่องนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ สัญญานี้ก็จะไม่เป็นจริง ตารางต่อไปนี้ได้มาจากนิตยสาร “อัลล-อิตติฮาด”ฉบับมกราคม-มีนาคม 1982 หน้า41 เป็นสิ่งที่อธิบายในตัวมันเองอยู่แล้ว ต่อไปนี้เป็นตารางเปรียบเทียบระหว่างลักษณะสำคัญของโมเสส มุฮัมมัดและเยซัส (อีซา,เยซู) ที่บ่งบอกถึง “ผู้เผยพระวจนะ” ที่จะมาหลังจากโมเสส สิ่งเปรียบเทียบ โมเสส มูฮัมหมัด เยซัส(พระเยซู) การเกิด ปกติ ปกติ ไม่ปกติ ชีวิตครอบครัว แต่งงาน/มีลูก แต่งงาน/มีลูก ไม่แต่งงาน/ไม่มีลูก การตาย ปกติ ปกติ ไม่ปกติ การงาน เป็นศาสนทูต/รัฐ เป็นศาสนทูต/รัฐ เป็นศาสนทูต ถูกบังคับให้อพยพ ไปยังเมืองมัดยัน (มีเดียน) ไปยังเมืองยัซริบ (มะดีนะฮ์) ไม่ได้อพยพ การเผชิญหน้า ศัตรู ถูกไล่ตาม ถูกไล่ตาม/ทำ สงคราม ไม่ถูกไล่ตาม ผลการเผชิญหน้า ชนะทางศีลธรรม/การต่อสู้ ชนะทางศีลธรรม/การต่อสู้ ชนะทางศีลธรรม การบันทึกคัมภีร์ ในขณะยังมีชีวิต ในขณะยังมีชีวิต หลังจากสิ้นชีวิต ลักษณะของคำ สอน ศีลธรรมและกฏ หมาย ศีลธรรมและกฏ หมาย ศีลธรรมเป็นส่วน ใหญ่ การยอมรับความ เป็นผู้นำ ถูกปฏิเสธแล้ว ถูกยอมรับโดยชนชาติของท่าน(อิสราเอล) ถูกปฎิเสธแล้ว ถูกยอมรับโดยชนชาติของท่าน (อาหรับ) ถูกปฏิเสธจากชาวอิสราเอล 3) “และเราจะใส่ถ้อยคำในปากของเขา” ดังนั้น วจนะของพระเจ้าจึงได้มาทางญิบรีลหรือการเบรียล(ทูตสวรรค์) และความคิดของมูฮัมหมัดไม่มีส่วนในวจนะของพระเจ้าเลย สิ่งที่มูฮัมหมัดได้รับเป็นวจนะล้วนๆ ของอัลเลาะฮ์ ในเฉลยธรรมบัญญัติ 18/19 ยังใด้กล่าวอีกว่า “ผู้ใดไม่เชื่อฟังถ้อยคำของเรา ซึ่งผู้เผยพระวจนะกล่าวในนามของเรา เราจะกำหนดโทษผู้นั้น” ในคัมภีร์กุรอาน ในจำนวน 114 ซูเราะฮ์(บท)นั้น 113ซูเราะฮ์ เริ่มต้นด้วยคำว่า “ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงปราณีเสมอ”นอกจากนี้แล้ว ในการดำเนินชีวิตประจำวัน มุสลิมก็จะเริ่มต้นด้วยการกล่าวคำพูดดังกล่าว ไม่ใช่ในนามของพระเจ้า แต่ “ในนามของฉัน” นั่นคือนามส่วนบุคคลของพระองค์ซึ่งก็คือ “อัลเลาะฮ์”นั่นเอง เนื่องจากนามนี้เป็นนามเฉพาะบุคคล ดังนั้น คำนี้จึงไม่มีเพศและไม่มีพหูพจน์ แต่คริสเตียนเริ่มต้นด้วย “ด้วยพระนามของพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์” ขอให้สังเกตุด้วยว่าผู้ที่ไม่ฟังท่านหรือผู้ที่ปฏิเสธท่านนั้นถูกลงโทษ นี่ก็ตรงกับข้อความของคัมภีร์กุรอาน 3/19 ที่กล่าวว่า -“แท้จริง ศาสนาในทัศนะของอัลเลาะฮ์ คืออิสลาม”- -“และใครที่ปรารถนาศาสนาอื่นนอกไปจากอิสลาม มันจะไม่เป็นที่ถูกยอมรับและในปรโลก เขาจะเป็นผู้ขาดทุน”- (อัลกุรอาน3/85) (บทสนทนา ระหว่างมุสลิม กับคริสตชน โดย ดร. หะซัน เอ็ม. บากิล, รอย เอร์ล จอห์นสัน บรรจง บินกาซัน แปล น.82-84) คราวนี้เรามาพูดกันในแง่อิสลามเกี่ยวกับท่านนบีมูซา(โมเสส)และชาวอิสราเอลในช่วงเวลานี้กัน ชาวอิสราเอลเป็นชนชาติที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานทางนำของพระองค์ผ่านชนชาตินี้อย่างไม่ขาดสาย อันเป็นข้อยืนยันว่าพระองค์มิได้ปล่อยมนุษย์ให้ดำเนินไปอย่างไร้จุดหมาย ดังนั้นมุสลิมจึงให้เกียรติ์ต่อท่าน นบีมูซา(โมเสส)และฮารูน(ฮารูน)อย่างบริสุทธิ์ใจในตัวท่าน และศาสนาที่ท่านนำมาให้ชาวอิสราเอลก็เป็นทางนำเดียวกับท่านนบีอิบรอฮีม(อับราฮัม)ที่ได้รับทางนำจากพระเจ้า
จากคุณ |
:
atiw1000
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ก.ย. 55 19:01:28
|
|
|
|
|