|
การร้องขอกษัตริย์ของชาวอิสราเอลต่อ อัลเลาะฮ์ ซ.บ. ..ในคัมภีร์อัลกุรอานของมุสลิม
และต่อไปนี้เป็นข้อที่พระเจ้าทรงมีดำรัสไว้ในอัลกุรอานในเหตุการณ์ที่ชาว อิสราเอลร้องขอให้ อัลเลาะฮ์ ทรงเลือกกษัตริย์มาปกครองพวกเขา และนี่เป็นอุทาหรณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นอีกครั้งว่า เมื่อพวกเขาได้คนที่พวกเขาอยากให้พระเจ้าเป็นผู้เลือกให้มาปกครองพวกเขา ให้มากุมอำนาจปกครองพวกเขา พวกเขารู้สึกอย่างไรที่ได้กษัตริย์ ตามที่พวกเขาร้องขอเอง -“เจ้า(มูฮัมหมัด)มิได้มองดูพวกหัวหน้าในหมู่วงศ์วานอิสรออีลหลังจากมูซาดอกหรือ ขณะที่พวกเขาได้กล่าวแก่นบี(ซามูอิลหรือซามูเอล)ของพวกเขาคนหนึ่งว่า โปรดส่งกษัตริย์คน หนึ่งมาให้แก่พวกเราเถิด พวกเราจะได้ต่อสู้ในทางของ อัลเลาะฮ์ เขา(นบีซามู อิล)กล่าวว่า อาจเป็นไปได้ใหมว่าพวกท่านนั้น ถ้าการรบได้ถูกกำหนดแก่พวกท่านแล้ว พวกท่านจะไม่ต่อสู้ พวกเขากล่าวว่า “และได้มีสิ่งใดเกิดขึ้นแก่พวกเรา กระนั้นหรือ ที่พวกเราจะไม่ต่อสู้ในทางของอัลเลาะฮ์ ทั้งๆที่เราและลูกๆของพวกเราถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านของ เรา” ครั้นเมื่อการสู้รบได้ถูกกำหนดขึ้นแก่พวกเขา แล้ว พวกเขาก็ผินหลังให้ นอกจากส่วนน้อยในหมู่พวกเขาเท่านั้น และอัลเลาะฮ์ เป็นผู้ทรงรู้ดีต่อบรรดาผู้อธรรมเหล่านั้น”- -“และนบี(ซามูอิล)ของพวกเขากล่าวแกพวกเขาว่า แท้จริงอัลเลาะฮ์ได้ส่ง “ฏอลูต” มาเป็นกษัตริย์แก่พวกท่านแล้ว พวก เขากล่าวว่า “เขามีอำนาจเหนือพวกเราได้อย่างไร ทั้งๆที่เราสมควรต่ออำนาจนั้นยิ่งกว่าเขา และทั้งเขาก็มิได้รับทรัพย์สมบัติอันกว้างขวาง” เขา(นบีซามูอิล)กล่าวว่า “อัลเลาะฮ์ ได้ทรงคัดเลือกเขาให้มีอำนาจเหนือพวกท่านแล้ว และได้ทรงเพิ่มให้แก่เขาอีก ซึ่งความกว้างขวางในความรู้ และความสูงใหญ่ในร่างกาย และอัลเลาะฮ์นั้นทรงประทานอำนาจของพระองค์ให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลเลาะฮ์เป็นผู้ทรงกว้างขวาง ผู้ทรงรอบรู้” (อัลกุรอาน 2/246-247) ต่อไปนี้เป็นคำอัตถาธิบายของนักวิชาการอิสลาม ซึ่งใช้พื้นฐานมาจากการอธิบายของผู้ที่อยู่ร่วมสมัยกับท่านนบีมูฮัมหมัดซึ่งท่านเรียกสาวกของท่านว่าสหายหรือเพื่อน(ศ่อฮาบะฮ์) ซึ่งได้รับฟังการขยายข้อสงสัย ต่างๆจากท่านนบีมูฮัมหมัดอีกทอดหนึ่ง เหตุการณ์ที่ เรากำลังพูดอยู่นี้เกิดก่อนที่อัลกุรอานจะลงมาเป็นเวลานับกว่าพันปี ดังนั้นสำหรับชาวอาหรับในเวลานั้น(ประมาณพันสี่ร้อยกว่าปีที่ แล้ว)จึงมีข้อสงสัยมากมายเป็นธรรมดา เพราะไม่ใช่ประวัติของชนชาติอาหรับแต่เป็นเรื่องของชาวยิวเพื่อนบ้านของเขา เป็นเรื่องราวที่มีอุทาหรณ์มากมายสำหรับทางนำของอัลเลาะฮ์ในอดีตที่ผ่านมา ส่วนสำหรับชาวยิวเขามีคัมภีร์เตารอตตั้งแต่ก่อนยุคนบีมูฮัมหมัดมานานแล้ว อิสรออีลเรียกร้องกษัตริย์ “สาเหตุ ที่บรรดาหัวหน้าของวงศ์วานอิสรออีล(อิสราเอล) ต้องการกษัตริย์ให้เป็นแม่ทัพสู้รบนั้น ก็เพราะว่า พวกฟะเลสฏีน(ปาเลสไตน์,ฟีลิสเตีย)ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ของวงศ์วานอิสรออีลโดยมี “ญาลูฎ(โกลิอัท)”เป็นกษัตริย์ของพวกเขานั้น ได้นำกำลังเข้าจู่โจมหมู่บ้านของวงศ์วานอิสรออีล และได้ขับไล่พวกเขาและลูกๆของพวกเขาออกจากหมู่บ้านไป ทั้งนี้เนื่องจากความยะโสอวดดีและความดื้อดึงของพวกเขา กล่าวคือ พวกเขากระทำการฆ่าบรรดานบีของพวกเขาที่ อัลเลาะฮ์ได้ทรงส่งมาแนะนำพวกเขา อัลเลาะฮ์จึงได้ ทรงลงโทษพวกเขา พวกฟะเลสฏีนจู่โจมพวกเขา และยึดครองบ้านเมืองส่วนมากของพวกเขาไว้ ในการนี้ ได้จับบรรดาผู้มีเกียรติ์ของพวกเขาไว้เป็นเชลย พร้อม กันนั้นก็ได้กำหนดภาษีแก่พวกเขา และได้ยึดเอาคัมภีร์เตารอตของพวกเขาไปด้วย ตลอดจนข่มเหงบรรดาสตรีของพวกเขาตามใจชอบ ครั้นเมื่อ ได้เห็นสภาพอันเลวร้ายประสบแก่พวกเขา จึงได้สำนึกและคิดที่จะต่อสู้เอาบ้านเมืองกลับคืน บรรดา หัวหน้าของพวกเขาจึงได้ขอร้องนบีของพวกเขาให้แต่งตั้งกษัตริย์องค์หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ผู้นำในการสู้รบ โดยที่พวกเขาพร้อม แล้วที่จะทำการสู้รบ ………..แต่เหตุใด อัลเลาะฮ์จึงทรงถามนบี(มูฮัมหมัดซ.ล.)ว่า “เจ้าไม่ได้มองดู……ดอกหรือ”ความจริงสำนวนดังกล่าวนี้มีอยู่มากมาย……..อัลเลาะฮ์ทรงต้องการให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตเหมือนกับกำลัง เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อให้เหตุการณ์เหล่านั้นมาอยู่ในความคิดของผู้คนอีกวาระหนึ่ง เพราะเป็น เหตุการณ์ที่มีความสำคัญและเป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้คนทุกยุคสมัย………และเร้าใจท่าน(นบี)และทุกคนที่ได้ยินให้อยากรู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเป็น ประการใด” (คำอธิบายกุรอานนุลกะรีม(ญุซ ที่2)โดยสมาคมนักเรียเก่าอาหรับ น.410-411) ท่านนบีซามูอิลได้ถามพวกเขาเพื่อให้เขายืนยันความ แน่ใจว่า “จะเป็นไปได้ไหมถ้าหากว่าเมื่อมีการรบเกิด ขึ้นเกิดขึ้นจริงๆ พวกเขาอาจจะไม่สู้รบ” พวกเขาก็ยืนยันว่าไม่มีเหตุผลใดที่พวกเขาจะไม่สู้ “โปรดเข้าใจด้วยว่า นบีของเขานั้นมีหน้าที่ให้คำแนะนำตักเตือนเท่านั้น ไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นผู้นำในการสู้รบ ส่วนผู้นำใน การสู้รบนั้นคือ ตำแหน่งกษัตริย์ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้เรียกร้องให้แต่งตั้งกษัตริย์ให้แก่พวกเขา ครั้นเมื่อการต่อสู้ได้ถูกกำหนดขึ้นแก่พวกเขาหลังจากที่ได้กษัตริย์มาเป็นผู้นำแล้ว พวกเขากลับไม่ยอมทำการ ต่อสู้ดั่งที่นบีของเขาได้กล่าวเตือนไว้ นอกจากส่วนน้อยในหมู่พวกเขาเท่านั้น อัลเลาะฮ์ทรงรู้ในจิตใจ ของพวกเขาดี ………….นบีเขา(นบี ซามูอิล)แจ้งให้ทราบว่า อัลเลาะฮ์ได้ส่ง “ฏอลูต(ซาอูล)”มาเป็นกษัตริย์ของพวกเขาแล้ว ในการที่ฏอลูตมิได้สืบเชื้อสายมาจาก ยะฮูซา(ยูดาห์หรือยิว)ซึ่งเป็นเชื้อสายกษัตริย์และมิได้สืบเชื้อสายมาจาก ลาวี(เลวี)ซึ่งเป็น เชื้อสายที่ได้รับเลือกให้เป็นนบี และก็มิใช่คนมั่งมีด้วยนั้น ทำให้วงศ์วานอิสรออีลไม่พอใจ และกล่าวประท้วงแก่นบีของเขาว่า “ฏอลูต(ซาอูลผู้มาจากเผ่าเบนยามิน)”จะมีอำนาจเหนือเราได้อย่างไร ทั้งๆที่เราเป็นผู้สมควรได้รับอำนาจนั้นยิ่งกว่าเขา เพราะ พวกเราเป็นเชื้อสายมาจาก “ยะฮูซา(ยูดาห์หรือยิว)”ผู้ มีลูกหลานเป็นกษัตริย์ หรือไม่ก็เป็น”ลาวี”ผู้มีลูกหลานเป็นนบีและผู้ที่จะเป็น กษัตริย์ซึ่งมีอำนาจเหนือเรานั้น แม้ว่าเขาจะไม่มี เชื้อสายก็ไม่เป็นไร แต่เขาต้องเป็นคนมั่งมี เพราะ คนมั่งมีนั้นพอเทียบเท่าผู้มีเชื้อสายได้ แต่ฏอลูต ก็มิใช่คนมั่งมี นบีของพวกเขาจึงได้ตอบพวกเขาว่า กระนั้นก็ดีอัลเลาะฮ์ได้ทรงคัดเลือกเขาให้อยู่เหนือพวกท่าน เป็นการย้ำเพื่อเตือนสติให้พวกเขาระงับปากระงับคำ เพราะผู้ที่พระองค์ทรงเลือกนั้นเป็นผู้ที่เหมาะสมเนื่องจากพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ และการโต้แย้งนั้นเป็นการแสดงอวดรู้ว่าตนดีกว่าพระองค์ ซึ่งเป็นถ้อยคำที่อันตรายยิ่ง (คำอธิบายอัลกุรอานนุลกะรีม(ญุซที่2) โดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ น.412-413) -“และนบี(ซามูอิล)ของพวกเขาได้กล่าวแก่เขาว่า แท้จริงสัญญาณแห่งอำนาจของเขานั้น คือ การที่หีบลูกนั้น จะมายังพวกท่าน ในหีบนั้นมีความสงบจากพระเจ้าของพวกท่าน และมีส่วนที่เหลือจากสิ่งที่วงศ์วานของมูซา(โมเสส) และวงศ์วานของฮารูน(อารอน)ได้ละทิ้งไว้โดยที่มะลาอิกะฮ์(ทูตสวรรค์)จะแบกมันมาแท้จริงในเรื่องนั้นมีสัญญาณหนึ่งแน่นอนสำหรับพวกท่าน หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา”- หีบลูกนั้น หมายถึง หีบคัมภีร์เตารอต และชิ้นส่วนแผ่นจารึกแห่งบัญญัติสิบประการ -“ครั้นเมื่อฏอลูต(ซาอูล)ได้นำกำลังทหารออกไป เขา ได้กล่าวว่า แท้จริงอัลเลาะฮ์จะเป็นผู้ทดสอบท่าน ด้วยสายน้ำหนึ่ง ผู้ใดดื่มน้ำจากแม่น้ำนั้น เขาไม่ใช่พวกของเรา และผู้ใดมิได้ชิมน้ำนั้น แน่นอนเขาเป็นพวกของฉัน นอกจาก ผู้ที่วักน้ำด้วยมือของเขาอุ้งมือหนึ่งเท่านั้น แต่แล้วพวกเขาก็ดื่มน้ำกันจากแม่น้ำนั้น นอกจากส่วน น้อยในหมู่พวกเขาเท่านั้น ครั้นเมื่อฏอลูตและบรรดาผู้ศรัทธาที่ร่วมอยู่กับเขาได้ข้ามแม่น้ำนั้นไป พวกเขาก็กล่าวว่า วันนี้พวกเราไม่มีกำลังใดๆจะต่อสู้ญาลูต(โกลิอัท)และไพร่พลของเขาได้บรรดาผู้ที่เชื่อแน่ว่า พวกเขาจะพบอัลเลาะฮ์ได้กล่าวว่ากี่มากน้อยแล้วพวกน้อยเอาชนะพวกมาก ด้วยอนุมัติของอัลเลาะฮ์ และ อัลเลาะฮ์นั้นทรงอยู่กับผู้อดทนทั้งหลาย” -“และเมื่อพวกเขาได้ ออกประจัญบานกับญาลูต (โกลิอัท)และไพร่พลของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็กล่าวว่า โอ้พระเจ้าของพวกข้าพระองค์ โปรดทรงประทานความอดทน ให้แก่พวกข้าพระองค์ด้วยเถิด และโปรดทรงให้มั่นคง ซึ่งเท้าของข้าพระองค์ และโปรดทรงช่วยพวกข้าพระองค์ ให้ชนะเหนือพวกปฏิเสธทั้งหลาย”- -“แล้วพวกเขาก็ยังความ ปราชัยให้แก่พวกนั้น (ฝ่ายศัตรูของเขา) ด้วยอนุมัติของอัลเลาะฮ์และดาวูด(ดาวิด,เดวิด)ได้ฆ่าญาลูต(โกลิอัท,โกไลแอต)และอัลเลาะฮ์ได้ทรงประทานอำนาจ และความรู้แก่เขา และทรงสอนเขาจากสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และหากว่า อัลเลาะฮ์ไม่ทรงป้องกันมนุษย์ ซึ่งบางส่วนของพวกเขา ด้วยอีกบางส่วนแล้วไซรแน่นอนแผ่นดินก็ย่อมเสื่อมเสียไปแล้ว แต่ทว่า อัลเลาะฮ์นั้นทรงเป็นผู้มีพระคุณแก่โลกทั้งหลาย”- -“นั่นแหละคือบรรดา โองการของอัลเลาะฮ์ ซึ่งเรากำลังอ่านโองการเหล่านั้นให้เจ้า(มูฮัมหมัด)ฟังด้วยความจริง และแท้จริงเจ้านั้นเป็นผู้หนึ่งในบรรดาร่อซูล(ศาสนทูต)ทั้งหลาย”- (อัลกุรอาน2/248-252)
จากคุณ |
:
atiw1000
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ก.ย. 55 19:44:56
|
|
|
|
|