Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ยิว คริสต์ อิสลาม พระเจ้าองค์เดียวกันรึเปล่า ตอน 14 ดาวิดผู้ฆ่ายักษ์ ติดต่อทีมงาน

(บทความทั้งหมดจาก www.oknation.net/blog/dragonball)

นี่คือจุดเปลี่ยนของเด็กหนุ่มที่ชื่อดาวิด ที่ได้รับการเจิมจาก ซามูเอล ตุลาการผู้วินิจฉัยของพระเจ้าของชาวอิสราเอล  ซาอูลยังคงอยู่ในตำแหน่งกษัตริย์รักษาการ ดาวิดแม้จะได้รับการเจิมให้ขึ้นเป็นกษัตริย์แล้วแต่ก็ยังเป็นเสมือนผู้รับใช้ ซาอูลอยู่ในวัง
              แต่เมื่อเหตุการณ์ที่บ้านเมืองคับขัน ไร้ผู้คู่ควรในการกู้บ้านเมือง ดาวิดได้เข้ามาแสดงความสมารถในเวลาที่สำคัญนี้ เป็นประหนึ่งผลงานที่สมบูรณ์แบบในการขึ้นครองบัลลังก์อย่างแท้จริงโดยไม่เกี่ยวกับอายุ แต่เป็นข้อยืนยันความเหมาะสมของตัวเขาต่อประชาชนในเชิงภาวะวิสัย ถึงความคู่ควรของเขาต่อตำแหน่งกษัตริย์ที่พระเจ้าทรงเลือกให้แก่ชาวอิสราเอล
                ก่อนที่ฉันจะยกมุมมองในช่วงเวลานี้ของนักวิชาการอิสลามมาให้อ่าน ฉันขอดำเนินเรื่องในพระคัมภีร์เดิมต่อเพราะกำลังจะเข้าจะสำคัญอีกจุดหนึ่ง ของการก้าวเข้ามาของกษัตริย์ องค์ที่สอง ที่มีคนกล่าวถึงท่านในมุมมองมากมายของชาวอิสราเอล ตั้งแต่เรื่องความเก่งฉกาจในการรบ ความรัก การปกครอง  และอัลกุรอานของอิสลามก็กล่าวถึงกษัตริย์ท่านนี้ในนามของ นบีหรือศาสนทูตท่านหนึ่งของพระเจ้า
                 เรื่องของดาวิดจะเหมือนหรือต่างกันอย่างไรกับที่อัลกุรอานของอิสลามเล่าไว้ ตอนนี้เรากลับมาที่
                 
พระคัมภีร์เดิมของชาวคริสต์และยิวได้เล่า ต่อไปดังนี้
           
ดาวิดฆ่าโกไลอัทตาย
               1ซามูเอล17/1.  ฝ่าย ฟิลิสเตีย(ปาเลสไตน์)ก็รวบรวมกองทัพเพื่อจะทำสงคราม  เขามาชุมนุมกันอยู่ที่ตำบลโสโคห์ซึ่งเป็นเขตยูดาห์……………
               3.             คนฟีลิสเตียยืนอยู่ที่ภูเขาข้างหนึ่ง และคนอิสราเอลยืนอยู่ที่ภูเขาอีกข้างหนึ่งมีหุบเขาคั่นกลาง
4.       มีผู้หนึ่งชื่อโกไลเอทเป็นยอดทหาร ได้ออกมาจากค่ายคนฟีลิสเตียเป็นชาวเมืองกัท สูงหกศอกคืบ
5.           เขาสวมหมวกทองสัมฤทธิ์ไว้ที่ ศีรษะ และสวมเสื้อเกราะเสื้อเกราะนั้นหนักห้าพันเชเขลเป็นทองสัมฤทธิ์
6 .              และสวมสนับแข้งทองสัมฤทธิ์  และมีหอกทองสัมฤทธิ์แขวนอยู่ที่บ่า
7.          ด้าม หอกนั้นเหมือนไม้กระพั่นทอผ้า ตัวหอกหนักหกร้อยเชเขลเป็นเหล็ก ทหารถือโล่ของเขาเดินออกหน้า
8.                เขาออกมายืนตะโกนไปทางแนวอิสราเอลว่า “เจ้าทั้งหลายออกมาทำศึกทำไมเล่า ข้าเป็นคนฟีลิสเตียไม่ใช่หรือ เจ้าก็เป็นข้าของซาอูลไม่ใช่หรือ จงเลือกคนแทนพวกเจ้าให้เขามาหาข้านี่
9.          ถ้าเขาสามารถสู้รบและฆ่า ตัวข้าได้ พวกเราจะยอมเป็นข้าพวกเจ้า แต่ถ้าข้าชนะเขาและฆ่าเขาได้ แล้วพวกเจ้าต้องเป็นข้าของพวกเรา และรับใช้เรา”
10.              คนฟีลิสเตียคนนั้นกล่าวว่า “วันนี้ข้าขอท้ากองทัพของอิสราเอล จงส่งคนมาสู้กันเถิด”
11.             เมื่อซาอูลและคนอิสราเอล ทั้งสิ้นได้ยินถ้อยคำของคนฟีลิสเตียคนนั้น  เข้าทั้งหลายก็ท้อใจและกลัวมาก
14.              ดาวิดเป็นบุตรคนสุดท้อง  พี่ชายทั้งสามคนก็ตามซาอูลไปแล้วแต่ดาวิดไปๆมาๆอยู่ ระหว่างซาอูลกับการที่เลี้ยงแกะของบิดาที่เบธเลเฮมคนฟีลิสเตียคนนั้น  ได้ออกมายืนท้าอยู่ทั้งเช้าและเย็นตั้งสี่สิบวัน
19.           ฝ่ายซาอูลกับเขาทั้งหลายและคน อิสราเอลทั้งปวง อยู่ที่หุบเขาเอลาห์สู้รบกับคนฟีลิสเตียอยู่
20.           ดาวิดจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด และทิ้งแกะไว้กับผู้ดูแลนำเสบียงอาหารเดินทางไปตามที่เจสซีได้บัญชาแก่เขา และเขาก็มาถึงเขตค่ายขณะเมื่อกอง ทัพกำลังยกออกไปสู่แนวรบ พลางร้องกราวศึก
21.       คนอิสราเอลและคนฟีลิสเตียก็ยกมาจะปะทะกัน กองทัพปะทะกับกองทัพ
22.       ดาวิดจึงมอบสัมภาระไว้กับผู้ดูแลกองสัมภาระ และวิ่งไปที่แนวรบไปทักทายพี่ชายของตน
23.    เมื่อเขากำลังพูดกันอยู่ ดูเถิดคนฟีลิสเตียชาวเมืองกัท ยอดทหารที่ชื่อโกลิอัทออกมาจากแนวรบฟีลิสเตีย กล่าวท้าทายอย่างก่อนและดาวิดก็ได้ยิน
24.      เมื่อคนอิสราเอล เห็นชายคนนั้นก็วิ่งหนีเขาไป กลัวเขามาก
25.     คนอิสราเอลพูดว่า “เจ้าเคยเห็นคนที่ออกมานั้นหรือ เขาออกมาท้าทายอิสราเอลแท้ๆ ถ้าใครฆ่าเขาได้ พระราชาจะพระราชทานทรัพย์ให้เขามากมาย และจะมอบธิดา ให้ด้วย  และกระทำให้ครอบครัวของบิดาของเขาเป็นคนยกเว้นการเกณฑ์ในอิสราเอล”
26.  และ ดาวิดกล่าวแก่ชายคนทียืนข้างเขาว่า “เขาจะทำอย่างไรแก่คนที่ฆ่าคนฟีลิสเตียคนนี้ได้ และนำเอาความเหยียดหยามอิสราเอลไปเสีย คนฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตคนนี้คือใครเล่า เขาจึงมาท้าทายกองทัพของพระเจ้าอยู่”
27.           ประชาชนตอบเขาอย่างเดียวกันว่า “ผู้ ที่ฆ่าเขาได้ก็จะได้รับดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น”
               31.           เมื่อเขาทั้งหลายได้ยินคำที่ดาวิดพูด เขาทั้งหลายก็เล่าความให้ซาอูลทราบ  ซาอูลจึงใช้คนให้ไปตามดาวิด
               32.           ดาวิดจึงทูลซาอูลว่า “อย่าให้จิตใจผู้ใดฝ่อเป็นเพราะชายคนนั้นเลย ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะไปสู้รบกับคนฟีลิสเตียคนนั้น”
               33.           และซาอูลกล่าวแก่ดาวิดว่า “เจ้าไม่สามารถที่จะไปสู้รบกับคนฟีลิสเตียคนนั้นดอกเพราะเจ้าเป็นเด็กหนุ่ม และเขาเป็นทหารชำนาญศึกมาตั้งแต่หนุ่มๆแล้ว”
               37.           และดาวิดทูลต่อว่า “พระเจ้าผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากขยุ้มเท้าของสิงห์ และจากขยุ้มเท้าของหมี จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือ ของคนฟีลิสเตียคนนี้” และซาอูลจึงตรัสแก่ดาวิดว่า “จงไปเถอะ และพระเจ้าจะทรงสถิตอยู่ กับเจ้า”
               38.           แล้วซาอูลทรงเอาเครื่องอาวุธของพระองค์สวมให้ดาวิด ทรงสวมหมวกทองสัมฤทธิ์บนศีรษะของเขา และสวมเสื้อเกราะให้เขา
               39.           และดาวิดก็คาดดาบทับเครื่องอาวุธ  เขาลองเดินดูก็เห็นว่าใช้ไม่ได้  เพราะเขาไม่ชิน แล้วดาวิดจึงทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทจะสวมเครื่องเหล่านี้ไปไม่ได้  เพราะข้าพระบาทไม่ชิน”ดาวิดจึงปลดออกเสีย
               40.           แล้วจึงถือไม้เท้าไว้ และเลือกก้อนหินเกลี้ยงจากลำธารได้ห้าก้อน จึงใส่ในย่ามผู้เลี้ยงแกะของเขาในถุงของเขา และมือถือสลิงอยู่ ท่านก็เข้าไปใกล้คนฟีลิสเตียคนนั้น
               44.           คนฟีลิสเตียพูดกับดาวิดว่า “มาหาข้านี่ ข้าจะเอาเนื้อของเจ้า ให้นกในอากาศ กับสัตว์ในทุ่งกิน”
               45.           แล้วดาวิดก็พูดกับคนฟีลิสเตีย คนนั้นว่า “ท่านมาหาข้าพเจ้าด้วยดาบ ด้วยหอกและด้วยหอกซัด แต่ข้ามาหา ท่านในนามพระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอลผู้ซึ่งท่านได้ท้าทายนั้น
               46.           ในวันนี้พระเจ้าได้มอบท่านไว้ในมือข้า และข้าพเจ้าจะประหารท่านและตัดศีรษะของท่านเสีย  และในวันนี้ข้าพเจ้าจะให้ศพของกองทัพฟีลิสเตียแก่นกในอากาศและสัตว์ป่าเพื่อทั้งพิภพนี้จะทราบว่า  มีพระ เจ้าองค์หนึ่งในอิสราเอล
               48.           อยู่มาเมื่อคนฟีลิสเตียคนนั้นลุกขึ้นเข้ามาใกล้ เพื่อปะทะดาวิด ดาวิดก็วิ่งเข้าหาแนวรบเพื่อปะทะกับ คนฟีลิสเตียคนนั้นอย่างรวดเร็ว
               49.           และดาวิดเอามือล้วงเข้าไปในย่ามหยิบก้อนหินก้อนหนึ่งออกมา แล้วเหวี่ยงก้นหินนั้นด้วยสายสลิงถูกคนฟีลิสเตียคนนั้นที่หน้าผาก  ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผาก  เขาล้มหน้าคว่ำลงที่ดิน      
              50.           ดังนั้นดาวิดก็ชนะคนฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหินก้อนหนึ่ง และคว่ำคนฟีลิสเตียคนนั้นเสีย และฆ่าเขาเสีย ดาวิดไม่มีดาบอยู่ในมือ
               51.           แล้วดาวิดวิ่งไปยืนอยู่เหนือคนฟีลิสเตียคนนั้น  หยิบดาบของเขาออกจากฝักฆ่าเขาเสียและตัดศีรษะของเขาออก เสียด้วยดาบ เมื่อคนฟีลิสเตียเห็นว่ายอดทหารของเขาตายเสียแล้วก็พากันหนีไป
               52.           คนอิสราเอลกับคนยูดาห์ก็ลุกขึ้นโห่ร้องไล่ตามคนฟีลิสเตียไกลไปจนถึงเมืองกัทและถึงประตูเมืองเอโครน ทหารฟีลิสเตียที่บาดเจ็บ จึงล้มลงจากทางชาอาราอิม ไกลไปจนถึงเมืองกัทและเอโครน
    53.            และคนอิสราเอลก็กลับมาจากการไล่ติดตามคนฟีลิสเตีย  และมาปล้นค่ายของเขา
    54.            ดาวิดก็นำศีรษะของคนฟีลิสเตียคนนั้นมาที่กรุงเยรูซาเล็ม  แต่เขาเอาเครื่องอาวุธของเขาไว้ที่เต็นท์แล้ว
               57.           เมื่อดาวิดกลับมาจากการฆ่าคนฟีลิสเตีย  อับเนอร์ก็มาพาตัวเขาเข้าไปเฝ้าซาอูลถือศีรษะของคนฟีลิ สเตียคนนั้นไปด้วย
               58.           ซาอูลจึงตรัสถามเขาว่า “เจ้าหนุ่มเอ๋ย เจ้าเป็นลูกของใคร”และดาวิดทูลว่า “ข้าพระบาทเป็นบุตรของเจสซีชาวเบธเลเฮมผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท”

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 19:41:35

จากคุณ : atiw1000
เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 19:40:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com