|
พระโปฐิละปฏิบัติตามคำสั่งสอนของสามเณร ลำดับนั้น สามเณรจึงแสดงสระๆ หนึ่งในที่ไม่ไกล แล้วกล่าวกะท่านว่า "ท่านขอรับ ท่านนุ่งห่มตามเดิมนั่นแหละ จงลงไปสู่สระนี้." จริงอยู่ สามเณรนั้น แม้รู้ความที่จีวรสองชั้นซึ่งมีราคามาก อันพระเถระนั้นนุ่งห่มแล้ว เมื่อจะทดลองว่า "พระเถระจักเป็นผู้อดทนต่อโอวาทได้หรือไม่" จึงกล่าวอย่างนั้น. แม้พระเถระก็ลงไปด้วยคำๆ เดียวเท่านั้น. ลำดับนั้น ในเวลาที่ชายจีวรเปียก สามเณรจึงกล่าวกะท่านว่า "มาเถิด ท่านขอรับ" แล้วกล่าวกะท่านผู้มายืนอยู่ด้วยคำๆ เดียวเท่านั้นว่า "ท่านผู้เจริญ ในจอมปลวกแห่งหนึ่ง มีช่องอยู่ ๖ ช่อง, ในช่องเหล่านั้น เฮี้ยเข้าไปภายในโดยช่องๆ หนึ่ง บุคคลประสงค์จะจับมัน จึงอุดช่องทั้ง ๕ นอกนี้ ทำลายช่องที่ ๖ แล้ว จึงจับเอาโดยช่องที่มันเข้าไปนั่นเอง, บรรดาทวารทั้งหก แม้ท่านจงปิดทวารทั้ง ๕ อย่างนั้นแล้ว จงเริ่มตั้งกรรม๑- นี้ไว้ในมโนทวาร." ด้วยนัยมีประมาณเท่านี้ ความแจ่มแจ้งได้มีแก่ภิกษุผู้เป็นพหูสูต ดุจการลุกโพลงขึ้นแห่งดวงประทีปฉะนั้น. พระโปฐิละนั้นกล่าวว่า "ท่านสัตบุรุษ คำมีประมาณเท่านี้แหละพอละ" แล้วจึงหยั่งลงในกรชกาย๒- ปรารภสมณธรรม.
เมื่อหลักการเป็นอย่างนี้ แม้เราจะเดินจงกรม แต่เราก็ต้องให้เหลือแต่ทวารใจอย่างเดียว แต่การที่เอาใจไปตั้งไว้ที่การย่างก้าวว่า ก้าวสั้นยาวเพียงใด นั้น เท่ากับเป็นการส่งจิตออกนอกตัว ไม่เป็นไปตามคำสอนข้างต้น
การฝึกสติกับฝึกสมาธินั้น ไม่เหมือนกันน่ะครับ
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 55 10:01:03
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 55 09:59:41
จากคุณ |
:
bodymind
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ต.ค. 55 09:48:43
|
|
|
|
|