|
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙ ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
๗. มหาสุบินชาดก ว่าด้วยมหาสุบิน
[๗๗] หม่อมฉันได้ฝันเห็นโคอุสุภราช ๑ ต้นไม้ ๑ แม่โค ๑ โคสามัญ ๑ ม้า ๑ ถาดทองคำ ๑ สุนัขจิ้งจอก ๑ หม้อน้ำ ๑ สระโบกขรณี ๑ ข้าวสารที่หุง ไม่สุก ๑ แก่นจันทน์ ๑ น้ำเต้าจมน้ำ ๑ หินลอยน้ำ ๑ นางเขียดกลืนกิน งูเห่า ๑ หงส์ทองแวดล้อมกา ๑ :-)ลัวแพะ ๑ ดังนี้ ปริยายอันผิดจะ เป็นไปในยุคนี้ ยังไม่สำเร็จ.
จบ มหาสุบินชาดกที่ ๗.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=27&A=502&Z=509
อรรถกา
http://84000.org/tipitaka/attha/seek.php?text=%CA%D8%BA%D4%B9&t=b&b=27&bs=6
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=77
เรื่องนี้ยังตอบยากว่าจะมีแต่สมัยพุทธกาลจริงหรือไม่ เพราะโดยปกติตถาคตจะไม่กล่าวเรื่องลักษณะนี้
ในการสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งนั้นได้มีพระมหาเถระ 3 รูปที่มีส่วนสำคัญในการสังคายนา กล่าวคือ พระอานนท์เถระ ผู้เป็นพุทธอุปฐาก ท่านเป็นผู้ทรงจำพระพุทธวจนะไว้ได้มาก ท่านจึงได้รับหน้าที่ตอบคำถามเกี่ยวกับพระธรรม ดังบทสวดคาถาต่าง ๆ มักขึ้นต้นด้วย
“เอวัมเม สุตัง เอกัง สะมะยัง ภะคะวา.....” อันหมายถึง
“ข้าพเจ้า (คือพระอานนท์เถระ) ได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า”
http://th.wikipedia.org/wiki/พระอานนท์
เรื่องเขียนไว้มีแต่สมัยนาลันทาแล้ว แถมหนักกว่ายุคนี้อีก แต่ก็ต้องดูว่าจะใส่สีใสไข่ขนาดไหน
เนื้อหาทั้งหมดนี้คัดลอกจาก หนังสือธรรมจักร ธนิต อยู่โพธิ์ เรียบเรียง กรมศิลปากร จัดพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2508
พระเจ้าปุษยมิตร แห่งราชวงศ์ศุงคะ ขึ้นครองราชสมบัติ ณ นครปาฏลิบุตร ราวระหว่าง พ.ศ. 356 - 392 มีตำนานกล่าวว่า ทรงเป็นศัตรูจองล้างจองผลาญพระพุทธศาสนา เช่นที่กล่าวไว้ในคัมภรีย์มัญชุศรีมูลกัลป ว่า
นาศยิษฺยติ ตทา มุธา วิหารํ ธาตุวรํ สตธา ภิกฺษวะ ศีลสมฺปนฺนมฺ ฆาตยิษฺยติ ทุรฺติ แปลว่า
"ครั้งนั้น ผู้โฉดเขลา จักทำลายวิหารที่ประดิษฐานพระบรมธาตุให้ย่อยยับหาประโยชน์มิได้ จักฆ่าพระภิกษุผู้มีศีลสมบูรณ์"
และว่าพระเจ้าปุษยมิตรทรงกำหนดวางสินบนเป็นค่าศีรษะพระภิกษุสงฆ์ไว้ด้วย ดังมีกล่าวในคัมภรีย์ทิวยาวทาน ว่า
โย เม ศฺรมณศิโร ทาสยติ, ตสฺยาหํ ทินารฺศตํ ทาสยามิ แปลว่า
"ผู้ใดนำศีรษะสมณะมาให้แก่เรา เราจะให้รางวัลหนึ่งร้อยทินาร์แก่ผู้นั้น"
นักประวัติศาสตร์บางท่านกล่าวแย้งว่า ข้อความในคัมภีร์ทั้งสองนี้ ดูจะเป็นคำปรับปรำพระเจ้าปุษยมิตรเกินไป แต่ก็มีความจริงอยู่ว่า พระเจ้าปุษยมิตรนั้นมีพระชาติกำเนิดเป็นพราหมณ์และทรงนับถือศาสนาพราหมณ์
ทั้งปรากฏว่าภายหลังปราบดาภิเษกแล้ว ก็ได้โปรดให้รื้อฟื้นความเชื่อถือและลัทธิพิธีสมัยพระเวทขึ้นมาอีก ซึ่งเป็นการตรงข้ามกับพระเจ้าอโศกมหาราชที่โปรดอุปถัมภ์บำรุงพระบวรพุทธศาสนา จึงเป็นธรรมดาที่พระภิกษุสงฆ์ และชาวพุทธศาสนิกจะพากันไม่พอใจ จึงได้มีข้อความปรากฏในพระคัมภีร์ดังกล่าว
http://www.dhammajak.net/jaka/jaka07.htm
สมัยอยุธยาก็มีเพลงยาวพยากรณ์ เพื่อผลทางการเมือง ใช้คติ "อดีตดีกว่าปัจจุบัน" ซึ่งไม่เป็นความจริงใดๆทั้งสิ้น
สมับพุทธการกวาดล้าง คนที่ไม่ใช่อารยัน ก็รุนแรง จัณฑาลก็แย่กว่าสมัยนี้มาก การที่ตถาคตประกาศพระศาสนา แสดงความเท่ากันทางชาติกำเนิด ชาติพันธุ์ ก็ต้องมีกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ และมีความรุนแรงในสมัยต่อมา ไม่ใช่เรื่องที่จะเกินจริงแต่อย่างใด
เหตุการณ์แย่งน้ำ ,ลูกฆ่าพ่อ ,ญาติฆ่าญาติ ,สงครามระหว่างแคว้น ล้วนมีมาแล้วทั้งสิ้น ก่อนน่านั้นก็มีเป็นธรรมดาโลก ไม่ได้แปลกประหลาดอะไรเลย
แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 55 11:55:21
จากคุณ |
:
ต็กโกวคิ้วป้าย
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ต.ค. 55 11:50:55
|
|
|
|
|