|
การศึกษาวิเคราะห์อธิษฐานบารมี ในพระพุทธศาสนาเถรวาท
พระมหาวนัส กตสาโร (ทิมนิ่ม) ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงนิพนธ์ว่า
ยุคแรก ๆ ในระยะต้นนั้น คำว่า บารมีหมายถึงความเป็นเลิศ ความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ในด้านใดก็ได้ ต่อมาความหมายของศัพท์แคบเข้า กล่าวคือ
หมายถึงความเป็นเลิศหรือความบริบูรณ์ในหมวดธรรมหมวดใดหมวดหนึ่งในพระพุทธศาสนา ในที่สุดจะหมายถึงความเป็นเลิศ หรือเป้าหมายสูงสุดในทางพระพุทธศาสนาคือพระนิพพาน
ความหมายของคำว่าบารมีในยุคหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เข้าใจกันอย่างแพร่หลายในหมู่คนไทย คือ หมวดธรรมะหรือวิธีการ ๑๐ ประการ ที่จะทำให้ผู้ประพฤติปฏิบัติได้บรรลุถึงพระนิพพาน ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้านความหมาย คือ
"เปลี่ยนจากเป้าหมายไปเป็นวิธีการที่จะบรรลุเป้าหมาย"๑๓
๑๓ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี, ทศบารมี ในพุทธศาสนาเถรวาท, หน้า ก.
๒.๑ ความเข้าใจเรื่องอธิษฐานบารมีในสังคมไทย
ในสังคมไทย คำว่า อธิษฐาน เมื่อถูกนำไปใช้แล้ว มีความหมายที่หลากหลาย ก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนและสับสนกันมากในหมู่พุทธศาสนิกชน
ในวิทยานิพนธ์นี้จะศึกษาความหมายของคำว่า “อธิษฐาน” ที่ถูกนำไปใช้ในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อให้ทราบว่าสิ่งที่เรียกว่า “อธิษฐาน” ในบริบทต่าง ๆ ของสังคมไทยมีความแตกต่างจากความหมายที่แท้จริงอย่างไร
๒.๑.๑ การอธิษฐานกับการอ้อนวอน คำว่า “อธิษฐาน” ตามความเข้าใจของคนทั่วไปมักหมายถึงการอ้อนวอนร้องขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเคารพนับถือ เช่น การไปกราบไหว้พระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ตามวัดต่าง ๆ หรือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่าง ๆ แล้วก็ขอให้ตนได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ หรือเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และมีการบนบานศาลกล่าวด้วยว่าถ้าตนได้สมประสงค์ในสิ่งที่อ้อนวอนแล้ว ก็จะนำ สิ่งของหรือจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้มาสักการะเพื่อเป็นการตอบแทน
การอ้อนวอนจึงมักเกี่ยวโยงกับการบนบานศาลกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ได้กล่าวถึงเรื่องอธิษฐานกับการอ้อนวอนไว้ว่า
เวลานี้ คนไทยทั่วไปก็เข้าใจเคลื่อนคลาดผิดพลาดไปในความหมายของ “อธิษฐาน” มักนึกถึงอธิษฐานในความหมายที่เป็นการอ้อนวอนปรารถนา เรื่องก็เลยกลายเป็นว่าอธิษฐานของคนไทย กับอธิษฐานของพระไม่เหมือนกัน พูดง่าย ๆ ว่า
คนไทยอธิษฐานเพื่อจะได้ แต่พระสอนให้อธิษฐานเพื่อจะทำ๑
๑ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต), จาริกบุญ จาริกธรรม, (กรุงเทพฯ : พิมพ์สวย, ๒๕๔๑),หน้า ๓๓๑.
การอธิษฐานบารมีตามหลักพระพุทธศาสนา เป็นการตั้งจุดมุ่งหมายหรือความปรารถนาต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือเพื่อกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยอาศัยการกระทำของตน กล่าวคือ
เมื่อมีการตั้งความปรารถนาแล้วก็ดำเนินตามจุดมุ่งหมายที่วางไว้อย่างแน่วแน่ เช่น
การตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า หรือตั้งความปรารถนาเป็นพระสาวกเอตทัคคะด้านต่าง ๆ
เป็นการตั้งจุดมุ่งหมายแล้วก็ปฏิบัติตนตามจุดมุ่งหมายนั้น ๆ มีหลักการและวิธีการปฏิบัติที่ ชัดเจน ซึ่งการตั้งจุดมุ่งหมายนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ได้ทำบุญกุศลอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนแล้วจึงอธิษฐานหรือตั้งความปรารถนา จากนั้นก็ทุ่มเทบำเพ็ญบารมีเพื่อให้ไปถึงจุดหมายนั้น เน้นการกระทำของตนเป็นสำคัญ
ต่างจากการอ้อนวอนซึ่งหลังจากอ้อนวอนแล้วก็ไม่มีหลักการที่แน่นอนว่าตนเองจะทำอะไรให้ได้ในสิ่งที่อ้อนวอนนั้น ปล่อยให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของเทพเจ้าแล้วแต่จะดลบันดาลให้ อันเป็นลักษณะของศาสนาเทวนิยม ซึ่งไม่ตรงตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
การอธิษฐานเป็นการทำเหตุให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนาโดยตนเอง แต่การอ้อนวอนหวังผลจากสิ่งภายนอก หรืออาจกล่าวได้ว่าการอธิษฐานเน้นที่ผลสัมพันธ์กับเหตุ ส่วนการอ้อนวอนเน้นที่ผลไม่สนใจเหตุ...
อธิษฐานกับการสาบาน
ในสังคมไทยของเรานั้น ยังมีคำที่ทำให้เกิดความสับสนกันมากในเรื่องอธิษฐาน คือคำว่า “สาบาน” เพื่อให้เข้าใจชัดเจนในความแตกต่างของทั้งสองคำนี้ ผู้วิจัยจะได้นำ ความหมายของคำที่เกี่ยวข้องตามที่ได้นิยามไว้ในพจนานุกรมมาประกอบตามลำดับ ดังนี้
คำว่า “ปฏิญาณ” หมายถึง การให้คำมั่นสัญญา โดยมากมักเป็นไปตามแบบพิธี๑๐ คำว่า “ปฏิญญา” หมายถึง การให้คำมั่นสัญญา หรือการแสดงยืนยันโดยถือเอาสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์หรือความสุจริตใจเป็นที่ตั้ง๑๑ คำว่า “สบถ” หมายถึง การเปล่งถ้อยคำเพื่อเน้นให้คนเชื่อโดยอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลงโทษตนหรือให้ภัยพิบัติต่าง ๆ เกิดกับตน ถ้าหากตนไม่ปฏิบัติตามหรือไม่เป็นไปอย่างที่พูดไว้๑๒ คำว่า “สัตยาธิษฐาน” หมายถึง การตั้งความจริงใจเป็นหลักอ้าง เช่น ขอตั้งสัตยาธิษฐานอ้างอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก๑๓
๑๐ ราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒, (กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์ พับลิเคชั่นส์, ๒๕๔๖), หน้า ๖๔๗. ๑๑ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๖๔๗. ๑๒ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๑๑๒๒. ๑๓ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๑๑๖๔.
คำว่า “สาบาน” หมายถึง การกล่าวคำปฏิญาณโดยอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยาน, ประเพณีเดิมจะต้องดื่มน้ำพระพุทธมนต์ น้ำเทพมนต์ หรือสุราผสมเลือดที่ผู้ร่วมกล่าวคำ ปฏิญาณกรีดให้หยดลงไปด้วย เช่น
สาบานเป็นพี่น้องกัน เพื่อนร่วมสาบาน, การกล่าวคำปฏิญาณตามลัทธิศาสนา หรือจารีตประเพณีแห่งชาติของตนว่า จะให้การตามสัตย์จริง๑๔
คำสาบาน เป็นคำแช่ง เพราะคำว่า “สาบาน” นั้น แปลตามศัพท์ว่า “แช่ง” ฉะนั้น
คำสาบานทุกเรื่องจะต้องมีการแช่งตัวเอง คือ เริ่มต้นด้วยการกล่าวรับรองว่าจะปฏิบัติอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าไม่ปฏิบัติตามที่พูดไว้ ก็ขอให้ผลร้าย อันตรายต่าง ๆ บังเกิดขึ้นแก่ตนเอง
คำสาบานต้องมีลักษณะเป็นการแช่งตัวเอง ถ้าไม่มีการแช่งจะเรียกว่าสาบานไม่ได้
สัจจาธิษฐาน∗ ตรงกันข้ามกับสาบาน กล่าวคือ แทนที่จะมีการแช่ง กลับมีการให้ พรหรือขอพรไว้ข้างท้าย ทั้งนี้โดยดำเนินตามหลักในทางพระพุทธศาสนา กล่าวคือในทาง พระพุทธศาสนาไม่มีการแช่ง มีแต่ว่าถ้าทำดีก็ให้มีความเจริญ
ถ้าทำตามถ้อยคำที่ให้ไว้ก็ให้มีความสุขสวัสดี ถ้าหากทำผิดจะได้รับผลอะไรก็ตามทีแต่ในทางพระพุทธศาสนาไม่ได้แช่งไว้ คำสัจจาธิษฐานก็เริ่มต้นอย่างเดียวกับคำสาบาน คือกล่าวรับรองว่าจะปฏิบัติอย่างนั้นอย่างนี้แต่ลงท้ายแทนที่จะแช่งตัวเองให้ได้รับภัยอันตรายต่าง ๆ ในเมื่อกระทำผิดถ้อยคำ กลับกล่าวไปในทางที่ดี กล่าวคือ
เมื่อได้ปฏิบัติตามถ้อยคำที่พูดนั้นแล้ว ก็ขอให้มีความสวัสดี ส่วนการที่ไม่ปฏิบัติหรือทำผิดจากถ้อยคำที่ให้ไว้นั้นไม่พูดถึง เพราะการสาปแช่งไม่ใช่คติของพระพุทธศาสนา๑๕
การอธิษฐานเป็นบารมีที่พระโพธิสัตว์ต้องบำเพ็ญและนำมาซึ่งความสำเร็จ ตรงข้ามกับการสาบานซึ่งให้ผลเป็นความทุกข์ หากผู้ที่สาบานทำผิดจากคำที่สาบานไว้ มีตัวอย่างปรากฏในพระไตรปิฎก เช่น
ปัญจปุตตขาทิกเปติวัตถุ ว่าด้วยเรื่อง นางเปรตผู้กินลูกคราวละ ๕ ตน อันเป็นผลเนื่องมาจากการที่ตนได้กล่าวคำสาบานเท็จอย่างรุนแรงว่า
ถ้าดิฉันทำความชั่วอย่างนั้นจริงก็ขอให้กินเนื้อลูกเถิด เพราะผลกรรมคือการทำลายสัตว์มีชีวิตและการกล่าวเท็จที่ได้สาบานไว้ในอดีตชาติที่เป็นมนุษย์ จึงทำให้มีร่างกายเปื้อนหนองเปื้อนเลือด และกินเนื้อลูกตนเอง๑๖
๑๔ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๑๑๗๖. ∗ สัจจา เป็นภาษาบาลี ภาษาสันสกฤตเขียนเป็น สัตยา. ๑๕ จำนงค์ ทองประเสริฐ, “คำสาบาน-สัจจาธิษฐาน-คำปฏิญาณ” <http://www.tpschamnong.iirt.net/article/basa_5nt023.html>, ๑๔ สิงหาคม ๒๕๒๔.
๓.๒ การบำเพ็ญอธิษฐานบารมีก่อนได้รับพุทธพยากรณ์
ตามความหมายของคำว่าอธิษฐานบารมีที่ว่า ความตั้งใจมั่น การตัดสินใจเด็ดเดี่ยว วางจุดหมายแห่งการกระทำของตนไว้แน่นอนและดำเนินตามนั้นแน่วแน่, การตั้งใจมุ่งผล อย่างใดอย่างหนึ่ง, การตั้งจิตปรารถนา๑๕ ซึ่งเป็นความหมายในแง่ที่เป็นบารมี ดังนั้น
การตั้งความปรารถนาหรือความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของพระโพธิสัตว์เพื่อต้องการเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งที่เป็นอนิยตโพธิสัตว์ ผู้วิจัยจึงมีความเห็นว่าต้องเป็นอธิษฐานบารมีด้วย
http://www.sriprawat.net/bara25.pdf
จากคุณ |
:
ต็กโกวคิ้วป้าย
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ต.ค. 55 16:29:17
|
|
|
|
|