Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จริงหรือไม่ นั่งสมาธิต้องนั่งให้ปวดขา ? ติดต่อทีมงาน

ครูบาอาจารย์หลายท่านหลายสำนัก ท่านสอนว่า การปฏิบัติวิปัสสนาหรือทำสมาธิ เมื่อน่าทั่งขัดสมาธิแล้ว เกิดอาการปวดขา ให้กำหนดเวทนาที่ขานั้นจนเวทนาหายไป หรือกำหนดความไม่เที่ยงของเวทนานั้น หรือกำหนดว่าเวทนานั้นสักเป็นธาตุขันธ์ หรือกำหนดหนอ  ตามอัธยาศัยของแต่ละสำนักที่ปฏิบัติกัน  

การกำหนดเวทนาเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์  เพราะหลายท่านได้ทราบถึงการที่จิตหลุดพ้นจากการยึดถือได้ก็เพราะพบทุกขเวทนานี้เหมือนกัน  บางท่านเกิดความรู้แจ้งเห็นจริงว่า แต่ก่อน ที่ปวดขาแล้วไม่สบายใจ กลุ้มใจ ก็เพราะว่าจิตไปยึด  แต่ตอนนี้เห็นแล้วว่า เวทนาก็สักว่าเวทนา  จิตก็จิต  ปวดขาแต่ก็ไม่ทุกข์ใจ  บางคนเห็นได้อย่างนี้  พอออกจากสำนักปฏิบัติธรรมก็ใช้หลักนี้แ้ก้ปัญหาในชีวิตอื่น ๆ จนสำเร็จได้ก็มี  

แต่การตระเตรียมปฏิบัติสมาธิที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติิไว้นั้น ก็มีหลักเช่นเดียวกัน  ที่จะทำให้ผู้ปฏิบัิติไม่ถูกเวทนาเบียดเบียน  เพราะพระพุทธองค์ทรงเห็นว่า ไม่ใช่ทุกคน  ที่พบเวทนาแล้วจะบรรลุธรรม  แต่กลับกลายเป็นความตึงเครียด  ในสมัยพุทธกาล  มีพระภิกษุรูปหนึ่ง ท่านคิดฆ่าตัวตาย  เพียงเพราะเวทนาทางกายทำให้ฌานท่านเสื่อม  

ข้อความจากโคธิกสูตรที่ ๓
     
     
            [๔๘๙] ครั้งนั้นแล ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิต
มั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ ภายหลังท่านโคธิกะได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น
             แม้ครั้งที่ ๒ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรมีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๒ ก็ได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น
              แม้ครั้งที่ ๓ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๓ ก็ได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น
               แม้ครั้งที่ ๔ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๔ ก็ได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น
               แม้ครั้งที่ ๕ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๕ ก็ได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น
               แม้ครั้งที่ ๖ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๖ ก็ได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น
               แม้ครั้งที่ ๗ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ก็ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์อีก ฯ

            ครั้งนั้นแล ท่านโคธิกะได้เกิดความคิดอย่างนี้ว่า เราได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ถึง ๖ ครั้งแล้ว ถ้ากระไรเราพึงนำศัสตรามา ฯ"


จากบทนี้ในพระไตรปิฎก ท่านพระโคธิกะคิดจะนำอาวุธมาปลิดชีพท่านเอง

อรรถกถาท่านอธิบายว่า

             ในบทว่า ปริหายิ ถามว่า เพราะเหตุไร ท่านโคธิกะจึงเสื่อมถึง ๖ ครั้ง.
             ตอบว่า เพราะท่านมีอาพาธ.
             ได้ยินว่า พระเถระมีอาพาธเรื้อรัง [ประจำตัว] โดยเป็นโรคลมน้ำดีและเสมหะ. ด้วยอาพาธนั้น พระเถระจึงไม่อาจบำเพ็ญอุปการธรรมให้เป็นสัปปายะของสมาธิได้ จึงเสื่อมจากสมาบัติที่แน่วแน่แนบแน่นไปเสีย.

             บทว่า ยนฺนูนาหํ สตฺถํ อาหเรยฺยํ ความว่า ได้ยินว่า พระเถระคิดจะฆ่าตัวตาย. ผู้มีฌานเสื่อมกระทำกาละ [ตาย] คติไม่แน่นอน. ผู้มีฌานไม่เสื่อม คติแน่นอนคือย่อมบังเกิดในพรหมโลก เพราะฉะนั้น พระเถระจึงประสงค์จะฆ่าตัวตายเสีย.

จากคุณ : Real~Fine
เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 13:49:06




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com