|
เอาตามหลักปฏิบัติ ที่เราจะเห็นจริงได้ ผสมกับหลักทางตำราบ้าง เพื่อจะได้เข้าใจได้ตรงจุดและหาทางแก้ทุกข์ไปได้ ไม่มากก็น้อย....
-----------------------------------------------------
เอาที่ความหมายของตัวทุกข์ก่อน....
ตัวทุกข์ องค์ธรรมคือ เวทนาเจตสิก
-----------------------------------------------------
ทำนองเดียวกับเมื่อเราเจอปัญหาอะไร เราก็เอาตัวปัญหานั้นนั้นมาแยกแยะแจกแจง หาองค์ประกอบของมันทุกๆอย่าง หาดูข้อมูลทุกๆอย่างของมัน เพื่อวิเคราะห์ให้กระจ่างชัดในทุกๆแง่มุมของตัวปัญหานั้นๆ ... เมื่อเราเจอทุกข์ เราอยากจะแก้ทุกข์ เราก็ใช้วิธีเดียวกัน ..นี่คือความหมายของประโยคว่า "ทุกข์ควรกำหนดรู้"
------------------------------------------------------
เรามาแยกแยะ ทุกข์ สุข กันลองดู.....
ทุกข์ และ สุข มีองค์ธรรมเดียวกันคือ เวทนา หรือ เวทนาเจตสิก
เวทนา จัดเข้าเป็นขันธ์กองหนึ่ง เรียกว่า เวทนาขันธ์
------------------------------------------------------
ทุกข์ มาจากรากศัพท์ คือ ทุ + ขะ = ทุขะ (เขียนแบบไทยว่า ทุกข์)
ทุ แปลว่า ยาก , ขะ แปลว่า ทน...ทุขะ หรือ ทุกข์ จึงแปลว่า ทนยาก
สุข มาจากรากศัพท์ คือ สุ + ขะ = สุขะ (เขียนแบบไทยว่า สุข)
สุ แปลว่า ง่าย , ขะ แปลว่า ทน...สุขะ หรือ สุข จึงแปลว่า ทนง่าย
-----------------------------------------------------
จะเห็นว่า สรุปทั้งสุขและทุกข์ ที่แท้มันก็คือ การทน นั่นเอง... , ทนง่ายหรือทนยาก ? , ..ถ้าทนได้ง่าย เราจะรู้สึกว่า สุข ...ถ้าทนได้ยาก เราจะรู้สึกว่าทุกข์ ..ก็แค่นั้นเอง
-----------------------------------------------------
เวทนา มีทั้งทางกาย และ ทางใจ
-----------------------------------------------------
สรุปในแง่ความหมาย ทั้งสุขและทุกข์ มันคือสิ่งเดียวกัน ต่างกันที่ความเข้มข้นของการปรุงแต่ง
ถ้าตัวเวทนาเจตสิก ปรุงแต่งอ่อนเบา คนเรา(หรือสัตว์ทั้งหลาย)จะรู้สึกว่ามีความสุข ยิ่งเวทนาปรุงแต่งอ่อนเบามากๆ จะยิ่งรู้สึกสุขมากๆ เช่น การเข้าฌานในระดับต่างๆ ฌานยิ่งสูงขึ้น คือยิ่งสงบมากๆขึ้น ตัวเวทนาจะยิ่งปรุงแต่งอ่อนเบาลงยิ่งๆขึ้น จึงยิ่งรู้สึกสุขมากๆๆขึ้น โดยเฉพาะอรูปฌานที่ตัวเวทนาปรุงแต่งอ่อนเบามากๆ จะยิ่งรู้สึกสุขมากๆตามลำดับขั้น
ในทางกลับกัน ถ้าเวทนาเจตสิกปรุงแต่งหยาบๆมากๆ ก็จะยิ่งทำให้รู้สึกทุกข์มากๆขึ้น ดูง่ายๆ เช่น เราเอามือลูบแขนเบาๆ เราจะรู้สึกสุขสบาย ถ้าเราลูบแรงๆขึ้นไวๆขึ้น เราจะยิ่งรู้สึกแสบร้อนยิ่งขึ้นๆ
-------------------------------------------------------
ดังนั้น ..เมื่อเรารู้ธรรมชาติความจริงของความสุข ความทุกข์ แบบนี้แล้ว เราก็มาหาวิธีบริหารจัดการตัวเวทนาให้ดีๆ
-------------------------------------------------------
แต่มีข้อที่ต้องคำนึงอย่างหนึ่งคือ เวทนา หรือ เวทนาเจตสิก เป็นเจตสิกกลางๆ ที่อาจจะเข้าได้กับทั้งบาปและบุญ หรือทั้งกุศลและอกุศล คือเวทนาจะเข้ากับทางดี ก็ได้ กับทางชั่ว ก็ได้ .... ดังนั้นต้องระวังดีๆ
เพราะมีการทำชั่วหลายๆอย่าง ก่อนทำและขณะกำลังทำ จะทำให้ผู้ทำรู้สึกว่ามีความสุข(ดังนั้นคนทั่วไป จึงเสพย์ติดมัวเมาในการผิดศีล ทำชั่ว ผิดอบายมุขทั้งหลาย) ..แต่แน่ชัดว่า ภายหลัง จะมีความทุกข์แน่นอน
และมีการทำดีหลายๆอย่าง ก่อนทำและขณะกำลังทำ จะทำให้ผู้ทำรู้สึกว่ามีความทุกข์ (ดังนั้น มีน้อยคนจะชอบทำความดี) ...แต่แน่ชัดว่า ภายหลังจะมีความสุขแน่นอน
--------------------------------------------------------
วิธีหาความสุข หรือ ลดความทุกข์ หรือแก้ทุกข์ (ที่ถูกต้อง) จึงต้องหาวิธีที่จะทำให้
เวทนาเจตสิกปรุงแต่งอย่างอ่อนเบา ... ซึ่งมีหลายๆวิธี เช่น
- ลดความอยาก เพราะตัวอยากจะเป็นตัวไปกระตุ้นให้เกิดการปรุงแต่งเวทนาเจตสิกออกมาอย่างมากมาย นั่นคือการไปเพิ่มความร้อนรน ความทุกข์ในใจ
- เพิ่มความสงบ ด้วยวิธีต่างๆ เช่น การฝึกสมาธิ
- ลดภาระ หรือปัญหาต่างๆ ทำกิจต่างๆให้เสร็จ
- ถ้ามีความหวังอะไรที่จำเป็นต้องบรรลุ ก็หาทางทำให้สำเร็จบรรลุตามเป้าหมายที่หวังนั้น
-----------------------------------------------------------
วิธีที่ตรง ง่ายที่สุด คือ การลดละบาปต่างๆ , การหมั่นทำบุญบ่อยๆเรื่อยๆ , และฝึกสมาธิให้มากๆๆๆ เท่าที่จะทำได้ ... สรุปลงตรงนี้.
แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 55 21:50:48
จากคุณ |
:
โขตาน
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ต.ค. 55 21:37:41
|
|
|
|
|