^
"ใครเคยได้ยินมาบ้างมั้ยว่าธรรมชาติของจิตคือส่งออก จิตส่งออกตลอดเวลาเพราะมันเป็นโดยธรรมชาติ"
- เคยได้ยินมาอย่างนี้ว่า จิตปุถุชนที่ไม่ฝึกปฏิบัติมักส่งออกนอกเป็นธรรมชาติ
"มีก้อเพียงธรรมธาตุของพระอรหันต์ที่ไร้ซึ่งธรรมชาติส่งออกนั้น"
- ได้ยินมาอย่างนี้เหมือนกัน แต่อย่าลืมว่าพระโสดาบันท่านก็เคยเห็นนิพพาน แสดงว่าท่านต้องสามารถทำจิตให้หยุด
ส่งออกนอกได้เช่นกันแม้จะทำได้ไม่ต่อเนื่องตลอดเวลา
"ก้อยังสงสัยอยู่ว่าธรรมชาติส่งออกนี้จะหยุดนิ่งระยะหนึ่งถ้าเป็นสมาธิ แต่ก้อยังกลับมาส่งออกอีกเมื่อถอนจากสมาธิ
จะหมดสิ้นงานส่งออกเมื่อเป็นธรรมธาตุ"
- ถึงจะหยุดความคิดฟุ้งซ่านได้จากสมาธิแต่หากไม่มีสติสัมปชัญญะรู้สึกตัวอยู่อย่างเต็มที่ จิตย่อมหลงเกาะเกี่ยวอยู่ในสิ่งอื่นที่มิใช่จิต
เมื่อจิตเกาะอยู่ที่อื่นแสดงว่าจิตยังคงส่งออกนอกอยู่
จิตที่ไม่ส่งออกนอกคงไม่ใช่จิตปุถุชนที่นั่งทำสมาธิ แต่หมายถึงจิตที่มีพร้อมทั้งกำลังสมาธิ(สงบจากความคิดฟุ้งซ่าน) และ
กำลังสติสัมปชัญญะ(รู้สึกตัวทั่วพร้อม) จนสามารถเห็นจิตของตนเอง
ทั้งกำลังสมาธิและกำลังสติสัมปชัญญะต้องมีควบคู่กันเสมอ
"เลยสงสัยว่า สิ่งที่คิดก็จิตไม่ใช่หรือ สิ่งที่ไม่่คิดก็จิตไม่ใช่หรือ ด้วยว่า คิด กับ ไม่คิด เป็นกิริยาของจิตไม่ใช่หรือ"
- คำว่า จิต ในหัวข้อกระทู้นี้ไม่ใช่จิตที่ยังไม่บริสุทธิ์ที่มักส่งออกนอกของปุถุชน แต่ควรหมายถึงจิตที่บริสุทธิ์ ไม่หลง
ไม่คิดฟุ้งซ่าน ไม่ส่งออกนอก เป็นสภาวะของการเห็นจิต หรือเป็นจิตที่บริสุทธิ์
ถ้าเคยฟังเรื่องแหวกจอกแหนของหลวงตามหาบัวน่าจะเข้าใจได้ คนที่ปรารถนาจะเห็นน้ำใส ต้องพยายามแหวกจอกแหน
ที่ลอยอยู่ออกไป จอกแหนนี้คือกิเลสและความคิดฟุ้งซ่านต่างๆที่คอยบดบังจิตไว้ตลอดเวลา
"แต่ถ้าเป็นว่า สี่งที่ถูกคิด ออกมาจาก จิตนั้น สิ่งที่ถูกคิดนั้นไม่ใช่ดวงจิตปฏิสนธิจิต แล้วสิ่งที่ไม่ถูกคิด มันจะเป็นอะไรได้เล่า
นอกจากความไม่มี ความว่างที่ไม่มีอะไร ไม่ใช่หรือ"
- เมื่อไม่มีสิ่งที่ถูกคิดหรือไม่มีสิ่งที่คิด แน่นอนว่ามันต้องว่าง ไม่มีอะไรในนั้น แล้วสภาวะอย่างนั้นหากมีสติสัมปชัญญะ
รู้สึกตัวอยู่อย่างเต็มที่ มีสติสัมปชัญญะเต็มที่รู้ชัดอยู่เฉพาะตนเอง โดยไม่สนใจความว่างนั้น หรือไม่สนใจความไม่มีอะไรนั้น มันควรจะเห็นอะไร
เห็นความจริงของตนเองใช่หรือไม่ (ในเมื่อไม่มีอะไรบดบังอยู่)
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 23:05:50
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 23:00:32
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 55 22:47:29