Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
การไม่พูดเพ้อเจ้อ ไร้สาระ ทำให้ชีวิตดีขึ้นทันตาเห็น ติดต่อทีมงาน

ในพระชาติก่อนของพระพุทธเจ้า ครั้งยังทรงบำเพ็ญบารมี ทรงตั้งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ทั้งทางกาย วาจา และใจ  หลายสิ่งที่พระองค์ทำ สามารถนำมาเป็นแบบอย่างเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้ทำตามได้  และทำไม่ยาก ถ้าตั้งใจจริง เช่นในส่วนของการพูด  เป็นสิ่งที่ควรระัวังให้เกิดแต่คำพูดดี ที่เมื่อพูดแล้ว เป็นประโยชน์ทั้งแก่ผู้พูด ผู้ฟัง เป็นการพูดที่เป็นบุญ ันับเนื่องในวจีสุจริต เกิดจากกุศลจิต เป็นกุศลจิตเพราะพูดด้วยสติ ไม่พูดเรื่อยเฉื่อย และเป็นสัมมาวาจา นับเนื่องในองค์มรรค คือ คำพูดแบบนี้ ทำให้ออกจากความทุกข์ในสังสารวัฏได้ ทำให้ได้มรรคผล   ทรงแสดงคำสอนตอนหนึ่งในส่วนอานิสงส์ของการพูดที่มีประโยชน์ ไม่เพ้อเจ้อ ไว้ดังนี้



ลักขณสูตร


            "[๑๖๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อน กำเนิดก่อน ละคำเพ้อเจ้อ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล(เวลา) พูดแต่คำที่เป็นจริง พูดอิงอรรถ พูดอิงธรรม พูดอิงวินัย พูดแต่คำมีหลักฐาน มีที่อ้าง มีที่กำหนด ประกอบประโยชน์โดยกาลอันควร (ในเวลาที่เหมาะสม)

             ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะกรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ ครั้นจุติจากสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะนี้ คือ มีพระหนุ(คาง)ดังว่าคางราชสีห์ พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วยลักษณะนั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ฯลฯ เมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็นพระราชาได้รับผลข้อนี้ คือ ไม่มีใครๆ ที่เป็นมนุษย์เป็นข้าศึกศัตรูกำจัดได้ ถ้าออกจากเรือนผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้คือไม่มีข้าศึกศัตรูภายในภายนอก คือ ราคะ โทสะ โมหะ หรือสมณะ พราหมณ์เทวดา มาร พรหม ใครๆ ในโลกกำจัดได้

           พระผู้มีพระภาคตรัสคำนี้ไว้พระโบราณกเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ในพระลักษณะนั้นว่า

            [๑๖๙] พระมหาบุรุษ ไม่กล่าวคำเพ้อเจ้อ ไม่กล่าวคำปราศจากหลักฐาน
                         มีคลองพระวาจาไม่เหลวไหล ทรงบรรเทาเสียซึ่งคำที่ไม่เป็น
                         ประโยชน์ ตรัสแต่คำที่เป็นประโยชน์และคำที่เป็นสุขแก่พหุชน
                         ครั้นทำกรรมนั้นแล้วจุติแล้วจากมนุษยโลก เข้าถึงแล้วซึ่งเทวโลก
                         เสวยวิบากอันเป็นผลแห่งกรรมที่ทำดีแล้ว จุติแล้วเวียนมาใน
                         โลกนี้ ได้แล้วซึ่งความเป็นผู้มีพระหนุดังว่าคางราชสีห์ที่
                         ประเสริฐกว่าสัตว์สี่เท้า เป็นพระราชาที่เป็นใหญ่กว่ามนุษย์
                         แสนยากที่ใครจะกำจัดพระองค์ได้ พระองค์เป็นผู้ใหญ่ยิ่งของ
                         มวลมนุษย์
มีอานุภาพมากเป็นผู้เสมอด้วยเทวดาผู้ประเสริฐ
                         ในชั้นไตรทิพย์และเป็นเหมือนพระอินทร์ผู้ประเสริฐกว่าเทวดา
                         เป็นผู้มั่นคง อันคนธรรพ์ อสูร ท้าวสักกะและยักษ์ผู้กล้าไม่
                         กำจัดได้โดยง่ายเลย พระมหาบุรุษเช่นนั้น ย่อมเป็นใหญ่ทุก
                         ทิศในโลกนี้โดยแท้ ฯ"


แม้แต่คนที่ไม่เชื่อในเรื่องของกรรม เรื่องของบาปบุญ ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าคนที่พูดไร้สาระ ย่อมเป็นที่น่าดูหมิ่นดูแคลน ดูไม่น่าเชื่อถือในสายตาคนอื่น การพูดไร้สาระมาก ๆ ทำให้บุคลิกเสีย และเป็นที่น่ารำคาญกับคนรอบข้าง  ต่างกับคนที่ไม่พูดจาไร้สาระเพ้อเจ้อ ย่อมเป็นที่น่าเคารพศรัทธา แต่อย่างไรก็ตาม การไม่พูดไร้สาระ ไม่ใช่การต้องมาพูดเรื่องจริงจัง เรื่องเครียด  เพราะหลายครั้งที่มีคนเข้าใจว่าการไม่พูดไร้สาระ คือ การเงียบ การถามคำตอบคำ  


คำไม่ไร้สาระเองก็มีอยู่มากมายบนโลก  เรื่องที่พูดแล้วจะทำให้ตัวเราและคนอื่นดีขึ้นก็มีมากมาย  นักปาฐกถา นักพูดตามทอล์คโชว์ต่าง ๆ บุคคลเหล่านั้นก็ไม่ใช่คนที่เงียบเลย  บางคนเป็นคนพูดมากเสียด้วยซ้ำ แต่คำพูดของเขากลับล้ำค่า กลับสร้างแรงใจ กลับให้ข้อคิดแก่หลายคนได้ ดังนั้น การไม่พูดไร้สาระ  คือ  การพูด ไม่ใช่การเงียบ แต่ต้องถามตัวเองเสมอว่า พูดแล้ว  มีประโยชน์จริง ๆ ใช่ไหม พูดถูกเวลาไหม เวลานั้น เรื่องนั้น ควรพูดให้มาก หรือพูดให้น้อย พูดน้อยแล้วเหมาะสมไหมกับเรื่องนั้น  คำแต่ละคำที่ออกจากปากของเรา  มันทำอะไรให้กับตัวเราเองและคนอื่นให้ดีขึ้นได้หรือไม่  หรือแค่พูดเอามันส์  พูดลอย ๆ และใช้ชีวิตเหมือนกับคำพูดเหล่านั้น

คำพูด แสดงออกถึงความคิด  ความคิด  นำไปสู่การใช้ชีวิต  เราจะเป็นคนเลือกเส้นทางเดินในชีวิตของเราเอง ด้วยอวัยวะที่มีเพียงด้านเดียว  คนเรามีตาสองข้าง หูสองข้าง แขนและขาาอย่างละข้าง แต่ปากมีเพียงปากเดียว  เพื่อให้เราใช้มันไปด้านเดียว  คือ ด้านที่เป็นประโยชน์กับโลก


ในคัมภีร์พระิอภิธรรมมัตถสังคหะ ได้แสดงผลของการพูดเพ้อเจ้อ ไร้สาระ ไว้ดังต่อไปนี้

ผลของสัมผัปปลาปะ (พูดเพ้อเจ้อเหลวไหลไม่เป็นสาระ) มี ๔ ประการ คือ

๑. เป็นอธรรมวาทบุคคล        ๒. ไม่มีผู้เลื่อมใสในคำพูดของตน

๓. ไม่มีอำนาจ                      ๔. วิกลจริต

แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 55 17:21:43

แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 55 17:19:34

แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 55 17:06:04

จากคุณ : Serene_Angelic
เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 04:19:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com