Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อันนี้เป็นตัวอย่างการระลึกชาติของคนนอกศาสนาพุทธครับ ติดต่อทีมงาน

กลับชาติมาเกิดในประเทศจีน
Wednesday, 31. May 2006, 16:21:14

ณ ถู่เอ๋อฉีย่าต๋า มีเด็กชายคนหนึ่งอายุ 11 ปี ชื่อว่า "อีซื่อยี่" ชาติก่อนเขาคือ "อาปี่" ชายที่ถูกฆ่าตาย เพราะว่า เด็กน้อย "อีซื่อยี่" สามารถจดจำเรื่องราวเมื่อชาติก่อนสมัยเป็นอาปี่ได้ทั้งหมด อีกทั้งไม่มีอะไรผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย เมื่ออีซื่อยี่อายุได้ 1 ขวบครึ่ง เขานอนอยู่กับพ่อของเขาบนเตียง

ทันใดนั้น อีซื่อยี่พูดออกมาเป็นเสียงผู้ใหญ่ว่า "ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว ข้าจะกลับไปอยู่กับลูกของข้า”

พ่อของอีซื่อยี่ได้ยินเช่นนั้น ก็ตกใจ คิดว่าลูกของตนถูกผีเข้า เด็กตัวน้อยขนาดนี้ จะมีลูกของตัวเองได้อย่างไร ดังนั้น พ่อของอีซื่อยี่จึงกล่าวว่า "อีซื่อยี่ ที่นี่คือบ้านของลูก” แต่อีซื่อยี่กล่าวว่า "ข้าไม่ได้ชื่อ อีซื่อยี่ และที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านของข้า ข้าคืออาปี่ที่ถูกฆ่าตาย เมื่อข้าอายุได้ 50 ปีถูกคนตีที่ศีรษะจนตาย”

สิ่งที่อีซื่อยี่กล่าวออกมา ทำให้พ่อของเขารู้สึกมึนงง เขานำเรื่องนี้ไปเล่าให้ภรรยาฟัง ภรรยาของเขาฟังแล้วก็ตกใจ เพราะว่าเขาและภรรยานับถือศาสนาอิสลาม พวกเขาไม่เชื่อในเรื่อง "การกลับชาติมาเกิด” แต่เมื่อเขาเห็นปานดำบนศีรษะของอีซื่อยี่ พวกเขาก็เชื่อว่าเป็นรอยแผลซึ่งถูกตีที่ศีรษะเมื่อชาติก่อน

อาปี่ที่อีซื่อยี่พูดถึงนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่อีซื่อยี่จะเกิดหลายเดือน เดือนมกราคม 1956 ที่หม่าจิ้วมีคนงานสวนผลไม้หลายคนถูกฆ่าตาย เมื่อภรรยาและลูกๆ ของอาปี่ได้ยินเสียงร้องของอาปี่ พวกเขาก็รุดไปที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ฆาตกรก็ถูกจับได้

บ้านของอาปี่อยู่ด้วยภรรยาของเขา บุตรสาวและบุตรชาย
“ข้าต้องกลับไปอยู่กับลูก” อีซื่อยี่กล่าวกับพ่อแม่ของเขาอีกครั้ง
“เด็กคนนี้บ้าไปแล้ว” พ่อแม่ของเขารู้สึกเสียใจ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่พ่อแม่เขาเรียก "อีซื่อยี่ อีซื่อยี่” เขาจะไม่ยอมขานตอบ แต่ถ้าเรียกเขาว่า "อาปี่” เขาจะรีบขานทันที ทำให้พ่อแม่ของเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

บางครั้ง ขณะที่นอนหลับอยู่ อีซื่อยี่ก็ละเมอขึ้นมาว่า "ลูก อย่าร้องนะ” ลักษณะและน้ำเสียงพูดนั้นเหมือนพ่อกำลังปลอบลูก เวลาผ่านไป 1 ปี วันหนึ่ง พ่อของอีซื่อยี่ซื้อแตงโมกลับมาบ้านเพื่อแบ่งกินกัน อีซื่อยี่รีบคว้าลูกที่ใหญ่ที่สุดไวพร้อบกับกล่าวว่า

"แตงโมลูกนี้ใครก็กินไม่ได้ ต้องเหลือไว้ให้ลูกของข้า” พี่น้องทั้งเก้าคนของอีซื่อยี่ก็โวยวาย พ่อของเขาต้องรีบมาจัดการ อีซื่อยี่เสียใจมากจนร้องไห้ออกมา

อาปี่ชาติก่อนเป็นนักเลงเหล้า ปกติจะชอบดื่มเหล้ามาก อีซื่อยี่ก็มักจะแอบพ่อแม่ดื่มเหล้าบ่อยๆ มีครั้งหนึ่ง ขณะที่เขากำลังขโมยดื่มเหล้าอยู่นั้น ก็ถูกอามาเจอเข้า จึงถูกอบรมสั่งสอนเสียพักใหญ่ อีซื่อยี่ไม่เพียงแต่ไม่สนใจ กลับกล่าวอย่างแข็งกระด้างว่า

"เด็กน้อย เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ เชอะ เจ้ากล้ามาด่าข้าว่าขโมยเหล้ากินหรือ เจ้ายังจำได้ไหม ที่สวนผลไม้เจ้าขโมยเหล้าข้ากิน ถูกข้าจับได้ แต่ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเจ้า คิดไม่ถึงมาวันนี้เจ้ามาลืมบุญคุณข้าเสียแล้ว ยังกล้ามาด่าข้าอีก ช่างเลวจริงๆ” อาเมื่อถูกหลานด่าว่าเช่นนี้ ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

อีซื่อยี่ไม่เพียงแต่รู้เรื่องราวเมื่อชาติก่อนของอาปี่เท่านั้น ยังสามารถรู้จักคนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนอีกด้วย มีครั้งหนึ่ง พ่อของเขาเป็นพ่อค้าขายเนื้อกำลังแล่เนื้ออยู่ อีซื่อยี่เข้ามายืนข้างๆ ขอร้องพ่อเขาว่า "หลังจากที่ย่างเนื้อก้อนนี้แล้ว นำไปที่บ้านของข้าให้ลูกข้าได้กิน”

“เด็กบ้านี่ พูดอะไรอยู่ได้ แกไม่ใช่ อาปี่อะไรหรอก คราวหน้าถ้าพูดอะไรแบบนี้อีก ข้าจะตีแกให้หนักเชียว”


ยังมีอีกครั้งหนึ่ง คนขายไอศกรีมคนหนึ่งมา อีซื่อยี่ไม่เคยเห็นเขามาก่อน แต่อีซื่อยี่เดินเข้าไปทักทายเขา "เฮ้อ เจ้ายังรู้จักข้าไหม?”

คนขายไอศกรีม เห็นเป็นเด็กน้อย มาทักทายตน ได้แต่ส่ายศีรษะกล่าวว่า
"ข้าไม่รู้จักเจ้าหรอก เจ้าเด็กน้อย” อีซื่อยี่ใช้มือชี้ที่จมูกตนเองกล่าวว่า "เจ้าลืมได้อย่างไร? เจ้าไม่รู้จักข้าจริงๆ หรือ?”

คนขายไอศกรีม มองอีซื่อยี่เป็นเวลานาน ในที่สุด ก็ส่ายศีรษะ “ข้าคืออาปี่ เมื่อก่อนเจ้าเป็นคนขายผักผลไม้ไม่ใช่หรือ? เปลี่ยนอาชีพตั้งแต่เมื่อไหร่? จำได้เมื่อตอนเจ้ายังเป็นเด็กอยู่ ข้ายังทำพิธีสุหนัด (การคลิบปลายอวัยวะเพศชาย) ให้กับเจ้าเลย” สิ่งที่อีซื่อยี่กล่าวมาทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเรื่องจริง

ภายหลังที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ข่าวการ "กลับชาติมาเกิดของอาปี่” แพร่ออกไปทุกที่
อีซื่อยี่เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ ก็ไปที่บ้านของอาปี่ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากบ้านของเขาประมาณ 1 กิโลเมตร อีซื่อยี่ไม่เคยมาที่นี่ก่อนเลย แต่ว่า แต่เขากลับเดินนำหน้า ผู้ร่วมทางบางคนแกล้งชี้ทางผิดให้ อีซื่อยี่ก็ไม่สนใจ เขายังคงมุ่งหน้าไปบ้านของอาปี่

บ้านของอาปี่มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง เมื่ออี่ซื่อยี่เห็นเธอ เขารีบวิ่งเข้าไปกอดหล่อน "อา! เซี่ยตี้ซือ” กล่าวจบแล้วก็ถามถึงลูกๆ ของอาปี่ หลังจากนั้นก็นำผู้ร่วมทางมายังที่หม่าจิ้ว ชี้จุดหนึ่งของหม่าจิ้ว แล้วก็กล่าวอย่างเจ็บปวดว่า "ข้าถูกลาลั่วซาง (ชื่อของฆาตรกร) ฆ่าตายที่นี่” ผู้ร่วมทางฟังแล้วก็รู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก

อีซื่อยี่ยังเดินต่อไปยังหลุมฝังศพ หลุมฝังศพของอาปี่ไม่มีป้ายชื่อใดๆ ที่แสดงเป็นพิเศษ แต่อีซื่อยี่กลับรู้ได้ อีซื่อยี่เดินไปที่หน้าหลุมฝังศพ ชี้และกล่าวว่า "ที่นี่เป็นศพฝังศพของข้าเมื่อชาติก่อน”

เขาเดินต่อไปยังสวนผลไม้ คนงานกำลังทำงานอยู่หลายคน อีซื่อยี่ไม่เพียงแต่พูดชื่อของพวกเขาออกมาทีละคน ยังสามารถบอกได้ว่าแต่ละคนมาจากที่ไหนบ้างโดยไม่ผิดเลยแม้แต่คนเดียว

“อีซื่อยี่เป็นอาปี่กลับชาติมาเกิดจริงๆ” ทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน แต่พ่อแม่ของอีซื่อยี่ก็กังวลใจและกลัวว่า ลูกของเขาจะเอาเขาไปอยู่ที่บ้านของอาปี่

เรื่องการกลับชาติมาเกิดนี้แพร่หลายออกไปทั่วโลก ปี 1962 เมื่อ "อีซื่อยี่" อายุได้ 6 ขวบ "อาจารย์มหาวิทยาลัยลาฉาซือ" อินเดีย ดร. H.N. ปาน่าเอ๋อจี๋ (นักจิตวิทยา) เดินทางไปพบเขาและศึกษาการกลับชาติมาเกิดของอาปี่ --- อีซื่อยี่ เขาต้องการตรวจสอบความเป็นจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้

เพื่อนของ ดร. ปาน่าเอ๋อจี๋ เป็นนักจิตวิทยาชาวญี่ปุ่น ก็มาพิสูจน์เรื่องนี้เช่นกันและกล่าวว่า "ปาน่าเอ๋อจี๋เป็นนักวิทยาศาสตร์ จึงใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์เรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หรือว่าเป็นเพียงเรื่องแหกตาเพื่อหาเงินเท่านั้น เราได้ทดสอบข้อสงสัยทุก ๆ ข้อที่เกิดขึ้น ในที่สุดก็สรุปได้ว่า การกลับชาติมาเกิดของอาปี่ มาเป็นอีซื่อยี่นั้น เป็นเรื่องจริง”

แปลและเรียบเรียงจากเรื่อง "ฉวนเซิงฉีจี้” ของ "หยูหลิง”
http://my.opera.com/dosgames/blog/show.dml/278573

จากคุณ : wutthitham
เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 10:15:54




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com