ความคิดเห็นที่ 1 แบบไหนเข้าใกล้ความว่างมากกว่า ก็อันนั้นแหละ จากคุณ : รอเธอโสด เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 11:21:02

ความคิดเห็นที่ 2 แบบแรกได้บุญกว่า แม้ว่าจะทำบุญด้วยความโลภ แต่ก็ใช้กำลังใจในการทำบุญมากกว่า การโยนลูกชิ้นที่กำลังจะเข้าปากให้หมา ถ้าไม่ใช่ลูกชิ้นที่มีความสำคัญถึงขนาดที่ว่า ถ้าให้หมาไปแล้ว ตัวเองจะไม่มีกิน แม้จะไม่ได้ทำบุญด้วยความโลภ แต่ก็แทบจะไม่ได้ใช้กำลังใจในการทำบุญเลย จึงได้บุญน้อยกว่า จากคุณ : Mateo2000 เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 11:22:21

ความคิดเห็นที่ 3 อยู่ที่อาการปิติ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 11:33:40

ความคิดเห็นที่ 4 โหวตให้ ข้อ1 ค่ะ....แน่นอน หมาเป็นสัตว์เดรฉาน เป็นนาบุญที่ไม่ค่อยดี แบ่งลูกชิ้นให้คนกินยังดีกว่า... ทำแบบข้อ1 คือ เป็นวิหารทานยังไงก็ได้บุญมากกว่าเพราะ ถาวรวัตถุมิได้สร้างให้คน คนเดียวใช้ประโยชน์ แต่เป็นการสร้างให้พระศาสนา เป็นอะไรๆที่สมควรจะสร้างด้วยซ้ำ เบื่อคนชอบว่า สร้างทำไมศาลาวัดใหญ่ๆโตๆ ชั้นก็เห็นอีตอนมีภัยพิบัติ น้ำท่วมคนก็มา อาศัยพึ่งใบบุญวัดเนี่ยแหละ... อีกอย่าง การทำบุญให้ได้บุญกุศล ต้องประกอบไปด้วย 1. เจตนาบริสุทธิ์ 2. วัตถุทานบริสุทธิ์ 3. เนื้อนาบุญบริสุทธิ์ ขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไป ก็พร่องๆแหละ ไม่รู้ซิ บังเอิญว่า ชั้นเป็นคนฉลาดมีปัญญาอ่ะ หมาก็ให้กินนะ นกก็ได้กินบ่อยๆ หน้าบ้านอ่ะ ได้กินข้าวหอมมะลิซะด้วยซิ คนฉลาดเค้าต้องทำบุญกุศลให้ครบ ทาน ศีล ภาวนาค่ะ อ่านเล่มนี้ซิ บอกไว้หมด............. จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 12:28:17

ความคิดเห็นที่ 5 แถมนะคะ ....ทำบุญไหนได้ก็ทำก่อนเเล้วกัน จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 12:32:36

ความคิดเห็นที่ 6 -*- โยนลูกชิ้นให้หมา  แล้วหมาไปกัดคนอื่น  ถ้ามีคนเห็นว่าคุณให้อาหารมันประจำ คุณอาจต้องจ่ายค่ารักษาให้คนเจ็บนะครับ อุอุอุ ในทางเศรษฐศาสตร์ การสร้างเจดีย์ มีผลกระทบกับคนมากกว่าครับ ต้องจ้างคนออกแบบ จ้างคนงานมาสร้าง พอมีคนงานเข้ามา ร้านค้าแถวนั้นก็มีรายได้เพิ่ม ในระยะยาว ถ้าเจดีย์กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ ...... ชาวบ้านแถวนั้นก็ได้รายได้เพิ่มอีก เม็ดเงินมันหมุนในระบบ มากกว่า การซื้อลูกชิ้นแล้วโยนให้หมา จากคุณ : ginosty เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 12:34:02

ความคิดเห็นที่ 7 โหวตข้อที่ 1 ถ้าพระสถูปนั้นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ผู้คนผ่านไปผ่านมาก็จะยกมือไหว้ เราก็จะได้บุญตลอด เหมือนสร้างบ้านให้คนเช่า เก็บค่าเช่าได้ตลอดจนกว่าบ้านนั้นจะพัง   ส่วนโยนลูกชิ้นให้หมา หมามันกินแล้วขี้ออก  มันก็หิวอีก  มันไม่ได้อิ่มตลอดไป จากคุณ : methad เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 13:18:22

ความคิดเห็นที่ 8 ผมรักหมา ผมเต็มใจจะทำบุญกะหมามากกว่า ส่วนทำบุญกะพระ กะวัด ทำตามมารยาทน่ะ เลยคิดว่าจิตผมรู้สึกว่าปิติมากกว่าเวลาให้กับสุนัข จากคุณ : Arkkara เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 14:48:46

ความคิดเห็นที่ 9 แบบแรก เพราะเป็นประโยชน์แก่คนหมู่มาก จากคุณ : Ryuk เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 15:32:37

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท เลือก 2 นะครับ  ในความคิดคือ  ถ้าทำบุญด้วยความโลภ  สิ่งนั้นก็ไม่ใช่ด้วยการให้  ใจไม่เกิดการละ  มีแต่จิตที่อยาก   อันนำไปสู่อคติหลุ่มหลง  ไม่เจริญด้วยความว่างด้วยปัญญา    ในหัวข้อบอกชัดนะครับ  ว่าสร้างสถูปเจดีย์ด้วยเจตนาในความโลภ  ไม่ได้สร้างไว้เพราะหวังให้ใครใช้   หวังให้ตัวตนที่ตัวเองยึดติดได้กลับมาเป็นพันเท่า   แต่การให้ลูกชิ้นหมา  ให้เพราะ  เห็นมันหิว  ของจะเข้าปากเราอยู่แล้วเรากำลังจะอร่อยอยู่แล้ว  แต่เราก็ละความอยากนั้น  ด้วยเมตา  ข้อ 2 จึงน่าจะได้บุญมากกว่า  เป็นไปในทางเจริญสติ  ปล่อยวาง มีเหตุมีผล จากคุณ : โยนกระเบื้องล่อหยก เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 15:34:44

ความคิดเห็นที่ 11 เนื่องจากในกระทู้เดิมถามไปแล้วว่าทำบุยแบบไหนได้บุญมาก มากระทู้นี้เลยต้องมาถามต่อว่า บุญคืออะไร จากคุณ : โยนกระเบื้องล่อหยก เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 15:42:26

ความคิดเห็นที่ 12 ขอแทรกนอกเรื่องนิดเดียว จขกท นับถือ ท่านพุทธทาสใช่มั้ยครับ (ไม่ได้แปลว่าดีหรือไม่ดีนะครับ ผมแค่อยากพิสูจน์ความคิดบางอย่างเฉยๆ) จากคุณ : cantona_z เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 16:50:08

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าบริจาคเงิน 1 ล้านบาท ให้เด็กกำพร้า เพราะเชื่อว่าทำดีได้ดี หวังผลบุญนั้นให้กลับมาปิติเบิกบานใจ อานิสสงส์ของทานมีอยู่ครับ เงินก้อนนั้นสร้างอนาคตให้เด็กหลายคน ส่งผลเป็นลูกโซ่ มองแบบเดียวกัน ถ้าเจดีย์นั้นช่วยให้คนอื่นระลึกถึง ธรรมะในพุทธศาสนายาวนานนับร้อยปี แต่การคายลูกชิ้น 1 ลูก สุนัขกินแล้วจบ มันไม่ได้ช่วยให้กิลเสลดลง แต่มันคือการแบ่งปันเล็กๆน้อยแก่สัตวื ถ้ามองในแง่ความปิติ ผลลัพะืในเชิงประสิทธิภาพ  ปิติของบุญ ต้องตอบข้อ 1 แต่ถ้าถามว่า การสละลูกชิ้นทำให้กิเลสลดลงไหม ก็ตอบว่าไม่ได้ลดลงเลย จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 17:39:33

ความคิดเห็นที่ 14 ทำบุญข้อ 1 ได้มากกว่า  แต่ถ้าเราเลือก เราเลือกช่วยหมาที่เจ็บป่วยบาดเจ็บ คุณตั้งคำตอบแนวประชดประชันเกินไป เราไม่โหวต จากคุณ : nuch_tre เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 18:30:12

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบ ความคิดเห็นที่ 12 ผมนับถือ 20%  ขอบคุณ 30% เข้าใจ  50%   ตอบความเห็นที่  13   อ่าน  กระทู้ให้ชัดนะครับ  ในข้อ 1 ผมบอกไว้ชัดนะครับว่าทำด้วยความโลภ  ทำด้วยความอยากได้ของตอบแทน  ไม่ได้ทำด้วยความหวังให้ใครมาสนใจพุธศาสนา ( เจตนาต่างกันนะครับ ) ส่วนที่ว่าการแบ่งปัน เล็กๆน้อยให้สัตว์  แล้วกิเลสไม่ลดผมว่ามันไม่จริงเพราะ  ถ้าคิดยังงั้น  การทำบุญด้วยความโลภมากๆ  มันทำให้กิเลสลดลงยังไง ตอบความเห็นที่ 14  ข้อ 1 ได้มากกว่ายังไง ช่วยอธิบายเพิ่มจะดีมากครับ  ส่วนที่บอกว่าผมประชดประชัน  จริงครับ  แต่ส่วนตัวไม่ได้เจตนา  จะให้ใครรู้สึกไม่ชอบ  เพียงแต่ต้องการจี้ใจดำ  อุปทาน  อคติ  ความหลง นะครับ  เพื่อให้เกิดการคิด  หาเหตุผลโต้แย้งครับ จากคุณ : โยนกระเบื้องล่อหยก เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 21:10:37

ความคิดเห็นที่ 16 จะเจตนาอย่างไร อานิสงสข้อ 1  มากกว่า ข้อ 2 จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 21:59:29

ความคิดเห็นที่ 17 ทำบุญควรจะเริ่มด้วยจิตที่เป็นกุศล   ถ้าเกิดจากความโลภเป็นเหตุ ผมว่าคงจะให้ผลเสียแก่ตัวเอง มากกว่าให้ผลดีมั๊งครับ ...ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เทวดา มนุษย์ หรือสุคติอย่างใดอย่างหนึ่งแม้อื่น ย่อมไม่ปรากฏเพราะกรรมเกิดแต่โลภะ เพราะกรรมเกิดแต่โทสะ เพราะกรรมเกิดแต่โมหะ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย โดยที่แท้ นรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ปิตติวิสัย หรือทุคติ อย่างใดอย่างหนึ่งแม้อื่น ย่อมปรากฏ เพราะกรรมเกิดแต่โลภะ เพราะ กรรมเกิดแต่โทสะ เพราะกรรมเกิดแต่โมหะ. อกุศลมูล ๓ ประการนี้ เพื่อความเกิดแห่งอัตภาพ ในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในปิตติวิสัย. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๐  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๒ ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=30&A=802&Z=1275 จากคุณ : Walkin' On the Sun เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 22:06:09

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบ ความคิดเห็นที่ 16 เพราะเหตุใด อย่างไรจึงเป็นเช่นนั้น  เพราะสิ่งใดมีสิ่งนี้จึงมีเหล่า  ผมเป็นศิษตถาคต  ถ้าไม่มีเหตุผล   มีแต่ความเชื่ออย่างเดียว  นั้นคงเป็นบุญของศาสนาอื่น จากคุณ : โยนกระเบื้องล่อหยก เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 22:37:36

ความคิดเห็นที่ 19 สร้างเจดีย  ไม่ใช่ตลาดหุ้น  จะมีโลภะได้อย่างไร เปนเจตนาฝ่ายกุศล แต่โยนกระเบื้องล่อหยก ลงทุนนต่ำแต่หวังผลคืนทุนสูง เจือโลภะไหมครับ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 23:26:04

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบ ความคิดเห็นที่ 19 อย่ามีอารมณ์ดิครับ  ใช้สติครับ  โลภะ คือ  ความอยาก  ไม่ใช่ว่าต้องเป็นเงินคือโลภะ  อยากสวยอยากหล่อก็โลภะ   อยากมีหน้ามีตาก็โลภะ     แล้วการที่ผมเปรียบเรื่องการให้ลูกชิ้นหมา  คนให้นั้นไม่ได้ต้องการบุญแม้เพียงเศษเสี้ยวความคิด  คนให้แค่เมตาสัตว์  เป็นเมตาบริสุท  คือให้เพราะต้องการให้หมาพ้นจากความหิว  คนให้ไม่ได้มีอุปปาทาน  ต่อๆไปว่า  ต้องให้หมาเทวดา  จะได้บุญมาก     ส่วนการที่พยายามจะดึงไปเรื่องของเศรษฐศาสตร์  เรื่องของการใช้ประโยชน์  อันนั้นถือว่านอกประเด็นนะครับ  กระทู้นี้  พิจารณาถึง เจตนากับโลภะ  และความหมายของบุญว่าบุญคืออะไร    ( เพราะถ้าจะพิจารณาแบบนั้นก็จะมีคำถามไปอีกว่า )     ถ้าคนที่เอาเงินไปทำบุญสร้างเจดีย์  แล้วมีคนไปกราบไหว้  คนทำเจดีย์ก็ได้บุญ  แต่ถ้าเจดีย์นั้นเกิด  ถล่ม  คนตายเป็นร้อย  คนสร้างเจดีย์จะได้บาปด้วยไหม ( อันนี้ก็น่าคิด )     ถ้าคนให้ลูกชิ้นหมากิน  แล้วหมาตัวนั้น  เกิดไปช่วย พระอรหันต์ตกน้ำ  คนให้ลูกชิ้นก้ได้บุญ  แต่ถ้าเกิดหมาตัวนั้น ไปกัด พระอรหันต์  คนให้ลูกชิ้นก็บาปไปด้วยหรือเปล่า   อันนี้อยากให้พิจารณาขณะให้ตามข้อมูลในกระทู้นะครับ จากคุณ : โยนกระเบื้องล่อหยก เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 09:49:00

ความคิดเห็นที่ 21 สร้างมหาสถูปเจดีย์ เจ็ดชั้น ยิ่งใหญ่เหลือขนา มูลค่ามหาศาล ด้วยความโลภในบุญ ว่าบุญจะส่งผลตอบแทนเป็นพันเท่าหมื่นเท่า สรางปุ้บ เสียดาย หรืออิ่มอกอิ่มใจล่ะ ถ้าเกิดแก่ตัวไปยากจนขึ้นมาจะเสียดายหรือยังิ่มใจอยู่ โยนลูกชิ้นที่กำลังจะเข้าปาก ให้หมากินเพราะเห็นหมามันหิว ให้เพราะใจอ่อน หรือให้เพราะเมตตาล่ะ จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 14:55:37

ความคิดเห็นที่ 22 ในรายละเอียดของศีลข้อ2 มีข้อนึงที่ว่า ลาเภนะ ลาภัง นิชิคิง สณตา คือการเอาลาภแลกลาภ เท่านี้ก้อถือเป็นความพร่อง ความด่างพร้อยของศีลข้อ2แล้ว แต่ไม่รุว่าการทำบุญเพื่อหวังอานิสงส์ผลตอบแทนจะจัดเข้ารวมด้วยรึเปล่า แต่คิดว่าการให้ลูกชิ้นที่กำลังจะเข้าปากแก่หมานั้น ต้องมาจากจิตที่คิดจะให้และเสียสละจิงๆ ผมคงไม่หวังสิ่งตอบแทนอะไรจากหมาหรอกคับ ความเห็นส่วนตัวนะคับ ถ้าเริ่มต้นด้วยความด่างพร้อยบุญคงน้อยตามเหตุ จากคุณ : ช่วยชี้แนะด้วยครับ (นู่ปลาป๋อง) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 17:09:29

ความคิดเห็นที่ 23 โลภใน'บุญ'ใช่ไหมครับ ไม่ใช่โลภใน'ลาภ'? จะเสียหายอะไรได้? อยากได้บุญไม่ผิด จบนะ จากคุณ : mkhazard เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 03:54:24

ความคิดเห็นที่ 24 ปฎิบัติธรรม จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 55 01:39:27