ความคิดเห็นที่ 1 อิทธิปาฏิหารย์  เป็นเรื่องที่มีอยู่จริงมานานแล้ว นานก่อนที่พระพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้ด้วยซ้ำ   เพียงแต่ว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นอจินไตย  และคนส่วนใหญ่ 99% ที่อยู่บนโลกในยุคปี ค.ศ. 2012 / พ.ศ. 2555  ไม่อาจสัมผัสหรือรู้ตามได้(มีไม่เกิน 1 ใน 100 คนที่พอจะมีเซ้นส์ สัมผัสตามได้)   คนที่เจ้าเล่ห์หน่อยก็มักนำเรื่องนี้มาแอบอ้างหาเงินบริจาคต่าง ๆ นานา ทั้ง ๆ ที่อาจจะทำไม่ได้จริง(ของเก๊)  แต่ก็ยังมีคนหลงเชื่อจำนวนมาก จนทำให้มีนักต้มตุ๋นบางคนโด่งดังมีชื่อเสียง ได้ออกทีวี  รายการประเภทหมอดู...บ้าง  เห็นผี... บ้าง คนที่เขาทำได้จริง ๆ (เช่น ผู้ที่ได้ ฌาน ระดับอัปปนาสมาธิขึ้นไป) ส่วนใหญ่เขาไม่อวดอ้างกันหรอก เพราะของแบบนี้ มีได้ มันก็ เสื่อมได้  ถ้าเขามีอำนาจพิเศษใด ๆ มีแต่เขาจะพยายามรักษาให้มีมันไว้อยู่ติดตัวไปนาน ๆ เพราะมันนำมาทำประโยชน์ได้เยอะมาก  ไอ้พวกที่อวดอ้างออกรายการทีวี หรือเรียกเงินบริจาคส่วนใหญ่จะเป็นของต้มตุ๋นทั้งนั้น   ปล. แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีของจริงหลุดมาให้เห็นในรายการทีวีไปเลยนะ   อย่างกรณีพระฤาษีในข่าว จขกท. อาจจะเป็นของจริง/ของแท้ ไม่ได้ต้มตุ๋นก็เป็นได้ แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 15:37:55 จากคุณ : Sirtraderlot เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 15:34:21

ความคิดเห็นที่ 2 ฤาษี กินแฮมเบอร์เก้อร์ หรือเปล่า จากคุณ : Ch_Chang เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 18:26:50

ความคิดเห็นที่ 3 จาบร้าเหรอ จากคุณ : wutthitham เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 19:47:13

ความคิดเห็นที่ 4 จขกท ทำให้ดูหน่อยดิ จากคุณ : Arkkara เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 19:57:44

ความคิดเห็นที่ 5 อัตตกิลมถานุโยค ตั้งแต่สมัยพุทธกาล ยังมีหลงเหลือมาจนถึงทุกวันนี้เลยหรือ... เจ้าชายสิทธัตถะก่อนตรัสรู้ ก็เคยอดข้าวอดน้ำหลายปี จนพบว่านี่ไม่ใช่ทาง...เป็นการกระทำตนให้ลำบาก และไม่ใช่วิถีทางขัดเกลากิเลสอย่างถูกต้องเลย... จะเห็นว่าทางพุทธเราก็มีการสมาทานธุดงควัตรอย่างเข้มข้นเหมือนกัน ในข้อเนสัชชิก ถือการไม่นอนเป็นวัตร... ช่วยฝึกสติและขัดเกลากิเลสได้จริง(ถ้าถูกจริต) ไม่ค่อยได้ดูทีวีเท่าไหร่ ในข่าวบอกไหมว่าฤาษีท่านตั้งสัจจะไม่กินอะไรเลย เพราะอะไร  หรือมีเป้าหมายเพื่ออะไร แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 20:06:15 จากคุณ : Up_To_You เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 20:05:04

ความคิดเห็นที่ 6 ซ้ำ... แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 20:23:16 จากคุณ : Up_To_You เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 20:15:14

ความคิดเห็นที่ 7 อัตตกิลมถานุโยค... อันนี้ไม่ใช่เนสัชชิกนะ อิอิ ^^ จากคุณ : . (Up_To_You) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 20:18:39

ความคิดเห็นที่ 8 ผิดไหมครัน ถ้า ผม ไม่เชื่อ จากคุณ : a235 เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 20:26:50

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่เชื่อไม่เป็นไรแต่ต้องพิสูจน์ตราบใดที่ท่านยังไม่สามรถพิสูจน์ได้ว่ามันไม่จริงท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกว่ามันไม่จริง  และถึงคุณ  up_to_you  ที่ท่านไม่กินอะไรเลยเพราะท่านได้รับพรจากเทวดาที่ชื่อว่า  "เจ้าแม่ทุรคาเทวี"  ยังไงรบกวนท่านเปิดคลิปดูดีกว่านะครับจะได้รู้รายละเอียด จากคุณ : wutthitham เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 20:32:30

ความคิดเห็นที่ 10 เจ้าแม่ทุรคาเทวี หรือ พระศรีมหาทุรคาเทวี เป็นปางหนึ่งของ พระอุมาเทวี ครับ จขกท เป็นพุทธ หรือ ฮินดู ครับ แยกกันนิดนึงนะครับ ใช้สตินิดนึง นะครับ ใจเย็นๆ ค่อยๆคิดนะ ถึงจขกท อีกนิดนึง จขกท สามารถที่จะเชื่อได้ครับแต่ต้องพิสูจน์ หากยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นจริงไม่มีสิทธิจะบอกว่าจริงตราบใดที่ท่านยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าสมมติฐานของท่านจริง จากคุณ : Arkkara เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 20:39:12

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่กินไร 3 เดือนกว่า ... เพื่อสิ่งใด ถ้ามีเทพอะไรมาช่วย มาช่วยเพื่อ .. เจ้าแม่อะไรนั่น หลอกฤาษี อีกต่อนึงละมั้ง   สุดท้ายก็ตายเปล่า.. ไม่ได้เป็นอิทธิปาฏิหารย์จากตัวเองที่ไหน  มาจากพึ่งเทพ หรือผี กันแน่  เรื่องนี้ไม่ได้สนับสนุนสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนครับ ไม่ต่างจากพวกทรงผี  เอามีดเสียบตัวเอง ผีช่วยให้ไม่ต้องกินข้าว แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 20:48:03 จากคุณ : นบนอบ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 20:46:54

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 11     ไม่กินไร 3 เดือนกว่า ... เพื่อสิ่งใด ถ้ามีเทพอะไรมาช่วย มาช่วยเพื่อ .. เจ้าแม่อะไรนั่น หลอกฤาษี อีกต่อนึงละมั้ง   สุดท้ายก็ตายเปล่า.. ไม่ได้เป็นอิทธิปาฏิหารย์จากตัวเองที่ไหน  มาจากพึ่งเทพ หรือผี กันแน่  เรื่องนี้ไม่ได้สนับสนุนสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนครับ ไม่ต่างจากพวกทรงผี  เอามีดเสียบตัวเอง ผีช่วยให้ไม่ต้องกินข้าว แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 55 20:48:03 จากคุณ : นบนอบ   เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 20:46:54     คุณนบนอม อย่าไปมีอคติกับความเชื่อและศาสนาอื่นเลยครับ นับถือพระเจ้า พระพุทธก็ไม่จำเป็น ที่จะไปเหยียดศาสนาอื่นเขา อยู่ร่วมกันด้วยความพยายามเข้าใจกันดีกว่าครับ จากคุณ : คนกรุงธน เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 20:59:27

ความคิดเห็นที่ 13 ถึงทุกท่านครับผมเองพุทธแท้  100  เปอร์เซนต์แต่เป็นพุทธแท้แบบใจกว้างครับ   เราต้องยอมรับความจริงในทุกแง่มุมที่เค้านำเสนอและถ้าไม่จริง  ช่อง 3  คงไม่เอามาออกข่าว  แต่ถึงอย่างไรในข้อมูลเนียผมไม่ลึกซึ้งสักเท่าไรครับ  รบกวนทุกๆท่านที่เข้ามาดูไม่ว่าเพื่อจุดประสงค์อะไรก็ตาม   สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดคลิปดูก่อนนะครับจะได้รู้ข้อมูลที่ข่าวเขานำมาเสนอ   จะได้ไม่ต้องมาตั้งแง่คำถามอันใดแก่ตัวผม  ดูเองเลยครับ  จบ... จากคุณ : wutthitham เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 21:07:25

ความคิดเห็นที่ 14 เคยเห็นข่าวนี้นานแล้วในเวปไซท์ของฝรั่ง จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 21:18:23

ความคิดเห็นที่ 15 ก็เหมือนคนเอาปากหรือเอาเท้าวาดรูปนะครับ จะมองเป็นเรื่องมหัศจรรย์หรือพระพรจากพระเจ้าองค์ใดก็ได้ หรือจะมองว่าเป็นการฝึกฝนก็ได้ ทางศาสนา ท่านถือเอาคุณความดีที่ผู้นั้นกระทำเป็นสิ่งวัด มากกว่าการกระทำสิ่งแปลกประหลาดได้ จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 21:54:57

ความคิดเห็นที่ 16 สาเหตุที่ผมนำเอาเรื่องนี้มาตีแผ่แค่ต้องการให้ทุกท่านได้รับทราบว่า   สังคมโลกเราทุกวันนี้ก็ยังมีเรื่องอย่างนี้อยู่แต่ไม่ได้ต้องการให้ไปนับถือหรืองมงายแต่อย่างใด จากคุณ : wutthitham เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 22:31:36

ความคิดเห็นที่ 17 ความเห็นที่ 4 ผมคงไม่สามารถทำได้หรอกครับอย่างดีก็แค่ทำเนสัชชิก   ได้แค่คืนเดียวเองไม่ทราบว่าเข้าใจคำว่า   เนสัชชิกมั๊ยลองหาดูละกัน   เพราะผมขี้เกียจอธิบาย จากคุณ : wutthitham เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 23:12:00

ความคิดเห็นที่ 18 จุดประสงค์เพื่อละกิเลศ ประสาทรับรู้ทั้งห้า จากคุณ : แปดเทพอสูร เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 23:13:40

ความคิดเห็นที่ 19 ในห้องนี้ เขามีปัญญาแค่คิดแต่เป็นเรื่องหลอกลวงเท่านั้น หาเหตุผลว่าเป็นเรื่องจริง คิดไม่เป็นหรอก   เพราะถ้าเป็นจริงภายหลัง ก็ไม่อาย เพราะไม่รู้ชื่อจริง........555555 จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 23:19:08

ความคิดเห็นที่ 20 ความเห็นเรานะว่า ความน่าสนใจ หรือความที่ไปรู้ว่า ปาฏิหารย์เมีจริง/ไม่จริง นั้น  ก็เป็นเรื่องทางโลก เหมือนการดูละคร มันไม่มีคุณค่าจะเท่ากับ รู้ธรรมะ ของพระพุทธเจ้าเพิ่มสัก 1ข้อเลย เพราะ เพราะก็เชื่ออยู่แล้วว่าปาฏิหารย์นะมีจริง ถ้าไม่มีจริงพระพุทธเจ้าจะพูดหรือ ถึงเป็นเรื่องจริง ในที่สุดอีกไม่นาน เขาผู้ทรงอิทธิปาฏิหารย์ก็ตาย อยู่ดี ถ้าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม น่ายกย่อง พระพุทธเจ้า ท่านคงสรรเสริญไว้แล้วละ จากคุณ : การบูร (Camphor) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 23:29:01

ความคิดเห็นที่ 21 ^^^ 20 ไม่ได้หมายถึงว่า เชื่อว่า เรื่องจริงนะ คือ จริงหรือไม่จริง ก็ดูงั้นๆ  คิดว่า มาทำให้มาก เจริญให้มากซึ่งอริยมรรคมีองค์แปดดีกว่า สนใจเรื่องพวกที่ พระพุทธเจ้า ไม่สรรเสริญ  เหมือนจะเดินออกนอกมรรค ยังไงไม่รู้ จากคุณ : การบูร (Camphor) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 23:35:23

ความคิดเห็นที่ 22 รุ่นน้องผม เนสัชชิก กันได้หลายคนนะครับ ยิ่งตอนที่มันส่งงานไม่ทัน มัน เนสัชชิก กันทั้งห้องเลย... จากคุณ : นัยนะ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 55 23:47:21

ความคิดเห็นที่ 23 สมัยพระพุทธองค์ทรงทำทุกรกิริยา ... (วาระที่ ๗) ราชกุมาร! ความคิดอันนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า ถ้ากระไรเราพึงปฏิบัติการอดอาหารโดยประการทั้งปวงเสีย. ราชกุมาร! ครั้งนั้นพวกเทวดาเข้ามาหาเราแล้วกล่าวว่า "ท่านผู้นิรทุกข์! ท่านอย่าปฏิบัติการอดอาหารโดยประการทั้งปวงเลย ถ้าท่านจักปฏิบัติการอดอาหารโดยประการทั้งปวงไซร้ พวกข้าพเจ้าจักแทรกโอชาอันเป็นทิพย์ลงตามขุมขนของท่าน ท่านจักมีชีวิตอยู่ได้ด้วยโอชาทิพย์นั้น". ราชกุมาร! ความคิดนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า เราปฏิญญาการไม่บริโภคอาหารด้วยประการทั้งปวงด้วยตนเอง ถ้าเทวดาเหล่านี้แทรกโอชาอันเป็นทิพย์ลงตามขุมขนแห่งเราแล้ว ถ้าเราจะมีชีวิตอยู่ด้วยโอชานั้น ข้อนั้นจักเป็นมุสาแก่เราไปดังนี้. ราชกุมาร! เราบอกห้ามกะเทวดาเหล่านั้นว่าอย่าเลย. ฯลฯ บาลี โพธิราชกุมารสูตร ราชวรรค ม.ม. ๑๓/๔๕๒/๔๙๕; และสคารวสูตร ม.ม. ๑๓/๖๗๘/๗๔๔; มหาสัจจกสูตร มู.ม. ๑๒/๔๕๐/๔๑๗. จากคุณ : aero.1 เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 01:22:58

ความคิดเห็นที่ 24 ฤษี ท่านนี้ มะได้ ตั้งหน้าขอพรอย่างเดียวนะคับ ถ้าจำมะผิด ข่าว หลายปีแล้ว ท่าน ฝึก ปราณ มาก่อนด้วยคับ น่าจะเป็น ผลจากการฝึก ปราณ ซึ่งให้ผลเฉพาะบางอย่างด้วยคับ น่านฟ้า หนังสือ ของวัดป่าหลวงตาบัว ที่ เป็น tiger temple ก้อเคยลงคับ จากคุณ : PAKAVAKORN เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 03:03:20

ความคิดเห็นที่ 25 อาจเทำแบบนี้มาแล้ว หลายชาติ  อาจ เป็นอนุสัยเก่าของเขา  จากคุณ : การบูร (Camphor) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 05:50:32

ความคิดเห็นที่ 26 เนสัชชิกที่แท้ต้องวิเวกและตั้งอธิษฐานครับและที่สำคัญต้องไม่แตะหลังแนบพื้นหรือพิงเก้าอี้ไม่ว่าในกรณีใดๆ    ถึงจะถูก จากคุณ : wutthitham เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:13:42

ความคิดเห็นที่ 27 #23 ท่าน aero.1 ดีจริงๆ ครับ เป็นการยืนยันคำกล่าวของพระพุทธเจ้าว่า การอดอาหารโดยไม่เสียชีวิตมีจริง -------------------------- สมัยพระพุทธองค์ทรงทำทุกรกิริยา ... (วาระที่ ๗) ราชกุมาร! ความคิดอันนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า ถ้ากระไรเราพึงปฏิบัติการอดอาหารโดยประการทั้งปวงเสีย. ราชกุมาร! ครั้งนั้นพวกเทวดาเข้ามาหาเราแล้วกล่าวว่า "ท่านผู้นิรทุกข์! ท่านอย่าปฏิบัติการอดอาหารโดยประการทั้งปวงเลย ถ้าท่านจักปฏิบัติการอดอาหารโดยประการทั้งปวงไซร้ พวกข้าพเจ้าจักแทรกโอชาอันเป็นทิพย์ลงตามขุมขนของท่าน ท่านจักมีชีวิตอยู่ได้ด้วยโอชาทิพย์นั้น". ราชกุมาร! ความคิดนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า เราปฏิญญาการไม่บริโภคอาหารด้วยประการทั้งปวงด้วยตนเอง ถ้าเทวดาเหล่านี้แทรกโอชาอันเป็นทิพย์ลงตามขุมขนแห่งเราแล้ว ถ้าเราจะมีชีวิตอยู่ด้วยโอชานั้น ข้อนั้นจักเป็นมุสาแก่เราไปดังนี้. ราชกุมาร! เราบอกห้ามกะเทวดาเหล่านั้นว่าอย่าเลย. ฯลฯ บาลี โพธิราชกุมารสูตร ราชวรรค ม.ม. ๑๓/๔๕๒/๔๙๕; และสคารวสูตร ม.ม. ๑๓/๖๗๘/๗๔๔; มหาสัจจกสูตร มู.ม. ๑๒/๔๕๐/๔๑๗. จากคุณ : aero.1 [Bloggang] เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 01:22:58 [แก้ไข] จากคุณ : Mahasati Neo เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:50:40

ความคิดเห็นที่ 28 อ้อ..เข้าใจล่ะ ตามข้อมูล#23 "เจ้าแม่ทุรคาเทวี"คงแทรกอาหารทิพย์ลงไปในรูขุมขนฤาษีตนนี้กระมัง...(⊙▂⊙) จากคุณ : Up_To_You เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 10:55:26

ความคิดเห็นที่ 29 น่าจะนะท่าน จากคุณ : wutthitham เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 22:27:48

ความคิดเห็นที่ 30 ขอที่จะไม่เชื่อ จะอย่างไร สังขารก็ต้องการอาหารมาเลี้ยงเพื่อสร้างพลังงาน เดิน วิ่ง นั่ง นอน ถ้ายังปรากฎร่างกายอยู่ มันยังต้องพ้องกับหลักวิทยาศาสตร์ จากคุณ : นิพพานัง เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 55 19:53:53

ความคิดเห็นที่ 31 55555  อย่างนี้ก็ต้องพิสูจน์สิท่าน จากคุณ : wutthitham เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 55 20:25:39