 |
สมาทานศีลแล้วเข้ากรรมฐานถือว่าทำถูกแล้วครับ เพราะการทำความดี ละความชั่วได้อย่างเด็ดขาด คือการตัดกิเลสด้วยกรรมฐาน
สำหรับเรื่องที่เล่ามาในที่นี้ อาจจะเป็นผลของกรรมครับ ดังตัวอย่างในคาถาธรรมบท
จูฬปันถกบวชแล้วกลายเป็นคนโง่
พระเถระให้จูฬปันถกบวชแล้ว ให้ตั้งอยู่ในศีลทั้งหลาย. แม้จูฬปันถกนั้นพอบวชแล้ว ได้เป็นคนโง่เขลา.
พระเถระ เมื่อพร่ำสอนเธอ กล่าวคาถานี้ว่า
ดอกบัวโกกนุท มีกลิ่นหอม บานแต่เช้า พึงมีกลิ่น ไม่ไปปราศฉันใด, เธอจงเห็นพระอังคีรส ผู้ไพโรจน์อยู่ ดุจพระอาทิตย์ส่องแสงในกลางหาวฉันนั้น. คาถาเดียวเท่านั้น โดย ๔ เดือน เธอก็ไม่สามารถจะเรียนได้.
บุรพกรรมของพระจูฬปันถก
ถามว่า เพราะอะไร? แก้ว่า ได้ยินว่า เธอบวชในกาลพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีปัญญา ท่านได้ทำการหัวเราะเยาะ ในเวลาที่ภิกษุเขลารูปใดรูปหนึ่ง เรียนอุเทศ, ภิกษุนั้นละอายเพราะการหัวเราะนั้น เลยเลิกเรียนอุเทศ ไม่ทำการสาธยาย. เพราะกรรมนั้น จูฬปันถกนี้พอบวชแล้ว จึงเป็นคนโง่, บทที่เรียนแล้วๆ เมื่อเธอเรียนบทต่อๆ ไป ก็เลือนหายไป. เมื่อเธอพยายามเพื่อเรียนคาถานี้แล. สี่เดือนล่วงไปแล้ว.
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท อัปปมาทวรรคที่ ๒ เรื่องพระจูฬปันถกเถระ [๑๗] http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=12&p=3
ควรนิมนต์สงฆ์ห้ารูป ถวายสังฆทานและทำการขอขมาพระรัตนตรัย พ่อแ่ม่ ครูบาอาจารย์ และผู้ที่เราเคยล่วงเกินมาทั้งหมดครับ เพื่อให้การปฏิบัติได้ผลดีขึ้น
จากคุณ |
:
Real~Fine
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ต.ค. 55 07:03:42
|
|
|
|
 |