ความคิดเห็นที่ 1 เค้าก็เริ่มนึกได้ว่าตัวเองแวะไปซื้ออาหารให้นกที่สนามหลวง 2 ก่อนไปสนามหลวงแฟนน้องเล่าว่า ไปซื้อยาให้น้องกับลูก ที่ร้านขายยาคนรู้จัก คนร้านขายยาก็เล่าเรื่อง ไอโฟน 4 ของเค้าถูกขโมย เพราะลูกค้าที่เข้ามาซื้อยา แฟนน้องฟังก็เสียดายแทนเค้า แต่ไม่ได้คิดต่อว่ามีอะไรเตือนๆอยู่ พอถึงสนามหลวง จอดรถเรียบร้อย แฟนน้องเป็นคนละเอียด เค้าจะจอดล้อตรงตลอด ไม่เคยจอดรถล้อเบี้ยว หักซ้าย-หักขวาจอดทิ้งไว้ และเราสองคนเป็นคนรอบคอบเรื่องการล็อครถคือ จะตรวจการล็อครถ อย่างรอบคอบแน่นอนตลอด แฟนจอดเสร็จก็รีบเดินไปซื้ออาหารให้นก ขณะเดินเค้าเล่าว่า อยู่ดีๆก็เกิดความคิดเข้ามาในหัวว่า "คนเยอะแบบนี้ที่นี่จะมีมิจฉาชีพเยอะไหมนะ" คิดได้แค่นั้นเค้าก็รีบเดินต่อ ไม่ได้ฉุกคิดว่ามีการเตือนรอบ2 อย่างเงียบๆให้สะดุดใจ ซื้อของเสร็จ เข้ารถมาสตารท์รถ แฟนน้องก็แปลกใจ ทำไมพวงมาลัยมันไม่ตรง ล้อก็หักเลี้ยวไว้ เค้าไม่น่าจะจอดแบบนี้ตามนิสัยของเค้า แต่ก็หยุดคิดแค่นั้น รีบขับรถกลับบ้าน แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 55 17:59:39 จากคุณ : ชอบแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 11:16:22

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากประมวลเหตุการณ์ต่างๆแฟนน้องก็เข้าไปในกูเกิ้ล เช็คสถานที่ยอดนิยมที่รถหายบ่อย แล้วก็เจอสนามหลวง 2 อยู่ในลิสท์รายชื่อ แล้วเอามาเล่าให้น้องฟัง แฟนน้องบอกว่าที่ขโมยกรีดตรงบริเวณวิทยุนะ ไม่ใช่จะงัดเอาวิทยุอย่างที่น้องเข้าใจ แต่เป็นวิธีตัดแผงวงจรนิรภัย โชคดีที่เรามีระบบกันขโมยมากกว่าหนึ่ง ทำให้ประวิงเวลาให้ขโมยมันต้องเสียเวลาเยอะขึ้น และโชคดีที่แฟนน้องรีบซื้อ รีบกลับ แต่น้องบอกแฟนว่า "ขโมยมันเร็วมากนะ ขนาดพ่อรีบซื้อ รีบกลับ ขโมยยังหักล้อรถเลี้ยวได้แล้ว" น้องบอกต่อว่า" บุญศีล 5 รักษามากกว่า บุญที่เราไม่เคยเอาของๆใคร" แฟนน้องบอกต่อว่า "พ่อก็คิดในใจอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะมีเหตุการณ์เตือนพ่อตั้ง 2 รอบแต่พ่อไม่เอะใจ บุญรักษาจริงๆ" จึงอยากมาเตือนพี่ๆเพื่อนๆน้อง ระยะนี้เจอคนพูดเรื่องรถหายมากขึ้น ขอให้ระวังรถอย่าไปจอดในที่อันตราย (แหล่งรถหายบ่อยเข้าไปดูในกูเกิ้ลค่ะ) หรือในที่เปลี่ยว โดยเฉพาะรถที่เป็นที่นิยมทั้งหลาย ฟอร์จูเนอร์ คัมมรี่ แจ๊ส.... ต้องรอบคอบในการล็อครถ มีระบบกันขโมย(หน้าที่ของมันคือช่วยประวิงเวลาให้ขโมยเสียเวลามากขึ้นค่ะ) มีสติในการดำเนินชีวิต อย่าประมาท คิดดี พูดดี ทำดี คบเพื่อนดี อยู่ในสถานที่ดี ที่สำคัญรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ผลเกิดจากเหตุค่ะ ขอให้บุญรักษาทุกๆท่านค่ะ ^_^ แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 55 13:18:47 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 55 13:17:57 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 55 11:27:18 จากคุณ : ชอบแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 11:19:09

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณที่แบ่งปันครับ..... บุญรักษาครับ สาธุ... จากคุณ : ซำเหมาพเนจร เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 19:47:03

ความคิดเห็นที่ 4 โชคดีจริงๆ  การรักษาศีลห้า ตอนนี้ ยังไม่ได้ป้องกันของหายนะครับ เพราะอาจจะเป็นกรรม จากที่เราเคยทำมาในอดีตก็ได้ เพียงแต่เรารักษาตอนนี้ก็มีอานิสงส์ ที่อาจจะเบาบางลงได้บ้าง และกันของในอนาคตหายได้ เพราะเราไม่ได้ลักของใครเขา นั่นเองครับ จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 07:39:21

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อคืนน้องก็เพิ่งคุยกับแฟนว่า "เราไปทำกรรมอะไรไว้นะ ถึงเกือบจะต้องเสียเงินมาก(ราคารถ) น้องบอกแฟนว่า "ชาตินี้แม่มั่นใจนะไม่เคยเอาของใคร ที่ผ่านมาที่ทำโดยไม่รู้ว่าผิดคือ เอาคัตเตอร์ สมุด ปากกาของบริษัทมาใช้ที่บ้าน แต่ก่อนลาออกก็คืน แต่คืนไม่หมดเพราะ บางอย่างทำหายไม่รู้ไปวางไว้ไหนแล้ว" ที่บ้าน คุณพ่อน้องเกลียดมากๆๆๆๆ เรื่องความไม่ซื่อสัตย์ ลูกๆจะโดนกรอกหูเรื่องนี้กันจนโต ลูกน้องที่บ้านถ้าใครขโมยเงินกันเอง หรือของในบริษัท พ่อจะจับเข้าคุกเลย บอกตำรวจให้แกล้งขังเพื่อดัดสันดาน น้องจำได้ ก่อนจะพาลูกน้องไปคุก พ่อจะพูดขู่จน ลูกน้องหน้าซีด ปากสั่น บางคนโดนขู่จนปัสสาวะราดก็มี แต่พ่อไม่เคยเอาเรื่อง แค่ดัดสันดาน ไม่นานพ่อค่อยไปเอาออก บางคนได้ออกเร็ว บางคนได้ออกช้า ขึ้นอยู่กับนิสัยแต่ละคน น้องจนป่านนี้ยังจำติดหูอยู่ ท่านพูดเสมอว่า "ลูกของอะไรไม่่ใช่ของเรา หนูอย่าไปเอาของเค้านะ อยากได้อะไรบอกป๊า" เพราะป๊าตามใจลูกมาก ลูกๆอยากได้อะไร ลูกอยากได้รถ ป๊าซื้อให้หมด ไม่เคยขัดใจเลย เรื่องเงินป๊าสปอยลูกสุดๆ แต่อะไรที่ห้าม ที่สอน ป๊าจะคำไหนคำนั้น ลูกไม่ต้องมาเซ้่าซี้ให้โดนดุซะเปล่าๆ เรื่องที่ป๊าห้ามที่จนป่านนี้น้องก็ยังไม่กล้าทำคือ ห้ามทานเนื้อห่าน ป๊าว่า "มันเป็นของผู้ใหญ่ เด็กห้ามทาน" จนป่านนี้ น้องแก่ปูนนี้แล้วยังไม่กล้าทานเนื้อห่านเลย ^^ พอน้องเล่าจบ แฟนน้องพูดมาคำเดียว จบเลย คือ "ชีวิตมันไม่ได้มีชาตินี้ชาติเดียวนะแม่" ก็คิดต่อในใจว่า "ชาติที่แล้วทำไมพวกเราร้ายจัง เราแรงขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วเราเอาหรือกลับใจตอนจบนะ ชาตินี้โชคดีนะที่เกิดมาเป็นลูกพ่อ ลูกแม่ กรรมมันน่ากลัวจัง" แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 55 12:02:33 แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 55 11:12:42 แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 55 09:57:06 จากคุณ : ชอบแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 09:50:15

ความคิดเห็นที่ 6 ครั้งนึงนานมาแล้ว ผมกับภรรยาต่างก็ทำงานที่โรงพยาบาล สักแปดโมง คนแน่นเราสาย เรารีบ เราไปจอดที่หน้าห้องฉุกเฉิน แล้วต่างรีบ ต่างลงคนละประตู เพราะคิดว่าอีกคนจะนำรถไปจอด รถสตารท์อยูู่ ตอนเย็นเราถึงรู้ว่า ไม่มีใครเอาไปจอด และรถก็ไปไหนแล้วก็ไม่รู้ จากนั้นได้เดินถามต่อมาจึงรู้ว่า มีใครไม่รู้เอาไปจอดให้และเอากุญแจ ไปให้ยาม รถก็เลยยังอยู่ ทุกอย่างก็ปกติครับ จากคุณ : จักรแก้ว เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 06:43:55

ความคิดเห็นที่ 7 โอ้โห้! ประวัติพี่หมอทั้งสองสุดยอดเลยค่ะ บุญรักษาเต็มเต็ม เมื่อคืน น้องก็มานั่งหาข้อมูล นั่งอ่านเกี่ยวกับการส่งผลของกรรม เกิดความกลัว อ่านเสร็จเข้าห้องพระต่อเลย สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังเทศน์หลวงตามหาบัว หลวงตาท่านเทศน์ตรงใจ ท่านว่า ที่สำคัญอยู่ที่ความตั้งใจ ให้ผู้รู้ตามดู ให้สติจดจ่อ ให้ปัญญาทำงาน ดูสิ่งที่เข้ามาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ให้ตัวรู้ตามรู้ทางเข้า ถ้าเราตั้งใจจริง ใจบริสุทธิ์ กาย วาจา มันจะบริสุทธิ์ตามมาเอง น้องฟังเเล้วอึ่งเลย หลังฟังเสร็จ น้องนึกจินตนาการเป็นภาพเท้าหลวงตาแล้วก้มลงกราบที่เท้าท่าน ท่านเมตตาเหลือเกิน เรามีทั้งพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์เมตตา ถ้าเรายังไม่ตั้งใจทำดีให้มากขึ้น เราก็เสียชาติเกิดแล้ว นึกแล้วละอายใจที่ความเพียรในการทำดีเราน้อยไปค่ะ ขอบคุณพี่หมอมากๆนะคะ ที่เป็นคนเริ่มเรื่องรถ ให้น้องได้มีโอกาสคิดพิจารณาตัวเอง แล้วจบเรื่องเป็นตัวอย่างให้เห็นเรื่องบุญรักษา มีกัลยาณมิตรดี ช่วยสร้างความเจริญทางธรรม เป็นตามดั่งคำสอนที่พระพุทธเจ้าว่าไว้ ขอบคุณพี่หมอมากมากค่ะ จากคุณ : ชอบแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 09:24:36

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณสำหรับเรื่องๆดีดี ของพี่หมอ และ คุณชอบแสงจันทร์ จากคุณ : ปันน้ำใจ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 09:28:08

ความคิดเห็นที่ 9 เราเป็นเหมือน คห 5 เคยทำผิดศีล 5 เมื่อก่อนก็ประเภทหยิบเอาของในออฟฟิศไปใช้ หรือไม่ก็แอบพริ้นท์สีเป็นปึกๆ เลย ตอนน้ันไม่ได้หันมาสนใจพระพุทธศาสนาเท่าไหร่ เหอะๆ แต่ตอนหลังเริ่มศึกษา เริ่มถือศีล 5 ก็พยายามซื้อของใช้สำนักงานมาคืนเค้าอ่ะ จากคุณ : snoopy21 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 15:53:10

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณคุณหมอและน้องชอบแสงจันทร์ที่นำประสบการณ์ที่ควรจำมาเล่าให้ฟังค่ะ จากคุณ : ยางมะตอยต้อยตีวิด เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 19:04:58

ความคิดเห็นที่ 11 ดิฉันก็เคยค่ะ ลงรถไปซื้อของที่ตลาดใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน ความเร่งรีบ และสติไม่อยู่กับตัว มุ่งแต่จะไปซื้อกับข้าว ไม่รอบคอบ ลืม ไม่ได้ล็อครถ ลงไปซื้อของเสร็จกลับมา รถยังอยู่ อีกครั้งหนึ่ง ไปจอดรถที่ห้างเซ็ลทรัล พอซื้อของเสร็จ หาบัตรจอดรถไม่พบ หา หา หา ตั้งนาน จนมั่นใจว่าไม่มีที่ตัวเรา คิดต่อเลยว่า เราทำหล่นหายมั้ง ไปหาที่แคชเชียร์ ในห้างชั้นเดียวกับที่เราจอดรถไว้ พบว่า มีคนนำมาคืนไว้ พร้อมจดเลขทะเบียนรถบอกไว้ด้วย คือ พอรับบัตรแล้ววางบนตัก พอลงรถลุกขึ้นก็หล่นข้างรถค่ะ เราโชคดี แม้ผิดพลาดก็ยังไม่เสียหาย ได้พบเจอแต่คนดี และสิ่งดีๆเสมอๆ มั่นใจว่า สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่ความบังเอิญค่ะ จากคุณ : มด2002 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 11:33:29

ความคิดเห็นที่ 12 สาธุ จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 18:59:19