ความคิดเห็นที่ 1 เซนเป็นฝ่ายมหายาน มุ่งไปทางปัญญา ที่แตกกระซ่าน พุทธ ผสมธรรมชาติภูมิปัญญาจีน พุทธทาส ท่านสนใจ เซนมาก จากคุณ : อาโก หนองจอก เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 14:19:22

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าเน้นเท่ กับสร้างความสับสนงงงวยมากกว่า จากคุณ : นิยมวัตถุ เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 14:24:08

ความคิดเห็นที่ 3 มันอาจจะเหมาะกับบางคน บางวัฒนธรรม บางเวลา นะครับ ไม่ใช่สำหรับทุกคน จากคุณ : ckman เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 14:37:16

ความคิดเห็นที่ 4 ปัจจุบันนี้....หาพุทธแท้ๆยากมากครับ(แม้กระทั่งในประเทศไทย).... หลายกลุ่ม..หลายความเห็น... เซ็นก็ว่าเป็นพุทธแท้.. เถรวาทก็ว่าเป็นพุทธแท้... มหายานก็ว่าเป็นพุทธแท้... อื่นๆอีกมาก เราพุทธศาสนิกชน.....ใช้หลักกาลามสูตร....ธรรมใดที่เมื่อปฎิบัติแล้ว...อกุศลที่มีอยู่ดับไป...กุศลที่มีอยู่เจริญขึ้น.....ตรงนี้ครับพุทธแท้ๆครับ.... จากคุณ : โกวิทย์ (โกวิทย์) เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 14:39:56

ความคิดเห็นที่ 5 เหมือนง่าย แต่กลับยากมาก หลวงพ่อชาอีกรูปหนึ่ง จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 14:59:37

ความคิดเห็นที่ 6 ในความเข้าใจของผม เซนเองเหมือนหยิบเอาใบไม้ในกำมือ ออกมาแค่บางส่วน แก่นแท้จริงๆ ต้อง เถรวาท ในความคิดของผม จากคุณ : zovoy เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 15:03:06

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่รู้ครับ หลายๆคำสอนก็เจ๋ง หลายๆคำสอนก็แปลกๆ ผมยังไม่แน่ใจเรื่องธรรมญาณ กับ สุญญตา ว่าในเถรวาทจะให้ความหมายอย่างไร ดังนั้นจะตอบว่าเซนคือพุทธแท้เหลือแต่แก่นมั้ย ผมว่ายังไม่น่าใช่นะ จากคุณ : cantona_z เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 16:29:41

ความคิดเห็นที่ 8 ฟังแล้วเหมือนรู้ แต่ไม่รู้ครับ... จากคุณ : ล้าน5 เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 16:58:12

ความคิดเห็นที่ 9 ความจริงก็คือออืธิปาฏิหารย์มันมี แล้วมันก็มีประโยชน์ในเรื่องของความศรัทธา จากคุณ : Mateo2000 (Mateo2000) เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 17:57:14

ความคิดเห็นที่ 10 จิตคือพุทธะ... หลวงปู่ดูลย์อีกองค์หนึ่ง พูดถึงพุทธแท้ควรต้องแยกว่า แท้ในตำรา หรือแท้ในจิตของพระอริยะบุคคล ถ้าในตำรา ของแท้ยิ่งกว่าไตรปิฏกบาลีเถรวาทนั้นไม่มีแล้ว จากคุณ : Up_To_You เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 18:03:33

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าเซนคือพุทธที่เหลือแต่แก่นธรรม ทำไม่พระพุทธองค์ท่านไม่สอนแบบเซนล่ะครับ สิ่งที่พระองค์ท่านสอนตั้งมากมายเป็นเปลือก เป็นกระพี้หรืออย่างไร จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 18:05:30

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบ#11  คงเพราะคนมีปัญญาหลายระดับมั้งครับ คาดเดาล้วนๆ จากคุณ : จขกท. (Kamajor) เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 18:47:10

ความคิดเห็นที่ 13 ูพึ่งเห็นด้วยกับคุณ Kamajor ก็ความเห็นนี้แหละ นอกจากคนเรามีปัญญาหลายระดับแล้ว ในสมัยพุทธกาลยังมีความเชื่อหลากหลายความเชื่ออีกด้วย จากคุณ : เอกเขนกนอกบ้าน เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 20:08:47

ความคิดเห็นที่ 14 เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖ ศาสนาเซน       ที่มีแฝงกันอยู่ก็คือเรื่องศาสนาเซน เราพิจารณาแล้วเราไม่สงสัย ศาสนาเซนก็เรียกว่าศาสนาพุทธ เราอ่าน หมดแล้วเรื่องศาสนาเซน อ่านเต็มกำลังเลย ศาสนานี้ท่านแสดงถึงธรรมฝ่ายสูง ธรรมขั้นสูง ศาสนาเซนให้ใช้ ปัญญาๆ ผู้ที่เป็นเซน ผู้ที่บรรลุธรรมผ่านเข้าไปจนถึงกับได้ตั้งศาสนาเซนขึ้นมา นั่นผ่านไปแล้ว ก็คือจาก พุทธศาสนานั่นเอง พวกนี้ก็มาตั้งอันหนึ่งขึ้นมาเป็นเนื้อหนังของตัวเอง ว่าเป็นศาสนาเซน ความจริงศาสนาเซน คือภาคปฏิบัติ เอาอย่างนี้เลยให้มันเห็นชัดๆ เทียบกันได้ทันที ภาคปฏิบัติขั้นปัญญา ก้าวเข้าถึงขั้นปัญญา อัตโนมัติ อะไรๆ จะเป็นปัญญาทั้งหมด มองเห็นอะไร ได้ยินอะไรก็ตาม ไม่เห็นก็ตาม สติปัญญานี้จะ ก้าวเดินไปตลอดเวลาเป็นอัตโนมัติ จากนั้นก็บรรลุธรรม พอบรรลุธรรมแล้วเขาเลยเอาสติปัญญาขั้นนี้ เป็นศาสนาของเขาไปเสีย เขาหาได้รู้ไม่ว่า ศาสนธรรมขั้นละเอียดนี้มาจากพุทธศาสนา พระพุทธเจ้า แสดงศีล สมาธิ ปัญญา เห็นไหม  ขึ้นศีล สมาธิ ออกจากสมาธิก็ปัญญา ปัญญานี้ปัญญาขั้นละเอียดเข้า ถึงที่ว่าสติปัญญาอัตโนมัติ แล้วบรรลุธรรมไปเลย      เขาเลยเอาจุดนี้มาเป็นศาสนาของเขา เป็นศาสนาเซน ความจริงเป็นกิ่งก้านของพุทธศาสนาตอนปลาย ตอนยอดที่จะถึงที่สุด เข้าใจไหม นี่เราพิจารณาแล้ว อ๋อ เขาเอาอันนี้เองไปเป็นศาสนาเซน ก็มันยันกันอยู่ นี้ในหัวใจนี่เราจะสงสัยไปไหน เราผ่านมาหมดแล้ว อันนั้นผ่านไปก่อนก็ตาม เราผ่านทีหลังมันก็เหมือนกัน แล้ว แล้วไปเถียงกันทะเลาะกันหาอะไร เข้าใจไหมล่ะ อ๋อ อันนี้เองที่ว่าเป็นศาสนาเซน คือธรรมะส่วนละเอียด ของพระพุทธเจ้าที่จวนจะบรรลุธรรม จนกระทั่งถึงขั้นบรรลุธรรม คือจุดนี้ แล้วเขาเอาจุดนี้เป็นจุดสุดยอดของ เขาไปเลย เขาไม่สนใจ เขาไม่ทราบว่าจุดนี้มาจากอะไร มาจากปัญญา มาจากสมาธิ มาจากศีล เข้าไปเรื่อยๆ เข้าใจเหรอล่ะ       นี่เราพิจารณาหายสงสัย อ๋อ ศาสนาเซนไปตรงนี้เอง ก็มีสองเท่านั้นที่เชื่อได้อยู่เวลานี้ ตายใจได้เลย แต่ศาสนาเซนใช้ปัญญา ทีนี้ผู้ถือศาสนาเซน ตั้งแต่ ก.ไก่ ก.กา ไปก็ได้ โดดใส่ดอกเตอร์ ดอกเตอร์ คือขั้นสติปัญญาอัตโนมัติ ท่านไปถึงขั้นดอกเตอร์แล้วบรรลุธรรม ทีนี้พวกนั้นมาไม่ต้องเรียน ก.ไก่ ก.กา ละ ฟาดใส่ดอกเตอร์เลย มันก็เลยเป็นด็อกหมาไปละซี ผู้นั้นท่านเดินตามนั้น ไอ้เราไม่รู้เรื่องจะเอาอันนั้นไปปฏิบัติ ทีนี้ใครมาถือศาสนานี้ต้องใช้ปัญญาทั้งนั้นๆ ใช้ถึงวันตายมันก็ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ขั้นของปัญญาขั้นนั้น ก.ไก่ ก.กา ยังไม่ได้ ไปฟาดเอาดอกเตอร์ ใครเชื่อถือได้ยังไง      แต่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อถือก็ตาม หลวงตาบัวก็เป็นดอกเตอร์นะ หลวงตาบัวไม่ได้เรียนอะไรเลย เขายก หลวงตาบัวเป็นดอกเตอร์ แต่หลวงตาบัวไม่ได้เป็นบ้ากับดอกเตอร์นี่นะ เฉย แต่เวลาจะอวดอวดเร็วนะปุ๊บปั๊บ นี่ใครอยากจะดูหลวงตาบัวเป็นเจ้าฟ้าเจ้าคุณอยู่บนนั้นนะ ดอกเตอร์ก็อยู่บนนั้นนะ เราก็พูดได้สบาย แต่เรา ไม่มีอะไรกับสิ่งนั้น แต่นั้นถือจริงๆ ว่าศาสนานี้ใช้ปัญญา ใครมาเอะอะก็จะให้ใช้ปัญญา เด็กอมมือจะใช้ ปัญญายังไง ธรรมะขั้นนั้นสมควรแก่ธรรมภูมินั้นๆ  ก.ไก่ ก.กา ยังไม่มีจะไปเอาดอกเตอร์ได้ยังไง พากันเข้าใจไหมล่ะ เอาละ พูดไปพูดมาก็เหนื่อยแล้ว ............................................................................ ฝากไว้พิจารณานะครับ จากคุณ : chiwat เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 20:20:30

ความคิดเห็นที่ 15 เซนเขาคงดีสำหรับผู้ที่กำลังจะบรรลุ สอนเป็นปริศนาธรรม เหมาะสำหรับผู้ปฏิบัติอย่างอุกฤษ แต่ท่านพุทธทาสมาแนวศรีธนญชัยมากกว่า อ่านมาก จินตนาการมาก ฟุ้งมาก ดิ้นไปได้ทั้งบวกและลบ คนเลยงง เถียงกันไม่จบ จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 20:30:20

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องอื่นเซนก็สอนนะ ที่ว่าเหลือแต่แก่นธรรมน่ะ คือการวิปัสนา เซนจะตรงไปบรรลุธรรมเลย ไม่สอนการนั่งประสาทหลอนหลอกตัวเอง จากคุณ : รอเธอโสด เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 20:40:29

ความคิดเห็นที่ 17 สำหรับคนที่มีสมาธิดีแล้ว  ก็ฝึกพลิกทิฏฐิ  ...แล้วเขาก็ถือว่าบรรลุธรรม ... ก็แค่นั้น .. ใครสมาธิยังไม่ดี   ไปฝึกคิดแบบเซนจะยิ่งฟุ้งวซ่านตายเลย จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 21:03:06

ความคิดเห็นที่ 18 แล้วแต่จริตของแต่ละคนมั้งครับ จากคุณ : จิ้งจอกสามหาว เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 22:06:36

ความคิดเห็นที่ 19 เซนคือนิกายหนึ่งของพุทธศาสนาครับ แตกต่างจากพุทธเถรวาทพอสมควร ไม่ค่อยรู้รายละเอียดเพราะไม่ได้ศึกษาคำสอนของเซนครับ เคยได้ยินท่านติช นัท ฮันช์ พูดถึงเรื่อง Here and Now ท่านพุทธทาสก็พูดในทำนองเดียวกัน ที่นี่และเด๊๋ยวนี้ ไม่รู้ว่าใครยืมคำพูดของใครมาใช้ จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 23:24:53

ความคิดเห็นที่ 20 ผมสนใจเซนมากครับ แต่ไม่เคยเข้าใจปริศนาธรรมเลย แต่ก็ยังสนใจอยู่ดี^^ จากคุณ : Vincent Tai303 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 00:49:43

ความคิดเห็นที่ 21 ผมได้อ่านแนวทางของเซนมาบ้าง ก็พอจะมาเล่าสู่กันฟังดังนี้ครับ เซนก็คือพุทธท่ีนำมาจากอินเดียไปยังประเทศจีนโดยท่านโพธิธรรม (ท่านตั๊กม้อ) เซนไม่เน้นการปฏิบัติธรรมแบบเถรวาท เพราะถือคติทำนองว่า "ของจริงพูดไม่ได้" แปลว่าธรรมะท่ีแท้จริงไม่อาจถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดได้ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่เห็นคำภีร์ของเซนเขียนบรรยายวิธีการปฏิบัติออกมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เนื่องจากถือว่าการถ่ายทอดธรรมะผ่านตัวหนังสือ หรือใช้วิธีการบอกเล่า เป็นการใช้ปัญญาในระดับ สุตตมยปัญญาและ จินตามยปัญญา ซึ่งถือว่าไม่ใช่สัจจธรรมท่ีแท้จริง เพราะการบันทึกและการบอกเล่าต้องผ่านขั้นตอนของการปรุงแต่งจากข้อมูลในสัญญาและจิตสังขารซึ่งมีการเจือปนด้วยสมมุติบัญญัตตามความเข้าใจของแต่ละบุคคล มิได้เกิดจากการ "ตรัสรู้จากภายใน" อย่างท่ีเรียกว่า "Enlightenment" เช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นการถ่ายทอดธรรมะตามแนวเซน จึงเน้นวิธีการตีความจากโฉลก และการสัมผัสกับธรรมชาติท่ีถือว่าเป็นหนึ่งเดียวในสรรพสิ่ง อย่างท่ีเรียกว่า "Mother Nature" คือสรรพสิ่งทั้งหลายอุบัติมาจากแม่เดียวกันคือ "แม่ธรรมชาติ" ไม่มีการแบ่งแยกออกเป็นสอง (Duality) จึงไม่มีมืด ไม่มีสว่าง ไม่มีดำ ไม่มีขาว ไม่มีสุขและไม่มีทุกข์ ฯลฯ ทุกอย่างเป็นสภาวะธรรมเพียงหนึ่งเดียว (แต่มนุษย์เราเองมาแบ่งแยกกันภายหลัง)...บางครั้งหากเรานำแนวทางของเซนไปใช้ประกอบการศึกษาพระไตรปิฎก การพลิกกะลาให้หงายขึ้นก็อาจไม่ใช่เรื่ิองยาก   เซนเน้นการหาทางลัดไปสู่ความเป็น "พุทธะ" จึงมีวิธีการเข้าถึงต่างจาก เภรวาท เปรียบเสมือน มีดวงแก้วมณีอยู่ท่ีปลายสุดของถ้ำมืดทึบ ประกอบด้วยทางแยกท่ีคดเคี้ยว มีทางเลือกสำหรับผู้ท่ีจะเข้าถึงดวงแก้วมณีได้ แบ่งออกเป็นสองแนวทาง   เถรวาท ใช้เวลาศึกษาแผนท่ี จุดทางแยกต่างๆภายในถ้ำ แล้วจุดตะเกียงขึ้นส่องทางเพื่อลัดเลาะไปสู่จุดหมายโดยคาดว่าจะใช้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง (อาจเป็นชาตินี้หรือชาติหน้า) เซน ใช้วิธีการเดินเข้าไปในความมืดของถ้ำโดยตรง ใช้วิธีฟันฝ่าเพื่อไปให้ถึงจุดหมายด้วยภูมิปัญญาท่ีมีอยู่ หากผู้ใดภูมิปัญญาไม่ถึง ก็มีโอกาสหลงหรือเสียชีวิตอยู่กลางทาง ผู้ท่ีมีปัญญามากพอก็สามารถไปถึงดวงแก้วมณีได้โดยเร็ว (อาจเป็นท่ีนี่และเดี๋ยวนี้)       ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับวิธีการเข้าถึงการบรรลุธรรมของแต่ละบุคคล ก็เหมือนการเล่นหุ้นแหละครับ ต้องการรวยเร็วก็ไปทางแนวเซน แต่ก็เสี่ยงกับการหมดตัวได้เช่นกันครับ     แต่สำหรับแนวทางของเถรวาท ท่านว่า บางคนก็สามารถไปถึงได้เร็วไม่แพ้กัน แต่เมื่อไปถึงดวงแก้วมณีแล้ว แม้อยู่ตรงหน้าก็ยังมองไม่เห็น เพราะแสงจากตะเกียงท่ีใช้ส่องทางนั้น เป็นตัวท่ีบดบังรัศมีจากดวงแก้วมณีเสียเอง ถูกผิดคงไม่ว่ากันนะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 55 10:36:04 จากคุณ : selfless เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 10:32:36

ความคิดเห็นที่ 22 พุทธเถรวาท ก็บอกว่า นิพพานอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ จริงๆแล้ว ถ้าอ่านพระเซน กับพระอาจารย์ใหญ่ๆ ในไทย หลายคนกับคำสอน เซนก็จะไม่เห็นความแตกต่างเลย อย่างกับว่ามาจากตำราเดียวกัน ทั้งๆที่ แทบจะไม่มีรากฐานอะไรเดียวกันเลย ในมุมมองของผมมองว่าเซน ก็คือ การปฎิบัติของเหล่าภิกษุที่ไป เกือบสุดทางแล้วหรืออีกอย่างหนึ่งก็คือหลักสูตรปริญญาเอก ซึ่งต้องการ การสะกิดอีกเล็กน้อย เพื่อให้ได้หัวข้อนำไปทำวิทยานิพนธ์ ซึ่งถ้าเอาไปสอนคนที่เรียนจบโทมาแล้ว เหลือแต่ทำวิทยานิพนธ์ก็คงเหมาะ แต่ถ้าเอามาสอนเด็ก ประถม ก็มีแต่หลงป่าตายกันหมด ซึ่งก็เข้ารูปแบบเซนเมืองไทย คือ ชั้นอยากเท่ห์ เลยบอกว่านับถือเซน แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ได้เข้าใจเซนเลยซักนิด เพราะเอาแต่ตีความ แบบ อภิปรัชญา เอาแต่ตีปริศนาแบบปรัศนีย์ 20 คำถาม จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 10:57:03

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ใช่ครับ แก่นพุทธคือคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่คำสอนของอาจารย์เซ็น ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเถิดครับ จะได้ไม่เสียเวลา จะได้ไม่หลงทาง จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 22:57:35