|
ความจริงแล้วกฐินก็คือการที่พระสงฆ์ในวัด นำผ้าที่หาได้ พร้อมใจกันยกถวายพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งในวัด เพื่อให้ท่านได้กรานกฐิน เมื่อพระรูปดังกล่าวกรานกฐินเสร็จแล้ว พระสงฆ์ในวัดอนุโมทนาเสร็จแล้ว ก็เป็นอันเสร็จเรื่องกฐิน
แม้จะไม่มีมีเงิน ปัจจัย สิ่งของใด ๆ ในพิธีเลย มีเพียงผ้าไตรจีวร ก็ถือว่าเป็นกฐินแล้ว
ถ้าหากมีจิตศรัทธา จะจัดถวายผ้ากฐิน แต่อาจมีกำลังทรัพย์ไม่มาก (แต่ความจริงทรัพย์สินก็ไม่จำเป็น มีเพียงผ้าไตรจีวรก็เป็นกฐินแล้ว) ก็ขอแนะนำให้ทำดังต่อไปนี้
๑. จัดเตรียมผ้าไตรจีวรหนึ่งชุด เป็นผ้ากฐิน
๒. อาจมีเงินปัจจัยจำนวนหนึ่ง ไม่ต้องมากก็ได้ เพื่อถวายเป็นค่าน้ำค่าไฟของวัด ซัก ๕,๐๐๐ ก็ได้
ความจริงแล้วอานิสงส์กฐิน ก็คือการที่พระท่านได้รับอานิสงส์การจำพรรษา ยืดต่อไปอีก ๔ เดือน ถ้าหากว่าท่านไม่ได้รับอานิสงส์กฐิน ก็เพียงแต่ได้อานิสงส์การจำพรรษา ๑ เดือน คือ
๑. ไปที่อื่นได้โดยไม่ต้องบอกลา ๒. รับนิมนต์ฉันคณโภชน์ (รับนิมนต์ที่เขาออกชื่อภัตตาหาร)ได้ ๓. ไม่ต้องนำไตรจีวรไปครบสำรับ ๔. จีวรที่เกิดขึ้นในหมู่สงฆ์ ย่อมได้แก่พระภิกษุผู้จำพรรษา ๕. เก็บอติเรกจีวร (จีวรที่เกินจากจีวรอธิษฐาน) ได้เกิน ๑๐ วัน
ถ้าไม่ได้รับอานิสงส์กฐิน อานิสงส์ ๕ ข้อ ซึ่งเหมือนสิทธิพิเศษนี้ จะอยู่ได้ ๑ เดือน จนถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ หลังจากนั้นจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษ แต่ถ้าได้ทำการกรานกฐิน จะได้ยืดอานิสงส์พรรษาทั้ง ๕ ข้อ ไปจนถึงเดือน ๔ คือ ขึ้น๑๕ค่ำ เดือน ๔
แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 55 23:30:03
จากคุณ |
:
chohokun
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ต.ค. 55 23:22:32
|
|
|
|
|