|
ขอให้พิจารณาเรื่่องนี่ครับอยู่ในอรรถกถา(อาจยาวซักหน่อย แต่ตรงกับที่สงสััย)
เรื่องพระติสสเถระผู้เข้า ถึงสกุลนายช่างแก้ว ๑- [๑๐๔] ข้อความเบื้องต้น พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระเถระชื่อติสสะ ผู้เข้า ถึงสกุลนายช่างแก้ว ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " คพฺภเมเก อุปฺปชฺชนฺติ" เป็นต้น. ____________________________ ๑- หมายความถึง ผู้สนิทสนมกับสกุล ได้รับอุปการะจากสกุลนั้น. พระเจ้าปเสนทิโกศลส่งแก้ว ให้นายช่างเจียระไน ได้ยินว่า พระเถระนั้นฉัน (ภัต) อยู่ ในสกุลของนายมณีการผู้หนึ่งสิ้น ๑๒ ปี. ภรรยาและสามีในสกุลนั้นตั้งอยู่ ในฐานะเพียงมารดาและบิดา ปฏิบัติพระเถระแล้ว. อยู่มาวันหนึ่ง นายมณีการกำลังนั่งหั่นเนื้อข้างหน้าพระเถระ . ในขณะนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงส่งแก้วมณีดวงหนึ่งไ ป ด้วยรับสั่งว่า "นายช่างจงขัด และเจียระไนแก้วมณีนี้แล้วส่งมา." นายมณีการรับแก้วนั้น ด้วยมือ ทั้งเปื้อนโลหิต วางไว้บนเขียงแล้ว ก็ เข้าไปข้างในเพื่อล้างมือ. แก้วมณีหายนายช่างสืบหาคนเอาไป ก็ในเรือนนั้น นกกะเรียนที่เขาเลี้ยงไว้มีอยู่ นกนั้นกลืนกินแก้วมณีนั้น ด้วยสำคัญว่าเนื้อ เพราะกลิ่นโลหิต เมื่อพระเถระกำลังเห็น อยู่เทียว. นายมณีการมาแล้ว เมื่อ ไม่เห็นแก้วมณีจึงถามภริยา ธิดาและบุตร โดยลำดับว่า "พวกเจ้าเอาแก้วมณีไปหรือ?" เมื่อชนเหล่านั้นกล่าวว่า "มิได้เอาไป" จึงคิดว่า "(ชะรอย) พระเถระจักเอาไป" จึงปรึกษากับภริยาว่า "แก้วมณี (ชะรอย) พระเถระจักเอาไป" ภริยาบอกว่า "แน่ะนาย นายอย่ากล่าวอย่าง นั้น, ดิฉันไม่เคยเห็นโทษอะไรๆ ของพระเถระเลยตลอดกาลประมาณเท่านี้ ท่านย่อมไม่ถือเอาแก้วมณี (แน่นอน)." นายมณีการถามพระเถระว่า "ท่านขอรับ ท่านเอาแก้วมณีในที่นี้ไปหรือ?" พระเถระ. เราไม่ได้ถือเอาดอก อุบาสก. นายมณีการ. ท่านขอรับ ในที่นี้ไม่มีคนอื่น ท่านต้องเอาไปเป็นแน่ ขอท่านจง ให้แก้วมณีแก่ผมเถิด. เมื่อพระเถระนั้นไม่รับ, เขาจึงพูดกะภริยาว่า "พระเถระเอาแก้วมณีไปแน่ เราจักบีบคั้นถามท่าน." ภริยาตอบว่า "แน่ะนาย นายอย่า ให้พวกเราเสีย หายเลย พวกเราเข้าถึงความ เป็นทาสเสีย ยังประเสริฐกว่า ก็การกล่าวหาพระเถระผู้เห็นปานนี้ ไม่ประเสริฐเลย." ช่างแก้วทำโทษพระติสสเถระเพราะ เข้าใจผิด นายช่างแก้วนั้นกล่าวว่า "พวกเราทั้งหมด ด้วยกันเข้าถึงความเป็นทาส ยังไม่ เท่าค่าแก้วมณี" ดังนี้แล้ว จึงถือเอาเชือกพันศีรษะพระเถระ ขัน ด้วยท่อนไม้. โลหิตไหลออกจากศีรษะหู และจมูกของพระเถระ. หน่วยตาทั้งสองได้ ถึงอาการทะเล้นออก ท่านเจ็บปวดมาก ๑- ก็ล้มลง ณ ภาคพื้น. นกกะเรียนมา ด้วยกลิ่นโลหิต ดื่มกินโลหิต. ____________________________ ๑- เวทนาปฺปตฺโต ถึงซึ่งเวทนา. ช่างแก้วเตะนกกะเรียนตายแล้วจึงทราบ ความจริง ขณะนั้น นายมณีการจึงเตะมันด้วยเท้า แล้วเขี่ยไป ด้วยกำลังความโกรธที่เกิดขึ้นในพระเถระ . นกกะเรียนนั้นล้มกลิ้งตาย ด้วยการเตะทีเดียวเท่านั้น. พระเถระเห็นนกนั้น จึงกล่าวว่า "อุบาสก ท่านจงผ่อนเชือกพันศีรษะของเรา ให้หย่อนก่อนแล้ว จงพิจารณาดูนกกะเรียนนี้ (ว่า) มันตายแล้ว หรือยัง?" ลำดับนั้น นายช่างแก้วจึงกล่าวกะท่านว่า " แม้ท่านก็จักตายเช่นนกนั่น." พระเถระตอบว่า "อุบาสก แก้วมณี นั้นอันนกนี้กลืนกินแล้ว หากนกนี้จัก ไม่ตายไซร้ ข้าพเจ้าแม้จะตาย ก็จัก ไม่บอกแก้วมณีแก่ท่าน." ช่างแก้วได้แก้วมณีคืน แล้วขอขมาพระติสสเถระ เขาแหวะท้องนกนั้นพบแก้วมณีแล้ว งกงัน อยู่ มีใจสลด หมอบลงใกล้เท้าของพระเถระ กล่าวว่า "ขอพระผู้เป็นเจ้าจงอดโทษแก่ผม ผมไม่รู้อยู่ ทำไปแล้ว." พระเถระ. อุบาสก โทษของท่านไม่มี ของเราก็ไม่มี มีแต่โทษของวัฏฏะเท่านั้น...
จากคุณ |
:
Up_To_You
|
เขียนเมื่อ |
:
5 พ.ย. 55 11:50:47
|
|
|
|
|