Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขอตั้งกระทู้ สิ่งที่เข้าใจเมื่อยี่สิบกว่าปีมาแล้ว แต่ไม่เจอหลักฐานบัญญัติ ชี้ชัดได้ และพึ่งได้คำตอบวันนี้เอง ติดต่อทีมงาน

ขอตั้งกระทู้ สิ่งที่เข้าใจชัดเมื่อยี่สิบกว่าปีมาแล้ว แต่ไม่เจอหลักฐานบัญญัติ ชี้ชัดได้ และพึ่งได้คำตอบวันนี้เอง

   และเมื่อสิบกว่าปีแล้ว ที่ผมเริ่มเข้ามาเล่นอินเตอรเน็ตใหม่ๆ  ผมเคยเสนอข้อความทำนองนี้ คือ

       สำหรับผู้ยังมีกิเลสที่สมบูรณ์(ปุถุชน) จิตที่เิกิดดับ ไม่ว่าเวลาตื่นอยู่ หรือหลับอยู่ จิ้มหรือชี้จุด ไปตรงวุดใหน ก็เจอ อวิชชา ทุกครั้ง เสมอไป.

    ซึ่งความจริงแล้ว ผมเข้าใจชัด มานานแล้ว  แม้ผมไม่ได้ศึกษาอภิธรรม ไม่ทราบไม่เคยอ่านเจอธรรม ตรงส่วนนี้มาก่อน ตั้งแต่เกิดมา  แต่เมื่อได้ปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่งแล้ว เมื่อกว่ายี่สิบปีมาแล้ว.

    มีความเข้าใจชัดว่า  อวิชชา นั้นปรากฏอยู่ในทุกช่วงของ วงจรปฏิสจสมุทปบาทฝ่ายเกิด.

    ไม่ว่า วงจรปฏิสจสมุทปบาท จะไม่ครบวง ทั้งหมด  เช่น อวิชชา > สังขาร >วิญญาณ>นามรูป   แล้วหยุดอยู่เพียงแค่นี้ ก็ย่อมวนกลับไปเป็น  อวิชชาเกิดเพราะนามรูปเป็นปัจจัย ฯลฯ.

     เมื่อยังไม่มีปัญญาญาณ ดับ อวิชชาได้ อย่างสิ้นเชิง.

  ดังนั้นไม่ว่า วงจรปฏิสจสมุทปบาทฝ่ายเกิด จะหยุดลงตรงใหน ไม่ครบวง หรือเกิดจากปัญญาญาณ ดับอวิชชาแต่ยังไม่หมดสิ้นเชิง(เสขะบุคคล) ก็ย่อมวนกลับ ไปยัง อวิชชาเกิดเพราะ .... เป็นปัจจัย ฯลฯ


  ซึ่งผมได้คำตอบที่ชัดเจน จากกระทู้นี้
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12881377/Y12881377.html

  ข้อความส่วนนี้.

[๒๙๐] อวิชชาเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย ฯลฯ
                        อวิชชาเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ฯลฯ
                        อวิชชาเกิดเพราะนามเป็นปัจจัย ฯลฯ
                        อวิชชาเกิดเพราะอายตนะที่ ๖ เป็นปัจจัย ฯลฯ
                        อวิชชาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย ฯลฯ
                        อวิชชาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ฯลฯ
                        อวิชชาเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ฯลฯ
                        อวิชชาเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ฯลฯ

                        สังขารเกิดเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
                        วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย
                        นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
                        สฬายตนะเกิดเพราะนามรูปเป็นปัจจัย
                        ผัสสะเกิดเพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย
                        เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย
                        ตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย
                        อุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย
                        ภพเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
                        ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย
                        ชรามรณะเกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย
           ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้
อภิธรรมมาติกา จบ
           เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕  บรรทัดที่ ๔๐๘๖ - ๔๑๐๗.  หน้าที่  ๑๗๖.

จากคุณ : P_vicha
เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 11:54:56




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com