ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนั้นเรารู้แต่ว่า สบายใจมากเวลาช่วยเหลือพวกเขาน่ะคะ ให้พ้นจากทุกข์ทรมานที่มีอยู่ได้หมดไปอ่ะค่ะ  ไม่ได้คาดหวังอะไรว่าจะต้องนำเงินมาคืนหรืออะไร เราไปรพ.ของรัฐบาลน่ะค่ะ เลยพอจะจ่ายได้ จากคุณ : ผู้หญิงคนนั้น...คือฉัน เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 22:48:31

ความคิดเห็นที่ 2 ดีแล้วครับ อนุโมทนาด้วย แต่การเกิดใหม่หรือชาติหน้า เป็นเรื่องที่ยากจะหยั่งรู้ครับ อาจพบกันแต่อยู่คนละสถานะ หรือยังไม่เจอในชาติหน้า แต่เป็นชาติอื่นต่อๆไป เพราะบุญกรรมที่สั่งสมมาแตกต่างกัน และที่จะทำต่อไปอีกก็อาจแตกต่างกัน คงไม่ใช่พบกันได้ เพราะบุญทอดกฐินแต่เพียงอย่างเดียว จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 23:02:12

ความคิดเห็นที่ 3 ยืนยันได้100%ว่าแม่ลูกคู่นี้เคยมีกรรมสัมพันธ์ร่วมกันกับคุณมาแล้วในอดีตชาติ และที่ได้่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ในกาลข้างหน้าไม่ต้องมีญานหยั่งรู้ก็พอทราบว่าในชาติใดชาติหนึ่งจะต้องเกิดมาพบกัน ในสถานะใดสถานะหนึ่งอย่างแน่นอน ยิ่งได้ทำบุญร่วมกันจิตก็ยิ่งผูกพัันธ์กันในทางดี ถ้าเจอกันอีกครั้งก็จะมีแต่ความรู้สึกดีต่อกัน อาจจะเป็นญาติ เป็นพี่น้องเป็นเพื่อนก็สุดแล้วแต่ ในสังสารวัฏฏอันยาวนานนี้ หายากมาก ถ้าคนที่เรารู้จักทุกวันนี้ แม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงของเรา จะไม่เป็นญาติกันและกันมาก่อน จากคุณ : Up_To_You เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 23:49:17

ความคิดเห็นที่ 5 ขออนุโมทนาในการทำทานบารมีนี้ด้วยครับ จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 01:08:26

ความคิดเห็นที่ 6 ในเมื่อช่วยไปเพื่อความสบายใจ ไม่ได้หวังผลอะไร นั่นคือ บุญ ในตัวของมันเองอยู่แล้ว จะไปคิดถึงทานบารมี หรือจะเกิดมาเจอกันอีกมั้ยทำไม มันก็แค่เป็นเรื่องปรุงแต่งที่เราสมมุติขึ้นมาทั้งนั้น จะจริงไม่จริง ไม่มีทางรู้ได้ แม้แต่พระที่สอนเราเรื่องนี้ ก็ยังได้แค่จดจำมาสอนจากตำราทั้งนั้น ไม่มีใครเคยเห็นด้วยตาตัวเองทั้งนั้น ถ้าคิดว่าทำไปไม่หวังผลตอบแทนใดๆจริงๆ ไม่น่ามีคำถามพวกนี้ออกมา เพราะส่วนใหญ่ ทำบุญหวังผลสูงส่งกันทั้งนั้น หายากที่ไม่หวังอะไรจริงๆ เลยต้องมารีเช็คดูว่า ทำไปแค่นี้ จะได้อะไรตอบแทนมาบ้าง  จริงมั้ยครับ จากคุณ : Persimon เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 01:20:14

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องดีๆนี่ครับ ก็ทำตามอัตตภาพ อย่าให้ถึงกับเราต้องไปกู้หนี้มาทำทาน ให้ความรัก ความเมตตากันก็รับรู้ได้ ทานบารมีทำให้เต็มๆทุกตัว  มันมาพร้อมกัน วิริยะบารมี ปัญญาบารมีได้พร้อมกันไปด้วย หมั่นพิจารณา ทุกข์ เห็นทุกข์ของตน คนอื่น ส่วนอธิฐานบารมีก็ใช้กำกับ ขอให้สมหวัง จากคุณ : มาเป็นญาติกันดีๆนะ (HeavenMoon) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 10:43:09

ความคิดเห็นที่ 8 ขอ อนุโมทนาบุญนี้ด้วยคะ สาธุ จากคุณ : ไหมสีตอง เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 11:26:29

ความคิดเห็นที่ 9 อนุโทนา แห่งความเมตตากรุณาที่ช่วยเหลือที่ด้อยกว่า จิตใจเป็นใหญ่ ไม่สัตว์เล็กสัตว์น้อยใหญ่ เด็ก ผู้ใหญ่ --------------------------------------------------------------- ขอยก ทานวรรค คือ หมวดทาน ๑๔๕. ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ.         ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้.         สํ. ส. ๑๕/๓๑๖. ๑๔๖. ททํ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหู.         ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก คนหมู่มากย่อมคบเขา.         องฺ. ปญฺก. ๒๒/๔๓. ๑๔๗. ททมาโน ปิโย โหติ.         ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก.         องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๔๔. ๑๔๘. สุขสฺส ทาตา เมธาวี สุขํ โส อธิคจฺฉติ.         ปราชญ์ผู้ให้ความสุข ย่อมได้รับความสุข.          องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๔๕. ๑๔๙. มนาปทายี ลภเต มนาปํ.         ผู้ให้สิ่งที่ชอบใจ ย่อมได้สิ่งที่ชอบใจ.         องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๕๕. ๑๕๐. เสฏฺฐนฺทโท เสฏฺฐมุเปติ ฐานํ.         ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ.         องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๕๖. ๑๕๑. อคฺคสฺส ทาตา ลภเต ปุนคฺคํ.         ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศอีก.         องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๕๖. ๑๕๒. ททโต ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ.        เมื่อให้ บุญก็เพิ่มขึ้น.         ที. มหา. ๑๐/๑๕๙. ขุ. อุ. ๒๕/๒๑๕. ๑๕๓. ทเทยฺย ปุริโส ทานํ.        คนควรให้ของที่ควรให้.         ขุ. ชา. สตฺตก. ๒๗/๒๑๗. ----------------------------------------------------------        สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย.        ความสั่งสมขึ้นซึ่งบุญ นำสุขมาให้.        ขุ. ธ. ๒๕/๓๐. ----------------------------------------------------------------- ขอยกเรื่องพระสีวลี จากคำเทศนาของหลวงตามหาบัว             พระพุทธเจ้าท่านจะพาพระสงฆ์ไปเยี่ยมพระเรวัตตะ พระเรวัตตะเป็นน้องพระสารีบุตร ท่านชอบอยู่ แต่ในป่าๆ ในป่าลึกๆ นั้นพระสงฆ์หรือใครต่อใครก็พูดด้วยความเดือดร้อนใจ เพราะไปเยี่ยมท่านเรวัตตะแล้ว จะทำอย่างไร ท่านอยู่ในป่าเราไปจะได้กินอะไร โอ้ เอาพระสีวลีไปด้วยซี พระพุทธเจ้าท่านยกสาวกของท่าน เอาพระสีวลีไปด้วยไม่อด ใครจะไปเกินพระพุทธเจ้า แต่เวลาพูดเอาพระสีวลีออกมา เอาพระสีวลีไปซี ไม่อดอยาก พระสีวลีไปด้วยแล้วเหลือเฟือ          คือพระสีวลีนี้เป็นกองมหากุศลในการให้ทาน จนเป็นนิสัยติดสันดานมาตลอด ได้กินไม่ได้ทานอยู่ไม่ได้ พระสีวลี แต่ก่อนมีแต่ให้ทานๆ ไปที่ไหนเขามีงานมีการต้องเอาพระสีวลีตั้งแต่เป็นฆราวาสเอาไปเป็นประธาน ในงานต่างๆ เพราะท่านเก่งทางการทำบุญให้ทาน ทีนี้เวลามาบวชก็เหมือนกันพระสีวลีเป็นผู้มีอติเรกลาภมากที่สุด ไปไหนใครถวายไทยทานเกลื่อนไปเลย อย่างนั้นละ ------------------------------------------------------------------------------ จากคุณ : chiwat เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 20:27:14