1. การที่ท่านเจาะจงแสดงพระอภิธรรมให้พระสารีบุตร ฟังแต่ผู้เดียวนั้นเป็นไปได้หรือไม่ว่า พระองค์ทรงเห็นว่าก็มีแต่พระสารีบุตรเท่านั้น ที่เข้าใจคำสอนเหล่านั้นได้ เพราะท่านเป็นผู้มีปัญญามาก... .......พระอานนท์เถระ เอตทัคคะในทางผู้เป็นพหูสูต ผู้มีสติ ผู้มีคติ ผู้มีความเพียร และเป็นพุทธอุปัฏฐาก ฯลฯพระเถระเหล่านี้ยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ยินได้ฟังเลย แล้วปัญญาของคนในยุคนี้เหมาะกับธรรมอันลึกซึ้งที่ทรงตรัสสอนเฉพาะพระสารีบุตรหรือ อย่างไร ?
ข้อนี้ผมไม่แน่ใจครับเพราะหลักฐานไม่ชัดเจนนักว่า
พระองค์แสดงพระอภิธรรมให้พระสารีบุตรคนเดียวหรือไม่
เพราะ พระอานนทเถระได้เรียนธรรมจาก พระพุทธเจ้ามา ๘๒,๐๐๐ ธรรมขันธ์
ได้เรียนมาจากพระสารีบุตร ๒,๐๐๐ ธรรมขันธ์ จึงรวมเป็น ๘๔,๐๐๐ ธรรมขันธ์
หากเป็นเช่นนี้ ย่อมแสดงว่าพระอานนท์เรียนพระอภิธรรมจากพระพุทธเจ้าด้วยเช่นกัน
2. ที่ท่านกล่าวว่า ... "ไม่มีใครที่สามารถเลือกแสดงธรรมได้เหมาะสมกับผู้รับอีก จึงต้องแสดงธรรมะที่ควรจะถ่ายทอดไว้ทั้งหมดในพระไตรปิฏก"
คำถามคือ พระองค์ท่านถ่ายทอดด้วยวิธีการใด ถึงปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏก เพราะพระเถระในยุคปฐมสังคายนาไม่ได้มุขปาฐะไว้ ?
ที่มาขอคำกล่าวที่ว่าพระเถระในยุคปฐมสังคายนาไม่ได้มุขปาฐะ
ในส่วนของพระอภิธรรมมาจากไหนครับ
จริงอยู่พระอภิธรรมถูกแยกออกมาเป็นอีกหนึ่งตะกร้าในการสังคายนาครั้งที่3
แต่ไม่ได้แปลว่าก่อนหน้านั้นไม่มีธรรมะที่เป็นส่วนของพระอภิธรรม
อยู่ในพระธรรมวินัยที่มุขปาฐะกันตั้งแต่ปฐมสังคายนานี่ครับ
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากขอดูหลักฐานนั้นจริงๆครับ
3. ท่านกล่าวว่า ... " ถ้าได้ศึกษาจะเห็นได้ชัดขึ้นครับ ผมเข้าใจขันธ์5 ขึ้นเยอะ หลังจากได้ศึกษาพื้นฐานพระอภิธรรมไปราวๆ 20%
"
คำถามคือ ท่านยังสามารถเข้าใจได้ "ขึ้นเยอะ ทั้งๆ ที่เพิ่งศึกษาพื้นฐานไปแค่ 20%" แล้วทำไมภิกษุ/ภิกษุณี ที่เป็นเอตทัคคะทั้งหลาย ภิกษุ/ฆราวาส ในยุคนั้น
จะไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะเข้าใจได้บ้างเชียวหรือ ? ทั้งๆ ที่คนสอนที่เก่งที่สุด ก็อยู่ ณ ที่นั้นด้วย ? ประเด็นที่สำคัญยิ่งก็คือ พระอรหันต์ย่อมต้องประจักษ์และเข้าใจ "ปรมัตถ์สภาวะ" ด้วยตัวท่านเองอยู่แล้ว ทำไมท่านจึงไม่เหมาะสมที่จะรับฟังพระอภิธรรม ? ท่านน่าจะเป็นผู้ที่สมควรที่จะได้รับฟัง และเที่ยวจาริกไป ถ่ายทอดธรรมนั้นมากกว่าผู้ใดมิใช่หรือ ?
แล้วทำไมพระอรหันต์อื่นๆถึงจะต้องไม่เคยได้ฟังพระอภิธรรมล่ะครับ
ผมไม่เข้าใจ เหตุใดพระสารีบุตรจำต้องเก็บพระอภิธรรมไว้กับตัวคนเดียวหรือครับ?
พระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพระมารดาตั้งแต่พรรษาที่7
เหลือเวลาอีกตั้งสามสิบกว่าพรรษา ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าพระพุทธเจ้าไม่เคยแสดงธรรมให้พระอรหันตสาวกใดฟังเลย
อย่างน้อยๆ พระอานนท์ก็ได้เคยสดับจากพระพุทธเจ้าแน่ๆล่ะ
ยังพระอรหันต์ 500รูปศิษย์พระสารีบุตรอีก
ที่ผมว่าอย่างน้อยพระอริยะเหล่านี้คงได้มีโอกาสพบพระพุทธเจ้าบ้างล่ะ
แล้วจะไม่มีการสอบถามธรรมะเชียวหรือ
ส่วนเหตุผลเรื่องการเลือกผู้ฟังที่เหมาะสมที่ผมกล่าว
ผมว่าไปตามหลักเหตุหลักผล
เท่าที่ผมรู้จักพระพุทธเจ้าผ่านทางพระไตรปิฏกว่า
พระองค์เป็นผู้มีเหตุมีผลที่สุดในโลก
ธรรมที่พระองค์ประทานแก่เวไนยสัตว์ ไม่มีส่วนใดเลยที่ไม่มีเหตุไม่มีผล
ดังนั้น หากพระองค์ไม่เห็นว่าพระอภิธรรมมีประโยชน์ก็คงไม่แสดงแก่
พระอานนท์และพระสารีบุตร และ/หรือ พระสาวกอื่นๆเป็นแน่แท้ครับ
เท่าที่อ่านพระสูตรมา พระองค์เน้น เรื่องอริยมรรคมีองค์ ๘ มาก แม้กระทั่งคำสอนสุดท้ายที่ตรัสแก่สุภัททะ ก็ยังคงตรัสว่า .... ..
วิธีการตรวจสอบว่าปฏิบัติผิดถูกประการใด ก็ต้องรู้ด้วยตนเองไม่ใช่หรือว่า ที่ปฏิบัติอยู่นั้น ... เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน โดยส่วนเดียว ... หรือไม่ ไม่ใช่หรือ ...
ถ้าง่ายอย่างน้ัน ท่านพุทธทาสก็คงบรรลุโสดาบันไปนานแล้วมั้งครับ
คงไม่มีวิจิกิจฉาในพระรัตนตรัยเหมือนเช่นที่
บอกว่าพระพุทธเจ้าเอออวยสวมรอย
บอกว่าให้ตัดพระวินัยทิ้ง
บอกว่าให้ตัดพระสูตรหลายๆพระสูตรทิ้ง
บอกว่าพระอภิธรรมเฟ้อ ไม่จำเป็น เป็นพระอภิธรรมกัญชา พระอภิธรรมเม็ดมะขาม
ถ้าเช็คตัวเองได้ง่ายขนาดนั้น นักปฏิบัติคงบรรลุกันทั้งโลกแล้วมั้งครับ
อันนีผมพูดตามหลักเหตุหลักผลนะ
ไม่งั้นหลวงปู่มั่นคงไม่เสียเวลาเกือบครึ่งชีวิต
ในการตามรอยแนวทางเดินของพระอริยะได้สำเร็จโดยแทบจะไม่มีผู้ใดนำทาง
เพราะก่อนหน้านั้น พระอริยะในประเทศเราขาดหายไปเนิ่นนาน
(อันนีผมอ่านมาจากประวัติหลวงปู่มั่นนะครับ อย่าอะไรมากมายแล้วกัน)
จนเกิดเป็นครูบาอาจารย์พระอริยะสายวัดป่าในทุกวันนี้
(ซึ่งก็คงอีกไม่นานก็ละขันธ์กันหมด ส่วนรุ่นหลังอันนี้ผมไม่ค่อยมั่่นใจเท่าไหร่แฮะ)
5. อ่านเจอ วิญญาณ มโน และจิต ใน ๒ ปิฎก : สมเด็จพระสังฆราชฯhttp://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=29292
ความเห็นของสมเด็จ ฯ ท่านตรัสว่า ...
นักอภิธรรมบางท่านได้กล่าวหาผู้ที่แสดงอย่างนี้ว่า ..
เท่าที่ผมทราบ องค์ฌานในพระอภิธรรมกับองค์ฌานในพระสูตร
ก็มีส่วนต่างอยู่บ้างเช่นเดียวกันครับ
เข้าใจว่าขึ้นอยุ่กับการแสดงโดยนัยยะใด
แต่เท่าที่ศึกษามาจนถึงตอนนี้ ผมยังไม่เคยเจอขันธ์ที่ 6 ครับ
ในพระสูตรเองการแบ่งขันธ์ในแต่ละพระสูตร บางทีก็แตกต่างกันออกไปนะครับ
ผมจำชื่อพระสูตรไม่ได้ แต่คุ้นๆว่ามีบางพระสูตร พูดถึงร่างกายนี้เป็นเฉพาะรูปขันธ์
แต่บางพระสูตรก็พูดถึงร่างกายนี้เป็นทั้งรูปขันธ์และนามขันธ์
ดังนั้นคงต้องดูบริบทประกอบมั้งครับ ผมว่านะ
ท่านcantona_z และท่าน P2wichai หากว่าง ลองเปิดอ่านตาม link นั้นจะเห็นว่า ท่านผู้เรียนพระอภิธรรมยังมีความเห็นไม่ตรงกันเลย ....
ไม่ต้องถึงพระอภิธรรมความเห็นไม่ตรงกันหรอกครับ
เอาแค่พระวินัยยังตีความไม่ตรงกันเลย
เอาง่ายๆ ศีลเบสิคๆอย่างข้อสอง อทินนาทาน
เรื่องpirate software กล่องฝัน sopcast ผิดไม่ผิดยังเถึยงกันไม่จบ
ยังไม่ต้องไปถึงปรมัตถ์ธรรม ซึ่งเป็นแก่นแท้ของธรรมทั้งปวงครับ
แล้วท่านจะใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสินว่าขัดกับพระพุทธพจน์หรือไม่ (เพราะคำเหล่านั้น ไม่ปรากฏในชั้นพระสูตร) ?
ผมคงดูตาม sense ของธรรมะนั้นมั้งครับ
เพราะปัญญาและความเพียรผมค่อนข้างจำกัด
คงไม่นั่งเสียเวลาวิเคราะห์บาลีชั้้นก่อนชั้นหลังขนาดรู้ได้ว่า
บาลีเมื่อ 2600ปีในพระสูตรกับ พระอภิธรรมนั้นแตกต่างกันเรื่องเวลา
เป็นภาษาเก่ากับภาษาชั้นหลัง
ทั้งๆที่เวลาน่าจะต่างกันแค่ 200 ปีคือ 2600 กับ 24xx ปีที่แล้ว
(ถ้าตามพุทธทาสว่านะ)
ผมไม่ปราดเปรื่องเรื่องปัญญาเหมือนพุทธทาส
ขนาดผมดูตัวอักษรพ่อขุนราม กับพญาเม็งราย ต่างกันแค่ร้อยปีมั้้ง
ผมยังดูไม่ออกเลยว่าต่างกันยังไง
อันนี้ก็ต้องยอมรับในอัจฉริยภาพของพุทธทาสอ่ะนะ
ผมทราบแต่ว่าเท่าที่ผมศึกษามา ทั้งในพระวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม
ธรรมะทั้งสามส่วนนี้ หากถูกบัญญัติโดยพระพุทธเจ้าจริง
ก็จะต้องไม่มีส่วนใดที่ขัดแย้งซึ่งกันและกัน
ถ้ามีส่วนไหนแปลกประหลาด ผมเองก็ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเหมือนกันครับ
อย่างเรื่องราหูอมพระอาทิตย์พระจันทร์ในพระสูตร
อันนั้้น ผมเองก็ยังตั้งข้อสงสัยว่าเป็นส่วนปลอมปนหรือไม่
หรือแม้แต่เรื่องท่านว่านิพพานเป็นอนัตตาที่อยู่ดันไปอยู่ในพระวินัย
ผมเองก็ไม่คิดว่าเป็นพุทธพจน์เช่นกัน
จากเท่าที่ผมศึกษา ผมพบสิ่งแปลกประหลาดอย่างนึงครับว่า
ธรรมะของพระพุทธเจ้ามีคุณสมบัติที่พิเศษ
คือจะหลอมรวมกลมกลืนกับธรรมะของพระพุทธเจ้าด้วยกัน
และจะผลักดันอะไรที่ไม่ใช่ให้เด่นชัดออกมาจนสังเกตได้
โดยส่วนตัวผมคงใช้เกณฑ์นี้มั้งครับ
จริงๆแล้วอยากเสนอคุณคนดูว่า
แทนที่จะตั้งข้อสงสัยว่าพระอภิธรรมเป็นธรรมจากพระพุทธเจ้าแท้หรือไม่
ทำไม่ไม่ลองเข้ามานั่งศึกษาดูล่ะครับ
ผมว่าภูมิธรรมของคุณคนดู ดีกว่าผมมากมายด้วยซ้ำ
เมื่อได้ใช้เวลาโดยไม่มีอคติสักระยะ ผมให้เต็มที่ไม่น่าเกิน 2 เดือน
คุณคนดุน่าจะสามารถตัดสินได้ด้วยตนเองแล้วล่ะครับ
ว่าพระอภิธรรมนั้นดีพอ เหมาะสมที่จะเป็นธรรมจากพระพุทธเจ้าแท้หรือไม่
เพราะผมมองว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าเป้นเรื่องเหตุผล
เป็นอะไรที่ make sense ครับ
มันจะน่าตลกสักแค่ไหนครับ
ที่ธรรมในระดับสมมติบัญญัติ ศาสดาเป็นผู้สอน
แต่ธรรมที่เป็นขั้นปรมัตถ์ กลับเป็นสาวกบัญญัติขึ้นมา
เป็นไปได้หรือครับ
บอกตามตรงว่า ผมมั่นใจว่าพระอภิธรรมเป็นธรรมแท้ของพระพุทธเจ้า
เหตุผลหลักไม่ใช่เรื่องอยู่ในสังคายนาหนไหน พระอานนท์เรียนมาเท่าไหร่
บาลีนั้นเป็นพุทธวจนะหรือไม่
แต่เพราะเมื่อได้เริ่มศึกษาแล้ว ผมกล้ากล่าวว่า
ในจักรวาลนี้ไม่มีผุ้ใดอีกแล้วที่มีความสามารถในการบัญญัติธรรมเช่นนี้ได้
เพราะฉะนั้น ผมไม่เคยมีความสงสัยในพระอภิธรรมเลยครับว่าแท้ไม่แท้
ไม่มีเลยแม้แต่น้อยครับ