Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
How Islam’s Golden Age Shaped the Modern World.... ติดต่อทีมงาน

 บทความเรื่องนี้ยังใหม่และทันเหตุการณ์ เป็นบทความที่แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยี ต่างๆที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ มาจากโลกอรับมุสลิม เช่น, กล้องถ่ายรูป, กาแฟ, แปลงสีฟัน, และน้ำหอมกลิ่นต่างๆ ฯลฯ, นั้นมีแหล่งกำเนิดมาจากแห่งเดียวกันคือมาจาก สมัยยุคทองของมุสลิมในภาคตะวันออกกลางในครั้งที่มีการค้นพบสิ่งต่างๆทางวิทยาศาสตร์ในยุคศิวิลัยของมุสลิม, ทั้งนี้เพราะว่าในสมัยนั้น, นักประดิษฐ์และนักค้นคิด มีอิสระเสรีภาพในการใช้สติปัญญาและความสามารถเท่าที่พระเจ้าประทานมา  ภายใต้สภาพแวดล้อมของการมีเสรีภาพทางปัญญา

 By Lauren Monsen, 24 September 2012

Washington — What do cameras, coffee, toothbrushes and perfume have in common? All of them trace their origins to the Golden Age of Muslim civilization, an era of scientific breakthroughs made possible because scientists and inventors ..........

อ่านต่อได้จาก

http://iipdigital.usembassy.gov/st/english/article/2011/07/20110721150850nerual3.124636e-02.html#axzz2BW3F0P4M

 

จากบทความนี้ จะเห็นว่าตั้งแต่เริ่มยุคแรกของอิสลามมุสลิมได้นำความรุ่งเรื่อง  ทางวิชาการในสาขาต่างๆ มาสู่โลก,ทั้งนี้เพราะว่า มุสลิมในภาคตะวันออกกลางในสมัยนั้นยึดถือและศรัทธาต่ออิสลามอย่างถูกต้องและเคร่งครัดต่อหลักการวิถีทางชีวิต ตามอัลกุรอานและซุนนะห์ของท่านศาสนทูตมูฮัมมัด ผู้ใช้อัลกุรอานเพียงอย่างเดียวในการสั่งสอนมุสลิมอย่างเคร่งครัด

 

 แต่อิสลามในในภาคตะวันออกกลางในปัจจุบันมุสลิมพยายามที่จะทำการต่อสู้เพื่อความคงอยู่ของอิสลามด้วยการ เรียกร้องความยุติธรรมด้วยการฆ่าและการทำสงคราม

 

 ทั้งนี้เพื่อหาทางออกจากความล้มเหลวของสังคมมุสลิมที่ไม่ปฏิบัติตนตามหลักการของอิสลาม โดยการประยุกต์ใช้อิสลามให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมตามหลักการของอิสลาม, โดยไม่ให้อิสระภาพในความคิดแก่ประชาชน

 

  ไม่ใช้อัลกุรอานแต่เพียงอย่างเดียวในการ ดำเนินชีวิตและนำวิทยปัญญาในอัลกุรอานมาใช้, แต่กลับไปให้ความสำคัญต่อแนวทางอื่นที่ไม่ใช่บัญญัติของพระเจ้าหรือให้ความสำคัญเหนือกว่าบัญญัติของพระเจ้า

 

อัลกุรอานบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า.

 

"และจงรู้ว่า นี้ (บัญญัติในอัลกุรอาน)คือวิถีทางที่ถูกต้อง, เป็นสิ่งที่ถูกต้องดังนั้นจงปฏิบัติตาม,และอย่าปฏิบัติตามสิ่งอื่นใด, เพราะว่าสิ่งอื่นๆเหล่านั้นจะพาเจ้าออกนอกทางของพระเจ้า, ด้วยเหตุนี้พระองค์ได้กำชับให้พวกเจ้าปฏิบัติตามเพื่อพวกเจ้าจะได้เป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริง (6:153)"

 

   และอีกบัญญัติหนึ่งบัญญัติไว้มีความหมายว่า มุสลิมจะต้องทำให้สังคมของมุสลิมเจริญเติบโตด้วยการเชิญชวนผู้คนทั้งหลายให้เห็นความแตกต่างระหว่างความดีและความชั่ว,และจงปฏิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้อง,และจงอย่าปฏิบัติในสิ่งที่ชั่วช้า,แล้วมันจะเป็นสิ่งที่จะทำให้ชุมชนเป็นชุมชนที่มีความสุข (3:104)

 

 การที่มุสลิมในภาคตะวันออกกลางตกต่ำในปัจจุบันเนื่องจากการ ไม่ปฏิบัติตามที่พระเจ้าบัญญัติไว้ ไปหลงตามวิถีทางเดินอื่นซึ่งเลื่อนลอย และเมื่อสังคมมุสลิมของเขาล้มเหลวเช่นในปัจจุบันนี้แล้ว, มุสลิมในภาคตะวันออกกลางกลับไปโทษประเทศตะวันตก,ที่เขาเอาความเจริญของมุสลิมซึ่งเกิดจากวิทยปัญญาในอัลกุรอานไปปรับปรุงและทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์และเทคโนโลยีใหม่ๆขึ้นมา

 

 ซึ่งทำให้ สังคมตะวันตกของเขาเจริญก้าวหน้ากว่าสังคมมุสลิมอรับในปัจจุบัน ทั้งทาง วิชาการและ ทางคุณธรรม หรือพูดง่ายๆก็คือ สังคมมุสลิมในภาคตะวันออกกลางมีความอิจฉาริษยาต่อความเจริญ และความมีเสรีภาพในทางสติปัญญาของประเทศตะวันตกเช่นเดียวกับมุสลิมอรับเคยมีในสมัยเริ่มแรก

 

  ซึ่งสังคมมุสลิมอรับในภาคตะวันออกกลางไม่อาจจะกลับไปสู่ความเจริญในสมัยรุ่งเรื่องเช่นก่อนได้อีก, ในปัจจุบันไม่อาจแม้แต่ว่าจะมีกำลังในการปกป้องสังคมมุสลิมของเขาเอง, ต้องอาศัยพลานุภาพทางกำลังจากประเทศตะวันตก

 

    การก้าวหน้าในทางคุณธรรมนั้น คือสังคมของชาวอรับมุสลิมและสังคมของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมในประเทศตะวันตก,ไม่มีการลงโทษที่เหี้ยมโหดและทารุณดังเช่น การลงโทษภายใต้ "กฎหมายชารีอะ" ของสังคมมุสลิมในประเทศตะวันออก

 

   เหตุที่ผมไม่ เรียก “ชารีอะ” ว่า “กฏหมายอิสลาม” เนื่องจากว่าบัญญัติลงโทษในกฏหมาย “ชารีอะ” ส่วนมากที่ใช้บังคับในประเทศมุสลิมต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่อัลกุรอานบัญญัติ, มีการลงโทษที่รุนแรงและออกนอกขอบเขตของอิสลาม

 

พระเจ้ามีบัญญัติห้ามไว้ดังนี้

 

أَمْ لَهُمْ شُرَكَاءُ شَرَعُوا لَهُمْ مِنَ الدِّينِ مَا لَمْ يَأْذَنْ بِهِ اللَّهُ ۚ وَلَوْلَا كَلِمَةُ الْفَصْلِ لَقُضِيَ بَيْنَهُمْ ۗ وَإِنَّ الظَّالِمِينَ لَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ {21}

 

Or have they associates who have prescribed for them any religion that Allah does not sanction? And were it not for the word of judgment, decision would have certainly been given between them; and surely the unjust shall have a painful punishment.

[Shakir 42:21]

 

 คำอธิบาย..

“ไม่มีกฏหมายใดๆจะถูกบัญญัติขึ้นมาได้,โดย ไม่ได้รับอนุมัติจากพระเจ้า,ดังนั้นถึงแม้ว่าบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาที่สร้างภาคีต่อพระเจ้าก็ไม่อาจจะทำได้.

   อัลเลาะห์ได้ให้การผ่อนผันต่อผู้ ปฏิเสธศรัทธาและในขณะเดียวกันพระองค์จะไม่รั้งรอในการลงโทษแก่พวกเขาเช่นกัน( อัลกุรอานบัญญัติที่42:21) และเช่นกันกับใน ซูเราะฮฺ ยูนุส  10:19 และ  ซูเราะฮฺ อัรเราะอฺดฺ 13:6 ; และบัญญัติที่42:18 จาก

 อัลกุรอานบทเดียวกันนี้”

 

การลงโทษใน กฏหมาย “ชารีอะ” ที่มีการลงโทษนอกขอบเขตุ ของพระเจ้า จึงเป็นกฏหมายเถื่อนที่ ฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮ์ตะอาลา

 

แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 00:35:48

จากคุณ : แมทท์
เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 16:39:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com