 |
credit : Facebook เวหา เวหา
วันเวลา แห่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของการเมืองประเทศนี้ ได้มาถึงแล้ว ดังนี้ ประการที่ ๑. การเกิดสุริยคราสเต็มดวง ณ . วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๕.๑๑ น. นั้น การเกิดสุริยคราส หรือ จันทรคราส ในแต่ละครั้ง โหรโบราณมักจะใช้เป็นจุดสังเกตว่า การเกิดคราสแต่ละครั้งๆนั้น จะส่งผลเช่นไรต่อดวงเมือง ซึ่งการเกิดคราสในครั้งนี้ มีผลกระทบต่อดวงเมืองอย่างใหญ่หลวงแน่นอน ดังนี้ ๑.๑ ลัคนาเวลาเกิดคราส กุมทับสนิทกับดาวเสาร์จรแบบแทบจะสนิทองศา ดาวเสาร์นั้น ถือเป็นจ้าแห่งดาวบาปเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งกำลังเป็นอุจจ์ ในราศีจักร และกำลังเป็นเกษตรในนวางค์จักร ( ซึ่งหมายถึงการส่งผลกระทบอย่างรุนแรง( อุจจ์ราศีจักร) และ มั่งคงยาวนาน ( เกษตรนวางค์จักร) และเล็งร้าย ๑๘๐ องศาเต็มๆ ไปที่ ดาวอาทิตย์เดิม(๑ เดิม) ดวงเมืองเต็ม ๑๐๐ % และ ทำมุมร้ายหักศอก ๙๐ องศา ไปยังดาวจันทร์เดิม(๒เดิม) ดวงเมืองเติมๆ ตามเกณฑ์การทำงานของ ดาว(๗) อย่างเต็มพิกัด นั้นหมายความว่า ดาว (๑) และ ดาว( ๒) ของดวงเมืองถูก ดาว(๗ )จร ยิงไปเต็มๆ ผลของมันจะเกิดตามกลอนโหรา ดังนี้ เสาร์ถึงพระอาทิตย์ ปฎิสนธิในชาติ ชนนั้นจะถึงฆาต บ่มีทรัพย์จะสาธารณ์ ถ้อยความจะถึงตู ผิสัตรูจะปองผลาญ แม้นหมิ่นประมาทการ ก็จะเป็นอันตราย ข้อนี้มีความขยายความเพิ่มเติมไว้ว่า ดาวเสาร์ในทางโหราศาสตร์ กันว่า เป็นดาวบาปเคราะห์ใหญ่ที่ให้แต่สรรพโทษทั้งปวง เมื่อเสาร์ทับ ( หรือเล็งหรือทำเกณฑ์ร้าย) ถึงอาทิตย์ มีสถิติว่า ต้องเสียตำแหน่ง หน้าที่ราชการ และงานบริษัท หรือขาดทุนล้มละลาย ตัวเองก็ป่วยหนัก ( นั่นเป็นเรื่องของตัวบุคคลทั่วไป แต่ถ้าเป็นดวงเมือง ก็ต้องตีความว่า ผู้มีตำแหน่งมีอำนาจอยู่ในฝ่ายบริหาร (ก็คือ รัดทะบานนั้นแหละ ) และยิ่งเป็นช่วงที่ดาวอาทิตย์ถูกคราส ในอาณาจักรแห่งการโคจรที่ราศีตุลย์ อันเป็นห้องแห่งท้องฟ้าที่ดาวอาทิตย์เป็นนิจ คือ อ่อนแรงที่สุด ( อาทิตย์นิจ = ผลงานการบริหารแย่ เสื่อมเลวทรามที่สุด ) อย่างนี้แล้ว รับประกันได้ว่า รัดทะยานจะต้องถูกถีบให้ออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน เสาร์ถึงจันทร์เดิม นั้นก็ไม่ใช่เล่นๆ ถ้าเป็นบุคคลทั่วไป ก็จะป่วยหนัก เสียทรัพย์สินและมีอุปสรรคด้วยประการต่างๆ จะมีความโศกเศร้าเสียข้าฅนและลูกเมีย ถ้าเป็นดวงประเทศก็หมายถึง ผ่ายบริหารจะโดนดาวเสาร์กระทำให้เป็นไปตามนั้น เสาร์ทับ ( ถึง ) พระเคราะห์จันทร์ นรนั้นบ่มิสบาย ทรัพย์สินจะเสียหาย อุปสรรค์จะมีมา ข้าฅนแลลูกเมีย ก็จะเสียจะโศกา ขอคุณพระรักษา ชนม์ชีพจะยืนนาน ซึ่งเวหา เคยเตือนไปหลายวาระแล้วว่า ให้:-)และครอบครัวเตรียมตัวหาโรงเรียนให้ลูกมันที่ต่างประเทศได้แล้ว ไม่เพียงเท่านั้น การเกิดคราสครั้งนี้ ดาวพฤหัสบดีจร (๕ จร) ก็ได้ทำกุมทับ ดาวอังคารเดิม (๓เดิม) อันเป็นดาวประจำเมือง เต็มๆ ๐ องศาด้วยเช่นเดียวกัน มองในแง่ที่ ดาว ( ๕ ) เป็นจ้าวแห่งดาวศุภเคราะห์ที่ใหญ๋ที่สุด ก็แปลความว่า ดาวประจำเมือง ( ๓) กำลังได้รับการปกป้องคุ้มครองจากดาว( ๕ ) ให้ประเทศชาติผ่านพ้นความเลวร้ายไปได้ หมายเหตุ ผลแห่งการเกิดสุริยคราสในแต่ละคราสนั้น จะมีผลไปถึงการเกิดสุริยคราสครั้งใหม่ ถึงมีผลไปถึงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ หลังจากเกิดสุริยคราสเต็มดวงไม่นาน ได้เกิดปรากฏการณ์ นัดชุมนุมใหญ่ เพื่อขับไล่รัฐบาลนางหน้าโง่ นอมีหนี้ พี่ชายนักโทษชายหนี้คดี ขึ้นโดย อดีตขุนทหาร ผู้มีนรลักษณ์ ตามที่เวหาได้พิเคราะห์ไว้ ( หาอ่านได้ที่ พิเคราะห์เสธอ้ายโคยเวหา ) ออกมาประกาศชุมชนขับไล่ รัดทะบานขายชาติเอาประโยชน์เข้ากระเป๋าโคตรเหง้าตัวเอง ซึ่งการนัดหมายนั่น คือ วันที่ ๒๔ พฤศจิยายน ๒๕๕๕ นั้น มีปรากฏการณ์ดวงดาวที่น่าสนใจ มากๆ ดังนี้ ๑. ดาว(๗) จร ยังคงทำมุมร้าย ๑๘๐ องศาไปยัง ดาว(๑) เดิมดาวเมือง และ ทำเกณฑ์ร้าย ๙๐ องศา ไปยังดาวจันทร์ (๒)เดิม ดวงเมืองเช่นเดิม ๒. ดาวอาทิตย์จร คือ ดาวรัดทะบาน กำลังจรเข้าไปสู่ภพมรณะแห่งดวงเมือง แปลความว่า รัดทะบานกำลังจะมรณังพังพินาศ ๓. ดาวอังคาร อันเป็นดาวประจำเมือง กำลังโคจรไปทับดาวเสาร์เดิมในภพศุภะ ( เรือนที่มความหมายถึงรัฐสภา ,รัฐธรรมนูญ ,กฎหมาย) ร่วมกับ ดาวพลูโต ( จ้าวแห่งการปฎิวัติเปลี่ยนแปลงจากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่งอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ) และ โหรสมัยใหม่ ให้ข้อสังเกตว่า ดาวพลูโต เป็นดาวคู่แฝดกับดาวอังคาร เนื่องจากมีคุณสมบัติเหมือนหรือคล้ายกับดาว (๓) มาก แต่ส่งพลังออกมาเป็น ๒ เท่าของดาว (๓) จึงตีความได้ว่า ดาวอังคารยกกำลัง ๓ กำลังทับดาว ( ๗ ) เดิมในภพศุภะดวงเมืองซึ่งมี ดาว ( ๕ ) เป็นเจ้าเรือน และ ๔. ดาว ( ๕ ) จรก็กำลังจรเป็นทับ ดาว ( ๓ ) เดิมในดวงเมืองอย่างสนิทองศามาตั้งแต่วันที่เกิดสุริยคราสแล้ว และ ๕. ดาว (๕ ) จรซึ่งทับ ดาว( ๓ ) เดิมดวงเมืองในราศีพฤษภนั้น มีดาว ( ๖ ) เป็นเจ้าเรือน ซึ่ง ดาวศุกรจร ก็กำลังจรเข้าไปร่วมกับ ดาว ( ๗ ) จร รุมกับเล็ง ๑๘๐ องศาไปยัง ( ๑ ) เดิม ดวงเมือง และ ทำมุม ๙๐ องศาหักศอกไปยัง ( ๒ ) เดิม ดวงเมือง ๖. ขณะดาว (๔ ) อันเป็นดาวอริ แห่งลันาดวงเมือง ก็โคจรร่วมกับเสาร์และ ศุกร์จร เล็งร้าย ๑๘๐ องศาไปยัง ลัคนาดวงเมืองอย่างเต็มที่ ( ๔ + ๖ + ๗ อุจจ์ ) = มวลมหาประชาชนผู้ชุมชนเรียกร้องให้ รัดทะบานเฮงซวยออกไปจากระบบ ) ๗. และดาวมฤตยู จร ซึ่งโคจรในเรือนวินาศน์ดวงเมือง ก็ทำมุมร้าย ๙๐ องศาไปยัง ดาว ( ๗ ) เดิมดวงเมืองในภพศุภะดวงเมือง อีกสถานหนึ่ง สรุปคือว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่จากผลแห่งการโคจรของดวงดาวที่กระทบต่อดวงเมืองไทยอย่างแน่นอน คอยติดตามดูกันครับ
จากคุณ |
:
มิ้มเฒ่า (ภะวันตุเม)
|
เขียนเมื่อ |
:
14 พ.ย. 55 17:54:00
|
|
|
|
 |