ความคิดเห็นที่ 1 1  พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัส   ดูซิ วันนั้นกำลังมาถึง คือวันที่จะลุกไหม้เหมือนเตาอบ แล้วคนอวดดีทั้งหลายและคนทำความชั่วร้ายทุกคน จะเป็นเหมือนซังข้าว วันที่จะมานั้นจะไหม้เขาทั้งหลาย จนไม่มีรากหรือกิ่งก้าน เหลืออยู่เลย 2 แต่สำหรับท่านทั้งหลายที่ยำเกรงนามของเรา ความเที่ยงธรรมของเรา จะขึ้นมาเหมือนดวงอาทิตย์ ซึ่งส่องรัศมี รักษาโรคให้หายได้ แล้วท่านจะกระโดดโลดเต้นออกมา เหมือนลูกโคที่ออกจากคอก มาลาคี 4:1-2 จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:47:17

ความคิดเห็นที่ 2 5 ขณะนั้นบางคนให้ข้อสังเกตว่า พระวิหารมีหินและของถวายตกแต่งอย่างงดงาม พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า 6 สักวันหนึ่ง ทุกสิ่งที่ท่านเห็นอยู่นี้ จะไม่มีก้อนหินเหลือซ้อนกันอยู่เลย 7 เขาจึงทูลถามพระองค์ว่า พระอาจารย์ เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร และมีเครื่องหมายใดบอกว่าเหตุการณ์นี้กำลังจะเกิดขึ้น 8 พระองค์ตรัสตอบว่า จงระวังอย่าให้ผู้ใดหลอกลวงท่านได้ หลายคนจะอ้างนามของเรา พูดว่า ฉันเป็นพระคริสต์ และ เวลากำหนดมาถึงแล้ว อย่าตามเขาไป 9 เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินข่าวลือเรื่องสงครามและการปฏิวัติ จงอย่าตกใจ เหตุการณ์เหล่านี้จำเป็นต้องเกิดขึ้นก่อน แต่ยังไม่ถึงวาระสุดท้าย ลูกา 21:5-9 จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:48:02

ความคิดเห็นที่ 3 จ๊อชตัดสินใจไม่ไปโบสถ์อีก จ๊อชบอกทุกคนว่า เพราะว่า พระเจ้าทรงอยู่ในวิญญาณของเราทุกคนแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องไปโบสถ์หาพระเจ้าอีก จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:48:43

ความคิดเห็นที่ 4 คุณพ่อทราบเรื่องนี้ ก็คิดว่าจะไปเยี่ยมจ๊อชที่บ้าน คืนที่คุณพ่อไปหาจ๊อช อากาศหนาวมาก จ๊อชกำลังนั่งผิงไฟอยู่ข้าง ๆ เตาผิง จึงชวนคุณพ่อมานั่งข้าง ๆ กันผิงไฟ คุณพ่อไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการไปโบสถ์เลย จนจ๊อชสงสัยว่า คุณพ่อมาทำไม จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:49:26

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากคุยกันแต่เรื่องอากาศสักครู่ คุณพ่อก็คีบถ่านลุกแดงจากเตาไฟก้อนหนึ่ง ออกมาวางข้าง ๆ เตาผิง คุณพ่อกับจ๊อชมองดูถ่านลุกแดงด้วยไฟก้อนนั้น เปลวไฟบนถ่านค่อย ๆ ลดลงและมอดไปในที่สุด เหลือเพียงเถ้าของถ่าน สีขาว คุณพ่อคีบถ่านก้อนนั้น ใส่กลับไปในเตาผิงอีกครั้งหนึ่ง จ๊อชพูดว่า วันอาทิตย์หน้าผมจะไปโบสถ์ครับคุณพ่อ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:50:11

ความคิดเห็นที่ 6 พี่น้องครับ ก็เหมือน ๆ กับ ถ่านไม้ชิ้นนั้น เราต้องมีกลุ่มเพื่อน สัตบุรุษ คุณพ่อ พี่น้อง ซิสเตอร์ บราเดอร์ เพื่อช่วยให้เราดำรงไฟแห่งความเชื่อของเรา เราต้องไปวัด เราต้องไปโบสถ์ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:50:51

ความคิดเห็นที่ 7 จ๊อชเป็นตัวอย่างคนยุคใหม่นี้ ที่คิดว่าเราไม่จำเป็นต้องไปโบสถ์ แต่ก็มีอีกพวกหนึ่งที่เข้าใจผิดเช่นกันว่า พระเจ้าอยู่แต่ในโบสถ์ หรือประทับอยู่เฉพาะในพิธีกรรม จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:52:03

ความคิดเห็นที่ 8 ในบทพระวรสารวันนี้ ลูกศิษย์บางคนของพระเยซูเจ้ากำลังหลงใหล ในความงามสง่าของพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งกษัตริย์เฮโรดสร้างขึ้นใหม่โดยใช้เวลาก่อสร้าง 46 ปี พระวิหาร วิจิตรงดงาม ประดับประดาด้วยทองคำและเงินซึ่งผู้คนนำมาถวาย ผู้คนที่ชื่ชมความงามของพระวิหารเหล่านี้คิดว่า พระวิหารเป็นที่ประทับบนโลกนี้ของพระเจ้า การประดับประดาตกแต่งอย่างงดงาม ก็แสดงถึง ความศรัทธาที่มั่นคงต่อพระเจ้าของพวกเขา ... แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 15:12:56 จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:52:48

ความคิดเห็นที่ 9 พี่น้องนึกออกไหมว่า สีหน้าของคนเหล่านี้จะเป็นยังไง เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสบอกพวกเขาว่า พระวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่นี้ อีกทั้งความรุ่งเรืองสูงส่งทั้งมวลจะถูกทำลายไปจนหมดสิ้น ไม่มีเหลือแม้แต่ก้อนอิฐที่จะทับซ้อนกันอยู่เลย คำทำนายนี้ เป็นความจริงในเวลาต่อมาเมื่อปี ค.ศ. 70 โดยกองทัพโรมันภายใต้บัญชาการของจักรพรรดิติตัส จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:53:39

ความคิดเห็นที่ 10 พระวาจาของพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับพระวิหาร ไม่เพียงมีความหมายต่อผู้คนในสมัยพระองค์ แต่มีความหมายต่อพวกเราทุกวันนี้และตลอดไปด้วย เราต้องระลึกว่า ชาวเยรูซาเล็มที่สร้างพระวิหาร ตกแต่งบ้านของพระเจ้านี้ เป็นกลุ่มเดียวกับ ที่กำลังวางแผนทำลายพระเยซูพระบุตรของพระองค์ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:55:00

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อพวกเขาสามารถเห็นพระเจ้า ที่ประดับด้วยก้อนหินและทองคำได้แล้ว แต่ทำไมจึงจำพระองค์ไม่ได้ เมื่อพระองค์เสด็จมาอย่างมีเลือดเนื้อ เมื่อพระวิหารครอบงำจิตใจผู้คน มากจนกระทั่งผู้คนไม่สามารถมองเห็นพระเจ้าได้อีก นอกจากในพระวิหารนั้นแล้ว ก็ถึงเวลาแล้ว ที่สิ่งก่อสร้างนี้จะต้องถูกทำลาย จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:55:39

ความคิดเห็นที่ 12 ทำไมผู้คนจึงคิดว่า ความรุ่งเรืองของอาณาจักรคริสตังในยุคกลาง เป็นผลมาจากอารยธรรม ทั้ง ๆ ที่ขณะนั้น ชีวิตมนุษย์ และสิทธิมนุษย์ ไร้ค่าสิ้นดี ลองนึกย้อนถึงสงครามศาสนา การทรมานและฆ่าเหล่ากษัตริย์ที่มีความเชื่อแปลก ๆ ต่างจากตนเอง การจับผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแม่มดมาเผาไฟให้ตาย ตลอดจนการจับมนุษย์มาค้าเป็นทาส จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:56:29

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นไปได้หรือไม่ว่า ยิ่งผู้คนดีใจที่ได้เห็นพระวิหาร เป็นที่ประทับของพระเจ้ามากเท่าใด ผู้คนก็ยิ่งจะไม่เห็นคุณค่าของมนุษย์ ผู้ถูกสร้างตามพระฉายาของพระเจ้า มากเท่านั้น ศรัทธา จะเรียกร้องให้เรา ระลึกถึงพระเจ้า ในฐานะมนุษย์ด้วย นอกเหนือจาก ระลึกถึงพระเจ้าในพระวิหาร ... แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 15:10:59 จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:57:43

ความคิดเห็นที่ 14 นักบุญเปาโล เตือนชาวโครินธ์ว่า พวกชาวโครินธ์เอง ก็ศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับพระวิหาร เนื่องจาก ร่างกายของเขาทุกคน เป็นที่ประทับของพระจิตเจ้า 16 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระจิตของพระเจ้าทรงพำนักอยู่ในท่าน (1โครินธ์ 3:16) 19 ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่าน เป็นพระวิหาร ของพระจิตเจ้าผู้สถิตอยู่ในท่าน ท่านได้รับพระจิตนี้จากพระเจ้า (1โครินธ์ 6:19) จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:58:44

ความคิดเห็นที่ 15 คริสตัง ที่เหมือนกับศิษย์ของพระเยซูเจ้าในวันนี้ เห็นพระเจ้าในความยิ่งใหญ่ของพระวิหาร แต่ไม่เห็นพระเจ้าในผู้อื่นนั้น เป็นเพียงครึ่งเดียวของเรื่องทั้งหมด คริสตัง ที่เป็นเหมือนจ๊อช ที่ไม่เห็นคุณค่าของการไปโบสถ์ ก็เป็นอีกครึ่งหนึ่งของเรื่องทั้งหมดที่เหลือ พระวรสารวันนี้ ท้าทายเราให้พยายามมองหาและรับใช้พระเจ้า ทั้งในพระวิหาร ในโบสถ์ เมื่อเราไปร่วมพิธีมิสซา และในพวกเรามนุษย์ หลังพิธีมิสซา จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 12:59:33

ความคิดเห็นที่ 16 โปรดระลึกว่า เราปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความเคารพและให้เกียรติในศักดิ์ศรีของพวกเขา มิใช่เพียงเพราะว่า เขาคู่ควรที่จะได้รับตามพฤติกรรมของเขาเท่านั้น แต่เป็นเพราะ พระเจ้าที่ประทับอยู่กับเขา คู่ควรต่อการเคารพนั้น โดยวิธีปฏิบัติเช่นนี้ การดำเนินชีวิตของเรา ทั้งในโบสถ์ และนอกโบสถ์ จักเป็นการแสดงออกอย่างต่อเนื่อง ในฐานะแห่งการรับใช้พระเจ้าพระองค์เดียวกัน ที่ทรงประทับอยู่ทั้งในมนุษย์และในพระวิหาร บทเทศนาวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา ปี C 14 พ.ย. 2010 http://www.munachi.com/c/sundayc33.htm จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 13:00:30

ความคิดเห็นที่ 17 กด F5 รัวๆ :) เราอยู่ในนิกายมอร์มอนเเต่ก็ชอบเข้ามาอ่านคำเทศนาที่คุณ FOB เอามาให้อ่านบ่อยๆ หวังว่าคุณ FOB คงไม่มองว่าเราเเตกเเยก เเปลกเเยก น้า (เเฮะ พอดีคริสเตียน/คริสชน ที่ไม่ยอมรับมอร์มอนมีเยอะ >,<) แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 13:18:01 จากคุณ : คนที่เดินผ่านมา เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 13:08:54

ความคิดเห็นที่ 18 พูดถึงวิหารแล้วนึกถึงเพลงนี้ เห็นฝรั่งเขาตีความเป็นเกี่ยวกับศาสนาคริสต์เป็นช่องเป็นฉาก ผมอ่านแล้วยังงงๆอยู่เลย จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 13:29:27

ความคิดเห็นที่ 19 ฟังแบบกระแทกหูกันแล้ว มาฟังแบบเรียบๆกันบ้าง คนที่ไปโบสถ์ คงได้อารมณ์นี้ ... แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 14:56:23 จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 13:40:59

ความคิดเห็นที่ 20 เอ มาช่วยโพสต์เพลงในกระทู้ท่าน FOB นี่ จะถือว่าเอาใจออกหากจากศาสนาของผมหรือเปล่านี่ แต่เอาเถอะ คงไม่มีใครเปลี่ยนศาสนา จากการฟังเพลง ^_^ จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 13:52:47

ความคิดเห็นที่ 21 เรียน คุณคนที่เดินผ่านมา ขอบคุณที่แวะมาอ่านพระวาจาของพระเจ้าครับ ผมได้รู้จักพระเจ้าผ่านการแนะนำของพี่น้องมอร์มอน และพี่น้องโปรเตสแตนท์ รู้สึกขอบพระคุณและรู้สึกติดค้างพี่น้องงมอร์มอน และพี่น้องโปรเตสแตนท์อยู่เสมอมา แม้ว่าความเข้าใจ การตีความ พระคัมภีร์ของพวกเรา อาจจะแตกต่างกันบ้าง แต่เราก็รักพระเจ้าองค์เดียวกัน รักพระเยซูเจ้าองค์เดียวกัน ส่วนการเลือกถือปฏิบัติตามนิกายใด ก็ถือว่าเป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าเถิดครับ ขอพระอวยพร คุณคนที่เดินผ่านมาครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 14:56:22

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะ ๆ ยามบ่ายครับคุณ สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ ถือว่าเป็นทานแก่ผู้อ่าน ที่จะมีโอกาสได้ฟังเพลงเพราะ ๆ คลายเครียด คลายเหงากันนะครับ การที่จะศรัทธาถึงขนาดเอาใจออกห่างนั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันง่าย ๆ เพราะพื้นฐานความคิดของศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์นั้น แตกต่างกันมาก ถือว่า เราเป็นเพื่อนต่างศาสนาร่วมห้องศาสนากันนะครับ ขอพระอวยพร คุณสู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ ครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 15:02:09

ความคิดเห็นที่ 23 คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ ชมพระจันทร์ในจินตนาการกัน จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 18:25:16

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าให้ผมเลือกเพลงไทยมา 5 อันดับ จะมีเพลงนี้อยู่ด้วย จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 18:41:07

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับ คุณ สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ ภาพประกอบเพลง Moonlight Serenade สวยมากครับ เพลงจันทร์เอ๋ย นักร้องเสียงดีมากเลย เพลงสวดคริสตังปัจจุบัน ยังคงเป็นเพลงในรุ่นนี้อยู่เลย ฟังเพราะได้ความหมาย แต่หนุ่ม ๆ สาว ๆ อาจจะไม่ชอบ บางเพลงฟังแล้วต้องมองหาคนร้อง อายุต้อง 60 ขึ้นถึงจะได้เสียงนี้ แค่ไม่กี่ประโยคว่า ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเมตตาเถิด ไพเราะเหลือเกิน ร้องได้ยังไง แทงเข้าไปที่ใจ เจ็บจนต้องเอามือกุมอก น้ำตาไหลพรากเลย ยิ่งตอนที่กำลังสำนึกบาปผิด อยากจะแก้บาป แต่พระสงฆ์ไม่ได้มาโปรดแก้บาปแล้ว รู้สึกเหมือน กำลังคุกเข่าวอนพระเมตตาพระเจ้า เฉพาะพระพักตร์เลยครับ ขอบคุณสำหรับเพลงยามค่ำ คืนนี้ครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 21:39:40

ความคิดเห็นที่ 26 ท่าน FOB ก็อย่านึกว่าผมแก่เฒ่าขนาดรุ่นนั้นเลยนะ ผมชอบเพลงเก่าๆแบบนี้เอง เคยคิดเอาเองว่า ผมน่าจะจัดรายการ เพลงพวกนี้ได้เลยนะ เพราะพอจะมีการฝึกฝนมาบ้าง ที่จริงเพลง แนวนี้ไพเราะมาก จนผมสงสัยว่า คนที่ไม่ชอบ เขาได้รับการเลี้ยงดู กันมาอย่างไร จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 21:57:08

ความคิดเห็นที่ 27 มิได้ครับ ผมคิดว่า คุณ สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับเพลงรอบด้าน ทั้งเพลงไทย เพลงสากล เพลงใหม่ และเพลงเก่า ชนิดที่พูดประโยคไหนขึ้นมา คุณ สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ ก็สามารถหาเพลงที่สอดคล้องไปด้วยกันให้ได้ คนสมัยใหม่ ก็ชอบแบบคนสมัยใหม่น่ะครับ คนยุคก่อน พ่อแม่ก็เกลียดเพลงร็อคเข้าใส้ ชนิดที่ได้ยินไม่ได้เลย เพลงไทยสมัยก่อน ยังไม่แบ่งยุคลูกกรุงลูกทุ่ง นักร้องแต่ละคนเสียงเพราะมาก ได้ยินที่ไหน ต้องหยุดเพื่อฟังเพลงนั้นเลย เนื้อเพลงก็ไพเราะจับใจ ทั้งภาษาและสัมผัส พูดแล้วนึกถึง เพลงปีศาจ-วสันต์ ครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 23:45:26

ความคิดเห็นที่ 28 เผื่อท่าน FOB จะเข้ามา เคยส่งให้สาวคนที่เคยเล่าให้ฟัง เธอตอบกลับมาว่า เพลงอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องอุตริส่งมาอีก >.< จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 04:15:48

ความคิดเห็นที่ 29 ตื่นเช้ามาอ่านกระทู้ของท่าน FOB แล้ว สบายใจครับ จากคุณ : เฮโรด (Youth In Asia) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 05:12:18

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีครับ คุณเฮโรด ขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเหมาะสม ผมน่าจะนำพระวาจาของพระเจ้ามามอบให้ทุก ๆ ท่านได้สม่ำเสมอกว่านี้ นี่ก็จะหมดปีพิธีกรรมแล้ว ปีหน้าจะตั้งปณิธานใหม่ให้รับใช้ทุกท่านดีกว่านี้ ขอขอบพระคุณคุณเฮโรด และทุกท่านที่กรุณาแวะมาอ่านแวะมา comment ครับ การเสนอความเห็น บางครั้งจะช่วยให้เราเข้าใจพระธรรมได้ลึกซึ้งกว่าเดิมนะครับ ขอพระอวยพรทุกท่านครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:19:11

ความคิดเห็นที่ 31 สาวคริสตังของคุณ สู่ฝัน..อันยิ่งใหญ่ ดูจะไม่ธรรมดานะครับ เธอมิได้ไม่ชอบเพลง หรือไม่ชอบคุณสู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เพียงแต่เรายังหาสิ่งที่เธอชอบไม่เจอเท่านั้นเอง ในเมื่อเธอปฏิเสธได้ เราก็สามารถเสนอสิ่งใหม่ ๆ ให้เธอได้ บางที สิ่งที่เธอต้องการแต่เธอไม่รู้คือ การได้ทรมานคุณ มีคนบอกว่า ที่คนรักเราทรมานเรา ไม่ใช่ไม่รักเรา หรือไม่เห็นรักของเรา แต่อยากเห็นมากกว่านั้น เป็นความรักลึก ๆ ที่ไม่ธรรมดา รักที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีเงื่อนเวลา เป็นรักแบบที่พระเจ้าทรงรักเรา คุณสู่ฝัน..อันยิ่งใหญ่มีไหมครับ ถ้ามีก็มอบให้เธอ และมอบให้ทุกคน หากเธอไม่รับไว้ เธอนั้นเองที่พลาดโอกาสไป บางคนโชคดี ก็จะได้รับความรักนั้น ขอพระอวยพรคุณสู่ฝัน..อันยิ่งใหญ่ ให้ประสบความสำเร็จในความรักนะครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:29:53