|
เข้าใจนะคะว่า รู้ว่าตอ้งทำใจแต่มันทำใจยังไม่ได้ แต่เราก็ต้องทำใจค่ะ เพราะเขาด่าแล้ว คำพูดนั้นมันก็สลายหายไปแล้วกับสายลม หัวใจเราดวงน้อยๆ จะให้เรื่องไม่ดีมาประทับสร้างรอยให้หัวใจเราทำไม
บทความนี้ขออนุญาตเอามาฝากค่ะ
---
คัดลอกจาก พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร. แนวทางปฏิบัติวิปัสสนา-กัมมัฏฐาน ๒. พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : ชมรมกัลยาณธรรม, พ.ศ.๒๕๕๓. หน้า ๑๗๑-๑๗๒.
----
คนที่จิตยังไม่สูงเต็มที่ เมื่อใครเขาด่าว่าอะไรก็มักเก็บไปคิด คนเราโดยมากสำคัญตนว่าเป็นคนฉลาด แต่ชอบกลืนกินอารมณ์ที่ชั่ว
อารมณ์ชั่วเปรียบเหมือนกับเศษอาหารที่เขาคายออกแล้ว ถ้าเป็นคนอดอยากยากจนจริงๆ จำเป็นจะต้องขอเขากิน ก็ควรกลืนกินแต่อารมณ์ที่ดี เปรียบเหมือนอาหารที่ไม่เป็นเศษของใคร
แต่ถึงกระนั้นก็ยังอยู่ในลักษณะที่ยากจน นี่เป็นลักษณะของคนโง่ ไม่ใช่คนฉลาด เพราะความดีอยู่กับตัวเองแท้ๆ แต่ไพล่ไปเก็บเอาความชั่วที่คนอื่นเขามา เช่นนี้ก็ย่อมเป็นการผิดทาง
ที่ถูกนั้น...ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา ต้องคิดว่านั่นเป็นสมบัติของเขา ไม่ใช่ของเรา ส่วนความดีที่เราทำก็ย่อมอยู่ที่ตัวเรา ให้คิดเหมือนมะม่วงที่เป็นหนอน คนฉลาดเขาก็เลือกกินแต่ตรงเนื้อที่ดีๆ ส่วนที่เน่าที่เสียก็ปล่อยให้บุ้งหนอนมันกินของมันไปเพราะเป็นวิสัยของมัน ส่วนเราก็อย่าไปอยู่จำพวกบุ้งหนอนด้วย
อย่างนี้เรียกว่า ผู้นั้นเป็น มนุสฺโส คือ มีใจสูงขึ้น เหมือนกับเราอยู่บนศาลาก็ย่อมพ้นจากสัตว์เดรัจฉาน เช่น แมว สุนัข ที่จะมารบกวน มันจะกระโดดขึ้นมาตะครุบเราก็ไม่ได้ ถ้าเราอยู่บนพื้นดินเราก็จะต้องถูกแดดบ้าง ฝนบ้าง และอันตรายต่างๆ ก็มารบกวนได้ คือ ยังปนเปกับคนพาลบ้าง บัณฑิตบ้าง ฉันใดก็ดี
การประพฤติปฏิบัติธรรมของนักปราชญ์ ท่านจึงต้องรู้จักเลือกเฟ้นแต่สิ่งที่ดี ท่านไม่ยอมเก็บของเสียมาบริโภค เพราะของเสียนั้นเมื่อบริโภคเข้าไปแล้ว ก็เกิดพิษเน่าบูดให้โทษแก่ร่างกาย
ส่วนของดีเมื่อบริโภคเข้าไปแล้ว ไม่มีโทษ มีแต่จะเกิดประโยชน์แก่ร่างกายอย่างเดียว ---
จากคุณ |
:
คุณหนูขาวมณี
|
เขียนเมื่อ |
:
22 พ.ย. 55 10:41:22
|
|
|
|
|