ไม่ได้โหวตนะ แต่อยากเสนอ เพื่อพิจาณา ศึกษาไปด้วยกัน
วาจาสัตบุรุษ
ภิกษุ ท. ! สัตบุรุษในกรณีนี้
แม้มีใครถามถึงความไม่ดีของบุคคลอื่น ก็ไม่เปิดเผยให้ปรากฏ
จะกล่าวทำไมถึงเมื่อไม่ถูกใครถาม;
ก็เมื่อถูกใครถาม ถึงความไม่ดีของบุคคลอื่น
ก็นำเอาปัญหาไปทำให้หลีกเลี้ยว ลดหย่อนลง
กล่าวความไม่ดีของผู้อื่นอย่างไม่พิสดารเต็มที่.
ภิกษุ ท. ! ข้อนี้พึงรู้กันเถิดว่า คนคนนี้ เป็น สัตบุรุษ.
จตุกฺก.อํ.๒๑/๑๐๐/๗๓.
อริยสัจจากพระโอษฐ์ หน้า ๑๐๖๙
หลักที่พระพุทธเจ้า ทรงใช้ในการตรัส ( ๖ อย่าง )
ราชกุมาร !
(๑) ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอด้วยประโยชน์ และไม่เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อมไม่กล่าววาจานั้น.
(๒) ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันจริง อันแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และไม่เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อมไม่กล่าววาจานั้น.
(๓) ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันจริง อันแท้ อันประกอบด้วยประโยชน์ แต่ไม่เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อมเลือกให้เหมาะกาล เพื่อกล่าววาจานั้น.
(๔) ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันไม่จริง ไม่แท้ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อมไม่กล่าววาจานั้น
(๕) ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันจริง อันแท้แต่ไมป่ ระกอบด้วยประโยชน์ แม้เป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อมไม่กล่าววาจานั้น.
(๖) ตถาคตรู้ชัดซึ่งวาจาใด อันจริง อันแท้อันประกอบด้วยประโยชน์ และเป็นที่รักที่พึงใจของผู้อื่น ตถาคตย่อมเป็นผู้รู้จักกาละที่เหมาะสม เพื่อกล่าววาจานั้น.
ข้อนี้เพราะเหตุไรเล่า ? ราชกุมาร ! เพราะตถาคตมี ความเอ็นดูในสัตว์ทั้งหลาย
ม. ม. ๑๓/๙๑/๙๔.
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ หน้า ๒๒๔
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 55 09:16:38