|
สวัสดี ท่าน P_vicha
มีใครในห้องศาสนานี้ที่มีทิฏฐิ ความเชื่อ เหมือนกันทั้งหมด แต่ละคนก็ปลงศรัทธาความเชื่อลงในสิ่งคิดว่าดีที่สุด เหมาะสมที่สุด ตาม ปัญญาทั้ง ๓ เท่าที่แต่ละคนจะมี ....
เราต่างก็สนทนาธรรมขององค์พระศาสดา หากมีประเด็นใดที่เห็นต่าง เราในฐานะพุทธบริษัทก็ควรกระทำตาม มหาปเทส ๔ ที่ทรงตรัสว่า ...
(๔) (หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้กล่าวอย่างนี้ว่า ผู้มีอายุในอาวาสชื่อโน้นมีภิกษุผู้เป็นเถระอยู่รูปหนึ่งเป็นพหูสูตรเรียนคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ข้าพเจ้าได้สดับเฉพาะหน้าพระเถระรูปนั้นว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัยนี้ เป็นคำสอนของพระศาสดา
เธอทั้งหลายยังไม่พึงรับรอง ยังไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของผู้นั้น เธอพึงกำหนดเนื้อความเหล่านั้นให้ดี แล้วนำไปสอบสวนในสูตร นำไปเทียบเคียงในวินัย ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ไม่ได้ เทียบเข้าในวินัยก็ไม่ได้พึงสันนิษฐานว่า นี้มิใช่พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน และภิกษุนั้นจำมาผิด เธอทั้งหลายพึงทิ้งเหล่าคำนั้นเสีย ถ้าบทพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ได้ เทียบเข้าในวินัยก็ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า นี้พระดำรัส ของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน และภิกษุนั้นรับมาด้วยดี เธอทั้งหลายพึงจำมหาปเทส
นี้ไว้ . (มหาปเทส ๔ , มหาปรินิพพานสูตร มหา.ที่. ๑๐/๑๔๔/๑๑๒)
อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า ธรรมวินัยของพวกเรามีพระศาสดาล่วงลับไปแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดา ดังนี้อานนท์ ! พวกเธออย่าคิดอย่างนั้น
อานนท์ ! ธรรมก็ดี วินัยก็ดีที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลายธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลายโดยกาลล่วงไปแห่งเรา
(มหาปรินิพพานสูตร มหา.ที. ๑๐/๑๕๙/๑๒๘)
ไม่มี "ใคร" สามารถบังคับ "ใคร" ให้เห็นด้วยกับ "ความคิดเห็น" ของ "ใคร" ได้ในทุกเรื่อง หากคำอธิบายนั้น ไม่ประกอบด้วยเหตุผล หรือน้ำหนักของความเห็นนั้นๆ มี ไม่เพียงพอ ... การเห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแนวทาง, ศรัทธา, ความเชื่อ, องค์ความรู้ ฯลฯ นั้น ไม่ได้หมายความว่า เราจะสนทนากันไม่ได้ ... ซึ่งความแตกต่างในเรื่องเหล่านี้ เราๆ ท่านๆ ก็เห็นได้จากทุกๆ กระทู้ ทุกๆ วงการ บางกระทู้ ก็ "เห็นต่าง" กันสุดขั้ว เข้าขั้น "ดุเดือด" ทีเดียว แต่การสนทนานั้นๆ ก็ยังคงดำเนินไป ...
เมื่อเราสนทนาใน "ธรรม" ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า... เราในฐานะ "พุทธบริษัท" หากมีความเคารพรักในพระองค์ท่าน เป็นผู้กระทำตามพุทธโอวาท สมดังพุทธเจตนาที่พระองค์ทรงประกาศไว้ ... เราสามารถนำ "" มหาปเทส ๔ "" มาใช้เป็น "บทสรุป" ได้ทุกเมื่อ ทุกกรณี ...
แต่เมื่อ ท่าน P_vicha ในฐานะเจ้าของกระทู้ไม่ปรารถนาจะสนทนาธรรม คอยแต่จะเบี่ยงเบน แตกประเด็น อ้างเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวเนื่อง อยู่เรื่อยๆ ในทุกๆ คคห
ท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน คงหมายรู้ได้ ถึง ความตั้งใจ จริงใจ ในการสนทนาธรรม ระหว่าง ท่าน P_vicha (จขกท) VS "คนดู" ได้เอง ...
ขอบคุณ ท่าน P_vicha เป็นอย่างสูงที่เป็นเหตุปัจจัย ให้ "คนดู" ได้มีโอกาส แสดงออกถึง ตถาคตโพธิสัทธา ความเคารพเชื่อมั่นในองค์พระตถาคต เชื่อมั่นในพระปัญญาตรัสรู้ และพระปรีชาญาณของพระองค์ท่าน ที่ "คนดู" ได้แสดงออกอย่างมั่นคง ไม่หวั่นไหว ทั้งทางกาย วาจา และใจ ...
และโดยพฤตินัยแล้ว ตถาคตโพธิสัทธา ที่ "คนดู" มีต่อพระองค์ท่าน ย่อมครอบคลุมถึงศรัทธาในพระรัตนตรัย ครบทั้ง ๓ ในเวลาเดียวกัน ... เพราะพระองค์ทรงเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประกาศธรรมที่งดงาม บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงแล้ว และทรงเป็นพระอริยสงฆ์สูงสุด ทรงทำให้สงฆ์สาวกเกิดขึ้นตามมามากมาย ใน "โลก" นี้ ทำให้ "โลก" นี้ ไม่เคยเว้นว่างจากพระอรหันต์เลย ....
ขอบคุณ ท่าน P_vicha อีกครั้ง ...
จากคุณ |
:
ตถาคตโพธิสัทธา ไม่หวั่นไหวใดๆ (คนดู)
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ธ.ค. 55 23:18:26
|
|
|
|
|