ปุถุชน ไม่มีใครรู้ได้ว่า ท่านใดเป็นอรหันต์
ก็ได้แค่ ประมาณๆ กันไป อาจผิด
คำถามแบบนี้ สมัยพุทธกาล มี พ่อค้าฟืน ชื่อทารุกัมมิกะ ถามพระพุทธเจ้ามาแล้ว
พระพุทธเจ้า แนะให้ ถวายเป็นสังฆทาน กับ อยู่ใกล้บ้านก็ดี อยู่ป่าก็ดี
ที่มี วัตร ปฏิบัติดี
*******
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ทานประจำสกุลวงศ์ข้าพระองค์ยังให้อยู่ แต่ว่าทานนั้นข้าพระองค์ให้เฉพาะหมู่ภิกษุผู้เป็นอรหันต์ หรือปฏิบัติอรหัตตมรรค ที่อยู่ป่า ที่ถือบิณฑบาต ที่ถือผ้าสุกุล เป็นวัตร”.
คหบดี ! ข้อที่จะรู้ว่าคนเหล่านี้เป็นพระอรหันต์หรือปฏิบัติอรหัตตมรรคนั้น เป็นสิ่งที่รู้ได้ยากสำหรับท่านผู้เป็นคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ผู้ยังมีการนอนเบียดบุตร บริโภคใช้สอยกระแจะจันทน์และผ้าจากเมืองกาสี ทัดทรงมาลา และเครื่องกลิ่นและเครื่องผัดทา ยินดีอยู่ด้วยทองและเงิน.
คหบดี ! ถึงแม้ ภิกษุจะเป็นผู้ อยู่ป่าเป็นวัตร ถ้าเป็นผู้ ฟุ้งซ่าน ถือตัว กลับกลอก พูดมาก มีวาจาไม่แน่นอน มีสติลืมหลง ปราศจากสัมปชัญญะ ไม่มีสมาธิ มีจิตหมุนไปผิด มีอินทรีย์อันปล่อยแล้ว : ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุ นั้น ควรถูกติเตียนด้วยองค์นั้น ๆ.
คหบดี ! ถึงแม้ภิกษุจะเป็นผู้ อยู่ป่าเป็นวัตร ถ้าเป็นผู้ ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ถือตัว ไม่กลับกลอก ไม่พูดมาก มีวาจาแน่นอน มีสติตั้งมั่น มีสัมปชัญญะ มีสมาธิ มีเอกัคคตาจิต สำรวมอินทรีย์ : ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุนั้นอันใครๆ ควรสรรเสริญด้วยองค์นั้นๆ.
คหบดี ! ถึงแม้ภิกษุจะเป็นผู้ อยู่ใกล้บ้าน ก็ดี .... บิณฑบาตเป็นวัตร ก็ดี .... ฉันในที่นิมนต์ ก็ดี .... ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ก็ดี .... นุ่งห่มคหบดีจีวร ก็ดี ถ้าเป็นผู้ ฟุ้งซ่าน ถือตัว กลับกลอก พูดมาก มีวาจาไม่แน่นอน มีสติ ลืมหลง ปราศจากสัมปชัญญะ ไม่มีสมาธิ มีจิตหมุนไปผิด มีอินทรีย์อันปล่อยแล้ว : ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุนั้น ควรถูกติเตียนด้วยองค์นั้น ๆ.
คหบดี ! ถึงแม้ภิกษุจะเป็นผู้ อยู่ใกล้บ้าน ก็ดี .... บิณฑบาตเป็นวัตรก็ดี .... ฉันในที่นิมนต์ ก็ดี .... ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ก็ดี .... นุ่งห่มคหบดีจีวรก็ดี ถ้าเป็นผู้ ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ถือตัว ไม่กลับกลอก ไม่พูดมาก มีวาจาแน่นอน มีสติตั้งมั่น มีสัมปชัญญะ มีสมาธิ มีเอกัคคตาจิต สำรวมอินทรีย์ : ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุนั้นอันใคร ๆ ควรสรรเสริญด้วยองค์นั้น ๆ.
เอาละ คหบดี ! ท่านจงถวายทานในสงฆ์เถิด เมื่อท่านถวายทานใน สงฆ์อยู่, จิตจักเลื่อมใส; ท่านเป็นผู้มีจิตอันเลื่อมใสแล้ว ภายหลังแต่การตาย เพราะการทำลายแห่งกาย จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์.
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! จำเดิมแต่วันนี้ไป ข้าพระองค์จะถวายทานในสงฆ์”
- ฉกฺก.อํ. ๒๒/๔๓๖ - ๔๓๘/๓๓๐.
อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคปลาย หน้า ๑๐๒๐
คคหในหนังสือ:-
(ข้อความทั้งหมดนี้แสดงว่า พระองค์ทรงแนะให้ถวายทานด้วยตั้งใจว่า ถวายแก่สงฆ์ คือถวายเป็น “สังฆทาน” อย่าไปเห็นว่าถวายแก่พระบ้านหรือพระป่า พระบิณฑบาตฉันหรือพระฉันในที่นิมนต์ พระจีวรดำ หรือพระจีวรเหลือง ; และไม่อยู่ในวิสัยที่คฤหัสถ์สามารถตัดสินเอาว่าองค์ไหนเป็นพระอรหันต์ องค์ไหนไม่เป็น ; ดังนั้น จึงทรงแนะให้ทำในใจว่า “ถวายแก่สงฆ์”เป็นสังฆทาน ดีกว่า).