CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    เราผิดไหมคะที่เป็นอย่างนี้

                     สวัสดีค่ะทุกคน เรื่องของเรามีอยู่ว่า..... เราอายุ24ปีนะคะ รูปร่างหน้าตา ฐานะ การศึกษา ก็ถือว่าค่อนข้างจะโอเค มีหนุ่มๆมาชอบเราอยู่หลาย(ตอนนี้รวมๆก็6คนค่ะ) แต่เรากลับไม่สนใจใคร เราเคยมีแฟนนะคะแต่ก็เลิกกัน..เราเป็นคนนึงค่ะที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมาก...มาวันนึงค่ะ เราได้ไปปฎิบัติธรรมที่จังหวัดๆนึงทางภาคเหนือ( เป็นความบังเอิญมากค่ะที่ได้ไป หลังรับปริญญา อยู่ๆก็มีอะไรมาดลใจให้เราไม่ทำงาน เพื่อนๆอาจารย์ และคนในครอบครัวเราแปลกใจมากที่เราอยู่ๆก็แพคกระเป๋าไปปฎิบัติธรรม ทั้งๆที่งานจองตัวเราไว้แล้วหลายที่ แล้วบุคคลิกเรา เป็นคุณหนูมากๆ ซึ่งทุกคนคิดว่าเราไม่น่าจะไปรอด).....

                เราได้พบกับพระรูปหนึ่ง ท่านเพิ่งบวชได้แค่พรรษาเดียว อายุพอๆกับเราท่านเรียนมหาวิทยาลัยสงฆ์อยู่.... วินาทีแรกที่เราเห็นท่าน เราแปลกใจตัวเองมากๆ เพราะเราเคยเห็นท่านในฝันเรามาก่อน แต่เห็นตอนเป็นฆราวาสนะ หลวงพี่ท่านเป็นพระรูปงามนะ สูง ขาว จมูกโด่ง อากัปกิริยาเรียบร้อยมาก ดูมีชาติตระกูลมากๆ จนเป็นที่สนใจของผู้ที่ไปปฏิบัติธรรม น้องๆผู้หญิงที่นอนห้องเดียวกับเรา จับกลุ่มคุยกันตอนกลางคืนว่าทำไมหลวงพี่หล่อจัง ดูอินเตอร์มากๆ คือทุกคนมีความเห็นตรงกันหมดแต่ไม่มีใครกล้าพูด  จนน้องคนนึงพูดขึ้นมาก่อนว่าแอบมองหลวงพี่บ่อยๆ แค่นั้นล่ะทุกคนก็พากันพูดชื่นชมหลวงพี่ไม่หยุดปาก น้องผู้หญิงพวกนั้นเราก็ไม่ได้รู้จักมาก่อนนะคะ พอดีพักห้องเดียวกัน

                   วันที่2ก็เริ่มคุ้นเคยกันกับน้องๆค่ะ น้องเค้าถามว่าเรามีแฟนหรือยัง พอเราบอกว่าไม่มีก็ไม่มีใครเชื่อค่ะ พวกผู้ใหญ่ที่ไปปฎิบัติธรรมหลายคนเข้ามาถามเราเยอะมากว่า ทำไมหน้าตาแบบเราถึงมาปฎิบัติธรรม เค้าบอกว่าเราดูหรูจนไม่น่าเชื่อว่าจะเข้าวัดได้....

                     วันที่2เราเล่าให้น้องๆที่พักห้องเดียวกันฟังค่ะว่ามีพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งเคยดูดวงให้เราว่าเราจะต้องเลิกกับแฟนแล้วมาเจอคนรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวแต่จะคบกันไม่ได้ ตอนที่พระท่านทำนายเราก็ไม่เชื่อนะคะ คุณแม่เราก็ไม่เชื่อเพราะเรากับแฟนรักกันมากค่ะ คบมา5ปี ทุกคนฟันธงว่าต้องได้แต่งงานกันแน่ๆ แล้วอยู่ๆเรากับแฟนก็เลิกกันโดยไม่มีสาเหตุ ทุกวันนี้ทางผู้ใหญ่ก็หวังว่าเรากับแฟนจะกลับไปคบกันเหมือนเดิม....พอเราเล่าให้น้องผู้หญิงฟังแค่นี้แหละค่ะ น้องๆก็พากันบอกว่า พี่หนูรู้แล้วล่ะว่าคนขาวๆโปร่งๆน่ะใคร เราก็ถามว่าใครเหรอ น้องเค้าบอกว่าเค้าเห็นหลวงพี่แอบมองเราตลอดเลย แล้วน้องเค้ายังบอกอีกว่า หลวงพี่กับเราหน้าตาคล้ายกันมากเลย..

                   ตลอด7วันที่อยู่ที่นั่น ในใจเรามันรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก ทุกครั้งที่เรามองหลวงพี่ มันเหมือนกับว่าเราคุ้นเคยกับท่าน และเราก็สบตากับท่านหลายครั้งมาก ทุกครั้งที่สบตา มันเหมือนกับเราทั้ง2มีอะไรบางอย่างอยากคุยกัน ทั้งๆที่เพิ่งเคยเจอกันเอง.....แต่เราก็ปฎิบัติธรรมได้อย่างไม่มีปัญหานะ จิตใจสงบมาก ไม่ได้ว้าวุ่นใจเรื่องหลวงพี่เลยนะ มันเหมือนเป็นอะไรที่อบอุ่นมากกว่าที่ได้ไปปฎิบัติธรรมกับใครสักคน ที่เรารู้สึกว่าเราเคยคุ้นเคยกับเค้ามาก่อน....7วันที่อยู่ที่นั่นเราไม่เคยคุยกับหลวงพี่เลยนะคะ....
                 
                     จนเรากลับมาถึงบ้าน ก็มีโทรศัพท์มาหาเรา ปรากฎว่าเป็นเด็กวัดค่ะ เราเพิ่งทราบว่าน้องที่นอนห้องเดียวกะเราแอบให้เบอร์เด็กวัดไป...นี่แหละค่ะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักกับหลวงพี่...จากนั้นเราก็ไปหาท่านที่วัดค่ะ แต่ชวนน้องๆไปด้วย เราเริ่มคุ้นคยกับวัดนั้น ท่านเจ้าอาวาสก็เมตตากับเราอย่างมาก เรากลายเป็นเด็กวัดคนหนึ่งค่ะ คอยขับรถยนต์ให้พระ ช่วยเหลืองานพระพุทธศาสนา เราทำด้วยความเต็มใจ

                        กับหลวงพี่เวลาที่เจอกันก็จะสนทนาธรรมกัน ท่านสอนอะไรเราเยอะมาก มีโทรคุยกัน แต่ก็จะถามสารทุกข์สุกดิบกันเฉยๆ ท่านมักส่งsmsมาสอนเราเป็นกลอนเตือนใจ หรืออาจจะมีบ้างที่ส่งข้อความมาว่า ดูแลตัวเองนะ อากาศหนาว รักษาสุขภาพด้วย...วันเกิดเราเดือนธันวาที่ผ่านมา เราได้รับของขวัญวันเกิดจากท่านเป็นคนแรก ท่านไปทำเหรียญให้เรา พิมพ์ด้วยตัวท่านเอง ท่านพูดขำๆว่า ออกเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวนะเพื่อให้เราโดยเฉพาะ และท่านก็ยังแต่งกลอนแปด3หน้ากระดาษA4ให้เราซึ่งข้อความในกลอนก็จะสอนเรื่องธรรมะและพูดเกี่ยวกับเรื่องตัวเรา เพราะเรามีอะไรเราก็จะปรึกษาท่านตลอด....เวลาท่านไปทำงานพระพุทธศาสนามาท่านก็จะไม่ลืมเรา ท่านจะโทรมาบอกให้เราอนุโมทนาทุกครั้ง....

                       ทุกวันนี้เราไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเลยนะคะไม่ว่าเค้าจะดีกับเราแค่ไหน เพื่อนเราเคยถามว่า เป็นเพราะหลวงพี่หรือเปล่า...เราบอกเพื่อนเราไปว่า เรารู้สึกสบายใจที่เราได้คุยกับหลวงพี่ ถ้าเรามีความรักกับใครเมื่อไหร่ เราก็มีทุกข์เมื่อนั้น เราอยากอยู่ของเราแบบนี้ เราอธิษฐานจิตทุกวันว่า ขอให้เราได้ติดตามรับใช้หลวงพี่ตลอดไป เราเคยบอกกับหลวงพี่ว่าเราไม่อยากให้หลวงพี่สึกนะ อยากให้บวชอยู่แบบนี้ เพราะท่านมีบุญมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ แต่หลวงพี่บอกเราว่าท่านต้องกลับไปดูแลโยมแม่ ท่านเหลือโยมแม่อยู่คนเดียวแล้วบ้านท่านที่อีสานยากจนมาก โยมแม่ท่านก็เป็นมะเร็งอีก ท่านบอกเราว่าบางทีท่านอาจจะไปแสวงบุญอยู่พม่า  ทุกวันนี้เราได้แต่คิดนะว่า เราจะรับใช้ท่านให้ดีที่สุด เราเป็นห่วงท่านมาก เราฟังเรื่องราวชีวิตของท่านแล้วเราร้องไห้เลยนะ เราเองเกิดมามีพร้อมแทบทุกอย่าง แต่สำหรับท่านตอนที่เป็นฆราวาสมีความทุกข์ยากมากๆ อยากเรียนก็ไม่มีเงินเรียน ไม่มีสมบัติอะไรติดตัว แต่ท่านก็ใฝ่ดีตัดสินใจบวช และก็ช่วยงานพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่

                   เราเหลือเวลาที่จะเจอกับหลวงพี่อีกแค่เดือนเดียว เพราะเราต้องกลับกรุงเทพแล้ว (เรามาอยู่ที่นี่ได้8เดือนแล้วค่ะ) เพื่อนๆคิดว่า เราทำอะไรผิดไหมคะ แล้วถ้าเราจะรอหลวงพี่ เราบาปหรือเปล่า หมายถึงรอตอนท่านสึกน่ะ ระหว่างนี้ เราก็ทำหน้าที่ของเราไป..แต่เราก็รู้อีกนั่นแหละว่าถ้าท่านสึกมาที่บ้านเราคงไม่ยอมรับแน่ๆ เพราะที่บ้านเราค่อนข้างมีหน้ามีตาคนที่จะมาคบกับเราก็ต้องมีหน้ามีตาเหมือนกันและเราก็เป็นลูกผู้หญิงคนเดียว เป็นหลานสาวคนเดียวในตระกูลด้วย คนที่มาชอบเราแต่ละคนก็ดีๆทั้งนั้น แต่ในใจเราไม่เคยรู้สึกชอบใครคนไหนเลยนะคะ

                    อยากเรียนถามเพื่อนๆว่า....บุพเพสันนิวาสเกิดขึ้นระหว่างพระกับฆราวาสได้หรือเปล่าคะ เป็นไปได้ไหมที่ชาติที่แล้วจะเคยทำบุญร่วมกันมา...แต่เราต้องขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าเรากับหลวงพี่ ไม่เคยคุยกันในเชิงชู้สาวนะคะ คุยกันเรื่องทั่วๆไป ท่านยังสอนเราเลยว่า ไม่ให้เรามาหาท่านลำพัง ต้องชวนคนอื่นมาด้วย .... ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ

    แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 48 11:01:38

    แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 48 10:40:53

    จากคุณ : อาซาริจอมแก่น - [ 16 ม.ค. 48 19:03:26 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป