PANTIP.COM : Y3591816 ถามเรื่องแม่ชีเบญจวรรณ ??? []

ความคิดเห็นที่ 2

แม่ชีคนดังเมืองกรุงเก่าอยุธยา ถูกตำรวจแจ้งจับข้อหาหนัก ดูหมิ่นเบื้องสูง คุมตัวส่งผัดฟ้องฝากขัง ค้านประกันตัวส่งเข้าเรือนจำครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6 ก.ค. พ.ต.อ.ชินฑัต มีศุข รอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุบผา ผกก.สภ.อ.มหาราช และ พ.ต.ท.ธนาพัฒน์ นิลบดี รอง ผกก.สส.สภ.อ.พระนครศรีอยุธยา นำกำลังพร้อมหมายศาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เลขที่ จ.720/2548 ลงวันที่ 5 ก.ค. 48 เข้าพบแม่ชีเบญจวรรณ เสมาชัย หรือเบ็ญ สูงเนิน อายุ 72 ปี เจ้าสำนักแม่ชีเบญจวรรณ ภายในวัดพระญาติการาม ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งข้อหาว่าร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นรัชทายาทและเบื้องสูง คุมตัวกลับไปสอบสวนที่ บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ได้สร้างความแตกตื่นตกใจ ให้กับบรรดาลูกศิษย์เป็นอย่างมาก ขณะที่แม่ชีเบญจวรรณยังมีสีหน้ายิ้มแย้มให้ลูกศิษย์ประคอง พาไปขึ้นรถขับตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแต่โดยดี

ทันทีที่มาถึง บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญแม่ชีเบญจวรรณเข้าไปในห้องทำงานของ พ.ต.อ.ชินฑัต พร้อมทั้งห้ามผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟังการสอบสวนอย่างเด็ดขาด บรรยากาศภายในห้องสอบสวนเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เนื่องจากมีลูกศิษย์ลูกหาของแม่ชีเบญจวรรณติดตามมาเป็นจำนวนมาก โดยมีความพยายามติดต่อทนายความให้มาร่วมฟังการสอบปากคำด้วยอย่างใกล้ชิด ในส่วนของการสอบปากคำแม่ชีเบญจวรรณ ได้แบ่งการดำเนินคดีออกเป็น 2 ท้องที่คือ สภ.อ.มหาราช และ สภ.อ.พระนครศรีอยุธยา แต่ใช้ข้อหาเดียวกัน โดยพนักงานสอบสวนของทั้ง 2 โรงพัก หอบหิ้วเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าไปสอบถึงในห้องรอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา

สำหรับที่มาที่ไปของการจับกุมแม่ชีเบญจวรรณในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชุดจับกุมว่าทางกองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ได้ทำหนังสือประสานความร่วมมือให้จับกุมแม่ชีเบญจวรรณในข้อหาดังกล่าว หลังจากที่ตำรวจ จ.เชียงใหม่ ได้จับกุมนายกรรมราช สมานทรัพย์ อายุ 21 ปี ชาว จ.ลำพูน ที่แอบอ้าง ตัวเองเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จากการสอบสวนนายกรรมราชให้การรับสารภาพว่าพ่อแม่แยกทางกัน ญาติจึงส่งไปบวชเณรที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่วัดชัย อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ได้รู้จักกับแม่ชีเบญจวรรณ และมีการปล่อยข่าวว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง ทำให้ข้าราชการและประชาชนหลงเชื่อมาทำบุญกราบไหว้ และบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก

ภายหลังมีคนจับพิรุธได้ จึงหนีไปอยู่สหรัฐอเมริกาก่อนจะวกกลับมาอยู่เชียงใหม่ เข้าหาพวกนักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น มีคนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก แต่ภายหลังความแตกถูกจับได้ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ศาลตัดสินลงโทษจำคุก 50 ปี แต่ลดโทษให้เหลือ 30 ปี ยังอยู่ในระหว่างการถูกจองจำ และทางพนักงานสอบสวนของ จ.เชียงใหม่ ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนมั่นใจว่าแม่ชีเบญจวรรณมีส่วนรู้เห็น ในการกระทำความผิดครั้งนี้จึงประสานให้จับกุมดังกล่าว

ต่อมาเวลา 16.00 น. หลังใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 6 ชม. ทางพนักงานสอบสวนของ 2 โรงพัก ได้นำตัวแม่ชีเบญจวรรณเดินทางไปขออำนาจศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผัดฟ้องฝากขังนัดแรก พร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกหลายปาก ซึ่งก่อนหน้านี้มีนายศักดิ์ดา แม้นสุวรรณรัฐ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ใช้ตำแหน่งยื่นขอประกันตัวคดีที่ สภ.อ.มหาราช ในวงเงิน 5 แสนบาท ส่วนนายสุทธิ ผลสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ใช้ตำแหน่งยื่นขอประกันตัวคดีของ สภ.อ. พระนครศรีอยุธยา ในวงเงิน 6 แสนบาท แต่ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ประกันตัว ให้ส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต่อไป

ด้านแม่ชีเบญจวรรณกล่าวระหว่างเดินออกจากห้องพิจารณาคดี เพื่อไปยังห้องถ่ายรูปทำประวัติว่า ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา น่าจะเป็นเรื่องของการกลั่นแกล้งมากกว่า ได้ประสานกับทางทนายความให้ยื่นหนังสือขอประกันตัวชั้นศาลอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ค.นี้ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัวแม่ชีเบญจวรรณเข้าไปในห้องลงทะเบียนประวัติ โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวติดตามเข้าไป ขณะที่ตำรวจชุดจับกุมทั้งหมดปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงผลการสอบสวน โดยระบุเพียงว่ายังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนขยายผล

ต่อมาเวลา 17.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ของเรือนจำได้ออกมาแจ้งกับผู้สื่อข่าวที่เฝ้ารออยู่นอกห้องว่า แม่ชีเบญจวรรณเดินทางไปที่เรือนจำโดยรถส่วนตัวแล้ว แต่ก็หนีไม่พ้นกองทัพนักข่าวที่ไปดักรออยู่หน้าเรือนจำอีกกลุ่มใหญ่ โดยแม่ชีเบญจวรรณนั่งรถมิตซูบิชิจีวากอน สีดำ ทะเบียน ศษ 8387 กรุงเทพมหานคร เข้าไปในเรือนจำ โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ทั้งนี้ ทางเรือนจำได้ อำนวยความสะดวกให้แม่ชีเบญจวรรณนั่งรถเข้าไปถึงห้องตรวจรับแดน 1 โดยแม่ชีเบญจวรรณได้ร้องขอรถเข็นเนื่องจากชราภาพ และมีสุขภาพไม่แข็งแรง ซึ่งทางเรือนจำได้จัดให้ตามคำร้องขอ และจัดให้พักอยู่ในส่วนของห้องแรกรับหญิงเป็นการชั่วคราว ซึ่งแม่ชีเบญจวรรณยังคงอยู่ ในชุดนุ่งขาวห่มขาว มีลูกศิษย์และลูกสะใภ้คอยดูแลอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะถูกเชิญออกมานอกเรือนจำ ขณะเดียว กันก็มีลูกศิษย์อีกกลุ่มใหญ่เดินทางมาสอบถามข้อมูลไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าไม่น่าจะเป็นความจริงตามข้อกล่าวหา

ประวัติของแม่ชีเบญจวรรณ เสมาชัย ไม่มีใครทราบแน่ชัด เพราะตัวแม่ชีเองก็ไม่ยอมเล่าถึงปูมหลังของ ตัวเองให้ใครฟัง ทราบเพียงว่าเป็นชาวฝั่งธนฯ มีบุตรชาย 4 คน และบุตรสาวอีก 1 คน เมื่อปี พ.ศ. 2530 แม่ชีเบญจวรรณเดินทางมารักษาศีลที่วัดพระญาติการาม ก่อนจะริเริ่มสร้างสำนักชีขึ้น โดยแยกเป็นสัดเป็นส่วนบนที่ดิน ของวัดพระญาติการาม เป็นที่เคารพนับถือของนักการเมือง ข้าราชการ ทหาร และตำรวจ ทุกเสาร์และอาทิตย์จะมีผู้หญิงเดินทางมาถือศีลเป็นจำนวนมาก แต่ที่โด่งดังมากที่สุดคือเรื่องที่ออกปากขอให้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคชาติไทย อดีตเจ้าพ่อโรงนวดยุติศึกแฉ ส่วยวงการสีกากีสมัยที่ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ยังเป็น ผบ.ตร. ซึ่งนายชูวิทย์ก็ยอมทำตามที่แม่ชีเบญจวรรณเอ่ย ปากขอแต่โดยดี รวมทั้งยังออกมาพูดถึงคดีรื้อบาร์เบียร์ ย่านสุขุมวิทที่ “เสธ.แอ๊ป” พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร ตกเป็นผู้ต้องหาด้วย

จากคุณ : เบื่อ - [ 7 ก.ค. 48 22:57:40 A:203.113.34.10 X:203.151.140.111 TicketID:092684 ]

ความคิดเห็นที่ 7

และขอบอกถ้าคุณเป็นผู้หญิงแล้วเข้าไปหาแม่ชี ระวังจะโดนข้อหาไปทำแท้งมานะคะ แล้วแม่ชีก็จะให้คุณทำบุญสะเดาะเคราะห์ไถ่บาปจากที่ไปทำแท้งมา หรืออาจให้คุณซื้อตุ๊กตาเด็กผมจุกในราคาที่แพงมาก เคยเจอมาแล้ว พอเราปฏิเสธแม่ชีก็จะพยายามยัดเยียดให้ได้ ยอมรับว่าโกรธและอายมาก เพราะคนที่อยู่ในห้องนั้น เขาพร้อมที่จะเชื่อแม่ชีค่ะ และผู้หญิงส่วนมาก ก้ไม่กล้าปฏิเสธ ไม่รู้เป็นอะไร ให้ผู้หญิงแก่คนหนึ่ง มาบังคับให้เรายอมรับในส่งที่เราไม่ได้เป็น ถ้าเรายืนยันอย่างหนักแน่น แม่ชีก็จะบอกว่าสงสัยส่งที่แม่ชีเห็นอาจผิดไป คือแม่ชีบอกว่าเห็นมีเงาเด็กตามเราอยู่น่ะคะ แต่ถ้าเราบอกว่าไม่ใช่อย่างหนักแน่น ผู้หญิงคนอื่นในห้องนั้นก็จะเป็นเหยื่อรายต่อไป แม่ชีใช้หลักจิตวิทยาอย่างง่ายๆ น่ะค่ะ คนที่เข้ามาหาแม่ชีก็พร้อมที่จะเชื่ออยู่แล้ว ยิ่งมาเจอแม่ชีทักอะไรไม่ดีเข้า ก็เลยไปกันใหญ่ อย่าตกเป็นเหยือเลยค่ะ ถ้าจะทำบุญกับแม่ชีผู้นี้ เพราะเหตุไปทำแท้งมาจริง ก็ไปทำกับเด็กที่ด้อยโอกาสต่างๆ หรือเด็กกำพร้า เด็กพิการซ้ำซ้อน ยังจะได้บุญกว่านักนะคะ ดีกว่ามาสนับสนุนให้แม่ชีกระทำความผิดยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เรื่องที่เล่ามานี้ เป็นเพียงส่วนเสี้ยวแห่งพฤติกรรมของแม่ชี ยังมีอีกมากมายที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง เพราะแม่ชี หลงอยู่ในอำนาจเสียแล้ว และขอบอกว่าที่เล่าไม่ใช่ด้วยเจตนาอัคติต่อแม่ชีแต่อย่างใด และเชื่อเสมอมาว่า การกระทำทุกการกระทำย่อมมีผลตอบแทนของมันเอง เพราะฉะนั้นเราก็เฝ้าแต่ดูเท่านั้น ว่าเมื่อไรผลตอบแทนนั้นจะย้อนกลับมาถึงแม่ชีผู้นี้ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ขออโหสิกรรมค่ะ จากการกระทำใดๆ ที่แม่ชีเคยล่วงเกินเราไม่ว่าด้วยกาย วาจา ใจ จากคนที่เคยตกเป็นเหยื่อของแม่ชี เคยตั้งใจว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง แต่คิดว่าบางครั้งเรื่องราวเหล่านี้อาจช่วยผู้อื่นที่กำลังตกเป็นเหยื่อ และจะเป็นการสนับสนุนให้แม่ชีกระทำความผิดต่อไป ครอบครัวของเราเกือบแตกแยก เพราะแม่ชีทักว่าสามีเรากำลังมีผู้หญิงอื่น และทักเราต่อหน้าสามีว่าเราเคยไปทำแท้งมา ถ้าหากเราสองคนไม่หนักแน่นพอ และหันเข้ามาคุยกัน เราไม่เคยทำแท้ง สามีเราไม่เจ้าชู้ แต่สิ่งที่แม่ชีพูดก็ทำให้ครอบครัวของเราอยู่ในภาวะที่กดดันกว่าจะปรับความเข้าใจกันได้ เราเข้าไปหาแม่ชีเพียงแค่เราตามเพื่อนไปเท่านั้นเอง แต่แม่ชีเข้าใจไปเองว่าเรามีทุกข์จึงเข้าไปหา จึงได้ทักเช่นนั้นเพียงแค่นั่งหลับตาแล้วพูดออกมา เพียงต้องการให้เราและสามีทำบุญ แต่แม่ชีไม่รู้หรอกว่าได้สร้างจุดขึ้นในใจของคน 2 คน เป็นเหตุให้ทุกข์แค่ไหน และหลังจากนั้นก็มีคนที่เคยใกล้ชิดแม่ชีเล่าพฤติกรรมในด้านอื่นให้ฟังอีกมาก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่าเกลียดและน่าละอายอย่างมาก สำหรับคนที่น่งขาวห่มขาวและมีคนกราบไหว้จะกระทำ โดยเฉพาะการอ้างอิงเบื้องสูงซึ่งไม่ใช่แต่เพียงหมิ่นรัชทายาทเรื่องเณรเท่านั้น และการอ้างอิงเบื้องสูงนี้แม่ชีใช้ในการหากินในส่วนงานราชการ และงานประมูลใหญ่ของวงราชการ การเลื่อนย้ายตำแหน่งข้าราชการทหาร ตำรวจ เข้าข่ายคอร์รัปชั่นทีเดียว แต่จริงๆ แล้ว แม่ชีไม่เคยทำได้หรอกค่ะ เป็นเรื่องตามน้ำมากกว่า ซึ่งถ้าเป็นไปตามโผที่มีคนขอมา แม่ชีก็เอาเรื่องนั้นมาเป็นเครดิตของตัวเอง แต่ถ้าหากโผไม่เป็นไปตามนั้น แม่ชีก็บอกว่าเป็นเรื่องทางเทคนิค ซึ่งผู้ใหญ่ทราบเรื่องแล้ว แต่ทำไม่ได้จริงๆ แต่จริงๆ แล้วแม่ชีรับเรื่องมาแล้วไม่เคยติดต่อกับเบื้องสูงหรือผู้ใหญ่คนใดทั้งสิ้น แต่เงินที่เขาเอามาให้ใช้จ่ายในการวิ่งเต้นน่ะแม่ชีรับไว้เต็มๆ ว่าจะไม่พูด โอ้โหเล่ามาตั้งเยอะ พอดีกว่า เดี๋ยวลูกศิษย์แม่ชีจะยำใหญ่เรา แต่ความจริงย่อมเป็นความจริง กรรมมีจริง!!!

จากคุณ : Pampop - [ 8 ก.ค. 48 10:31:08 ]