ความคิดเห็นที่ 1 คงได้มั๊งครับ  โดยหลักการแล้ว เมื่อจิตมีอาการที่นิ่ง ไม่ว่าจะนิ่งด้วยเหตุใด จะบริกรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ จิตนั้นก็เกิดเป็นสมาธิ เกิดพลังจิต  แต่คำว่าจิตรวมนั้นเป็นอาการที่จิตมีพลังสมาธิเต็มที่แล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ในอาการภวังค์หรือกำลังนั่งหลับตาสมาธิไม่ ผมเองมีประสบการณ์ตอนเลิกงานเดินกลับบ้าน ไม่ได้คิดอะไรเลย อยู่ ๆ จิตก็รวม เกิดพลังใจมหาศาล ที่เกิดความองอาจในการเดินเหิน ในการพิจารณาธรรม เพราะว่าจิตนั้นได้รวบรวมพลังจิตที่เต็มพอดี จิตก็เกิดอาการนั้น .. จากคุณ : สุธี - [ 15 ส.ค. 48 07:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พุทธทำสมาธิ แน่นอนครับ คริสต์ก็มีการทำเหมือนกัน ไม่ว่าอธิษฐานเดี่ยว สายประคำ ฯลฯ อิสลาม ผมไม่ทราบ แต่ถ้าระลึกถึงองค์อัลเลาะห์ทุกลมหายใจเข้าออกด้วยความเคารพสูงสุด ก็สามารถเรียกโดยภาษาสมมุตินี้ว่า สมาธิ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 48 17:22:55 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 15 ส.ค. 48 07:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ของคาทอลิก ก็มีเพิ่มเติมหน่อยนะคะ มีการสวดภาวนา เฝ้าศีล พิศเพ่ง รำพึง การเฝ้าศีลมหาสนิท คล้าย ๆ กับการนั่งสมาธิเหมือนกัน เป็นการนั่งอยู่ต่อหน้าศีลมหาสนิท ให้จิตใจจดจ่ออยู่กับ ศีลมหาสนิท คิดถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา จากคุณ : Catholic Girl - [ 15 ส.ค. 48 09:44:24 A:64.95.219.124 X: TicketID:103950 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอ๋.....คริสต์ไม่เห็นมีทำสมาธินี่ครับ   ฝรั่งเดี๋ยวนี้จึงมาสนใจสมาธิของชาวพุทธและพราหมณ์ ฤษีกันเยอะ    ก่อนหน้านี้ไม่เห็นมีข่าวว่าฝรั่งมีทำสมาธิ จากคุณ : talok - [ 15 ส.ค. 48 13:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอ๋.....คริสต์ไม่เห็นมีทำสมาธินี่ครับ   ฝรั่งเดี๋ยวนี้จึงมาสนใจสมาธิของชาวพุทธและพราหมณ์ ฤษีกันเยอะ    ก่อนหน้านี้ไม่เห็นมีข่าวว่าฝรั่งมีทำสมาธิ จากคุณ : talok  - [ 15 ส.ค. 48 13:55:03 ] คาทอลิกเค้าเรียกว่า เพ่งญาณจ๊ะ การเพ่งญาณ ต้องมีผู้ที่มีความรู้ดูแลใกล้ชิดจ๊ะ ช่วงระหว่างความเข้มแข็ง กะความอ่อนแอ เป็นช่วงน่ากลัวที่สุดจ๊ะ เพราะถ้า ไปกับความอ่อนแอ   จะทำให้อันตรายได้จ๊ะ เวลาเพ่งญาณ ต้องมีผู้เชี่ยวชาณอยู่ด้วยจ๊ะ มีที่เชียงใหม่จ๊ะ จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 15 ส.ค. 48 14:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอตอบในมุมมองของผู้ปฏิบัติธรรมแห่งอัล-อิสลาม ครั้งหนึ่งท่านศาสนฑูต(ซ.ล.) ได้นั่งอยู่ร่วมกับสาวกคนสนิท 2 ท่าน คือ ท่านอบูบะกัร(ร.ด.)และท่านอาลี(ร.ด.) ท่านศาสนฑูต(ซ.ล.) ได้กล่าวขึ้นว่า " โอ้อาลี เจ้าจงหลับตา เม้มริมฝีปาก ลิ้นแตะเพดานบน และกล่าวโดยจิต(ในใจ)ว่า อัลลอฮ์ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ " รายงานโดยท่านอบูดาวู๊ดและท่านบัยฮะกี (ขออภัยถ้าจำชื่อผู้รายงานผิด) นี่เป็นหลักฐาน ในการปฎิบัติธรรม ที่ท่านศาสนฑูต(ซ.ล.)ได้สอนแก่สาวกของท่านคือท่านอบูบะกัรและท่านอาลี(ร.ด.) เป็นประการแรก ประการที่สอง อิสลาสมสนับสนุนให้มีการนั่งทำความสงบในมัสยิด(สุเหร่า)ครับ ไม่ว่าจะกล่าววาจา หรือนั่งนิ่งๆก็ได้ แต่..อิสลามจะไม่นิยมเรียกว่า การทำสมาธิ หรือการนั่งสมาธิ เพราะสมาธิเป็นเรื่องที่จะต้องมีอยู่ในทุกๆการปฏิบัติธรรม เช่น ขณะละหมาด เป็นต้น แต่อิสลามจะนิยมเรียกว่า การรำลึกถึงอัลลอฮ์ (รำลึก=ระลึก=นึกถึง=คึดถึง - เป็นตัวเดียวกัน) และการนั่งทำความสงบ เท่านั้น สรุปว่า..การทำสมาธิ หรือการนั่งสมาธิในอิสลาม มีครับ แต่..จะไม่เรียกเช่นนั้น จะเรียกว่าการรำลึกถึงอัลลอฮ์ และการนั่งทำความสงบเท่านั้นครับ จากคุณ : คุณชายดำ (คุณชายดำ) - [ 15 ส.ค. 48 14:22:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คาทอลิค  มาเรียนการทำสมาธิไปจากชาวพุทธนี่ครับคุณสาวสานพลู  เรียนไปแล้วไปเรียกว่าเข้าเงียบ เพ่งญาณ   นี่ผมไม่ค่อยได้สนใจ จากคุณ : talok - [ 15 ส.ค. 48 14:31:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอแย้งนิดหน่อยนะครับคุณสาวสวนพลู  ทางคาทอลิคจะเอาคำของพุทธไปใช้นิดหน่อยก็คงไม่เป็นไรไม่ว่ากันเพราะจริง ๆ ห้ามแล้วไม่ฟังก็โอเค คำว่าเพ่งญาณ คุณเอาศัพท์ทางเทคนิคไปใช้ แล้วก็ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร เอาไปใช้มั่ว ๆ ญาณ แปลว่าการรู้แจ้งนะครับ  การเพ่งนั้นเป็นระดับสมถะ ถ้ามั่วเอาคำว่าเพ่ง "ฌาน"  ละก็พอถูไถ ในระดับทั่วไปแล้วที่ไม่ได้ปฏิบัติ "จิตตภาวนา"  โดยตรงนั้น การเพ่ง (หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่) ก็เป็นหลักการพื้นฐานของการทำสมาธิ  การที่จิตผูกอยู่กับที่ไม่วอกแวก ไม่ฟุ้งซ่าน ก็ถือว่าได้สมาธิ "ระดับหนึ่ง"  เมื่อนิ่งจนอยู่ในภวังค์ก็คือสมาธิในภวังค์ แต่ถ้าไม่มีการฝึกสติ ก็ยังคงอยู่ในภวังค์อยู่เช่นนั้น แต่ถ้ามีสติ (อาจจะได้โดยธรรมชาติหรือในอดีตชาติเคยฝึกปฏิบัติมาบ้าง) ก็จะเกิด ปีติ สุข เอกคตา ก็ได้ระดับ "ฌาน" ที่หนึ่งเท่านั้น ผมเชื่อว่าทางคริสต์ไม่มีการปฏิบัติทางด้านจิตตภาวนา (หรือมีก็ไปหาเอาจากคำสอนในศาสนาอื่น) ขอทีเถอะครับ อย่าเอาศัพท์ทางพุทธ (หรือในทางที่ใช้ในการทำสมาธิ) เอาไปใช้อีกเลยครับ มันคนละอย่างกัน เอาไปใช้แบบผิด ๆ เสียด้วย  บัญญัติศัพท์กันเอาเอง ผมว่ามีศักดิ์ศรีกว่ากันเยอะเลย ... จากคุณ : สุธี - [ 15 ส.ค. 48 15:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอ... ถ้าคาทอลิคมาเรียนไปจากพุทธแล้วทำไมคาทอลิคในต่างประเทศเข้าเงียบหล่ะก็มีหล่ะ ทำไมไม่มีแค่ในไทย งงเนอะ อีกอย่างสมาธินี่ก็ไม่ใช่ของพุทธนิเนอะ ไปรับมาอีกทีเหมือนกัน อิอิ จากคุณ : ผู้อารักขา - [ 15 ส.ค. 48 15:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าคุณผู้อารักขา กำลังคุยกับผมใน คห.8 แล้วล่ะก็ คุณต้องเข้าใจในประเด็น "ศัพท์" ก่อนนะครับ หรือว่าในไบเบิลมีคำว่า "ญาณ" , "ฌาน" ล่ะครับ ในเมื่อนำศัพท์ทางเทคนิคของพุทธไปใช้แล้ว ก็ใช้อย่างมั่ว ๆ มันไม่ค่อยดี ซึ่งความจริงแล้วไม่ควรใช้ด้วยซ้ำ เพราะศัพท์เหล่านี้มีในพระไตรปิฎก ในไบเบิลไม่มี และในคริสต์ไม่มีการสอนในเรื่องจิตตภาวนา  ไม่ควรนำเอาไปใช้เป็นอย่างยิ่ง ผมเชื่อว่า คุณอารักขา คงเป็นนักศึกษาที่มีเหตุมีผลเพียงพอ พอที่จะเข้าใจในเหตุผลนี้ ในเรื่องสมาธินี้ก็เช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วมีกันในแถบ ๆ ชมพูทวีปไม่มีในแถบทะเลทราย จะมีการทำสมาธิบ้างก็ในระดับต้น ๆ เท่านั้นไม่มีลงลึกอะไร และการทำสมาธินั้นมีมานานแล้ว ผมก็ย้ำหลายหนในเรื่องนี้ ในระดับฌาน ก็มีมานานแล้วเช่นกัน แต่ในระดับ "ญาณ" ซึ่งหมายถึงการรู้แจ้งเห็นจริงในระดับหลุดพ้นจากกิเลส มีในพุทธเท่านั้น ผมขอถามย้ำแล้วกันว่า ในไบเบิลมีหรือไม่ ผมหมายถึงไบเบิลฉบับที่เคยพิมพ์กันมาหลายปีนะครับ ไม่เอาไบเบิลฉบับแต่งใหม่นะครับ มารยาทตรงนี้ควรจะมีไม่ใช่หรือ ... จากคุณ : สุธี - [ 15 ส.ค. 48 16:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กระทู้ถามคนปฏิบัติในแต่ละศาสนา อย่าทะเลาะ ถากถางกัน เสียดสีกันเลย จากคุณ : it's me (misz) - [ 15 ส.ค. 48 16:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฤษี ชีไพร เขาก็มีมาก่อน หลายพันปีแล้ว พระพุทธเจ้าเคยไปเรียนกับดาบส ต่างๆมา ท่านทำได้จนสูงสุดจนดาบส บอกให้ท่านเป็นครูสอนต่อไป แต่ท่านปฎิเสธเพราะไม่ใช่ทาง เพราะจิตเมื่อสงบแล้วก็เสพตัวเองแต่เดินมรรคไม่ได้  ดังนั้นการทำสมาธิแค่จิตสงบจึงไม่ใช่เหตุที่นำมาซึ่งความตื่นเต้นครับ จากคุณ : เรียบวัด - [ 15 ส.ค. 48 16:34:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ้าวคุณสุธีคุยกะผมหรอ ผมคุยกะคุณตลกอยู่อะ อิอิ ดูที่ผมโยนประเด็นไปทางคาทอลิคนะครับ ผมเป็นโปรแตสแตนท์ครับ ไม่มีเข้าเงียบ เข้ายาน เข้าญาณ เข้าฌาน มีอย่างมากก็เฝ้าเดียวเป็นการอ่าน และทำความเข้าใจพระคัมภีร์เป็นการส่วนตัว และการอธิษฐานเท่านั้น จากคุณ : ผู้อารักขา - [ 15 ส.ค. 48 16:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอแย้งนิดหน่อยนะครับคุณสาวสวนพลู  ทางคาทอลิคจะเอาคำของพุทธไปใช้นิดหน่อยก็คงไม่เป็นไรไม่ว่ากันเพราะจริง ๆ ห้ามแล้วไม่ฟังก็โอเค คำว่าเพ่งญาณ คุณเอาศัพท์ทางเทคนิคไปใช้ แล้วก็ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร เอาไปใช้มั่ว ๆ ญาณ แปลว่าการรู้แจ้งนะครับ  การเพ่งนั้นเป็นระดับสมถะ ถ้ามั่วเอาคำว่าเพ่ง "ฌาน"  ละก็พอถูไถ อ้อ คำว่า เพ่งญาณ หาว่ามั่ว งง คุณตัดสินเองไม่เป็นไร เพราะความเชื่อของเราเป็นหนึ่งเดียว เดี๊ยวของคุณก็มีหลากหลายอีก เพ่งญาณ ในที่นี้ คือชีวิตฝ่ายจิต ในวิถีคาทอลิก ณาณ ไม่ทราบ ในระดับทั่วไปแล้วที่ไม่ได้ปฏิบัติ "จิตตภาวนา"  โดยตรงนั้น การเพ่ง (หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่) ก็เป็นหลักการพื้นฐานของการทำสมาธิ  การที่จิตผูกอยู่กับที่ไม่วอกแวก ไม่ฟุ้งซ่าน ก็ถือว่าได้สมาธิ "ระดับหนึ่ง"  เมื่อนิ่งจนอยู่ในภวังค์ก็คือสมาธิในภวังค์ อันนี้ทางความเชื่อของคุณ ของเรามี พื้นฐานฝ่ายจิตแบบพรตนิยม (Ascetical) และรหัสยนัยนิยม(Mystical) เจอสองอันนี้หาว่าเลียนแบบอีก ก็ขำน่าดู ไม่เป็นไร เพราะของเรา มีการรับรองจากศาสนจักร แต่ถ้าไม่มีการฝึกสติ ก็ยังคงอยู่ในภวังค์อยู่เช่นนั้น แต่ถ้ามีสติ (อาจจะได้โดยธรรมชาติหรือในอดีตชาติเคยฝึกปฏิบัติมาบ้าง) ก็จะเกิด ปีติ สุข เอกคตา ก็ได้ระดับ "ฌาน" ที่หนึ่งเท่านั้น สติ มีอยู่กับทุกคน ทุกเวลาทุกเหตุการณ์ ทุกอย่างใช้สติอยู่แล้วโดยธรรมชาติ แม้กระทั้งง่ายๆๆ ทานข้าว ก็ใช้สติ หรือว่าไร้สติทานข้าว คิดแล้วคงมูมมาม น่าดู ผมเชื่อว่าทางคริสต์ไม่มีการปฏิบัติทางด้านจิตตภาวนา (หรือมีก็ไปหาเอาจากคำสอนในศาสนาอื่น) พื้นฐานฝ่ายจิตแบบพรตนิยม (Ascetical) และรหัสยนัยนิยม(Mystical) ยกมาให้ดู ชีวิตของนักพรต cenobite อยู่กันเป็นกลุ่มในอาราม ความเชื่อคุณมีนักพรต หรือศัพย์เฉพาะ cenobite หรือเปล่า เดี๊ยวหาว่าเลียนแบบอีก มีความครบครันมากกว่าพวก anchorite เร่ร่อนตามที่กันดารต่างๆๆ เพราะการอยู่รวมกันฉันพี่น้องนั้นทำให้แต่ละคนต้องฝึกฝนด้านคุณธรรมต่างๆๆและยิ่งไปกว่านั้นทุกคนมีแรงบันดาลใจจาการได้เห็นผลงานและคุณธรรมของคนอื่น ไม่ใช่ มานั่งจับผิดอันนี้สายแท้สายไม่แท้ ไม่ใช่ของจริง เห็นจริงหรือเปล่า เพราะคาทอลิกคือหนึ่งเดียว ได้คำตอบเดียวกัน การปฏิบัติทางจิตภาวนาและมีการเคร่งครัดมากกก ขอทีเถอะครับ อย่าเอาศัพท์ทางพุทธ (หรือในทางที่ใช้ในการทำสมาธิ) เอาไปใช้อีกเลยครับ มันคนละอย่างกัน เอาไปใช้แบบผิด ๆ เสียด้วย   ขอทีเถอะค่ะ อย่าเอาคำว่า เพ่งญาน กับณาน นำมาปนเป สร้างอะไรด้วยตัวคุณเองค่ะ อ้อ ถ้าคุณสร้างคำนึกคิดของคุณเองและทางความเชื่อของคุณยอมรับ รบกวนขอ reference จากทาง ความเชื่อของคุณด้วยค่ะ ว่า จากทางใหน ใครเป็นผู้พิสูจน์ บัญญัติศัพท์กันเอาเอง ผมว่ามีศักดิ์ศรีกว่ากันเยอะเลย ... เพ่งญาณ อะน๊ะ พื้นฐานฝ่ายจิตแบบพรตนิยม (Ascetical) และรหัสยนัยนิยม(Mystical) บัญญัติศัพท์กันเอาเอง ผมว่ามีศักดิ์ศรีกว่ากันเยอะเลย ... รบกวนทบทวนด้วยค่ะ ว่าบัญญัติศัพย์กันเอาเอง หนังสือแต่ละเล่มที่พิมพ์ออกมาต้องได้รับการตรวจสอบจาก อัครสังคมณทล สังคมณฑล ก่อนค่ะ ไม่ใช่นึกว่า โบสถ์นี้จะพิมพ์อะไรตามใจชอบก็ได้ค่ะ จากหนังสือ Chirstian spirituality in the Catholic Tradition จากคุณ : สุธี  - [ 15 ส.ค. 48 15:08:40 ] จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 15 ส.ค. 48 20:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เพราะศัพท์เหล่านี้มีในพระไตรปิฎก ในไบเบิลไม่มี และในคริสต์ไม่มีการสอนในเรื่องจิตตภาวนา  ไม่ควรนำเอาไปใช้เป็นอย่างยิ่ง อ้อ คุณคงอ่านทั้งสองเล่ม เก่งจัง ได้อ่านอย่างเดียว ไม่ได้ปฏิบัติ ทางความเชื่อเราน๊ะ การสวดสายประคำก็สำหรับสัตบุรุษ 59 เม็ดก็ไม่ใช้เรื่องง่ายในการสวดแล้ว   ในเรื่องสมาธินี้ก็เช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วมีกันในแถบ ๆ ชมพูทวีปไม่มีในแถบทะเลทราย จะมีการทำสมาธิบ้างก็ในระดับต้น ๆ เท่านั้นไม่มีลงลึกอะไร ใช้อะไรมาวัดละ ว่าลึกไม่ลึก ความรู้สึกของคุณ ความคิดของคุณ คุณมั่นใจว่าความเชื่อของคุณ ลึกซึ้ง และอะไรมาวัด ว่าคุณได้เข้าถึงลึกซึ้ง และการทำสมาธินั้นมีมานานแล้ว ผมก็ย้ำหลายหนในเรื่องนี้ ในระดับฌาน ก็มีมานานแล้วเช่นกัน แต่ในระดับ "ญาณ" ซึ่งหมายถึงการรู้แจ้งเห็นจริงในระดับหลุดพ้นจากกิเลส มีในพุทธเท่านั้น อ้อจากหนังสือเล่มใหนค่ะ รบกวนขอreferenceด้วยค่ะ หรือคำสอนของคุณหน้าใหน บทใหน วรรคที่เท่าไหร่ ผมขอถามย้ำแล้วกันว่า ในไบเบิลมีหรือไม่ ผมหมายถึงไบเบิลฉบับที่เคยพิมพ์กันมาหลายปีนะครับ ไม่เอาไบเบิลฉบับแต่งใหม่นะครับ พระคัมภีร์มีทั้งหมด 70กว่าเล่มในของคาทอลิก พันธสัญญาใหม่ 27เล่มใช้ร่วมกับเพื่อนโปรแตสแตนท์ อ้อ ไบเบิลแต่งใหม่เอามาจากใหนค่ะ หรือใช้ความรู้สึกของตัวเอง มารยาทตรงนี้ควรจะมีไม่ใช่หรือ ... มารยาทการยัดเยียด หรือจิตใต้สำนึกว่าเลียนแบบผู้อื่น แก้ไขไม่ได้  เปิดใจนิดก็ดีค่ะ หรือไม่ก็คอยผสมโรง อีกก็คอยใช้วาจาเสียดสี แต่บอกตรงๆๆเรื่องชีวิตฝ่ายจิตเป็นเรื่องที่ยากและละเอียดอ่อน กว่าจะยอมรับกันได้ ความเชื่อเราเค้าใช้เวลาเป็น 50ปี หรือร้อยๆๆปีค่ะ   จากคุณ : สุธี  - [ 15 ส.ค. 48 16:01:01 ] จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 15 ส.ค. 48 21:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไปได้เรื่อย ๆ นะครับ สมกับเป็น คริสต์จริง ๆ ครับคุณสาวสวนพลู  คุณไม่เข้าใจในความหมายของผมหรือครับ ไอ้เรื่องทำสมาธินั้นน่ะ มีมานานแล้ว  แต่ศัพท์บางคำเช่น "ญาณ"  นั้นเป็นปัญญาหยั่งรู้แจ้ง ที่มีแต่ในศาสนาพุทธเท่านั้น   คุณยังไม่ตอบเลยครับ คำว่า "ญาณ" เอย "ฌาน" เอยมีในไบเบิล หรือไม่ ผมจำไม่ได้แล้วว่า คำว่า "ญาณ" นั้นเป็นบาลีหรือสันสกฤต ไบเบิล ในอดีตกาล จารึกเป็นบาลีสันสกฤตหรือไม่ครับ ผมเข้าใจครับ คุณจะเรียกอะไรก็ได้ จะเรียกเข้าเงียบ หรืออะไรก็ตาม  อย่าเอาศัพท์เทคนิคไปใช้เลยครับ ถ้าคุณมีเจตนาบริสุทธิ์จริง ๆ เอาไปใช้ก็ผิดเสียด้วย "เพ่ง"  อาการนี้ไม่ใช่ ญาณนะครับ ญาณ นั้นคือการรู้แจ้งแล้ว เป็นสภาวะที่ผ่านการ "เพ่ง" ไปไกลสุดกู่แล้ว อย่ามั่วสิครับ  ผมเห็นทางคาทอลิค (ผมไม่แน่ใจว่าคุณเป็นคาทอลิกหรือไม่นะครับ)  เอาศัพท์ทางพุทธไปใช้ แล้วก็ใช้ลีลาวาทะเลี่ยงความผิด ไปเรื่อย ๆ คนมีความคิดเขาพอจะมองออกหรอกครับ อย่าให้ถึงขนาดเอาศัพท์เทคนิคไปใช้เลย ผมมุ่งตรงประเด็นนี้นะครับ คุณสาวสวนพลู ก็ต้องขออภัยคุณอารักขาด้วย ที่เข้าใจผิด เพราะว่าตอบแบบคลุม ๆ ก็ถือซะว่าเป็นความรู้แล้วกันนะครับ .. จากคุณ : สุธี - [ 16 ส.ค. 48 06:23:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไปได้เรื่อย ๆ นะครับ สมกับเป็น คริสต์จริง ๆ ครับคุณสาวสวนพลู  คุณไม่เข้าใจในความหมายของผมหรือครับ เข้าใจว่า คุณสุธีกำลังว่าเราเอาคำความเชื่อของคุณเท่านั้น ไปใช้ คำว่าเพ่งญาณ ถ้าคุณมีรบกวนแนะนำด้วยค่ะ ไม่ต้องตัดแปะ แยกออกมา เพ่ง คือ ญาณคือ แล้วมาบอกว่า เลียนแบบ เชื่อเค้าเลย ไอ้เรื่องทำสมาธินั้นน่ะ มีมานานแล้ว  แต่ศัพท์บางคำเช่น "ญาณ"  นั้นเป็นปัญญาหยั่งรู้แจ้ง ที่มีแต่ในศาสนาพุทธเท่านั้น   ญาณคือ วิญญาณ คำเดียว ของเราเพ่งญาณเน้น คำว่าวิณญาณ มีความเชื่อคุณความเชื่อเดียวเหรอค่ะ อ้อเพิ่งรู้ คุณยังไม่ตอบเลยครับ คำว่า "ญาณ" เอย "ฌาน" เอยมีในไบเบิล หรือไม่ ผมจำไม่ได้แล้วว่า คำว่า "ญาณ" นั้นเป็นบาลีหรือสันสกฤต มีสิค่ะ ในสมัยโมเสส ปฐมกาล ที่โมเสสไปเฝ้าพระเป็นเจ้ารับบัญญัติสิบประการ ไบเบิล ในอดีตกาล จารึกเป็นบาลีสันสกฤตหรือไม่ครับ มีเป็นภาษาไทยค่ะ รากเหง้าภาษาไทยก็เอาคำบาลีสันสกฤตมาใช้ หรือยืมคำจากภาษาอื่น ผมเข้าใจครับ คุณจะเรียกอะไรก็ได้ จะเรียกเข้าเงียบ หรืออะไรก็ตาม  อย่าเอาศัพท์เทคนิคไปใช้เลยครับ ถ้าคุณมีเจตนาบริสุทธิ์จริง ๆ เอาไปใช้ก็ผิดเสียด้วย อ้อเพ่งญาณเป็นศัพย์ของคุณเพิ่งรู้ "เพ่ง"  อาการนี้ไม่ใช่ ญาณนะครับ ญาณ นั้นคือการรู้แจ้งแล้ว เป็นสภาวะที่ผ่านการ "เพ่ง" ไปไกลสุดกู่แล้ว อันนี้คือทางความเชื่อของคุณ ที่คุณแนะนำ มีใครรับรองมั๊ยค่ะ หรือความคิดคุณเอง ความคิดคุณเองถ้าทางความเชื่อของคุณรับรอง รบกวนบอกด้วยค่ะ อย่ามั่วสิครับ  ผมเห็นทางคาทอลิค (ผมไม่แน่ใจว่าคุณเป็นคาทอลิกหรือไม่นะครับ)  เอาศัพท์ทางพุทธไปใช้ แล้วก็ใช้ลีลาวาทะเลี่ยงความผิด ไปเรื่อย ๆ คนมีความคิดเขาพอจะมองออกหรอกครับ เอาคำใหนอีก วัดบ้าง ขนาดเพ่งญาณ ยังตัดแปะ แยกออกเป็นคำคำๆๆๆ เพื่อให้ได้ว่าเลียนแบบ สุดยอด แห่งการสุดโต่ง เดี๊ยวคำว่าสุดโต่ง หาว่าเลียนแบบอีก อันนี้ศัพย์ของคุณน๊ะ ทางเราไม่มี อย่าให้ถึงขนาดเอาศัพท์เทคนิคไปใช้เลย ผมมุ่งตรงประเด็นนี้นะครับ คุณสาวสวนพลู ถ้าคำว่าเอาศัพย์เทคนิค ความเชื่อคุณไปใช้ คำว่า เพ่งญาณ และคุณแยก ออกมาเป็นญาณ เชิญคุณร้องเรียน ทางความเชื่อของคุณเลยค่ะ เค้าจะได้จัดการ ไม่ใช่ประกาศปาวปาว เอาความคิดของตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ร้องเรียนทางสื่อก็ได้น๊ะ แนะนำ คุณจะได้หายคาใจ ประสบความสำเร็จ จากคุณ : สุธี  - [ 16 ส.ค. 48 06:23:13 ] จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 16 ส.ค. 48 08:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เด็ดครับคุณสาวสวนพลู ผมนับถือในความไหลไปเรื่อย ๆ จริง ๆ ครับ ผมยอมแพ้ล่ะครับ คำว่า "วิญญาณ"  มีจารึกในไบเบิลหรือไม่ครับ คำว่า "วิญญาณ" ก็ยังเป็นบาลีอยู่นั่นเองแหละกระมังครับ เล่นเอาคำเอาไปใช้หมดแบบนี้ก็ไม่ค่อยจะดีนะครับ คำบางคำพอเอาไปใช้ไหวเพราะไม่มีผลทางการปฏิบัติหรือเนื้อหาในหลักธรรม เช่น เจ้าอาวาส เจ้าอาราม (ทั้ง ๆ ที่ คำว่า "อาราม" นั้นแปลว่า ป่า เพราะวัดสมัยพุทธกาลเป็นป่า แต่ก็พออนุโลมกันได้) ครับผมทราบดีครับว่าทางคาทอลิคยืมเอาไปใช้โดยไม่ละอายอยู่บ่อย ๆ (แต่ทางคาทอลิกไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าละอายใด ๆ แต่ปราชญ์เค้ามองเห็นอยู่) และเป็นเรื่องเป็นราวกันมาหลายปี และทางผมก็ชักเบื่อกับเรื่องเหล่านี้เหมือนกัน เพราะทางคุณก็ฉลาดจัง ยกเรื่องโน้นเรื่องนี้มาอ้าง ทั้งที่เข้าใจอยู่ในทีอยู่แล้วว่าไม่ควร แต่ก็ยังทำกันนะครับ ... จากคุณ : สุธี - [ 16 ส.ค. 48 10:52:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เด็ดครับคุณสาวสวนพลู ผมนับถือในความไหลไปเรื่อย ๆ จริง ๆ ครับ ผมยอมแพ้ล่ะครับ ไม่ได้มีใครแพ้ใครชนะ ถ้าต้องการเอาคำภาษาไทย บาลีสันสกฤตมาเล่นแล้ว เกิดควาขัดแย้ง ตามใจค่ะ คำว่า "วิญญาณ"  มีจารึกในไบเบิลหรือไม่ครับ คำว่า "วิญญาณ" ก็ยังเป็นบาลีอยู่นั่นเองแหละกระมังครับ วิญญาณ spirit ให้ใช้คำใหนค่ะ รบกวน บัญญัติให้ด้วยค่ะ และแจ้งที่หน่วยงานรับผิดชอบ ด้วยนะค่ะ เล่นเอาคำเอาไปใช้หมดแบบนี้ก็ไม่ค่อยจะดีนะครับ คำบางคำพอเอาไปใช้ไหวเพราะไม่มีผลทางการปฏิบัติหรือเนื้อหาในหลักธรรม เช่น เจ้าอาวาส ไม่มีค่ะ เรียก คุณพ่อเจ้าวัด หรือว่าความเชื่อคุณใช้ คุณพ่อเจ้าวัด เจ้าอาราม (ทั้ง ๆ ที่ คำว่า "อาราม" นั้นแปลว่า ป่า เพราะวัดสมัยพุทธกาลเป็นป่า แต่ก็พออนุโลมกันได้) เจ้าอารามไม่มีค่ะ  ไม่มีค่ะ มีแต่หัวหน้าคณะ วัดสมัยพุทธกาลเป็นป่า แต่ก็พออนุโลมกันได้ เรื่องของความเชื่อของคุณไม่ทราบค่ะ ครับผมทราบดีครับว่าทางคาทอลิคยืมเอาไปใช้โดยไม่ละอายอยู่บ่อย ๆ (แต่ทางคาทอลิกไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าละอายใด ๆ แต่ปราชญ์เค้ามองเห็นอยู่) ศัพย์บางคำ คุณไม่ทราบเลย แต่คุณตัดสินด้วยตัวคุณเอง เชิญใช้ส่วนลึกจิตใจคุณตัดสินเถอะค่ะ และเป็นเรื่องเป็นราวกันมาหลายปี และทางผมก็ชักเบื่อกับเรื่องเหล่านี้เหมือนกัน เพราะทางคุณก็ฉลาดจัง ยกเรื่องโน้นเรื่องนี้มาอ้าง ทั้งที่เข้าใจอยู่ในทีอยู่แล้วว่าไม่ควร แต่ก็ยังทำกันนะครับ หาว่ายกเรื่องนั้นเรื่องนี้มาอ้าง ศัพย์เฉพาะของพวกเรามี คุณเชื่อในส่วนของคุณ แล้วคุณมาปนเปผสมไปเอง คุณยังยัดเยียดมาให้คนอื่น ในเมื่อส่วนลึกจิตใจคุณ คิดว่าเลียนแบบ เลียนแบบ ตามใจค่ะ เพราะศัพย์เฉพาะ เรามี dictation แปลเฉพาะ ของเราเอง และทางสภาคริสธรรมได้แปลและรับรองแล้ว ซึ่งคำบางคำ คุณตัดแปะ แยกออกมาเป็นคำละคำ และหาว่าเลียนแบบ ตามใจค่ะ เชิญร้องเรียน เลยค่ะ คุณจะได้ไม่กังขา ... จากคุณ : สุธี  - [ 16 ส.ค. 48 10:52:44 ] จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 16 ส.ค. 48 11:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณสุธี คุณจะยึดมั่นถือมันกับสิ่งสมมุติมากเกินไปแล้วนะครับ ศัพท์ทางเทคนิคของพุทธบ้างล่ะ คำนี้มีเฉพาะในพุทธเท่านั้นบ้างล่ะ มีในใบเบิลหรือเปล่าบ้างล่ะ ผมว่าคุณอย่าดันทุรังอ้างแบบนี้บ่อย ๆ เลยมันไร้สาระ ถ้าคุณอ่านที่ผมเขียนไม่เข้่าใจก็ลองไปคุยกับพระนะครับท่านน่าจะอธิบายได้ดีกว่าผม จากคุณ : ขัณฑ์ - [ 16 ส.ค. 48 21:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้อยทีถ้อยอาศัยเถิดครับ หากการทำสมาธินั้นมีเพียงจุดมุ่งหมายที่เหมือนกัน กล่าวคือการพยายามสำรวมจิตใจให้นิ่งเพื่อสมาธิและ ปัญญา ไม่ว่าศาสนาใดก้อทำได้ อย่าแบ่งกันเป็นศาสนาใด อย่าแบ่งว่ารากศัพย์นั้นมาจากที่ใด มองดูจากเจตนารมย์ของการปฏิบัติในแนวทางของศาสนา นั้นๆเถอะครับ หากทางศาสนาที่คุณสาวสวนพลูนับถืออยู่ จะมีวิธีการสอนอย่างไรก้อตาม อันนั้นถือเป็นกลวิธีของ เขา แต่ให้ถือว่าดี เป็นกุศล ทางศาสนาพุทธิสมาธิทำเพื่อให้จิตใจสงบ เกิดปัญญา หรืออะไรก้อตามที่ข้าพเจ้าอาจไม่สามารถเข้าใจได้ณ ขณะนี้ แต่เชื่อว่าล้วนเป็นสิ่งดี อันนี้ในศาสนาพุทธนะ ส่วนในศาสนาอื่นนั้น หากมีการปฏิบัติสมาธิกรรมฐาน ก้อถือเป็นสิ่งที่น่าปฏิบัติ จะมีรากฐานมาจากไหน อย่าไป ใส่ใจหาเหตุมากนักเลย จะทำให้ทะเลาะกันเปล่าๆ เถียงกันก้อจะก่อให้เกิดอารมณ์ ซึ่งทำให้ใจขุ่นมัว จากความมีอคติ และทิฐิ ซึ่งสุดท้ายอคติและทิฐิล้วนไม่มี ตัวตน และจะสูญสลายไปในที่สุด ขอให้ปฏิบัติเถิด วาจาเสียดสีมีแต่ทำให้เป็นบาปแก่ตัวผู้พูด หรือผู้ที่คิดจะพูด คิดให้ดี พูดให้ดี เพื่อตัวท่านเอง และผู้อื่นที่ได้รับฟัง จากคุณ : พูดม่ายชัด - [ 17 ส.ค. 48 03:28:28 A:61.90.78.207 X: TicketID:098211 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หึหึ แล้วแต่คุณขัณฑ์จะคิดนะครับ ซึ่งความจริงแล้วผมเฉย ๆ นะครับ ไม่ได้ทำให้ใจของผมขุ่นลงนักหรอก เพียงแต่เรื่องบางเรื่องผมเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง มันมีการแฝงนัยของการทำลาย ของการกลั่นแกล้ง ด้วยความฉ้อฉล และแยบยล ขององค์กรกลุ่มนี้ มันเลวบัดซบในจุดประสงค์ของพวกเขา  ผมก็มาคุยมาบอกไว้เท่านั้น  ส่วนเขาจะกะล่อนหาทางหลีกเลี่ยงเป็นปลาไหล (เหมือนที่พวกเขาให้ฉายาเพื่อนในกระทู้ในนี้แหละ แต่พวกเขาลื่นและบัดซบกว่าเยอะ) ยังไงผมก็จนใจ เพราะผมคงมีมันสมองตามเรื่องชั่ว ๆ แล้วสร้างภาพสร้างเหตุผลอันชอบธรรมของตัวเอง กลบสันดานโฉดนั้นลำบากครับ คนรุ่นหลังที่คอยเป็นองครักษ์พิทักษ์องค์กรนี้อาจจะไม่ทราบก็ได้ครับ เพราะองค์กรบัดซบนี้มันหาทางแก้และบอกกล่าวกันไว้หมดแล้ว แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า กลุ่มคนสารเลวพวกนี้ย่อมตกนรกหมกไหม้แน่นอนในเรื่องที่คอยเบียดเบียนศาสนาพุทธ (หรือแม้แต่ศาสนาอื่น ซึ่งพวกเขาก็ทำกันอยู่) และกระทำอะไรที่ขัดกับคำสอนของตัวเองที่ตัวเองโม้เอาไว้ก้องโลกนั้น แล้วแต่จะคิดกันครับ ... แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 48 07:03:13 จากคุณ : สุธี - [ 17 ส.ค. 48 07:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หึหึ แล้วแต่คุณขัณฑ์จะคิดนะครับ ซึ่งความจริงแล้วผมเฉย ๆ นะครับ ไม่ได้ทำให้ใจของผมขุ่นลงนักหรอก เพียงแต่เรื่องบางเรื่องผมเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง มันมีการแฝงนัยของการทำลาย ของการกลั่นแกล้ง ด้วยความฉ้อฉล และแยบยล ขององค์กรกลุ่มนี้ มันเลวบัดซบในจุดประสงค์ของพวกเขา  ผมก็มาคุยมาบอกไว้เท่านั้น  ส่วนเขาจะกะล่อนหาทางหลีกเลี่ยงเป็นปลาไหล (เหมือนที่พวกเขาให้ฉายาเพื่อนในกระทู้ในนี้แหละ แต่พวกเขาลื่นและบัดซบกว่าเยอะ) ยังไงผมก็จนใจ เพราะผมคงมีมันสมองตามเรื่องชั่ว ๆ แล้วสร้างภาพสร้างเหตุผลอันชอบธรรมของตัวเอง กลบสันดานโฉดนั้นลำบากครับ คนรุ่นหลังที่คอยเป็นองครักษ์พิทักษ์องค์กรนี้อาจจะไม่ทราบก็ได้ครับ เพราะองค์กรบัดซบนี้มันหาทางแก้และบอกกล่าวกันไว้หมดแล้ว แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า กลุ่มคนสารเลวพวกนี้ย่อมตกนรกหมกไหม้แน่นอนในเรื่องที่คอยเบียดเบียนศาสนาพุทธ (หรือแม้แต่ศาสนาอื่น ซึ่งพวกเขาก็ทำกันอยู่) และกระทำอะไรที่ขัดกับคำสอนของตัวเองที่ตัวเองโม้เอาไว้ก้องโลกนั้น แล้วแต่จะคิดกันครับ ... แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 48 07:03:13 จากคุณ : สุธี  - [ 17 ส.ค. 48 07:01:33 ] ขอบพระคุณค่ะในสิ่งที่คุณคิด หมกหมุ่นในอดีต เรื่องการให้อภัย เราว่าความเชื่อในความเชื่อของคุณมีสอน สำหรับคุณ การให้อภัยยึดติด มีความสุข ทำเถอะค่ะ คุณมองในแง่มุมของคุณ อีกหลายๆๆมุมคุณไม่ได้มอง คุณยัดเยียดเราก็ตอบอยู่อย่างนี้อะค่ะ จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 17 ส.ค. 48 07:57:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ศาสนาคริสต์ อิสลาม ฮินดูมีการนั่งสมาธิกันมานานแล้ว แต่ตอนหลังของครสิต์ อิสลามถูกละเลยไปบ้าง จากคุณ : ปักษาวายุ - [ 17 ส.ค. 48 17:39:53 A:10.36.3.44 X:202.28.77.30 TicketID:055979 ]

ความคิดเห็นที่ 25 55555....คุณ สุธี...ความคิดเห็นที่ 22 >>> หึหึ แล้วแต่คุณขัณฑ์จะคิดนะครับ ซึ่งความจริงแล้วผมเฉย ๆ นะครับ ไม่ได้ทำให้ใจของผมขุ่นลงนักหรอก เพียงแต่เรื่องบางเรื่องผมเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง มันมีการแฝงนัยของการทำลาย ของการกลั่นแกล้ง ด้วยความฉ้อฉล และแยบยล ขององค์กรกลุ่มนี้ มันเลวบัดซบในจุดประสงค์ของพวกเขา ผมก็มาคุยมาบอกไว้เท่านั้น ส่วนเขาจะกะล่อนหาทางหลีกเลี่ยงเป็นปลาไหล (เหมือนที่พวกเขาให้ฉายาเพื่อนในกระทู้ในนี้แหละ แต่พวกเขาลื่นและบัดซบกว่าเยอะ) ยังไงผมก็จนใจ เพราะผมคงมีมันสมองตามเรื่องชั่ว ๆ แล้วสร้างภาพสร้างเหตุผลอันชอบธรรมของตัวเอง กลบสันดานโฉดนั้นลำบากครับ <<< เรื่องปลาไหลน่ะ...เป็น "ฉายา" ที่นายตลกปลาไหลตัวดำดำ ได้มา....โดยไม่ได้อาศัยโชคช่วยนะ ได้มานานแล้ว.....ตั้งแต่ครั้งที่ห้องนี้ยังเป็น "ห้องสมุด" อยู่เลย เอา "ข้อมูลเท็จ" มาโจมตีให้ร้ายคริสต์ ......พอถูกจับได้ก็ "เลื้อยไหล" ลงรูเอาดื้อๆ พฤติกรรมนี้ก็เหมือนพวกมือถือสากปากถือศีล....ในแก๊ง "พิทักษ์อลัชชี" น่ะแหละ พวกมือถือสากปากถือศีลเหล่านี้ คอยออกมาปกป้อง "อลัชชี" .....โดยการออกมาใส่ร้าย ป้ายสี ศาสนาอื่น ที่เห็นๆ กัน ก็คือ...กรณีของอดีตพระนิกรกับคุณอรปวีณา ก็ออกมาใส่ร้ายว่าเป็น "แผนนารีพิฆาต".....แต่พอผลพิสูจน์เลือดของเด็กออกมา....พวกมือถือสากปากถือศีลก็ใบ้รับประทาน อีกครั้งก็คือ อดีตพระยันตระ.....พวกมือถือสากปากถือศีลก็ออกมาใส่ร้ายอีกว่าเป็น "แผนนารีพิฆาต" ของศาสนอื่น.....แต่พอใบเสร็จจากออสเตรเลีย ที่ไปปลีกวิเวกออกมาเป็นหลักฐาน....พวกมือถือสากปากถือศีลก็ใบ้รับประทานอีกครั้ง หลังๆ เลยไม่ใช้ "มุก" นี้......เพราะปัจจุบัน เทคโนโลยี "กล้องจิ๋ว" มันดี....หลักฐานมันเห็นกันจะจะ ทั้งภาพทั้งเสียง ก็เลยหันไปใส่ร้ายอีกว่า......เจ้าของสื่อเป็นคริสต์ พวกมือถือสากปากถือศีล จำพวกนี้...น่ะน่าจะเรียกว่า....องครักษ์พิทักษ์อลัชชี จริงไหม??? จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 17 ส.ค. 48 20:18:19 A:10.90.4.191 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 26 555555......ขอผมดัดแปลงตรงนี้หน่อยนะ >>>>คนรุ่นหลังที่คอยเป็นองครักษ์พิทักษ์องค์กรนี้อาจจะไม่ทราบก็ได้ครับ เพราะองค์กรบัดซบนี้มันหาทางแก้และบอกกล่าวกันไว้หมดแล้ว >>>>คนรุ่นหลังที่คอยเป็นองครักษ์พิทักษ์อลัชชี ที่สังกัดองค์กรนี้อาจจะไม่ทราบก็ได้ครับ เพราะองค์กรบัดซบนี้มันหาทางแก้และบอกกล่าวกันไว้หมดแล้ว.... 5555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 17 ส.ค. 48 20:21:36 A:10.90.4.191 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วก็.... >>> แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า กลุ่มคนสารเลวพวกนี้ย่อมตกนรกหมกไหม้แน่นอนในเรื่องที่คอยเบียดเบียนศาสนาพุทธ (หรือแม้แต่ศาสนาอื่น ซึ่งพวกเขาก็ทำกันอยู่) และกระทำอะไรที่ขัดกับคำสอนของตัวเองที่ตัวเองโม้เอาไว้ก้องโลกนั้น <<< แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า กลุ่มคนสารเลวพวกนี้ย่อมตกนรกหมกไหม้แน่นอนในเรื่องที่คอยเบียดเบียนศาสนาอื่น (หรือแม้แต่ศาสนาอื่น ซึ่งพวกเขาก็ทำกันอยู่) และกระทำอะไรที่ขัดกับคำสอนของตัวเองที่ตัวเองโม้เอาไว้ก้องโลกนั้น เพราะพฤติกรรมการใส่ร้ายป้ายสี.....โดยการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน เพื่อให้ร้ายศาสนาอื่น ของพวกมือถือสากปากถือศีลของนักการศาสนาในองค์กรนี้....มุ่งหวังที่จะปลุกระดมให้เหล่า "กระบือ" ที่ไม่เคยไปหาหลักฐานมาพิสูจน์สิ่งที่ได้รับการบอกเล่ามาจากคนที่ดูจากภายนอกว่าน่าเชื่อถือ ถ้าอยากหูตาสว่าง...ก็ลองไปอ่านกระทู้เก่าๆ ที่ผมได้เคยเอามาแสดงให้ดูอยู่หลายครั้งแล้ว....ที่อยู่ในคลังกระทู้เก่าก็หลายกระทู้ 55555555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 17 ส.ค. 48 20:28:39 A:10.90.4.191 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เออ...ลืมไป...คุณสุธี มาทีหลัง คงยังไม่ทราบว่า ลักษณะของ "กระบือ" ที่สังกัดกลุ่มองครักษ์พิทักษ์อลัชชีนี้น่ะ.....ผมเคยตั้งข้อสังเกตไว้ว่า.... post ทีไร...เหมือนส่องกระจกแล้ว post เลย 5555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 17 ส.ค. 48 20:31:21 A:10.90.4.191 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ้อ......ประเภทที่กล่าวหาลอยๆ โดยไม่มีหลักฐาน แล้วด่าสรุปเอาดื้อๆ แบบที่ทำอยู่เสมอๆ น่ะ มันตรงกับพฤติกรรมของ "กระบือ" น่ะนะ คราวหน้าคราวหลังน่ะหัดหาหลักฐานมาแสดงมั่ง.....จะเที่ยวมาขอจากนายตลกปลาไหลตัวดำดำ น่ะ นายตลกปลาไหลตัวดำดำ ยังหาหลักฐานมาแสดงให้ดูไม่ได้เลยว่า.....ไม่ได้ทำการตัดต่อบทความของท่านเสรี พงศ์พิศ 55555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 17 ส.ค. 48 20:35:35 A:10.90.4.191 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พฤติกรรมการปลุกระดมขององค์กรเหล่านี้.....ก็ใช้วิธีเดียวกันกับพวกที่ก่อการร้ายปลุกระดมน่ะแหละ คือใช้วิธีตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน เอกสารที่แท้จริง ก็เหมือนกับที่พวกคลั่งศาสนาใน 3 จังหวัดภาคใต้ทำการตัดต่อ แต่งเติม ดัดแปลง.....จนกลายเป็น "คัมภีร์มรณะ"......บิดเบือนคำสอนของอิสลาม เพื่อปลุกระดมให้เกลียดชังเพื่อนร่วมชาติน่ะแหละ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 17 ส.ค. 48 20:48:01 A:10.90.4.191 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 31 พฤติกรรมการใส่ร้ายศาสนอื่น.......ก็ลองกลับไปดูนายตลกปลาไหลตัวดำดำ post เอาไว้ที่กระทู้...http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3669236/Y3669236.html.......พระพุทธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติไทย จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 17 ส.ค. 48 20:51:44 A:10.90.4.191 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 32 หึหึ ผมจะไม่ว่าคุณฝากให้คิดหรอกนะครับ ว่าเป็นพวกองค์กรเลวร้าย ที่คอยทำลายศาสนาพุทธ (และศาสนาอื่น) เพราะคุณก็คงไม่ทราบหรือทราบก็เห็นดีไปด้วย หรือ เรื่ององค์กรพิทักษ์อลัชชีอะไรนั่นที่คุณว่า ผมว่ามันก็มีเหมือนกันแหละครับ อย่างพวกธรรมกายนั่นไง ผมก็เห็นครับ แต่เรื่องการให้ร้ายศาสนาคริสต์ (บอกกันตรง ๆ นี่แหละ) มันก็คงมีและก็ควรจะสำรวจตัวเองด้วยเหมือนกันว่า คริสต์ (อาจจะเน้นไปที่คาทอลิคก็ได้) เขาทำกันจริง ๆ หลักฐานก็มีคนที่ได้เอกสารเหล่านี้มาจริง ๆ ถ้าคุณมีใจเป็นธรรม ก็คงจะเข้าใจว่าเขาเบียดเบียนพุทธ (และศาสนาอื่น) จริง ๆ เข้ามาประกาศเมืองไทยครั้งแรกก็ด่าว่าพุทธ ด่าว่าพระพุทธเจ้าว่าเป็นซาตานแล้วจริง ๆ เหล่านี้มันเกิดขึ้นจริง ๆ คุณจะพิทักษ์อะไรและคอยตามกัดคนอื่นข้างหลังอะไรก็ตามก็แล้วแต่คุณครับ แต่มโนสำนึกในความเป็นธรรมของคุณผมอยากให้คุณงัดเอามาใช้บ้าง สำหรับคุณตลก ผมก็เห็นแกพูดถูกหลายเรื่อง เพียงแต่วิธีนำเสนอของแกบางครั้งมันเหมือนพฤติกรรมที่ "จองเวร" มากไปหน่อย แต่ก็อย่าลืมว่าทางฝ่ายคริสต์ก็ จองเวร เขาเช่นกัน ด่าว่าต่าง ๆ นา ๆ อันนี้ผมเคยบอกไปแล้วว่าไม่ว่ากัน ผมก็ตามอ่าน สองฝ่ายจะกัดตบตีกันอย่างไรผมก็ไม่เข้าไปแทรก บางครั้งผมเองยังตำหนิคุณตลกเลย (แต่ผมก็ไม่เคยเห็นพวกคริสต์ตำหนิพวกเดียวกันเองในกรณีลามปามเกินไปเลยไปสักครั้งเลยนะ ไม่เห็นจริง ๆ หรือมีแอบตำหนิกันเองก็ไม่รู้นะครับ) ในกรณีที่ไปจาบจ้วงหรือไร้เหตุผลกับเขามากไปหน่อย และบางครั้งผมเห็นว่าทางคริสต์ทะเลาะกับคุณตลกและชักลามปามและไร้เหตุผล ผมก็ตำหนิเขาไปเช่นกัน และผมก็ไม่ค่อยเห็นเขายอมรับตัวเองสักเท่าไหร่นะครับ อยากให้คุณ "ฝากไว้ให้คิด" ใช้สติปัญญา และความเป็นธรรมในใจของคุณสักนิดหน่อยนะครับ  ลืมตามองความเป็นจริงในหลาย ๆ ประการด้วยจะเป็นบุญต่อโลกนี้อีกบ้างครับ ... จากคุณ : สุธี - [ 18 ส.ค. 48 06:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หึหึ แล้วแต่คุณขัณฑ์จะคิดนะครับ ซึ่งความจริงแล้วผมเฉย ๆ นะครับ ไม่ได้ทำให้ใจของผมขุ่นลงนักหรอก เพียงแต่เรื่องบางเรื่องผมเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง มันมีการแฝงนัยของการทำลาย ของการกลั่นแกล้ง ด้วยความฉ้อฉล และแยบยล ขององค์กรกลุ่มนี้ มันเลวบัดซบในจุดประสงค์ของพวกเขา  ผมก็มาคุยมาบอกไว้เท่านั้น  ส่วนเขาจะกะล่อนหาทางหลีกเลี่ยงเป็นปลาไหล (เหมือนที่พวกเขาให้ฉายาเพื่อนในกระทู้ในนี้แหละ แต่พวกเขาลื่นและบัดซบกว่าเยอะ) ยังไงผมก็จนใจ เพราะผมคงมีมันสมองตามเรื่องชั่ว ๆ แล้วสร้างภาพสร้างเหตุผลอันชอบธรรมของตัวเอง กลบสันดานโฉดนั้นลำบากครับ คนรุ่นหลังที่คอยเป็นองครักษ์พิทักษ์องค์กรนี้อาจจะไม่ทราบก็ได้ครับ เพราะองค์กรบัดซบนี้มันหาทางแก้และบอกกล่าวกันไว้หมดแล้ว แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า กลุ่มคนสารเลวพวกนี้ย่อมตกนรกหมกไหม้แน่นอนในเรื่องที่คอยเบียดเบียนศาสนาพุทธ (หรือแม้แต่ศาสนาอื่น ซึ่งพวกเขาก็ทำกันอยู่) และกระทำอะไรที่ขัดกับคำสอนของตัวเองที่ตัวเองโม้เอาไว้ก้องโลกนั้น แล้วแต่จะคิดกันครับ ... แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 48 07:03:13 จากคุณ : สุธี  - [ 17 ส.ค. 48 07:01:33 ] เห็นอ่านจากตรงนี้โห ด่าซะน่ากลัวเลยอะ หึหึ ผมจะไม่ว่าคุณฝากให้คิดหรอกนะครับ ว่าเป็นพวกองค์กรเลวร้าย ที่คอยทำลายศาสนาพุทธ (และศาสนาอื่น) เพราะคุณก็คงไม่ทราบหรือทราบก็เห็นดีไปด้วย หรือ เรื่ององค์กรพิทักษ์อลัชชีอะไรนั่นที่คุณว่า ผมว่ามันก็มีเหมือนกันแหละครับ อย่างพวกธรรมกายนั่นไง ผมก็เห็นครับ แต่เรื่องการให้ร้ายศาสนาคริสต์ (บอกกันตรง ๆ นี่แหละ) มันก็คงมีและก็ควรจะสำรวจตัวเองด้วยเหมือนกันว่า คริสต์ (อาจจะเน้นไปที่คาทอลิคก็ได้) เขาทำกันจริง ๆ หลักฐานก็มีคนที่ได้เอกสารเหล่านี้มาจริง ๆ ถ้าคุณมีใจเป็นธรรม ก็คงจะเข้าใจว่าเขาเบียดเบียนพุทธ (และศาสนาอื่น) จริง ๆ เข้ามาประกาศเมืองไทยครั้งแรกก็ด่าว่าพุทธ ด่าว่าพระพุทธเจ้าว่าเป็นซาตานแล้วจริง ๆ เหล่านี้มันเกิดขึ้นจริง ๆ คุณจะพิทักษ์อะไรและคอยตามกัดคนอื่นข้างหลังอะไรก็ตามก็แล้วแต่คุณครับ แต่มโนสำนึกในความเป็นธรรมของคุณผมอยากให้คุณงัดเอามาใช้บ้าง สำหรับคุณตลก ผมก็เห็นแกพูดถูกหลายเรื่อง เพียงแต่วิธีนำเสนอของแกบางครั้งมันเหมือนพฤติกรรมที่ "จองเวร" มากไปหน่อย แต่ก็อย่าลืมว่าทางฝ่ายคริสต์ก็ จองเวร เขาเช่นกัน ด่าว่าต่าง ๆ นา ๆ อันนี้ผมเคยบอกไปแล้วว่าไม่ว่ากัน ผมก็ตามอ่าน สองฝ่ายจะกัดตบตีกันอย่างไรผมก็ไม่เข้าไปแทรก บางครั้งผมเองยังตำหนิคุณตลกเลย (แต่ผมก็ไม่เคยเห็นพวกคริสต์ตำหนิพวกเดียวกันเองในกรณีลามปามเกินไปเลยไปสักครั้งเลยนะ ไม่เห็นจริง ๆ หรือมีแอบตำหนิกันเองก็ไม่รู้นะครับ) ในกรณีที่ไปจาบจ้วงหรือไร้เหตุผลกับเขามากไปหน่อย และบางครั้งผมเห็นว่าทางคริสต์ทะเลาะกับคุณตลกและชักลามปามและไร้เหตุผล ผมก็ตำหนิเขาไปเช่นกัน และผมก็ไม่ค่อยเห็นเขายอมรับตัวเองสักเท่าไหร่นะครับ อยากให้คุณ "ฝากไว้ให้คิด" ใช้สติปัญญา และความเป็นธรรมในใจของคุณสักนิดหน่อยนะครับ  ลืมตามองความเป็นจริงในหลาย ๆ ประการด้วยจะเป็นบุญต่อโลกนี้อีกบ้างครับ ... จากคุณ : สุธี  - [ 18 ส.ค. 48 06:41:32 ] หน้ามือเป็นหลังเท้าเลย โห ทำได้ไงเนี๊ยะ ด่าชนิดเผาผี ตบด้วย ขอทีเถอะ งง จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 18 ส.ค. 48 08:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 และบางครั้งผมเห็นว่าทางคริสต์ทะเลาะกับคุณตลกและชักลามปามและไร้เหตุผล ผมก็ตำหนิเขาไปเช่นกัน และผมก็ไม่ค่อยเห็นเขายอมรับตัวเองสักเท่าไหร่นะครับ +++ ถ้าหมายถึงดิฉันล่ะก็ ดิฉันไม่ยอมรับแน่นอน ส่วนคุณสุธีจะว่าดิฉันลามปามหรือไร้เหตุผลนั้น นั่นเป็นมุมมองของคุณสุธีที่ดิฉันรับทราบ ซึ่งอาจจะมีคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้ +++ อนึ่ง ที่ครั้งหนึ่ง ดิฉันว่า ลุงตลกควรจะไปหลวงพ่อท่านเคาะกะหม่อมนั้น เพราะในสายตาดิฉัน ลุงตลกแกมีอาการหนักมาก ถ้าได้รับการเคาะเหมือนลูกศิษย์ลูกหามากมายที่ไปขอให้ท่านเคาะ อาการหนักในการแอนตี้ไครสต์คงจะบรรเทาลงได้ แต่ถ้าคิดว่า ที่ตนเองกระทำอยู่นั้นเป็นเรื่องปกติ และสมควรกระทำ รวมทั้งไม่ผิดกฏ กติกา มารยาทของเว็บพันทิปดอทคอมก็ตามสบายเถอะทั่น เพราะถูกยึดสมาชิกภาพมาสองครั้งแล้วยังไม่รู้สึกก็ช่วยไม่ได้ จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 10:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สำหรับคำในภาษาไทยบางคำที่ทางคาทอลิกนำมาใช้ และกล่าวหาว่า เป็นหนึ่งในแผนการดูดกลืนหรือทำลายศาสนาพุทธนั้นแม้จะมีการชี้แจงมากมายหลายครั้งก็ยังไม่ยอมรับกัน ก็แล้วแต่ท่าน ลองอ่านความเห็นของคุณวิศวกรไฟฟ้าดู --------------------------------------------- ป.ล. : สำหรับคำว่า "พระสงฆ์"ของทุกศาสนา... ที่ผมเขียนคำว่า "พระสงฆ์" ใส่ไว้ในเครื่องหมายอัญประกาศนั้น ผมตั้งใจใช้หมายถึง "ผู้เผยแพร่สืบทอดศาสนา" สำหรับทุกศาสนารวมๆ โดยไม่เจาะจงว่าเป็น "พระสงฆ์"ของศาสนาพุทธ หรือ "บาทหลวง"ของศาสนาคริสต์ หรือ "อิหม่าม"ของศาสนาอิสลาม หรือ "พราหมณ์"ของศาสนาพราหมณ์ หรือ "สาธุ"ของศาสนาฮินดู ฯลฯ ...โปรดทำความเข้าใจด้วยครับ... จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า (วีณาแกว่งไกว)  - [15 พ.ย. 44 13:55:32] ความจริงแล้วศาสนาเชนและศาสนาพราหมณ์-ฮินดูก็มีคำว่า "สงฆ์" ใช้เหมือนกันครับ สำหรับศาสนาเชนนั้นหมายถึงนักบวชในศาสนาของเขา สำหรับในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนั้นหมายถึงคณะฤษี ("multitude of sages") คำว่า "สงฆ์" ที่ศาสนาพุทธใช้ ก็รับมาจากคำว่า "สํฆ" ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเช่นกันครับ (แต่ปรับความหมายให้เข้ากับบริบททางศาสนาพุทธเช่นเดียวกับคำว่า "ธรรม" และคำอื่นๆที่พุทธรับมาใช้)   จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า (วีณาแกว่งไกว)  - [15 พ.ย. 44 14:30:43] แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 48 10:33:32 จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 10:32:43 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ก็แล้วแต่จะคิดนะครับคุณเม่ย เพราะการกระทำที่ลามปามของชาวคริสต์แบบคุณ คุณอาจจะไม่ถือว่าลามปามก็ได้ครับแล้วแต่วิสัย ของแต่ละบุคคลครับ ก็เหมือนกับบางเรื่องที่เราว่าออกไป คุณยังว่าดูหมิ่น เลยครับ โดยที่เราถือว่าเฉย ๆ อันนี้มันอยู่ที่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของแต่ละคน มันห้ามกันไม่ได้หรอกครับ   เพราะในอดีตมีคนที่เข้ามาทำทีเป็นสอนศาสนาแต่พอลับหลังก็ด่าว่า คนที่ไม่เชื่อแบบตัวว่าเป็นซาตานบ้างละ นอกรีตบ้างล่ะ ยังทำกันมาแล้ว  และปัจจุบันก็ไม่แปลกที่ความละอายจะไม่มีตามแบบ "เชื้อไม่ทิ้งแถว"  ทำไมจะมีไม่ได้ ... จากคุณ : สุธี - [ 18 ส.ค. 48 10:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ศาสนาคริสต์ อิสลาม ฮินดูมีการนั่งสมาธิกันมานานแล้ว แต่ตอนหลังของครสิต์ อิสลามถูกละเลยไปบ้าง จากคุณ : ปักษาวายุ - [ 17 ส.ค. 48 17:39:53 A:10.36.3.44 X:202.28.77.30 TicketID:055979 ] +++ จริงค่ะ จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 13:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เพราะในอดีตมีคนที่เข้ามาทำทีเป็นสอนศาสนาแต่พอลับหลังก็ด่าว่า คนที่ไม่เชื่อแบบตัวว่าเป็นซาตานบ้างละ นอกรีตบ้างล่ะ ยังทำกันมาแล้ว  และปัจจุบันก็ไม่แปลกที่ความละอายจะไม่มีตามแบบ "เชื้อไม่ทิ้งแถว"  ทำไมจะมีไม่ได้ ... จากคุณ : สุธี  - [ 18 ส.ค. 48 10:46:53 ] +++ คุณจะเข้าใจว่าเป็นการด่าก็แล้วแต่ แต่มีคริสต์บางคนมีมุมมองสุดโต่งเช่นนี้จริง ส่วนพุทธสุดโต่งนี่ก็มีเหมือนกันเช่นว่า เรื่องพระเจ้านั้น งมงาย ไร้สาระ แบบนี้คงต้องถามชาวมุสลิม และชาวคริสต์ล่ะว่า แบบนี้เรียกอย่างไร หรือเวลามีคนสนใจอยากเปลี่ยนศาสนาคริสต์ ก็จะมีคนพุทธมาอวดอ้างศาสนาของตน +++ ขอแก้ให้คุณสาวสวนพลูหน่อยว่า ไม่ใช่ การเพ่งญาณ แต่เป็น การเพ่งฌาน จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 13:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 39 น้องสาวสวนพลูช่วยใช้เครื่องหมายแบ่งแยกให้หน่อยค่ะว่า อันไหนเป็นความเห็นของตัวเอง ของคนอื่น ดูแล้วงงเล็กน้อยค่ะ อิอิ จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 13:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ความจริงแล้วศาสนาเชนและศาสนาพราหมณ์-ฮินดูก็มีคำว่า "สงฆ์" ใช้เหมือนกันครับ สำหรับศาสนาเชนนั้นหมายถึงนักบวชในศาสนาของเขา สำหรับในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนั้นหมายถึงคณะฤษี ("multitude of sages") คำว่า "สงฆ์" ที่ศาสนาพุทธใช้ ก็รับมาจากคำว่า "สํฆ" ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเช่นกันครับ (แต่ปรับความหมายให้เข้ากับบริบททางศาสนาพุทธเช่นเดียวกับคำว่า "ธรรม" และคำอื่นๆที่พุทธรับมาใช้)   จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า (วีณาแกว่งไกว)  - [15 พ.ย. 44 14:30:43] จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 13:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หึหึ ดีใจครับ ที่คุณเม่ย ท้วงติง กับศัพท์ที่ว่า ญาณ กับฌาน แม้ทั้งสองคำจะไม่มีสอนหรือไม่มีจารึกในคัมภีร์ลัทธิที่มาจากทะเลทรายก็ตาม แต่ก็พออ้อมแอ้มอนุโลมกันได้เหมือนกัน เพราะคำว่า เพ่ง นั้นใช้กับ ฌาน ไม่ใช่ญาณ ก็ขอขอบคุณคุณเม่ย ที่ช่วยแก้ให้มา ณ ที่นี้ด้วยครับ ทางพุทธกับพราหมณ์ นั้นคือชมพูทวีปครับ ชมพูทวีปนั้นก็คือแหล่งครูทางปรัชญา และการปฏิบัติทางจิตตภาวนาของโลกครับ ไม่ใช่ทะเลทราย พระพุทธเจ้าเราก็ใช้หลักที่เรียนรู้จักพราหมณ์นี่แหละ ในการบำเพ็ญเพียร แต่พระองค์เห็นว่า นั่นยังไม่ใช่ ยังเป็นทุกข์อยู่ พระองค์ถึงตรัสรู้เอง โดยการวิปัสสนา การที่เราจะใช้ ศัพท์ทางพราหมณ์มานั้นนำมาใช้ในทางปฏิรูป นำมาใช้ใน "สังคม" ของชมพูทวีป แล้วทะเลทรายมาสอดอะไรด้วยมิทราบครับ   ศัพท์หลายคำ เป็นศัพท์ที่ปราชญ์ยุคนั้นใช้กัน อยู่และทางพุทธเราก็นำมาปรับใช้หลายพันปีแล้ว ทีคุณไปเอาคัมภีร์ของยิว ฯลฯ  มาเป็นของตัวเองหน้าตาเฉย ทำไมทำได้  อ้อ ใช่สิครับ วิสัยของบรรพบุรุษทางความเชื่อของคุณมีนิสัยแบบนี้นี่เองเล่าถึงหน้าด้านทำได้ขนาดนั้น คุณต้องเข้าใจในหลักของศัพท์เหล่านี้ด้วย  อะไรที่คุณไม่มี แต่คุณนำคำ ๆ นั้นไปใช้ มันไม่ถูกต้องเลย  ไหนลองไปหาวิธีหลักปฏิบัติขั้นตอนการทำสมาธิ ในไบเบิลมาให้ผมดูหน่อยสิครับ ในไบเบิลนะครับ ผมย้ำในไบเบิล เพราะผมถือว่านั่นคือหลักและภูมิปัญญาที่ทางคุณสามารถคิดได้แล้ว (นอกนั้นไปลอกของเขามาเป็นของตัวเอง)  อ้อ ผมบอกอีกครั้ง เอาไบเบิลฉบับที่ใช้กันมาไม่ต่ำกว่าสองสามร้อยปีนะครับ ไม่ใช่ฉบับแก้ไขตามใจฉัน แล้วเอามาหลอกกัน คำศัพท์บางคำพออนุโลมได้ เช่น เจ้าอาวาส นำมาใช้แทนกันในแง่หัวหน้าโรงสวด (church) เป็นต้น เพราะมันพอจะ "เทียบเคียง" ในลักษณะเดียวกัน แม้คำว่าเพ่งฌาน (ตกลงเพ่งฌานหรือเพ่งวิญญาณกันแน่นะครับคุณเม่ย ไปตบตีตกลงกันเอาเองให้แน่สิครับก่อนจะลอกของใครไปใช้) ก็พอจะปล่อย ๆ กันได้ ถึงแม้คุณจะโมเมว่าทางคุณก็มีการสอน การเพ่งสมาธิเหมือนกันก็ตาม แต่เอาคำว่า ญาณ มาใช้เลยไม่ถูกต้อง เพราะคำ ๆ นี้มีในศาสนาพุทธเท่านั้น ญาณเป็นปัญญารู้แจ้ง รู้แจ้งในสัจธรรม รู้แจ้งในกฏไตรลักษณ์ ทางคุณไม่มีหลักเหล่านี้ และทางคุณจะว่าไตรลักษณ์ไม่มีจริง ตามสไตล์ของคุณก็ไม่แปลก ยิ่งดีเสียอีกเพราะเป็นการย้ำเตือนตัวเองว่า ตัวเองนำศัพท์ของเขามาใช้ผิดแล้วนะ มั่วแล้วนะ  อันนี้น่าสนใจนะครับ โปรดพิจารณาด้วยครับ คุณเม่ย .. จากคุณ : สุธี - [ 18 ส.ค. 48 13:50:47 ]

ความคิดเห็นที่ 42 น้องสาวสวนพลูช่วยใช้เครื่องหมายแบ่งแยกให้หน่อยค่ะว่า อันไหนเป็นความเห็นของตัวเอง ของคนอื่น ดูแล้วงงเล็กน้อยค่ะ อิอิ จากคุณ : aiwen^mei  - [ 18 ส.ค. 48 13:25:53 ] พี่เมย์คนสวยรบกวนดูกล่องด้วยค่ะ คิกคิก จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 18 ส.ค. 48 14:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หึหึ ดีใจครับ ที่คุณเม่ย ท้วงติง กับศัพท์ที่ว่า ญาณ กับฌาน แม้ทั้งสองคำจะไม่มีสอนหรือไม่มีจารึกในคัมภีร์ลัทธิที่มาจากทะเลทรายก็ตาม แต่ก็พออ้อมแอ้มอนุโลมกันได้เหมือนกัน เพราะคำว่า เพ่ง นั้นใช้กับ ฌาน ไม่ใช่ญาณ ก็ขอขอบคุณคุณเม่ย ที่ช่วยแก้ให้มา ณ ที่นี้ด้วยครับ +++ ดิฉันจำไม่ค่อยแม่นว่า แปลมาจากภาษาอังกฤษว่าอะไร เดี๋ยวค้นแล้วจะมาตอบ ---------------------------- ทางพุทธกับพราหมณ์ นั้นคือชมพูทวีปครับ ชมพูทวีปนั้นก็คือแหล่งครูทางปรัชญา และการปฏิบัติทางจิตตภาวนาของโลกครับ ไม่ใช่ทะเลทราย +++ รับทราบเฉย ๆ ค่ะ ------------------------------- พระพุทธเจ้าเราก็ใช้หลักที่เรียนรู้จักพราหมณ์นี่แหละ ในการบำเพ็ญเพียร แต่พระองค์เห็นว่า นั่นยังไม่ใช่ ยังเป็นทุกข์อยู่ พระองค์ถึงตรัสรู้เอง โดยการวิปัสสนา +++ ค่ะ ------------------------------- การที่เราจะใช้ ศัพท์ทางพราหมณ์มานั้นนำมาใช้ในทางปฏิรูป นำมาใช้ใน "สังคม" ของชมพูทวีป แล้วทะเลทรายมาสอดอะไรด้วยมิทราบครับ   +++ คุณสุธีแน่ใจเต็มร้อยหรือว่า หลักปฏิบัตินี้มีแต่ชมพูทวีปเท่านั้นที่ทำได้ ----------------------------- ศัพท์หลายคำ เป็นศัพท์ที่ปราชญ์ยุคนั้นใช้กัน อยู่และทางพุทธเราก็นำมาปรับใช้หลายพันปีแล้ว ทีคุณไปเอาคัมภีร์ของยิว ฯลฯ  มาเป็นของตัวเองหน้าตาเฉย ทำไมทำได้  อ้อ ใช่สิครับ วิสัยของบรรพบุรุษทางความเชื่อของคุณมีนิสัยแบบนี้นี่เองเล่าถึงหน้าด้านทำได้ขนาดนั้น +++ เอ๋า พูดแบบนี้ ก็หมายความว่า คุณหน้าด้านด้วยสิ ----------------------------------- คุณต้องเข้าใจในหลักของศัพท์เหล่านี้ด้วย  อะไรที่คุณไม่มี แต่คุณนำคำ ๆ นั้นไปใช้ มันไม่ถูกต้องเลย  ไหนลองไปหาวิธีหลักปฏิบัติขั้นตอนการทำสมาธิ ในไบเบิลมาให้ผมดูหน่อยสิครับ ในไบเบิลนะครับ ผมย้ำในไบเบิล เพราะผมถือว่านั่นคือหลักและภูมิปัญญาที่ทางคุณสามารถคิดได้แล้ว (นอกนั้นไปลอกของเขามาเป็นของตัวเอง)  อ้อ ผมบอกอีกครั้ง เอาไบเบิลฉบับที่ใช้กันมาไม่ต่ำกว่าสองสามร้อยปีนะครับ ไม่ใช่ฉบับแก้ไขตามใจฉัน แล้วเอามาหลอกกัน +++ คำว่า "สมาธิ" นั้นจะใช้เป็นคำแปลจากภาษาอังกฤษว่า "Concentration" ถ้าคุณว่า concentrate ไม่อาจแปลเป็น "สมาธิ" ได้ล่ะก็ แบบนี้ คงคุยกันไม่รู้เรื่อง ----------------------------------- คำศัพท์บางคำพออนุโลมได้ เช่น เจ้าอาวาส นำมาใช้แทนกันในแง่หัวหน้าโรงสวด (church) เป็นต้น เพราะมันพอจะ "เทียบเคียง" ในลักษณะเดียวกัน +++ ใช้ในลักษณะ "เทียบเคียง" กันซะมาก อย่างคำว่า บาป หรือ ศีล ในศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ มีความหมายต่างกัน คล้าย ๆ แต่ไม่ใช่ ------------------------------ แม้คำว่าเพ่งฌาน (ตกลงเพ่งฌานหรือเพ่งวิญญาณกันแน่นะครับคุณเม่ย ไปตบตีตกลงกันเอาเองให้แน่สิครับก่อนจะลอกของใครไปใช้) ก็พอจะปล่อย ๆ กันได้ ถึงแม้คุณจะโมเมว่าทางคุณก็มีการสอน การเพ่งสมาธิเหมือนกันก็ตาม +++ คงไม่ต้องตบตีหรอกค่ะ มือไม่ว่างขนาดนั้น ดิฉันเข้าใจว่า น้องสาวสวนพลูเค้าจำผิดพลาดไป แต่ถ้าคุณสุธีจะคิดอะไรให้มันมากกว่านั้น ก็ตามสบาย ----------------------------------------- แต่เอาคำว่า ญาณ มาใช้เลยไม่ถูกต้อง เพราะคำ ๆ นี้มีในศาสนาพุทธเท่านั้น ญาณเป็นปัญญารู้แจ้ง รู้แจ้งในสัจธรรม รู้แจ้งในกฏไตรลักษณ์ ทางคุณไม่มีหลักเหล่านี้ และทางคุณจะว่าไตรลักษณ์ไม่มีจริง ตามสไตล์ของคุณก็ไม่แปลก ยิ่งดีเสียอีกเพราะเป็นการย้ำเตือนตัวเองว่า ตัวเองนำศัพท์ของเขามาใช้ผิดแล้วนะ มั่วแล้วนะ  อันนี้น่าสนใจนะครับ โปรดพิจารณาด้วยครับ คุณเม่ย .. +++ ขอประทานโทษ ดิฉันไม่ใช่ทั้งนักแปลและผู้แปล ถ้าเป็นคนแปลหรือไปมีหน้าที่เกี่ยวข้องในการบัญญัติศัพท์ ดิฉันจะรับข้อเสนอคุณไว้พิจารณา จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 14:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 หึหึ ดีใจครับ ที่คุณเม่ย ท้วงติง กับศัพท์ที่ว่า ญาณ กับฌาน แม้ทั้งสองคำจะไม่มีสอนหรือไม่มีจารึกในคัมภีร์ลัทธิที่มาจากทะเลทรายก็ตาม แต่ก็พออ้อมแอ้มอนุโลมกันได้เหมือนกัน เพราะคำว่า เพ่ง นั้นใช้กับ ฌาน ไม่ใช่ญาณ ก็ขอขอบคุณคุณเม่ย ที่ช่วยแก้ให้มา ณ ที่นี้ด้วยครับ ใส่กล่องให้พี่เค้าดูแล้วจ๊ะ ทางพุทธกับพราหมณ์ นั้นคือชมพูทวีปครับ ชมพูทวีปนั้นก็คือแหล่งครูทางปรัชญา และการปฏิบัติทางจิตตภาวนาของโลกครับ ไม่ใช่ทะเลทราย เอ้าคราวนี้ยอมรับแล้วว่า ผสมกัน พูดเองน๊ะ ความเชื่อคุณ คนเดียวน๊ะ คนที่มีความเชื่อพุทธแท้ๆๆน่านับถือในนี้มีหลายคน พระพุทธเจ้าเราก็ใช้หลักที่เรียนรู้จักพราหมณ์นี่แหละ ในการบำเพ็ญเพียร แต่พระองค์เห็นว่า นั่นยังไม่ใช่ ยังเป็นทุกข์อยู่ พระองค์ถึงตรัสรู้เอง โดยการวิปัสสนา โอ๊ว คุยกับทางความเชื่อคุณเองแล้วกัน การที่เราจะใช้ ศัพท์ทางพราหมณ์มานั้นนำมาใช้ในทางปฏิรูป นำมาใช้ใน "สังคม" ของชมพูทวีป แล้วทะเลทรายมาสอดอะไรด้วยมิทราบครับ   ไม่ได้เกี่ยวกันเล้ยยยย เอาเข้าไป ศัพท์หลายคำ เป็นศัพท์ที่ปราชญ์ยุคนั้นใช้กัน อยู่และทางพุทธเราก็นำมาปรับใช้หลายพันปีแล้ว ทีคุณไปเอาคัมภีร์ของยิว ฯลฯ  มาเป็นของตัวเองหน้าตาเฉย ทำไมทำได้  อ้อ ใช่สิครับ วิสัยของบรรพบุรุษทางความเชื่อของคุณมีนิสัยแบบนี้นี่เองเล่าถึงหน้าด้านทำได้ขนาดนั้น พระเยซูท่านเป็นชาวยิว และพระคัมภีร์ได้รับการตรวจสอบและยอมรับ ไม่ว่าจะเป็น คาทอลิก โปรแตสแตนท์ ออร์ทอดอก แองกลีกัล ไม่ได้ศึกษามา หรือรู้งูๆๆปลาๆๆมา ความเชื่อคนอื่นแล้วมาสรุปเอง ไม่เป็นไรค่ะ คุณต้องเข้าใจในหลักของศัพท์เหล่านี้ด้วย  อะไรที่คุณไม่มี แต่คุณนำคำ ๆ นั้นไปใช้ มันไม่ถูกต้องเลย  ไหนลองไปหาวิธีหลักปฏิบัติขั้นตอนการทำสมาธิ ในไบเบิลมาให้ผมดูหน่อยสิครับ ในไบเบิลนะครับ บอกเป็นชาติ แล้วว่าสมาธิไม่มี นี้เล่น เหมารวมนิ่มมาเลย เฮ้อ พูดให้ตาย ทางเราเค้าเรียกอย่างที่บอก หรืออีกอัน การเฝ้าพระเจ้า หรือว่าทางคุณมีอีก ผมย้ำในไบเบิล เพราะผมถือว่านั่นคือหลักและภูมิปัญญาที่ทางคุณสามารถคิดได้แล้ว (นอกนั้นไปลอกของเขามาเป็นของตัวเอง) ลอกตรงใหน เมื่อในใจย้ำว่าลอก ลอกลอก อธิบายให้ตายก็ลอก ลอกลอก ก็จะอธิบายต่อไป ไม่ฟังไม่เป็นไร จะไปกระแนะกระแหนกระทู้ใหนก็ตามใจ ถามจริงๆๆเหอะกลัวอะไรเหรอา เดี๊ยวด่าว่าเป็นองค์การชั่วร้ายบ้าง หาว่าแทรกแทรงบ้าง ไม่ไปมองในความเชื่อตัวเองบ้างว่าจะทำยังไงให้ดีขึ้น เค้าอยู่สงบ แถมความเชื่อในประเทศก็น้อยกว่าเยอะม๊ากกก ความเชื่อเราในประเทศไทยยังไม่ถึงล้านคนเลย คุณก็มาว่าเราแล้ว  อ้อ ผมบอกอีกครั้ง เอาไบเบิลฉบับที่ใช้กันมาไม่ต่ำกว่าสองสามร้อยปีนะครับ ไม่ใช่ฉบับแก้ไขตามใจฉัน แล้วเอามาหลอกกัน ขำแฮะ ไบเบิ้ลเค้าเรียก OLD TESAMENT กะNEW TESAMENT เค้ามีกันมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นไปสนใจความเชื่อคุณเลย นี้คุณเล่นหาว่าเลียนแบบ ก๊อบปี้ พูดยังไงก็เหมือนเดิม เชิญ คิดตามสะบาย คำศัพท์บางคำพออนุโลมได้ เช่น เจ้าอาวาส นำมาใช้แทนกันในแง่หัวหน้าโรงสวด (church) เป็นต้น เจ้าโอวาสไม่มี เรียก เรียกคุณพ่อเจ้าวัด อธิบายรอบสอง แสดงว่าไม่สนใจ ด่าต่อไป ได้โอกาศเป็นด่า เพราะมันพอจะ "เทียบเคียง" ในลักษณะเดียวกัน แม้คำว่าเพ่งฌาน (ตกลงเพ่งฌานหรือเพ่งวิญญาณกันแน่นะครับคุณเม่ย ไปตบตีตกลงกันเอาเองให้แน่สิครับก่อนจะลอกของใครไปใช้) ก็พอจะปล่อย ๆ กันได้ โห ต้องเป็นคนสำคัญในความเชื่อคุณแน่ กล้าใช้ ก็พอจะปล่อย ๆ กันได้ ขอreference หน่อยค่ะ เราเป็นคนต่ำต้อย ไม่กล้าแม้เอ่ยนามพระโดยไม่สมเหตุ นี้คือ ความเชื่อของเราค่ะ ถึงแม้คุณจะโมเมว่าทางคุณก็มีการสอน การเพ่งสมาธิเหมือนกันก็ตาม เพ่งญาณ เพี้ยนมาเป็น เพ่งสมาธิได้ เอากะเค้าสิ แต่เอาคำว่า ญาณ มาใช้เลยไม่ถูกต้อง เพราะคำ ๆ นี้มีในศาสนาพุทธเท่านั้น ญาณเป็นปัญญารู้แจ้ง รู้แจ้งในสัจธรรม รู้แจ้งในกฏไตรลักษณ์ ญาณ มาจากวิญญาณ Sprite ทางคุณไม่มีหลักเหล่านี้ และทางคุณจะว่าไตรลักษณ์ไม่มีจริง ตามสไตล์ของคุณก็ไม่แปลก สรุปให้ความเชื่อชาวบ้านเค้าอีก โห เก่งจัง รบกวนเพื่อนเชื่อเค้าหน่อยเหอะ ความเป็นสุดโต่งเค้าจะได้น้อยลง ยิ่งดีเสียอีกเพราะเป็นการย้ำเตือนตัวเองว่า ตัวเองนำศัพท์ของเขามาใช้ผิดแล้วนะ มั่วแล้วนะ  อันนี้น่าสนใจนะครับ โปรดพิจารณาด้วยครับ คุณเม่ย .. มั่วขนาดเอาพุทธ เอาพราหม์ มารวมกันแถมสอนความเชื่อคนอื่นอีก เก่งจัง คนที่เป็นพุทธแท้น่าเคารพ และได้ความรู้ในบอร์ดมีเยอะค่ะ ยินดีกับผู้ให้ความรู้ต่างความเชื่อที่ให้ความรู้ได้ชัดเจนค่ะ หาจุดยืนไม่ได้ คิดว่าตัวเองรู้ดี บริ๊ยยยย น่ากลัว น่ากลัว จากคุณ : สุธี  - [ 18 ส.ค. 48 13:50:47 ] จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 18 ส.ค. 48 14:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 45 พี่ aiwen^mei ค่ะ ได้รับกล่องแล้วค่ะ ขอบพระคุณค่ะ จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 18 ส.ค. 48 14:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 หึหึ มั่วจะติดนิสัย จนแยกแยะเนื้อหาไม่ออกสิครับ คุณสาวสวนพลู  คุณอ่านแล้วไม่เข้าใจหรือครับ เรื่องบรรยากาศของชมพูทวีป จะเรียกว่าปนกันด้วยทัศนะของคุณก็ตามใจเถิดครับ   เหมือนประเพณี "ขลิบ" ของทางทะเลทราย ที่ยิว อิสลาม ก็ทำกัน อย่างนี้มันเป็นการมั่วปะปนกันโดยเจตนาร้ายหรือไม่ล่ะครับ   "ภูมิปัญญา" ที่พราหมณ์ค้นพบ หรือปราชญ์ของพราหมณ์ค้นพบ ทางพุทธเราเห็นว่าถูก เราก็ต้องตอบว่าถูก อันไหนไม่ถูกเราก็บอกว่าไม่ถูก แล้วก็อยู่ร่วมกันตามประสาชมพูทวีป แต่เผ่าทางทะเลทรายมาเกี่ยวอะไรด้วย แค่นี้ไม่เข้าใจผมก็จนใจแหละครับ ประเพณีเอย ความเชื่อที่ต่างกันเอย มันเอามามั่วด้วยกันไม่ได้อย่างที่ทางเผ่าทะเลทรายของคุณพยายามนำไปมั่ว นำไปใช้ แบบไม่ได้ดูถึงรูปการณ์ไม่ได้ดูถึงรูปศัพท์ แบบนี้มันก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ยิ่งพยายามนำไปบิดเบือนยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่อีก ผมหวังว่าคุณสาวสวนพลู คงแสดงความเป็นคนมีการศึกษามากกว่ากะล่อนโดยวาทะนะครับ  ... จากคุณ : สุธี - [ 18 ส.ค. 48 15:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เฮ้.....คุณสุธี ไม่รู้ว่าแกล้งโง่ หรือ โง่ จริงๆ หว่า???? องค์กรพิทักษ์อลัชชี มันก็ไอ้องค์กรที่ปลุกระดมให้คุณมีความคิดเห็นเป็น "กระบือ" อยู่อย่างนี้นี่แหละ.....55555555 ง่ายๆ ก็ไปส่องกระจกดูก็รู้ว่า.....ใครหว่าที่ทำตัวเป็น "องครักษ์พิทักษ์อลัชชี"........สาวกองค์กรพิทักษ์อลัชชี ที่มีพวกมือถือสากปากถือศีล ตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน เอกสาร เพื่อปลุกปั่นให้เกลียดชังคริสต์ เอาคริสต์เป็น "แพะ"...... อย่างเรื่องอดีตพระนิกรกับอรปวีณา และ อดีตพระยันตระ......ที่ป้ายสีว่าเป็น "แผนนารีพิฆาต" จากศาสนาอื่น มากลั่นแกล้งอลัชชีทั้งสอง......พอจำนนด้วยหลักฐาน ก็ใบ้รับประทาน ผู้คนที่ออกมาใส่ร้ายศาสนาอื่นน่ะ......ไม่ได้มาจาก "ธรรมกาย" หรอก.....แต่มาจากคนที่อยู่ใกล้ตัวกับคุณสุธี นั่นแหละ ที่ต้องหาแพะ......ก็เอาไว้ปกปิด เบี่ยงเบน ไม่ให้ผู้คนเข้ามาสงสัยใน "ผลประโยชน์" หรือ "ความชั่ว" ของกลุ่มตน ถ้าใครสงสัย.....ก็ป้ายสีได้ทันที จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 18 ส.ค. 48 17:20:18 A:10.90.5.51 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 48 การไหลบ่าทางวัฒนธรรม การติดต่อสื่อสารกันนับแต่อดีตจนถึงยุคไร้พรมแดนแบบในปัจจุบัน ย่อมทำให้ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเชื่อ ฯลฯ มีการปะปน ผสมผสานกัน จะกล่าวหาว่า ทุกอย่างมั่ว บิดเบือน นั้นคงเป็นทัศนคติแบบสุดโต่ง วัดนิเวศธรรมประวัติ วรราชวิหาร จ. พระนครศรีอยุธยา นั้น มีสถาปัตยกรรมแบบโบสถ์คริสต์ตามแนวพระราชดำริ ของล้นเกล้า รัชกาลที่ 5 http://www.dhammathai.org/watthai/central/watniwetdhammaprawat.php พระที่นั่งอนันตสมาคม ก็ประยุกต์ด้านสถาปัตยกรรมมาจากพระมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่นครวาติกัน คนชาติต่าง ๆ ในทวีปเอเชียก็ปรับเปลี่ยนเรื่องการแต่งตัวไม่ต่างจากฝรั่งในโลกตะวันตก ส่วนชุดประจำชาติก็เก็บไว้ใช้ในโอกาสเฉพาะกาลเท่านั้น แบบนี้มั่ว บิดเบือนด้วยหรือไม่ หรือจะตอบว่า อะไรก็ปนกันได้ ยกเว้นเรื่องศาสนา ก็เอาเถอะนะทั่น จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 17:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ส่วนที่ชอบพูดถึง "ศาสนาจากทะเลทราย" มาเทียบกับ "ศาสนาจากชมพูทวีป" อยู่บ่อยๆ ไปจำขี้ปากใครเขามาน่ะ มันแสดงให้เห็น"ความไร้การศึกษา" ของคุณจริงๆ.....ถึงได้เป็น "กระบือ" ไงล่ะ.....555555 ถ้าคุณได้ศึกษาถึง "อารยธรรมตะวันตก" ในระดับมหาวิทยาลัย ก็จะรู้ว่า แหล่งอารยธรรมของโลกนั้นน่ะ มาจาก "ทะเลทราย" ที่คุณว่ามานั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็น อารยธรรมในอียิปต์ อารยธรรมในที่ราบลุ่มเมโสโปเตเมีย และอีกหลายอารยธรรมในแถบนั้น เป็นจุดที่ดำเนินต่อไปเป็น อารยธรรมกรีก อารยธรรมโรมัน.....จนกระทั่งมาเป็นอารยธรรมตะวันตกในปัจจุบัน แล้วเวลามองน่ะ อย่ามองด้วยสายตาของ "กระบือ" ....ที่ถูกจูงจมูกให้มองอย่างไรก็มองได้แค่นั้น ลองมองกลับไปที่ "ชมพูทวีป" ของคุณสักหน่อย ลองกลับไปหาเอกสารอื่นๆ ดูบ้าง.....จะรู้ในอีกหลายแง่ ที่ทำให้พุทธศาสนาเสื่อมความนิยมลงไป จากชมพูทวีป เมื่อ อังกฤษ เข้ามาปกครองอินเดีย.....ได้ยกเลิก "พิธีสตี" ของศาสนาในชมพูทวีป .......เพราะมันไร้ความ "อารยะ" ใช่หรือเปล่า ??? เวลามอง การลอยศพ ในแม่น้ำคงคา นั้น ......เราก็มองด้วยสายตา ที่ต่างกัน.......สำหรับผมน่ะเคารพในความเชื่อของพวกเขา.......แต่ก็ไม่ได้มองว่านี่คือ ความไร้อารยะ ผมว่าคุณอย่าพยายามตีสำนวน กระทบกระเทียบว่า "ศาสนาจากทะเลทราย".......เพื่อมองว่าเป็นพวก "ไร้อารยะ"... นั่นมันก็แค่มุมมองของ "กระบือ"......ที่ไม่เคยมองอะไรไปไกลกว่า "หัวแม่ตีน" ของตนเองเลย 555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 18 ส.ค. 48 17:38:34 A:10.90.5.51 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณคุณฝากให้คิดที่ช่วยเคาะสนิม วิชา Civilization ค่ะ ปล. ไปล่ะค่ะ จะไปดูเทนนิสเอทีพีทัวร์รายการสำคัญ เอ๊ ไม่รู้ว่า คนจากทั่วโลกมาแข่งกัน แบบนี้มั่วหรือเปล่านะคะ อิอิ จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 17:45:20 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เทนนิสยังไม่มา มาตอบก่อนค่ะ คำว่า การเพ่งฌาน หรือ การเพ่งพิศภาวนา นั้นแปลมาจากคำภาษาอังกฤษว่า Contemptation จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 20:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบพระคุณ คุณฝากให้คิด ค่ะ ตอบตรงประเด็นดีค่ะ หึหึ มั่วจะติดนิสัย จนแยกแยะเนื้อหาไม่ออกสิครับ คุณสาวสวนพลู  คุณอ่านแล้วไม่เข้าใจหรือครับ เรื่องบรรยากาศของชมพูทวีป จะเรียกว่าปนกันด้วยทัศนะของคุณก็ตามใจเถิดครับ   ตอบ  เอากะเค้าสิ  ยกบรรยากาศชมพูทวีป ไม่ทราบค่ะ เพราะชมพูทวีปรู้จักแม่ชีเทเรซา และ มหาตมคานที ค่ะ เหมือนประเพณี "ขลิบ" ของทางทะเลทราย ที่ยิว อิสลาม ก็ทำกัน อย่างนี้มันเป็นการมั่วปะปนกันโดยเจตนาร้ายหรือไม่ล่ะครับ   ตอบ ประเพณี "ขลิบ" ไม่ทราบค่ะ เรียกว่า  สุหนัดค่ะ เอาคำทางความเชื่อของคุณมาใช้อีกหรือเปล่าค่ะ "ภูมิปัญญา" ที่พราหมณ์ค้นพบ หรือปราชญ์ของพราหมณ์ค้นพบ ทางพุทธเราเห็นว่าถูก เราก็ต้องตอบว่าถูก อันไหนไม่ถูกเราก็บอกว่าไม่ถูก แล้วก็อยู่ร่วมกันตามประสาชมพูทวีป ตอบ เต็มๆๆเลย พราหม์ เอามารวมกับความเชื่อของเพื่อนอีกศาสนา แถมยอมรับอีกว่าแยกกันไม่ออก อยู่ตามประสาชมพูทวีป เดี๊ยวคนที่เป็นพุทธแท้ๆๆเค้าก็มาตอบให้เองอะ แต่เผ่าทางทะเลทรายมาเกี่ยวอะไรด้วย แค่นี้ไม่เข้าใจผมก็จนใจแหละครับ ตอบ ที่อ่านๆๆมา ก็คุณเองเอาเข้ามาโยงเองตอบเอง นี้ขนาดใช้สติตอบน๊ะเนี๊ยะ งง ประเพณีเอย ความเชื่อที่ต่างกันเอย มันเอามามั่วด้วยกันไม่ได้อย่างที่ทางเผ่าทะเลทรายของคุณพยายามนำไปมั่ว นำไปใช้ ตอบ ประเพณีมั่ว ยังไม่รู้เลย ว่า มั่วอะไรกัน บอกว่าพิธี สุหนัด เอามามั่วรวมกัน พิธี สุหนัด ก็มีมาสมัยพันธสัญญาเก่าจ๊ะ คริส ยิว อิสลาม พันธสัญญาเก่าเหมือนกันจ๊ะ จะต่างกันตรงที่พันธสัญญาใหม่จ๊ะ   แบบไม่ได้ดูถึงรูปการณ์ไม่ได้ดูถึงรูปศัพท์ แบบนี้มันก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ยิ่งพยายามนำไปบิดเบือนยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่อีก ตอบ จะว่าความเชื่อคนอื่นบิดเบือน หาหลักฐานอ้างอิง ใช้วาจาโคมลอย  เอาความคิดตัวเอง แค่กันเปิดใจ รักคนอื่น ยังไม่มีเลย ความเชื่อคุณมีสอนหรือเปล่า ผมหวังว่าคุณสาวสวนพลู คงแสดงความเป็นคนมีการศึกษามากกว่ากะล่อนโดยวาทะนะครับ  ... ตอบ การศึกษาไม่ได้เอามาอวด  โชว์พราววววววว เพราะคำสอนของเรา สอนให้สุภาพถ่อมตน ทำตัวต่ำต้อย รบกวน แหวกใจเปิดตา เวลาเราตอบจะมีreference ที่มาที่ไปเสมอ ไม่ใช้ตัดแปะ เราตอบอะไรก็บอก แหล่งที่มา จากคุณ : สุธี  - [ 18 ส.ค. 48 15:29:28 ] จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 18 ส.ค. 48 20:40:18 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ฮามากที่อ้างว่า พุทธนำของพราหมณ์มาปรับใช้ได้เพราะอยู่ในชมพูทวีปเหมือนกัน ส่วนศาสนาที่กำเนิดจากดินแดนทะเลทรายห้ามใช้ ไม่รู้ตรรกะที่ไหนเขาสอนกันแบบนี้ ขอโทษ ภาษาวัยรุ่นเขาพูดว่า ขำโคตร เช่นนั้นชาวคริสต์ มุสลิม อ้างสบายแหละว่า โลกและสรรพสิ่งเป็นของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้กำหนดเขตแดนประเทศต่าง ๆ ขึ้น พระองค์ทรงทำให้เกิดภาษาต่าง ๆ มากมายในโลก พระเจ้าพระองค์เองที่อนุญาตให้ดวงอาทิตย์ส่องสว่างแก่คนดีคนชั่วเสมอกัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะเป็นพระประสงค์ของพระองค์ จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 20:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เคยดูข่าวพระราชสำนักครั้งหนึ่ง เมื่อครั้งที่สมเด็จพระพี่นางเสด็จเยือนวิหารแห่งหนึ่งของนิกายโรมันคาทอลิกที่ได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็น "มรดกโลก" โดยองค์การยูเนสโกนั้น ถ้าจำไม่ผิด โบสถ์แห่งนี้อยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ผู้บรรยายใช้คำว่า "วัด, เจ้าอาวาส, การสวดมนต์ ฯลฯ" ในการรายงานข่าว หรืออย่างข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วไป เมื่อพูดถึงนักบวชในนิกายโรมันคาทอลิก ก็มีการใช้คำว่า พระราชาคณะ เป็นต้น ถ้าจะมองแบบหลุดโลกว่า นี่เป็นการดูดกลืนทำลายศาสนาพุทธ โดยไม่รู้จักมองว่า นี่เป็นการใช้คำเพื่อการเทียบเคียงเพื่อความเข้าใจในการสื่อสาร ก็สะท้อนมุมมองความคิดของตัวคุณเอง เสียดายเวลาเปล่าที่ฝึกจิตมาหลายปี แต่ยังเต็มไปด้วยกิเลสเกรอะกรัง ด่าว่ากระทบกระเทียบ อัตตาล้นออกมาเพียบ จากคุณ : aiwen^mei - [ 18 ส.ค. 48 21:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอโทษที....ขอแก้หน่อย ที่บอกไว้ใน ความคิดเห็นที่ 47...ว่า >>> ผู้คนที่ออกมาใส่ร้ายศาสนาอื่นน่ะ......ไม่ได้มาจาก "ธรรมกาย" หรอก.....แต่มาจากคนที่อยู่ใกล้ตัวกับคุณสุธี นั่นแหละ ขอแก้เป็น... <<< ผู้คนที่ออกมาใส่ร้ายศาสนาอื่นน่ะ......ไม่ได้มาจาก "ธรรมกาย" ที่เดียวหรอก.....แต่มาจากคนที่อยู่ใกล้ตัวกับคุณสุธี นั่นแหละ 55555........จะข้ามตรงนี้ไปได้ยังไง ก็เพราะว่า.....ผมเองเคยจับโกหกมากกว่า....ของสาวก "มาก" ที่ดันเอา ข้อความที่ตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน เอกสาร Vatican Council 2 .....โดย.เพิ่มข้อความเข้าไปดื้อๆ จากฉบับที่ขบวนการพิทักษ์อลัชชีตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน เอาไว้แล้ว เท่าที่ตามการ post กระทู้ของคุณสุธี ตั้งแต่ต้นปี.....ก็พอจะรู้ว่า.....คุณสุธีเชื่ออย่างฝังใจกับข้อมูลในเอกสาร Vatican Council 2 ที่ถูกดัดแปลงมาอีกที..... คุณสุธี เข้ามาทีหลัง เลยไม่รู้หรอกว่า .....เอกสารVatican Council 2 ที่บิดเบือนให้ร้ายคริสต์น่ะ....ถูกชำแหละจนไม่มีใครเอ่ยถึงกันไปนานแล้ว....5555 เอกสารที่ว่า ....มันก็แค่ "ใบปลิวเถื่อน" ที่พวกมือถือสากปากถือศีล จัดทำขึ้นมาเพื่อปลุกระดม หลอกลวงให้เกิด "กระบือ" ที่คิดว่าเพื่อนร่วมชาติที่นับถือศาสนาคริสต์เป็น "ศัตรู" ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ นายอาโน ศิษย์ ดร. ผู้ชาย .....ผู้ที่อุดมไปด้วยเอกสารต้านคริสต์.....ที่ถูก "ปั่นหัว" จนมองเพื่อนร่วมชาติที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นลูกหลานเชลยศึกที่ถูกกวาดต้อนมา...... แต่พอเอาหลักฐานการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน ที่อาจารย์ของแกได้ทำไว้ในหนังสือต้านคริสต์เล่มหนึ่งมาแสดงให้ดู......และให้ช่วยเอาไปถาม "ความจริง" จากอาจารย์ผู้นั้น......แกก็หายจ้อยไปเลย แต่คนที่น่าสมเพชมากกว่า......คือคนที่ทั้งๆ ที่รู้ว่า มีการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน เอกสารเพื่อให้ร้ายศาสนาอื่น......แต่ยังใช้เอกสารเหล่านั้นมาหลอกลวงผู้อ่านให้เกลียดชังเพื่อนร่วมชาติแต่ต่างศาสนากันอีก มันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกคลั่งศาสนาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั่นแหละ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 18 ส.ค. 48 21:45:28 A:10.90.4.57 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 56 แล้ว อีกอย่าง.....ก็เรื่อง "ภาษา" ภาษาไทย น่ะมีคำที่มาจากภาษาบาลี สันสกฤต ......เยอะแยะมาก ชื่อ นามสกุล ของหลายคนก็เอาคำมาจาก "ภาษาบาลี สันสกฤต"......ถ้าอย่างนั้นใครเป็นคริสต์ ก็คงต้องให้ไปเปลี่ยนชื่อ นามสกุล กันซินะ เท่าที่รู้ ภาษา น่ะเป็นอะไรที่คนในชาติสามารถใช้ร่วมกันได้....... แต่หลังจากที่เกิดเอกสาร Vatican Council 2 ที่ถูกบิดเบือน.....ก็เลยทำให้เกิดการหวาดระแวงเรื่องการ "ดูดกลืน เลียนแบบ" ...... ทั้งๆ ที่ เท่าที่ผมได้อ่าน และ วิเคราะห์.......ผมว่าทางวาติกันก็แค่จะเปลี่ยนแนวความคิดของการเผยแผ่ศาสนา...โดยยอมรับในการอยู่ร่วมกันกับศาสนาอื่นมากขึ้น........ที่เห็นได้ชัด ก็คือ กับทางโปรเตสแตนท์ ...... ทางวาติกันก็ให้การยอมรับ....ไม่เหมือนกับสมัยก่อน การแปลคำที่ใช้ในทางคริสตศาสนาจากภาษาต่างประเทศมาเป็นภาษาไทย......ก็คงต้องใช้คำที่น่าจะใกล้เคียง ให้ "คริสตศาสนิกชนชาวไทย" ได้เข้าใจ........ซึ่งก่อนที่จะเกิดเอกสาร Vatican Council 2 ที่ถูกบิดเบือน ก็ยังไม่มีปัญหา.......แต่มามีปัญหาก็ตรงที่เกิดการปลุกระดมให้หวาดระแวงกันแล้วนั่นแหละ บอกตรงๆ .....ในชีวิตนี้ ผมเคยไปโบสถ์คาทอลิก แค่ 2 ครั้ง......ก็ตอนไปงานแต่งงานของคนที่รู้จักเท่านั้นแหละ ก็ไม่เห็นมีพิธีกรรมอะไรที่จะเหมือน หรือ เลียนแบบพุทธเลย ความเชื่อของทั้งสองศาสนาไปคนละทาง.......อันนั้น่ะคือ "แก่น" เท่าที่อ่านข้อความที่ถูกตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน....ผมพอจะเดาจากต้นฉบับได้ว่า ผู้เขียนน่าจะ "สื่อ" กับคริสตศาสนิกชนที่เป็นคาทอลิก......แต่ดันมี กลุ่มคลั่งศาสนา เข้าไปอ่าน และนำเอาข้อความบางตอนมาดัดแปลง จนความหมายเปลี่ยนไป เพื่อใส่ร้ายคริสต์ แถมพยายามโยงว่าเป็น "นโยบายจากวาติกัน" ซะอีก ไม่รู้ว่าจิตใจพวกนี้ทำด้วยอะไร ???...... เท่าที่รู้ มีสื่อมวลชนเคยเรียกกลุ่มนี้ ว่า.....กลุ่มสร้างความแตกแยกในศาสนา.......เพราะแม้แต่คนในศาสนาเดียวกัน กลุ่มนี้ก็ยัง "ให้ร้าย" กันเองเลย จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 18 ส.ค. 48 22:27:16 A:10.90.5.98 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 57 "ภูมิปัญญา" ที่พราหมณ์ค้นพบ หรือปราชญ์ของพราหมณ์ค้นพบ ทางพุทธเราเห็นว่าถูก เราก็ต้องตอบว่าถูก อันไหนไม่ถูกเราก็บอกว่าไม่ถูก แล้วก็อยู่ร่วมกันตามประสาชมพูทวีป แต่เผ่าทางทะเลทรายมาเกี่ยวอะไรด้วย แค่นี้ไม่เข้าใจผมก็จนใจแหละครับ ************************************************** ชอบจริงๆเลยครับประโยคนี้ แสดงให้เห็นว่าหมดปัญญาจะเถียงแล้วจริงๆ พราหมณ์ค้นพบ พุทธใช้ได้เพราะ ชมพูทวีปเหมือนกัน อุบาทว์แท้ๆ เอาสมองหรือเอาหัวแม่เท้าคิดเนี่ย คำจีนคำฝรั่งคำแขกหลายคำ ที่ไทยเราเอามาใช้ทัพศัพท์จนความหมายเพี้ยนไปก็เยอะไม่ได้คำนึงถึงรูปศัพท์อะไรหรอก ขอเพียงใกล้เคียงและสื่อความหมายได้เข้าใจกันก็โอเคแล้ว หรือแม้แต่คำว่าพรหมก็เช่นกันของพราหมณ์เค้าหมายถึงพระพรหมในตรีมูลติแต่ชาวพุทธดันเอาไปหมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นนู้นชั้นนี้แถมอ่อนด้อยกว่าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสูงกว่าอีก? แบบนี้ถือว่ามั่วมั๊ย ถือว่าบิดเบือนหรือเปล่า แล้วมีพราหมณ์ที่ไหนมาบ่นมั๊ยผมก็เห็นพวกพราหมณ์ยังปักหลักแน่นหนาอยู่ในชมพูทวีปได้ ผมก็ว่ามีแต่พุทธนี่แหละปัญหามากเค้าใช้ศัพท์(ที่ตัวเองไม่ได้มีลิขสิทธิ์บ้าบออะไรด้วยเลย)นิดหน่อยก็โวยวายหาว่าจะกลืนศาสนา หาว่าบ่อนทำลาย ผมว่านะตัวศาสนาพุทธเองกำลังทำให้ตัวเองเสื่อม รากฐานกำลังจะพังไปจากสังคม พอศาสนาอื่นเข้ามาก็เกิดความกลัวว่าสาวกตัวเองจะแปรพักต์เพราะเบื่อความเน่าเฟะในศาสนา เลยหาเรื่องโจมตีศาสนาอื่นซะแบบนั้น กลัวสินะครับกลัวว่าศาสนาอื่นจะไปได้ดีกว่าเลยต้องพยายามสกัดดาวรุ่งทุกวิถีทาง ถ้าทุกคนพิจารณาด้วยใจเป็นธรรมล่ะก็จะพบเลยว่าพวกที่บ่อนทำลายศาสนาพยายามกลืนศาสนาเนี่ยไม่ใช่ใครหรอกครับ ก็ศาสนาหลักของประเทศนี้นี่แหละศาสนาอื่นเป็นแพะเป็นเหยื่ออยู่ แต่อย่างว่าของดีเนี่ยถูกตีถูกทุบยังไงก็ไม่เสื่อมหรอก แต่บางศาสานี่สิเป็นส่วนมากของประเทศก็จริง แต่ถ้าไม่คิดจะปรับปรุงตัวเอง แล้วยังจะมัวแต่ใส่ใคร้คนอื่น ระวังสักวันมันจะพัง เพราะตอนนี้ ทั้งรากทั้งโคนมันเน่าเต็มทีแล้ว ต่อไปจะย้ายไปไหนล่ะ จากอินเดีย มาไทย ต่อไปเป็นที่ไหนดี ติมอร์มั๊ย หรือ เกาะร้างบางแห่ง? หวังดีนะครับเนี่ยเลยเตือนเพราะหลายคนคงยังอยากให้มีวันหยุดเยอะเหมือนเดิม ถ้าไม่มีศาสนาพุทธวันหยุดคงน้อยลงไปน่าเสียดาย แต่ทำไงได้ล่ะ ขืนยังทำตัวดื้อแพ่งมั่วไม่เลิกแบบนี้ก็คงอยู่ได้อีกไม่นานแหละครับ จากคุณ : ไม่บอก - [ 18 ส.ค. 48 22:40:28 A:203.113.44.84 X:203.151.140.119 TicketID:105145 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เอ้อจะว่าไปก็แปลกนะ เห็นอิสลามเค้ามีเอกลักษณ์ของตัวเองดีก็ไปว่าเค้าว่าไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับคนอื่น ชอบทำตัวเด่นชอบสร้างความแตกแยก แต่พอศาสนาคริสต์พยายามประนีประนอมเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ก็หาว่าบ่อนทำลายอีก!!!!!????? ในหัวคิดแต่เรื่องอะไรกันเนี่ยยยยยย มันเต็มไปด้วยความอาฆาตความหวาดระแวงหรือเปล่า ระวังนะว่าจะไม่ได้นิพพาน พุทธเค้าสอนให้ปล่อยวาง ยังไงก็หัดปฏิบัติซะมั่งเผื่อจะเปิด"ปัญญา" เปิด "ญาณ" ไหนก็หวงคำศัพท์แล้ว ก็ใช้ไอ่สิ่งที่หวงแหนให้มานเกิดประโยชน์หน่อย หวงแล้วไม่รู้จักใช้ หวงไปก็เท่านั้น ยึดติดมากๆ มันเป็นทุกข์ไม่ใช่เหรอจ๊ะ จากคุณ : ไม่บอก - [ 18 ส.ค. 48 22:49:22 A:203.113.44.84 X:203.151.140.119 TicketID:105145 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ชักเลอะเทอะไปกันใหญ่แล้วแฮะ หัวกระทู้ถามเรื่องสมาธิ ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นเรื่องศัพท์เทคนิค  หลัง ๆ กลายเป็นเรื่องการโจมตีระหว่างศาสนาพุทธกับคริสตไปซะอีก จากคุณ : ขัณฑ์ - [ 18 ส.ค. 48 22:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณเม่ยยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้อีกเช่นกัน ปราชณ์นั่นน่ะ ถ้าเห็นเรื่องไหนที่ว่าเออ เป็นจริง ปราชณ์ก็ยอมรับ  ในเรื่องจิตตภาวนาของพราหมณ์ ท่านทำได้ถึงอรุปพรหม เราก็บอกเออมี พระพุทธเจ้าตอนยังไม่ตรัสรู้ก็ได้ไปเรียนกับพราหมณ์เลยครับ สิ่งไหนมันเป็นเรื่องที่ไม่จริง เราก็บอกไม่จริง (แต่ทางคุณอาจจะว่าเราพูดปดก็ได้ครับ ก็เหมือนกับทางคุณบอกยะโฮวาห์สร้างโลกเราก็บอกคุณพูดปดเช่นกัน หลักฐานอะไรก็ไม่มีนอกจากตำนาน นิยายเก่า ๆ) สิ่งไหนจริง แต่จริงไม่หมดทางเราก็ชี้แจงว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จไป พราหมณ์กับพุทธ เกิดในชมพูทวีป จนถึงยุครุ่งเรืองในสมัยพุทธกาล พราหมณ์ก็พัฒนาตัวเอง มาปฏิบัติในเรื่องจิตตภาวนา บรรยากาศช่วงนั้นก็เป็นบรรยากาศของปราชญ์แต่ละลัทธิที่แสดงความเห็นกันได้อย่างเสรีจริง ๆ ถ้าจะมองด้วยสายตาอันอคติของเผ่าทางทะเลทรายที่สอนกันแต่ว่าให้เชื่ออย่างเดียวโดยไม่ใช้ปัญญาเล็งเห็นว่าสิ่งนั้นจริงเท็จเพียงใดแล้ว  มันก็มองได้ว่าเราไปมั่วปะปน มีเยอะไปในพระไตรปิฎก ที่มีเทวดา มีพรหม หรือแม้แต่คนธรรมดา มาแสดงทัศนะให้พระพุทธเจ้าฟัง อันไหนผิดท่านก็แก้ อันไหนถูกท่านก็อนุโมทนาสาธุ  อันไหนจริงแต่ไม่หมดท่านก็เสริมให้ ประเพณีเหล่านี้ หรือบรรยากาศเหล่านี้  อยู่ในชมพูทวีป และมีเกิดขึ้นนับพันปีแล้ว และก็มีคนนำหลักคำสอนไปปฏิบัติตามแต่ระดับวาสนาบารมีมาสองพันกว่าปีแล้วเช่นกัน แต่ทางความเชื่อทางทะเลทราย จะนำหลักคำสอนซึ่งไม่มีในตน (หรือไม่แน่ทิ้งไปอีกหลายร้อยปีก็คงโมเม เป็นของตัวอีกเช่นกัน ปัจจุบันก็พอเห็นอยู่ ดั่งที่ยิวเคยโดน คำสอนเก่า ๆ แถบทะเลทรายเคยโดน) มาปะปน โมเม โดยนำ "ศัพท์" บ้าง "คำสอน" บ้าง มาใช้ร่วมกัน ใช้อย่างผิด ๆ ด้วย เกลื่อนกลืนกัน ทั้ง ๆ ที่ศัพท์ของตัวเองก็มี หรือประดิษฐ์เอาใหม่ก็ได้ ก็ไม่น่าจะผิดอะไร ยังดื้อดึงทำกันอยู่ แม้แต่ศัพท์ทางศาสนา ไม่ว่าจะตำแหน่ง หรือสถานที่ มี กฏหมายในพระราชอาณาจักรไทยออกมาแล้วว่า ไม่ให้ใช้ และควรใช้คำไหน ทางองค์กรคริสต์ก็เพิกเฉย ไม่สนใจในกฏหมายบ้านเมือง แถมทำในสิ่งตรงกันข้าม ยังเอาศัพท์ทางพุทธไปใช้อย่างไม่ลดละ อย่างนี้หรือคือสุจริตชน อย่างนี้หรือคือผู้เผยแพร่ศาสนาอย่างบริสุทธิ์ใจ คุณขัณฑ์ครับ ตอนแรกผมก็พูดถึงเรื่องสมาธิแหละครับ ผมยังบอกเลยมั๊งครับ ว่าทางคริสต์มีสมาธิได้เหมือนกัน เพราะหลักการของสมาธิคือจิตนิ่ง (แต่ถ้าไม่บำเพ็ญต่อไปก็ได้แค่ระดับต้น) และพูดถึงจิตรวมด้วยถ้าจำไม่ผิด แต่บางคนเข้าใจกับคำว่า "ญาณ" และ "ฌาน" ผิดไป ผมก็ชี้แจง และเผอิญมันผิดกันหลายคน และผิดอย่างไม่น่าให้อภัยโดยเอาคำทางศัพท์เทคนิคเหล่านี้ไปยำ ผมก็ชี้แจงไปอย่าทำแบบนี้เลย ทางนั้นก็ยังไม่สำนึก ยังคงเถียงไปเรื่อย ๆ ผมก็ไม่รู้จะทำไงล่ะครับ  คงต้องปล่อยไปตามกฏแห่งกรรมแล้วหล่ะครับ ... จากคุณ : สุธี - [ 19 ส.ค. 48 07:52:01 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณเม่ยยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้อีกเช่นกัน ปราชณ์นั่นน่ะ ถ้าเห็นเรื่องไหนที่ว่าเออ เป็นจริง ปราชณ์ก็ยอมรับ  ในเรื่องจิตตภาวนาของพราหมณ์ ท่านทำได้ถึงอรุปพรหม เราก็บอกเออมี พระพุทธเจ้าตอนยังไม่ตรัสรู้ก็ได้ไปเรียนกับพราหมณ์เลยครับ สิ่งไหนมันเป็นเรื่องที่ไม่จริง เราก็บอกไม่จริง (แต่ทางคุณอาจจะว่าเราพูดปดก็ได้ครับ ก็เหมือนกับทางคุณบอกยะโฮวาห์สร้างโลกเราก็บอกคุณพูดปดเช่นกัน หลักฐานอะไรก็ไม่มีนอกจากตำนาน นิยายเก่า ๆ) สิ่งไหนจริง แต่จริงไม่หมดทางเราก็ชี้แจงว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จไป พราหมณ์กับพุทธ เกิดในชมพูทวีป จนถึงยุครุ่งเรืองในสมัยพุทธกาล พราหมณ์ก็พัฒนาตัวเอง มาปฏิบัติในเรื่องจิตตภาวนา บรรยากาศช่วงนั้นก็เป็นบรรยากาศของปราชญ์แต่ละลัทธิที่แสดงความเห็นกันได้อย่างเสรีจริง ๆ ตอบ เรื่องของความเชื่อของคุณ เชิญตั้งกระทู้ถกปัญหาความเชื่อของคุณเอง บอกอีกรอบ เดี๊ยวเพื่อนพุทธแท้เข้ามาตอบให้เอง ถ้าจะมองด้วยสายตาอันอคติของเผ่าทางทะเลทรายที่สอนกันแต่ว่าให้เชื่ออย่างเดียวโดยไม่ใช้ปัญญาเล็งเห็นว่าสิ่งนั้นจริงเท็จเพียงใดแล้ว  มันก็มองได้ว่าเราไปมั่วปะปน ตอบ คำก็ปัญญา เล็งเห็น หรือว่ามั่วปะปน รบกวนให้เกียรติกันด้วยค่ะ เรื่องการสัมผัสพระ ความเชื่อของเรา เค้าพูดกันในความเชื่อเดียวกันเอง และการจะพูดเรื่องละเอียดอ่อนนี้ พูดได้กับ คุณพ่อ ค่ะ ไม่ใช่ไปบอกคนโน้นคนนี้ ว่าฉันสัมผัส หรือคิดว่าตัวเองเข้าถึง  ทำให้ยิ่งคิดว่าตัวเองลำพองเข้าไปใหญ่ เมื่อมีการสัมผัสเรื่องเหล่านี้ คุณพ่อจะสอนให้เป็นเรื่องธรรมดา ให้เก็บความรู้สึกที่ดีไว้ในใจ ขอบพระคุณพระ มีเยอะไปในพระไตรปิฎก ที่มีเทวดา มีพรหม หรือแม้แต่คนธรรมดา มาแสดงทัศนะให้พระพุทธเจ้าฟัง อันไหนผิดท่านก็แก้ อันไหนถูกท่านก็อนุโมทนาสาธุ  อันไหนจริงแต่ไม่หมดท่านก็เสริมให้ ประเพณีเหล่านี้ หรือบรรยากาศเหล่านี้  อยู่ในชมพูทวีป และมีเกิดขึ้นนับพันปีแล้ว และก็มีคนนำหลักคำสอนไปปฏิบัติตามแต่ระดับวาสนาบารมีมาสองพันกว่าปีแล้วเช่นกัน ตอบ เชิญตอบปัญหาในเรื่องของคุณค่ะ ตอบอีกที คนที่เป็นพุทธแท้ในนี้มีเยอะ ตอบแต่ละครั้ง ยกพระไตรปิฏก มา แม่นพระไตรปิฏก ก็เยอะ แต่ทางความเชื่อทางทะเลทราย จะนำหลักคำสอนซึ่งไม่มีในตน (หรือไม่แน่ทิ้งไปอีกหลายร้อยปีก็คงโมเม เป็นของตัวอีกเช่นกัน ปัจจุบันก็พอเห็นอยู่ ดั่งที่ยิวเคยโดน คำสอนเก่า ๆ แถบทะเลทรายเคยโดน) มาปะปน โมเม โดยนำ "ศัพท์" บ้าง "คำสอน" บ้าง มาใช้ร่วมกัน ใช้อย่างผิด ๆ ด้วย เกลื่อนกลืนกัน ทั้ง ๆ ที่ศัพท์ของตัวเองก็มี หรือประดิษฐ์เอาใหม่ก็ได้ ก็ไม่น่าจะผิดอะไร ยังดื้อดึงทำกันอยู่ ตอบ เมื่อกระแนะกระแหนว่า ความเชื่อทางทะเลทรายมั่วโมเม หาหลักฐานมาด้วย เกิดจากความคิดของคุณ และพ่นออกมา เชิญพ่น ตามสะบายค่ะ มาว่าคนอื่นปะปนโมเม ทั้งที่ตัวเอง เอาพราหม์ พุทธมาปนเปซะ ถามจริงๆๆเหอะ แยกไม่ออกอีกเหรอ ว่าอันใหนความเชื่อพุทธ อันใหนความเชื่อพราหม์ แม้แต่ศัพท์ทางศาสนา ไม่ว่าจะตำแหน่ง หรือสถานที่ มี กฏหมายในพระราชอาณาจักรไทยออกมาแล้วว่า ไม่ให้ใช้ และควรใช้คำไหน ตอบ อธิบายกี่รอบกี่รอบ ก็หาว่าเลียนแบบ เชิญ แสดง ความคิดที่คิดได้เท่านี้ ออกมา ทางองค์กรคริสต์ก็เพิกเฉย ไม่สนใจในกฏหมายบ้านเมือง แถมทำในสิ่งตรงกันข้าม ยังเอาศัพท์ทางพุทธไปใช้อย่างไม่ลดละ ตอบ การพูดจาอะไรระวังคำพูดด้วยค่ะ ตัดสินคนอื่นโดยตัวเองเป็นที่ตั้ง ก็บอกไม่รู้กี่รอบแล้ว ถ้าไม่ถูกต้องเชิญไปร้องเรียนหน่วยงานที่รับผิดชอบ  ไม่ใช่มาด่า แบบนี้ ไม่งั้นก็ทำเป็นตอบว่า ใจกว้าง ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม การแก้ปัญหาอะ ได้แต่พ่น พ่น พ่น ปฏิบัติได้ก็ดีน๊ะค่ะว่าแก้ปัญหายังไง  ปากบอก รักความเชื่อของตัวเอง แต่ใจ เสียดสี ไปว่าความเชื่อของผู้อื่น คุณคิดว่า เจ้าของความเชื่อของคุณ ท่านมีความสุขเหรอ ที่ ผู้ที่มีความเชื่อไปเบียดเบียนความเชื่อผู้อื่น อย่างนี้หรือคือสุจริตชน อย่างนี้หรือคือผู้เผยแพร่ศาสนาอย่างบริสุทธิ์ใจ ตอบ ความเชื่อเราไม่ได้ไปยัดเยียด ใครอยากเข้ามาก็เข้าไม่ต้องโทรมาตาม และกว่าจะเข้ามาความเชื่อเราไม่ใช่ง่ายๆๆๆ ต้องเรียนเป็นปี และให้เวลาตัดสินใจอีกว่าจะยอมรับความเชื่อหรือไม่ ไม่ได้อยากเป็นเข้ามาเลย คุณขัณฑ์ครับ ตอนแรกผมก็พูดถึงเรื่องสมาธิแหละครับ ผมยังบอกเลยมั๊งครับ ว่าทางคริสต์มีสมาธิได้เหมือนกัน เพราะหลักการของสมาธิคือจิตนิ่ง (แต่ถ้าไม่บำเพ็ญต่อไปก็ได้แค่ระดับต้น) และพูดถึงจิตรวมด้วยถ้าจำไม่ผิด แต่บางคนเข้าใจกับคำว่า "ญาณ" และ "ฌาน" ผิดไป ผมก็ชี้แจง และเผอิญมันผิดกันหลายคน และผิดอย่างไม่น่าให้อภัย ตอบ คำไว่ไม่น่าให้อภัย โห ความเชื่อของคุณไม่มีสอนเหรอ นี้ขนาดคิดเองเออเองเลยน๊ะ อายแทนอะ ดีน๊ะคนที่เป็นพุทธตรงๆๆไม่เข้ามายุ่งเลย ทั้งที่เค้าบอกอ้อมๆๆแล้ว ก็ดื้อด้านอีก โดยเอาคำทางศัพท์เทคนิคเหล่านี้ไปยำ ผมก็ชี้แจงไปอย่าทำแบบนี้เลย ทางนั้นก็ยังไม่สำนึก ยังคงเถียงไปเรื่อย ๆ ตอบ ก็จะตอบไปเรื่อยๆๆ คุณก็รั้นและดื้อดึงนิ คุณสังเกตตัวคุณเองสิ คุณตอบกระทู้อื่น ทำนองว่า พอทีเถอะครับอย่าทะเลาะกันเลย แต่กระทู้นี้ คุณสติแตก และ ด่าชนิดเทสาดเทเสีย  คุณดูจิตใจคุณแล้วกัน ผมก็ไม่รู้จะทำไงล่ะครับ  คงต้องปล่อยไปตามกฏแห่งกรรมแล้วหล่ะครับ ... ตอบ คุณทำได้ค่ะ แค่คุณ เปิดใจ และใจกว้าง คุณมองไปทึ่ความเชื่อของคุณ และ คุณทำให้เจ้าของความเชื่อของคุณ ท่านพอใจ ไม่เบียดเบียนความเชื่อใคร เจ้าของความเชื่อของคุณท่านก็ดีใจแล้วค่ะ จากคุณ : สุธี  - [ 19 ส.ค. 48 07:52:01 ] จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 19 ส.ค. 48 09:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณสุธี จริง ๆ แล้วความเห็นที่ 59 ผมเขียนยาวกว่านี้ แต่คิดไปคิดมาแล้วเดี๋ยวไปพาดพิงใครเข้าจะกลายเป็นทะเลาะกันซะเปล่า ๆ เลยลบเหลือแค่นั้น ความเห็นของคุณในความเห็นแรกน่ะดีครับ และผมก็เห็นด้วยตามนั้น แต่หลัง ๆ ไปใส่ใจกับศัพท์มากไปหน่อยแย้งกันไปกันแย้งมา ผมเห็นว่าไร้สาระเลยมาเตือนให้ปล่อยวางเถอะ เพราะถ้าพิจารณากันจริง ๆ แล้วการเข้าถึง "ฌาณ" หรือมี "ญาณ" นั้น ทางคริสตก็ทำได้ด้วยวิธีการของคริสต แต่อาจจะต้องใช้เวลาที่ยาวนานกว่า ใช้เวลามากกว่า แล้วสุดท้ายก็รู้แบบเดียวกัน ที่เป็นแบบนั้นเพราะจริตของคนเราแตกต่างกัน การจะสำเร็จหลุดพ้นจึงมาหลายทาง คนบางคนเข้มแข็งไปคนเดียวได้เข้าหลักตนเป็นที่พึ่งแห่งตนก็ไปก่อน บางคนยังไม่เก่งพอก็ต้องมีพระเจ้ามีเทพเทวาเป็นพี่เลี้ยงไปก่อนจนเข้มแข็งพอแล้วก็ส่งไปขั้นต่อไป ความเชื่อแต่ละความเชื่อคำสอนของแต่ละศาสนาถ้าพิจราณาแล้วให้ลึกซึ้งแล้วก็จะรู้ว่าสุดท้ายเหมือนกัน วิธีปฏิบัติต่างกันก็เพราะคนแต่ละคนมีความสามารถต่างกัน มีปัญญาต่างกัน อยู่พื้นที่ต่านกัน จึงต้องสอนคนละวิธี  แต่เวลาคนที่ออกไปเผยแพร่มันก็เหมือนกับการบอกต่อจากหัวแถวไปท้ายแถว ทำให้ข้อความเพี้ยนไปบ้างจึงมีพวกเข้าใจผิด ๆ สอนกันผิด ๆ แบ่งเขาแบ่งเรา โจมตีเขาแล้วยกย่องของตนซะเลิศเลอ และในที่สุดก็ทะเลาะกัน ไม่เว้นแม้แต่คนที่นับถือศาสนาเดียวกับตน  ลองพิจารณาดูเถิดทำไมแต่ละศาสนาถึงแตกแยกออกไปเป็นนิกายนู้นนิกายนี้ ไม่ใช่เพราะสุดโต่งหรอกหรือ ยึดถืออัตตาของตนหรอกหรือ ไม่ต้องเชื่อผมหรอก ผมไม่ได้รู้อะไรมากนัก ปัญญาก็แค่หางอึ่งไม่ได้มากพอที่จะสอนใคร  ใครจะเชื่ออะไรก็เชื่อกันไปเถอะ จากคุณ : ขัณฑ์ - [ 19 ส.ค. 48 10:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คุณขัณฑ์ครับ โปรดอ่านตรงนี้ด้วยครับ  (ว่าจะไม่เอามาลงแล้วนะเนี่ย) (จากหนังสือ “แผนทำลายพระพุทธศาสนา”   พระโสภณคณาภรณ์ (ระแบบ จิตญาโณ) – พ.ศ.2526) ... กรมการศาสนาจึงขอให้ราชบัณฑิตยสภาช่วยบัญญัติศัพท์เพื่อใช้เรียกนักบวชของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกขึ้น เช่น เรียกหัวหน้าของนักบวชว่า “มุขนายก”   เป็นต้น แต่พอทางราชการเผลอ โรมันคาทอลิกกลับนำเอาชื่อต่าง ๆ ที่เรียกว่า สมณศักดิ์บ้าง ชื่อเฉพาะในพระพุทธศาสนาบ้าง นำไปใช้เรียกพวกของตน เช่น ชี สามเณร พระสงฆ์ สังฆราช เผลอ ๆ เปลี่ยนมุขนายกมาเป็น “อัครสังฆราช”    ไปเลย ... ... ทั้งที่ชื่อเหล่านั้นเป็นการกดฐานะของสมเด็จพระสังฆราช พระในพระพุทธศาสนาให้ต่ำลง โดยเขามีสังฆราชถึง 10 กว่าท่าน และมี อัครสังฆราช คือ จอมหรือยอดแห่งสังฆราช  ซึ่งในความรู้สึกของคนที่เข้าใจภาษาไทย แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องพระพุทธศาสนา อาจมีความรู้สึกว่า อัครสังฆราชนั้นใหญ่กว่าสมเด็จพระสังฆราชของพระพุทธศาสนาได้เหมือนกันนี่ คือการผสมผสานในลักษณะที่ข่มสถาบันสงฆ์อยู่ในที และโดยเจตนาด้วย เรื่องนี้ทราบกันในตอนหลังว่า เป็นแผนที่สั่งตรงมาจกกรุงวาติกันทีเดียว ในหนังสือวารสารแถลงกิจจากการสังคายนาครั้งที่ 2 ของวาติกัน เล่มที่ 10 หน้า 25-27 บ่งไว้ชัดเจนว่า “งานด้านสมณเพศ เราจะต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก ในการที่จะเรียนรู้จากพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับความหวัง ความโน้มเอียงทางจิตใจ และจิตวิทยาเกี่ยวกับสมณเพศของประชาชนในท้องถิ่น เพื่อที่ว่าเราจะได้ตั้งหมู่สมณะแบบคริสต์ขึ้นมาบ้าง ... คริสตศาสนจักรของเรา จะไม่ใช่เป็นเพียงประดิษฐานมั่งคงด้วย “ระบบสมณศักดิ์ที่เป็นของท้องถิ่นเท่านั้น แต่จะต้องประดิษฐานด้วยวัฒนธรรมคริสต์ที่เป็นของท้องถิ่นเช่นกันด้วย” ... อดีตบาทหลวงกีรติ บุญเจือ เขียนไว้ในหนังสือ “พระไตรปิฎกสำหรับชาวคริสต์”  หน้า 63 ตอนหนึ่งว่า “พระเยซูมิได้ประทานหรือทรงกำหนดลัทธิ ปรัชญา เช่นเดียวกับมิได้ประทาน หรือทรงกำหนดวิธีบำเพ็ญพรตและบำเพ็ญฌาน สาวกของพระองค์เริ่มเสาะแสวงหา และทดลองใช้ปรัชญารวมทั้งวิธีบำเพ็ญพรตและวิธีบำเพ็ญฌาน สานุศิษย์ต่อมาได้แสวงหาและแต่งเติมจากประสบการณ์เรื่อยมา บางท่านได้รวบรวมเนื้อหานิพนธ์ขึ้นเป็นตำราให้เล่าเรียน และทดลองใช้เป็นการแบ่งปัน ความรู้และประสบการณ์ เรื่องวิธีบำเพ็ญพรตและวิธีบำเพ็ญฌานนั้นกล่าวได้ว่า ได้มีผู้ริเริ่มนิพนธ์ควบคู่กันมา กับการนิพนธ์ตำราปรัชญาและศาสนศาสตร์ทีเดียว” ในหน้า 64 ยังได้บอกไว้ว่า “คริสตชนผู้ใด แสวงหาทางของตนตามเจตนารมณ์ของพระเยซูอยู่ ย่อมได้ประโยชน์อย่างมหาศาล จากพระไตรปิฎกสูตรี้และสูตรอื่นที่จะพิจารณาต่อไปตามลำดับ” ข้อความในตอนต้น (หน้า 63) มีความขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง เพราะถ้าคำสอนของพระเจ้าที่มอบให้แก่พระเยซูสมบูรณ์จริงแล้ว ทำไมจึงต้องแสวงหาเพิ่มเติมจากที่อื่นเล่า ? เพราะตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้ว นักบวชในศาสนาคริสต์ ตลอดถึงนักปราชญ์ทั้งหลายในศาสนาคริสต์ ได้นำเอาปรัชญาของนักปรัชญากรีก เช่น โสเครตีส เพลโต อาริสโตเติ้ล เข้ามาอธิบายหลักคำสอนของตนเป็นอันมาก และยังได้จากนักปราชญ์ในส่วนอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งเมื่อว่ากันโดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้ว คำกล่าวของอดีตบาทหลวงกีรติ บุญเจือ ในกรณีนี้เป็นความจริง แม้ปัจจุบันก็กำลังทำอยู่แก่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งมีหลักฐาน เอกสารที่พึงเห็นเป็นตัวอย่าง เช่น - วารสารแถลงกิจของวาติกัน เล่มที่ 10 มี.ค.1964  หน้า 26  บอกว่า   “แต่การร่วมงานที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คืองานที่ผู้เชี่ยวชาญของเราจะไปจัดหา เอากับคัมภีร์และตำราทางพระพุทธศาสนา เพื่อจะได้ดูดกลืนเอาหลักธรรมที่ดี ๆ เข้ามาไว้ในวัฒนธรรมคริสต์ของท้องถิ่น. - วารสารเล่มเดียวกันในหน้า 26 บอกว่า “ถ้าหากจะนำวิธีปฏิบัติกรรมฐานของพระพุทธศาสนา มาดัดแปลงอย่างเหมาะสมและสุขุมรอบคอบ แล้วเอามาใช้ในชีวิตพรตภาวนาของชาวคริสต์ ไยเล่าเราจะทำไม่ได้?” -  แสงธรรมปริทัศน์ ฉบับที่ 2 พ.ค. – ส.ค. 2524  หน้า 33 เขียนโดยบาทหลวงสำราญ วงศ์เสงี่ยม ว่า “การดัดแปลงพิธีกรรมในที่นี้ หมายถึงการดัดแปลงพิธีกรรมโรมันคาทอลิก ที่เราชาวไทยคาทอลิกนับถือยู่ในขณะนี้ ให้มีลักษณะเข้ากับประเพณีของชาวไทยให้มากที่สุด เท่าที่กฏเกณฑ์ต่าง ๆ ทางเทววิทยา และที่ศาสนจักรโรมันคาทอลิกจะอนุญาตให้ทำได้” - วารสารแถลงกิจ เล่มที่ 11 มิ.ย.1969  หน้า 114 – 115 เขียนโดยบาทหลวง ยอห์น อุลลิอานา ว่า “ประเทศไทยมีวิถีชีวิตแบบพระภิกษุ การบวชเป็นพระภิกษุ เป็นการทรงภาวะที่ได้รับความเคารพอย่างสูง แต่เราชาวคาทอลิกไม่ได้มีส่วนร่วมในวิถีชีวิตแบบนั้นเลย เราไม่มีระบบที่คล้ายคลึงกันเช่นนั้น ที่จะเสนอให้แก่ประชาชนชาวไทย ดังนั้น จะไม่เป็นการดีแก่เราหรือ ในการที่ดัดแปลงให้เกิดระบบเช่นนั้นของเราขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการทางจิตวิทยาของชาวพุทธ” ทั้ง ๆ ที่พยายาม เลียนแบบ บิดเบือน ดูดกลืนเอา หลักธรรม วัฒนธรรม   รูปแบบต่าง ๆ จากพระพุทธศาสนาอยู่เช่นนี้ แต่ยังคงเชิดชูศาสนาของตนว่าสมบูรณ์ที่สุดอยู่อีกแปลกดีไหม? แต่เรื่องนี้ถ้าเรามองไปที่วารสารแถลงกิจ ของกรุงวาติกัน เล่มที่ 11 มิ.ย.1969  หน้า 122  จะพบข้อความที่แสดงให้เห็นเจตนารมณ์ในการทำงานของเขาได้เป็นอย่างดี เขาบอกไว้ว่า “นักเผยแพร่ศาสนา จะต้องไม่เริ่มทำงานด้วยการกระทบกระทั่ง สร้างความระคายในการทำศาสนสัมพันธ์นั้น นักเผยแพร่ศาสนาจำเป็นจำต้องค้นให้พบคุณค่าที่แท้จริง ซึ่งมีอยู่ในศาสนาอื่น เพื่อจะได้ชำระให้บริสุทธิ์ และส่งเสริมให้สูงขึ้น ด้วยการสอดแทรกพระวรสารของพระเยซูลงไปอย่างเหมาะสมและในค่านิยมและคุณธรรมของศาสนาอื่น ๆ เมื่อทำได้อย่างนั้น ก็จะเป็นการแสดงให้ผู้ที่มิใช่คริสตศาสนิกชน ได้รู้จักพระเยซูอย่างมิใช่ผู้แปลกหน้า แต่เป็นผู้มาโปรดที่พวกเขากำลังกระเสือกระสนแสวงหามาโดยตลอดนั่นเอง”...   ... วารสารแถลงกิจของวาติกัน เล่มที่ 7 มี.ค.1969  หน้า 15  ได้บอกเป้าหมายในการทำงานทั้งหมดของเขาไว้ชัดมาก เพราะเขาบอกไว้อย่างเด่นชัดว่า “ภารกิจของงานเผยแพร่แบบมิชชั่น ไม่จำกัดอยู่เพียงแค่การเปลี่ยน ในปัจเจกบุคคลให้มาถือคริสต์ศาสนาอีกต่อไปแล้ว แต่ภารกิจในบัดนี้คือการเปลี่ยนตัวศาสนาอื่น ๆ ทั้งศาสนาให้มาเป็นคริสตศาสนา” ผมไม่รู้จะพูดยังไงนะครับ พิจารณากันเอาเองแล้วกัน ... จากคุณ : สุธี - [ 19 ส.ค. 48 11:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 64 รบกวนช่วยเอากระทู้ข้างล่างนี้เก็บในคลังกระทู้เก่าด้วย เอาไว้อ้างอิง......น่ะ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3618413/Y3618413.html.....ชาวพุทธบางคนนั่นแหละมีส่วนทำให้เกิดความแตกแยกในห้องศาสนา http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3615572/Y3615572.html......บาทหลวงบันทึกไว้ ไม่มีประเทศไหนในโลก ที่ศาสนาทั้งหลายอยู่ได้เสรีเท่าประเทศสยาม http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3601495/Y3601495.html.......Davinci Code !!!! http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3600688/Y3600688.html.........'พลังชีวิต2'รุกหนัก ยึด4แยกหลักกทม http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3600673/Y3600673.html.......คริสต์โต้'รหัสลับดาวินซี' http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3600296/Y3600296.html.....ศาสนาพุทธ คริสต์ สอนให้ช่วยเหลือคนยากจน จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 4 ส.ค. 48 21:48:15 A:10.90.5.32 X:202.28.179.1 TicketID:000903 ] ยกขึ้นมาอีกก็เอาลิงค์มาแปะให้อีก จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 19 ส.ค. 48 11:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 65 (ยักไหล่) ก็แล้วแต่คุณสิครับ คุณสวนพลู ผมไม่แคร์คุณหรอก เพราะจริง ๆ แล้วผมไม่ได้กะ พิมพ์ให้พวกหน้าไม่อายดู ผมหวังให้ปัญญาชน ผู้มีใจเป็นธรรมได้อ่านและเข้าใจนะครับ  ไม่ได้หวังจะให้พวกหน้าด้านมันยอมรับผิดหรอกครับ เพราะหน้ามันด้านครับ ... จากคุณ : สุธี - [ 19 ส.ค. 48 12:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 66 (ยักไหล่) ก็แล้วแต่คุณสิครับ คุณสวนพลู ผมไม่แคร์คุณหรอก เพราะจริง ๆ แล้วผมไม่ได้กะ พิมพ์ให้พวกหน้าไม่อายดู ผมหวังให้ปัญญาชน ผู้มีใจเป็นธรรมได้อ่านและเข้าใจนะครับ  ไม่ได้หวังจะให้พวกหน้าด้านมันยอมรับผิดหรอกครับ เพราะหน้ามันด้านครับ ... จากคุณ : สุธี  - [ 19 ส.ค. 48 12:50:20 ] เชิญแสดงความเป็นผู้มีปัญญา ได้เท่านี้ จริงๆๆเหรอ ด้วยคำพูด อายแทนจัง จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 19 ส.ค. 48 12:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 67 โอ คุณควรจะอายตัวเองมากกว่านะครับ คุณสาวสวนพลู ผมเองยังแสดง คห. ไปตั้งเยอะ โดยพิมพ์เอง คิดเองเป็นส่วนใหญ่ (ส่วนใครจะเห็นว่ คห.ผมถูกผิดอย่างไร เป็นอีกประเด็นหนึ่ง) ไม่ใช่ก็อป ตัดแปะ เหมือนอย่างที่คุณทำอยู่บ่อย ๆ และคอยแต่เสียดสีคนอื่นโดยไม่ได้ดูตัวเอง ผมเองที่ตอบไปใน คห.65 ก็ไม่ได้คิดว่า คำพูดของผมนั้นจะเป็นการแสดงปัญญาอะไรเลย เป็นการบอกเล่าเฉย ๆ เท่านั้น หรือคุณสวนพลูมองไม่ออกว่า คห.65 ของผมนั้นเป็นแค่ประโยคบอกเล่าเท่านั้น หรือคุณคิดไปไกลว่า ผมกำลังแสดงปัญญา อะไรในประโยคนั้น คุณคิดอะไรของคุณอยู่ สาว สวน พลู๊ .... แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 48 14:10:20 จากคุณ : สุธี - [ 19 ส.ค. 48 14:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เถียงสู้ไม่ได้ก็ไปตำหนิว่าเค้าตัดแปะ เค้ามีเหตุผลเหนือกว่าก็หาว่าหน้าด้านไม่ยอมรับ โอยใครกันแน่ที่หน้าด้าน ผู้มีใจเป็นธรรมดาดูเร้ว คนหน้าด้านคือใคร ว่าแต่เห็นหมอนี่เถียงกับใครก็ตายคากระทู้ทุกที กระทู้นี้ก็ตามเคย 555555555555 ท่าทางคงเป็นพวกตุ๊ดส์แบบนายพลัง สงสัยต้องเรียกคุณดาบฯมาถล่ม จากคุณ : ไม่รู้ - [ 19 ส.ค. 48 14:21:02 A:192.168.1.57 X:203.188.7.141 TicketID:105145 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบพระคุณคุณฝากให้คิดกับคุณขัณฑ์ค่ะ จากคุณ : aiwen^mei - [ 19 ส.ค. 48 17:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ดิฉันเข้าใจว่า เนื้อหาใน # 63 ที่คุณสุธีนำโพสต์นั้น นำมาจากจากหนังสือ “แผนทำลายพระพุทธศาสนา”   พระโสภณคณาภรณ์ (ระแบบ จิตญาโณ) – พ.ศ.2526) ทั้งหมด ถ้างั้นก็แล้วไปเถอะค่ะ เฮ้อออ ไม่ต่างจากที่ได้สงสัยไว้เลยว่า เหตุใดคุณสุธีท่านจึงได้อคติเช่นนี้ มีคนเอามาโพสต์ในเว็บห้องสมุดก่อนจะแตกออกมาเป็นห้องศาสนาแห่งนี้ ตั้งแต่หลายปีที่แล้ว มีเป็นระยะ ๆ แหละค่ะ ไม่ได้มีอะไรใหม่ จากคุณ : aiwen^mei - [ 19 ส.ค. 48 17:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เหอ เหอ........คุณสุธี........ โผล่ "หาง" มาให้ผู้อ่านได้เห็นแล้วรึ.....55555 และแล้วผู้อ่านก็ได้เห็นคัมภีร์ต้านคริสต์อีก version หนึ่ง พอดีเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมผ่านไปแถวบางลำพู เลยเดินแวะเข้าไปหาหนังสืออ่านเล่น.......ก็ได้ verrsion นี้มาเหมือนกัน.....เพียงแต่ไม่อยากไปวิจารณ์ คุณสุธี ลากเอาบุคคลที่สามเข้ามาเองนะ..... แสดงว่าไม่เห็นตัวอย่าง ดร. ผู้ชายอาจารย์คุณอาโนฯ และ ดร. ผู้หญิง ที่คุณเลดี้ฯ ยกขึ้นมาตั้งกระทู้....ที่โดนชำแหละจนยุ่ยไปแล้วที่กระทู้เก่าๆน่ะ ลองไปดูที่กระทู้ .... http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/Y2538915/Y2538915.html.......ความอยู่รอดของพระพุทธศาสนา อุทาหรณ์จากสมัยกรุงศรีอยุธยา ภาค3 {แตกประเด็นจาก K2529117} http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/Y2548987/Y2548987.html......ความอยู่รอดของพระพุทธศาสนา อุทาหรณ์จากสมัยกรุงศรีอยุธยา//ภาค5 ผู้อ่านก็จะได้เห็นกรรมวิธีการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน ของนักการศาสนา......เพื่อให้ร้ายคริสต์ ผู้อ่านน่ะ......ได้เห็นตัวอย่างการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน เอกสารต่างๆ เพื่อดัดแปลงให้ความหมายผิดไปจากเจตนารมณ์ของผู้เขียน......มาไม่รู้กี่กระทู้แล้ว โดยเฉพาะที่นายตลกปลาไหลตัวดำดำชอบยกมาอ้าง....ตั้งแต่สมัยเป็น "ชายลึกลับ".........จนได้สมญาว่า "นักประวัติศาสตร์ตัดแปะ" แล้วคุณสุธี ก็เอามาแดงให้เห็นว่า.......องค์กรพิทักษ์อลัชชีน่ะ....มาจากแหล่งไหน????..........55555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 19 ส.ค. 48 23:51:05 A:203.113.38.12 X:203.151.140.114 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คุณสุธี ช่วยตอกย้ำให้ผู้อ่านได้เห็นเองนะ.... ว่า ......คัมภีร์ต้านคริสต์.....น่ะมันมีหลาย version จริง ๆ แล้วแต่ละ version น่ะก็แทบจะลอกกันมาเลยละ ตัดต่อ แต่งเติม ตอนไหน ก็แทบจะตรงกันทุกตัวอักษร ผู้อ่านก็คงเดากันได้เองว่า......ต้นตอ "คัมภีร์ต้านคริสต์" น่าจะเริ่มมาจากไหน.....หวังผลอะไร เป็นไปอย่างที่ผมได้ออกความเห็นไปแล้วข้างบนหรือไม่ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 19 ส.ค. 48 23:59:35 A:203.113.38.12 X:203.151.140.112 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 73 วารสารแถลงกิจ ของกรุงวาติกัน ...ที่คุณสุธียกมาน่ะ.. มันก็เล่มเดียวกับ เอกสาร Vatican Council 2 ที่ผมเอ่ยถึงน่ะแหละ เอกสารนี้มีผู้อ้างว่าได้มา โดยเป็นเอกสารลับเฉพาะในหมู่บาทหลวงชั้นสูง......... เนื้อหาที่แปลมาก็มีลักษณะตัดเป็นท่อน ๆ .....เอามาจากหน้านั้นหน่อยนึง หน้านั้นหน่อยนึง......เอามาตัดต่อดื้อๆ ......ส่วนที่แต่งเติมน่ะ เห็นได้ชัดว่าเอามาพ่วงในหลายส่วน........อ่านดูก็รู้แล้วว่า "คนพุทธ" เป็นคนเขียน ผู้อ่านดูตัวอย่างจากที่คุณสุธี ยกเอามาให้อ่าน.....ก็จะเห็นว่าเอามีการยกข้อความมาเพียงบางท่อน....แล้วผู้เขียนก็ใส่ความเห็นของตัวเองลงไปเพิ่มเติม....... ความหมายของต้นฉบับ อาจไม่ตรงกับ ความหมายที่ถูกบิดเบือนไปก็ได้ ขนาดเอกสารทางประวัติศาตร์ที่มีหลักฐานชัดเจน......นักการศาสนา มือถือสากปากถือศีล ก็ยังตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน กันอย่างไม่ละอายต่อบาป ผู้อ่านก็คงพอจะเดาได้เองแหละว่า.....ข้อความที่ถูกยกขึ้นมาอ้างเพียงบางท่อนน่ะ......มันน่าเชื่อถือแค่ไหน??? คนเราลองโกหก หลอกลวงจนถูกจับได้ครั้งหนึ่งแล้ว......คิดหรือว่าผู้อ่านจะยัง เชื่อถือข้อมูลเท็จที่ตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือนอีก 5555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 20 ส.ค. 48 00:19:59 A:203.113.38.12 X:203.151.140.112 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เหอ เหอ...... อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า......พวกกระบือที่ถูกจูงจมูก น่ะ.....มีลักษณะที่เหมือนกันก็คือ....เหมือนกับส่องกระจกแล้ว post นายตลกปลาไหลตัวดำดำ น่ะถูก "จับแก้ผ้า" กลางห้องสมุดบ่อยๆ .......เหมือนกับ "ตลกหม่ำ จ๊กม๊ก" ที่วิ่งแก้ผ้ากลางวันแสกๆ ถ่ายหนังที่อนุสาวรีย์ชัยฯ น่ะแหละ รู้สึกว่า คราวนี้ นายตลกปลาไหลตัวดำดำ จะมี "เพื่อน" นะ รู้สึกเย็น ๆ บ้างไหมล่ะ???? 55555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 20 ส.ค. 48 00:28:33 A:203.113.38.12 X:203.151.140.112 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 75 จะบอกให้เอาบุญนะ...... จุดอ่อนของคุณสุธี ก็คือ เข้ามาห้องนี้ทีหลังมาก.......จนไม่รู้ว่าอะไรที่ถูกชำแหละไปแล้วมั่ง.......เลยเอากลับมาเล่นอีก อีกอย่างก็คือ เชื่อครูบาอาจารย์ของตนเองมากไปหน่อย...... อคติเลยเต็มกระโหลก.......ไม่มีเนื้อสมองเหลือให้คิดได้เองเลย 5555555 และ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 20 ส.ค. 48 00:35:18 A:203.113.38.12 X:203.151.140.112 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ถ้าไม่มีปัญญาอ่านอะไรยาวๆ.... ขอแนะนำให้ไปอ่านที่กระทู้ ....http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/Y2548987/Y2548987.html......ความอยู่รอดของพระพุทธศาสนา อุทาหรณ์จากสมัยกรุงศรีอยุธยา//ภาค5 ........ก็พอ เพราะได้สรุปตัวอย่างการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน โดยคัมภีร์ต้านคริสต์ไว้ชัดเจน มีหลักฐานของจริงมาเทียบให้เห็นกันจะๆ เลย สายตาจะได้มองได้ไกลกว่า "หัวแม่ตีน" ของตนองน่ะ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 20 ส.ค. 48 00:43:39 A:203.113.38.12 X:203.151.140.112 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อีกเรื่องหนึ่งก็คือ จะมีคนที่อ้างตัวว่าเป็นพุทธ แต่อ่อนภาษาอังกฤษเอามาก ๆ มักจะหาเรื่องมาจาบจ้วง ดูหมิ่นสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 จากหนังสือที่พระองค์ทรงประพันธ์ขึ้นคือ Crossing the Threshold of Hope ซึ่งเป็นหนังสือระดับ Best Seller ของโลกบ่อย ๆ พระองค์ท่านได้แสดงความเห็นต่อศาสนาพุทธซึ่งไม่ได้มีอะไรที่กล่าวถึงศาสนาพุทธในแง่ลบแม้แต่น้อย แต่พวกประดานี้อ่านแล้วไม่เข้าใจ แปลความหมายผิด ๆ ด้วยความอคติไปคนละคุ้งน้ำ แต่อวดฉลาดแบบโง่ ๆ เอามาโพสต์จาบจ้วงประจำ ชี้แจงไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังไม่ยอมยุติง่าย ๆ ขอยืมคำของคุณฝากให้คิดมาใช้หน่อยเถอะว่า เป็นกระบือจริง ๆ สิเอ้า แหมนะ แค่เจอคำว่า negative ก็หวาดหวั่นราวกับว่าฟ้าจะผ่างั้นแหละ ช่างไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าคำคุณศัพท์คำนี้มีความหมายในแง่ใดบ้าง หรือประโยคแต่ละประโยคนั้น มักจะมีอนุประโยคอธิบายเสริมคำบางคำ แต่พวกทั่นไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่า ประโยคไหนคือประโยคหลัก ประโยคไหนคือประโยคขยาย และประโยคขยายนั้นใช้ขยายความหมายของคำนามคำไหน หรือแม้แต่คำนามบางคำ จะประกอบด้วยคำคุณศัพท์หลาย ๆ คำต่อเชื่อมกับคำบุพบท และคำนามอื่น แต่แปลกันไม่ถูกความหมายเพราะไม่รู้ว่าคำไหนคือคำขยายหรือต่อเชื่อมความหมายกันอย่างไร แปลไม่ถูกไม่ว่า แต่บางครั้งทำให้ความหมายมันกลับตาลปัตรก่อให้เกิดความเข้าใจผิด มั่วเละเทะที่สุด ตกไวยากรณ์ระนาว หรือไม่ก็เปิดดิกแปลกันตรง ๆ โดยไม่พิจารณาบริบท หรือความหมายที่เป็นแบบเฉพาะที่ใช้ในศาสตร์สาขาวิชาหนึ่ง ๆ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องหลักการแปลแม้แต่น้อย คนที่เค้าอ่านแล้วเข้าใจ คงรู้สึกอนาถใจ หรือไม่ก็ฮาแตกกับความปัญญาอ่อนของพวกนี้ แค่คำว่า special attention ในบริบทที่ยกมาก็แปลได้น่าวังเวงเอามาก ๆ นี่เป็นสาเหตุทำให้ผู้มีใจเป็นธรรมต้องตามล้างตามเช็ดอยู่เป็นประจำ ปล่อยไว้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะมีบางคนพลอยหลงเชื่อซึ่งมักจะมีเป็นประจำเสียด้วย จากคุณ : aiwen^mei - [ 20 ส.ค. 48 13:04:44 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ถ้าเรื่องยังไม่ยุติ คงต้องแจ้งหน่วยงานของรัฐที่ดูแลความสงบเรียบร้อยมั่นคงของชาติแล้ว ดูซิว่า มีใครที่มีแผนร้ายซ่อนเร้นอยู่ ทำตัวเป็นบ่างช่างยุ สร้างหลักฐานเท็จ บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ คงอยากไปกินข้าวแดงในคุกกระมัง ก่อนจะตกนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด เดี๋ยวได้สาวยาวไปถึงใครหลาย ๆ คนที่อยู่เบื้องหลังแน่ จากคุณ : aiwen^mei - [ 20 ส.ค. 48 13:17:01 ]

ความคิดเห็นที่ 79 แม้แต่ศัพท์ทางศาสนา ไม่ว่าจะตำแหน่ง หรือสถานที่ มี กฏหมายในพระราชอาณาจักรไทยออกมาแล้วว่า ไม่ให้ใช้ และควรใช้คำไหน ทางองค์กรคริสต์ก็เพิกเฉย ไม่สนใจในกฏหมายบ้านเมือง แถมทำในสิ่งตรงกันข้าม ยังเอาศัพท์ทางพุทธไปใช้อย่างไม่ลดละ อย่างนี้หรือคือสุจริตชน อย่างนี้หรือคือผู้เผยแพร่ศาสนาอย่างบริสุทธิ์ใจ +++ นี่ก็โดนพวกบ่างช่างยุ ยุมาอีกแล้ว ทางกระทรวงศึกษาธิการโดยคุณไพบูลย์ เสียงก้อง เมื่อประมาณปี 2542 คงทราบดีถึงเรื่องการใช้และการแปลภาษา ระดับท่านคงมีความเข้าใจดีว่าถ้าจะถึงกับออกเป็นกฎหมายก็คงจะถูกนักภาษาศาสตร์ หรือปราชญ์ด้านอักษรศาสตร์มาประท้วงเอาได้ จึงออกเป็น "ประกาศ" ขอความร่วมมือ และเสนอศัพท์ให้ทางราชบัณฑิตก็เท่านั้นเอง คุณก็ลองไปดูผลงานความเชื่องช้าของทางราชบัณฑิตแล้วกันว่าเป็นอย่างไร ซึ่งยากที่จะตำหนิเพราะงานเต็มมือ ส่วนศัพท์ที่เสนอมานั้นอ่านแล้วก็ชวนให้ส่ายหน้าดีเหลือเกิน +++ ที่กล่าวหาว่าไม่ร่วมมือนั้น นี่ก็แสดงให้เห็นว่า นั่งเทียนเขียน แล้ว คุณเคยอ่านหนังสือราชการที่ทางสำนักมิสซังส่งไปยังราชการหรือไม่ กรุณาอย่ากล่าวหากันเช่นนี้ บาปกรรมจะเกิดแก่ตัวคุณเอง +++ จากเรื่องที่ขาดความเข้าใจในการใช้และแปลภาษานี้ เคยมีสมาชิกท่านหนึ่งได้ทำเรื่องส่งไปยังอดีต รมต. สุวิทย์ คุณกิตติ ซึ่งเป็นรมว. ศึกษาธิการในเวลานั้น แต่ขอประทานโทษ คุณสุวิทย์คงพอจะมีความเข้าใจอยู่บ้าง เรื่องจึงเงียบไปไม่มีอะไร เป็นเรื่องที่จะบรรยายว่าอย่างไร ลองคิดกันดูก็แล้วกันว่าน่าหัวร่อหรือไม่ เดี๋ยวทางศาสนาพราหมณ์เขาคงมาทวงศัพท์ที่ทางพุทธนำมาใช้บ้างหรอกนะ +++ ที่มีการพูดสัพยอกว่า ไปจดลิขสิทธิ์นั้น ไม่แน่ใจว่าจะมีหน่วยงานไหนรับหรือเปล่าเหมือนกัน เพราะคำที่ใช้นำมาจากภาษาบาลี สันสกฤตที่ศาสนาพราหมณ์ หรืออื่น ๆ ในดินแดนชมพูทวีปใช้อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งไม่อาจนับว่าเป็น origin เรื่องนี้ดิฉันก็ไม่สันทัดนัก ที่รู้เรื่องมากหน่อยก็จะเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือการออกแบบทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องดำเนินการเรื่อง Patent ด้วย +++ ดูพฤติกรรมเหมือนพวกคลั่ง "เลือดบริสุทธิ์" ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เป็น "เลือดผสม" เลย แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 48 14:03:36 จากคุณ : aiwen^mei - [ 20 ส.ค. 48 13:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ในอดีตกาลนานมาแล้ว เมื่อคริสต์กลุ่มแรกเข้ามาให้เห็น เขาก็เข้ามาในแบบการเมือง พยายามจะให้ทางเราเปลี่ยนไปตามแบบเขา และอีกหลายระลอกที่เข้ามาแล้วดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนาพุทธ  พวกกลุ่มต่อมาก็เหยียดหยามพุทธ (แม้ไปประเทศใด ดินแดนใดก็ไปดูหมิ่นเขาอีกเช่นกัน)  เป็นธรรมดาที่จะมีผู้ไม่พอใจ ก็ต้องออกโรงหรือออกหนังสือออกมาตอบโต้ หรืออย่างที่คุณ "ฝากไว้ให้คิด" บอกว่า ออกมาต้าน  แล้วออกมาต้านมันผิดตรงไหนครับ  ฝ่ายทางคาทอลิกกระทำผิดชัด ๆ แบบนั้น (แล้วหาทางเฉไฉไปเรื่อย ๆ)  การจะออกมาตอบโต้ ผู้ที่กระทำกับเราก่อน จะว่าเราอคติหรือไม่ แถมย้อนอย่างไม่ละอายอีกว่าทางเราต้องการทำลายคริสต์ บ้าหรือเพี้ยน ถ้าต้องทำลายจริง ปล่อยให้คาทอลิกปักหลักมาถึงปัจจุบันได้ไง เรื่องราวหลายเรื่องผมเชื่อว่าวิญญูชนที่ไม่ใช่คริสต์ (หรือเป็นคริสต์แต่ไม่อยากพูดถึง) ก็คงเข้าใจและพอมองออกในเรื่องเหล่านี้   และก็ไม่ใช่แค่เรื่อง เล่ห์กลทางศัพท์ภาษา แต่ก็มีเรื่องราวอีกมากมาย เช่น ในอดีตไปเอาผ้าขาวไปติดที่คอเจดีย์วัดนางปลื้มอยุธยามีข้อความว่า "ชาวอยุธยายินดีขอต้อนรับ คาดินัล ไมเคิล มีชัย กิจบุญชู  โดยไม่ให้เกียรติกันเลย นำใบปลิวของตนไปแจกที่หน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีข้อความในใบปลิวล้วนแล้วแต่ยกย่องพระเจ้าของตนและประนาฒหยามหมิ่นคนที่สร้างรูปเคารพ เคารพรูปเคารพจนถึงสาบแช่งให้ตกนรก เช่น "บรรดาคนที่ไปติดตามพระเจ้าองค์อื่น ๆ ในชีวิตย่อมพบกับภัยพิบัติไม่จบสิ้น ชีวิตในโลกหน้ายิ่งหนีไปพ้นการพิพากษา ให้ตกอยู่ในบึงไฟชั่วนิรันดร์ เพราะพระคัมภีร์ได้กล่าวว่า คนไหว้รูปเคารพ มรดกของเขาอยู่ในบึงไฟ และกำมะถันที่กำลัไหม้อยู่" ฯลฯ  ฯลฯ   สิ่งเหล่านี้มันคืออะไรกัน เรื่องราวที่คุณบอกคุณได้ทะเลาะโต้แย้งกันไปแล้ว ผมก็พอจะเดาได้ เรื่องบัดซบที่ทางคาทอลิกทำ ก็ไม่ได้เพิ่งทำ ก็ต้องมีคนมาโต้แย้งกันบ้างเป็นธรรมดา  ซึ่งก็ไม่แปลกอีกถ้าในอนาคตจะมีคนมาโต้แย้งกันในเรื่องนี้ และทางคุณก็ต้องหามุขใหม่มาแก้ไขไปได้เรื่อย ๆ คุณเองอาจจะรู้เห็นเป็นใจหรืออาจจะไม่รู้ก็ได้ หรืออาจถูกคนเหนือ ๆ ไปปลูกฝังทางครอบครัวหรือทางประเพณีของคุณในเรื่อง "มุขที่แก้"  ข้อกล่าวหานี้หมดแล้ว (จะโดยหน้าด้านหรือโดยฉ้อฉล แยบยลก็แล้วแต่) และอาจจะว่า เรื่องราวที่หลายคนยกมาและผมยกมาเป็นเรื่องไม่จริงก็ได้ครับ  โจรคนไหนมันจะบอกตรง ๆ ในความประพฤติของมันล่ะครับ มีแต่จะปฏิเสธหรือไม่ก็หาทางออกโดยกระล่อนปลิ้นปล้อน ตีความใหม่อะไรไปเรื่อย ๆ เข้าตัวเอง ถ้าเหตุการณ์ที่ผมบอกมานั้นจริง ทางคุณเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่บัดซบเหลือทนหรือไม่ละครับ ที่กระทำเผยแพร่คำสอน (และกดความเชื่อของผู้อื่น) อย่างไร้จรรยาบรรณแบบนั้น ผมก็ฝากให้วิญญูชนให้คิดด้วยแล้วกัน ... จากคุณ : สุธี - [ 22 ส.ค. 48 07:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เรื่องบัดซบที่ทางคาทอลิกทำ ก็ไม่ได้เพิ่งทำ ก็ต้องมีคนมาโต้แย้งกันบ้างเป็นธรรมดา  ซึ่งก็ไม่แปลกอีกถ้าในอนาคตจะมีคนมาโต้แย้งกันในเรื่องนี้ และทางคุณก็ต้องหามุขใหม่มาแก้ไขไปได้เรื่อย ๆ ขอบพระคุณค่ะ สำหรับคำว่า บัดซบ ใช้ในความเชื่อของเรา ดีค่ะ คนอ่านคือคนตัดสิน ไม่ใช่คุณ จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 22 ส.ค. 48 10:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ถ้าเหตุการณ์ที่ผมบอกมานั้นจริง ด่าเค้าแล้ว ยังมาตลบหลังว่า ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง เอากะเค้าสิ ทางคุณเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่บัดซบเหลือทนหรือไม่ละครับ ที่กระทำเผยแพร่คำสอน (และกดความเชื่อของผู้อื่น) อย่างไร้จรรยาบรรณแบบนั้น ตอบ คำก็บัดซบ สองคำก็บัดซบ อายแทนเพื่อนๆๆความเชื่อเดียวกับคุณจัง ผมก็ฝากให้วิญญูชนให้คิดด้วยแล้วกัน ... ตอบ แค่คำว่าบัดซบ ได้เป็นวิญญูชนแล้ว โห ลัทธิใหนเนี๊ยะ จากคุณ : สุธี  - [ 22 ส.ค. 48 07:30:46 ] จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 22 ส.ค. 48 10:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 83 โอ ผมแค่บรรยายถึงการกระทำอันนั้นต่างหากครับ  หรือว่าปัญญาชนเอย วิญญุชนเอย เกิดมาไม่เคยเอ่ยคำว่า บัดซบหรือไม่เคยบรรยายการกระทำอันเลวทรามนั้น ว่าบัดซบเลยครับ คุณสวนพลู อย่าศรีธนชัยนะครับ เข้าใจตรงนี้หรือเปล่าเนี่ย ดูคุณ "ฝากให้ให้คิด" ก็ได้ครับ คำแต่ละคำนั้นมันเป็นอะไรครับ แม้แต่คุณเม่ย คุณอารักขา (อีกหลายคนผมจำไม่ได้) แม้แต่ผู้หญิงผมเองก็ไม่อยากเชื่อว่า "หยาบคาย" ได้ขนาดนั้น  ที่ต่อด่าว่าคุณ talok อย่างโน้นอย่างนี้ ใช้คำหยาบคาย สารพัดจะเสียดสี (ไม่นับคำทางวิชาการซึ่งไม่ว่าอะไร)  ทางคุณตลกเสียอีกผมไม่เห็นเขาหยาบคายเลย ถ้าคุณคิดว่าเขาทำผิด ทำไมไม่พูดกับเขาดี ๆ ชี้แจงเหตุผลดี ๆ แม้คุณจะอ้างว่า พูดแล้วแต่เขาไม่ฟังก็ตาม ผมเองก็อ้างได้ว่า เรื่องที่ผมบอกไปเล่าไป ก็ไม่เคยเห็นหยุดการกระทำนั้นเหมือนกัน (แม้คุณจะไม่เชื่อหรือในทัศนะของคุณว่าผมกล่าวหาหรือคิดไปเองก็ตาม แต่ตรงนี้กำลังคุยกันถึง "ความหยาบคาย") คุณทำไมไม่ด่าพวกเดียวกันเอง (ออกกระทู้ให้เห็นกันทั่ว)แบบที่คุณตำหนิผมบ้างละครับ ถ้าคุณสวนพลู ดัดจริต รับฟังไม่ได้กับคำว่า "บัดซบ"   หรือคุณคิดว่าการที่ผมด่าตอบโต้การกระทำอันเลวร้ายนั้น (แม้คุณจะไม่เชื่อและคิดว่าผมคิดไปเอง อย่างน้อยนั้นก็คือความคิดอันไม่พอใจของผมที่ผมพิมพ์ออกไปแบบนั้นด้วยความคับแค้น) เป็นเรื่องเลว ผมเองก็ไม่ใช่ผู้ดีมีสกุลที่ไหน แต่ผมเห็นการกระทำที่พูดเพราะ พูดดี หน้าตาใสซื่อ ใส่สูทอย่างดี แต่พอเขาเผลอก็ขโมย ก็ดูดกลืน ก็บิดเบือน สารพัดจะทำ อันนั้นมันน่าจะด่าว่า มากก่วาไม่ใช่หรือครับ ถ้าคุณถกกับผมในคำว่า "บัดซบ" ว่ามันหยาบคายไม่ใช่ปัญญาชน ผมเห็นว่าปัญญาชนไม่ใช่อยู่ที่คำพูดเป็นสำคัญนะครับ อยู่ที่สำนึกในการทำชั่วทำดีต่างหาก ... แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 48 11:29:29 จากคุณ : สุธี - [ 22 ส.ค. 48 11:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เรื่องบัดซบที่ทางคาทอลิกทำ ก็ไม่ได้เพิ่งทำ ก็ต้องมีคนมาโต้แย้งกันบ้างเป็นธรรมดา  ซึ่งก็ไม่แปลกอีกถ้าในอนาคตจะมีคนมาโต้แย้งกันในเรื่องนี้ และทางคุณก็ต้องหามุขใหม่มาแก้ไขไปได้เรื่อย ๆ คุณทำไมไม่ด่าพวกเดียวกันเอง (ออกกระทู้ให้เห็นกันทั่ว)แบบที่คุณตำหนิผมบ้างละครับ ถ้าคุณสวนพลู ดัดจริต รับฟังไม่ได้กับคำว่า "บัดซบ"   ตอบ  ขอโทษค่ะ งง กับคำตอบของคุณข้างต้น ด่าว่าคาทอลิกบัดซบ มาอีกประเด็นบอกว่าทำไมคาทอลิกไม่ด่าพวกกันเอง   ด่ารวมหมด คราวนี้มาประเด็นใหม่ทำไมไม่ด่าพวกกันเอง อยากด่าอะไรก็เชิญเถอะค่ะ แต่ผมเห็นการกระทำที่พูดเพราะ พูดดี หน้าตาใสซื่อ ใส่สูทอย่างดี แต่พอเขาเผลอก็ขโมย ก็ดูดกลืน ก็บิดเบือน สารพัดจะทำ อันนั้นมันน่าจะด่าว่า มากก่วาไม่ใช่หรือครับ ถ้าคุณถกกับผมในคำว่า "บัดซบ" ว่ามันหยาบคายไม่ใช่ปัญญาชน ผมเห็นว่าปัญญาชนไม่ใช่อยู่ที่คำพูดเป็นสำคัญนะครับ อยู่ที่สำนึกในการทำชั่วทำดีต่างหาก ... แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 48 11:29:29 จากคุณ : สุธี  - [ 22 ส.ค. 48 11:28:37 ] ตอบ ขอบพระคุณค่ะ สำหรับ คำพูดกระแนะกระแหน จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 22 ส.ค. 48 13:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 85 จริง ๆ แล้วผมชอบคุณนะครับ ไม่อยากจะทะเลาะกันเลยในเรื่องเหล่านี้ คุณเม่ยผมก็มีความรู้สึกดีด้วย แม้แต่อารักขา ผมก็เช่นกัน  แต่มันเป็นเรื่องของ ความถูกต้อง (คุณอาจจะเห็นไม่ตรงก็ได้) ผมเองก็ไม่ได้หยาบคายอะไรเลย  ส่วนการกระแนะกระแหน  ผมก็เห็นเป็นกันทุกคน คุณเองก็เคย คุณเม่ยก็เคย ฯลฯ  เพียงแต่ผมอยากให้เข้าใจใน "ความหมาย" ของประโยคที่ผมพิมพ์ลงไปด้วย หรือจะเพราะผม ใช้ภาษาไม่ถูกต้องก็อาจจะเป็นได้นะครับ  เรื่องถกกัน ทะเลาะกัน (ถ้าไม่หยาบคาย) ผมเห็นเป็นเรื่องปกติ  แต่เรื่องพูดจากันไม่เข้าใจภาษานี่ผมงง มากเลยนะครับ   ในกระทู้บางกระทู้ ผมไม่ได้มีส่วนในเรื่องทะเลาะก้บเขาเลย เพียงแต่ชี้แจง และแนะนำในสิ่งที่ถูกต้อง (หมายถึงถูกต้องตามหลักพุทธ) แก่คุณอารักขา คุณ TPP เท่านั้น  เท่านั้นจริง ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าผมไปดูหมิ่นเขาแล้ว งง มากเลยครับ  เพราะแกอ่านแล้วตีความหมายในประโยคไม่แตกหรืออย่างไรกันแน่  อันนั้น งง กว่ากรณีกระทู้อันนี้เสียอีกครับ   ตรงนี้ผมว่ามันควรจะปรับปรุงนะครับ ผมว่า  ... จากคุณ : สุธี - [ 22 ส.ค. 48 16:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 86 โถ.....ใช้ตรรกะกระบือ แบบสุธีๆ อีกแล้ว จะบอกให้....ผมน่ะ....มันแฟนพันธุ์แท้ นายตลกปลาไหลตัวดำดำมาตั้งหลายปีแล้ว........ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็น"ชายลึกลับ" อยู่แน่ะ คริสตชน โดนใส่ร้ายป้ายสี จาบจ้วง ความเชื่อ โดยนายตลกปลาไหลตัวดำดำ มาไม่รู้กี่กระทู้.......บ่อยครั้งก็มีสมาชิกขาประจำ และ ขาจร เข้ามาสนับสนุน ยกย่องข้อมูลของนายปลาไหลฯ จนกระทั่งผมเริ่มค้นคว้า ก็จับทางได้ว่า....ข้อมูลทั้งหลายแหล่ นายตลกปลาไหลตัวดำดำ ทำการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน ให้ร้ายคริสต์.......ก็เลยให้สมญาว่า "ปลาไหล" ส่วน "ตัวดำดำ" ....น่ะก็เอามาจากชื่อเก่าของนายตลกปลาไหลตัวดำดำ ในนาม "ชาวบ้านตัวดำดำ" น่ะแหละ ผมว่าผู้อ่านตัดสินเองได้เอง...แหละว่า พฤติกรรมการPost ของนายตลกปลาไหลตัวดำด ที่ผ่านมาหลายปีน่ะ.....เหมาะสมกับนามแฝงที่ได้รับหรือไม่ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 22 ส.ค. 48 19:53:47 A:10.90.4.94 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ตรรกะกระบือที่คุณสุธีเอามาเทียบกันระหว่างคำที่คุณใช้กับองค์กรคาทอลิกว่า ...."บัดซบ".....โดยอาศัยข้อมูลที่เลื่อนลอยที่คุณยกขึ้นมาเอง แล้วสรุปเองในตอนสุดท้าย ราวกับว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงไปแล้ว ผมถามหน่อยเถอะว่า....คุณเห็นเอง....หรือได้ยินมาจาก "นักปลุกระดมคลั่งศาสนา"......จากองค์กรคลั่งศาสนาของคุณ บอกตรงๆ ...ผมโคตรขำเลยที่คุณสุธี เอาเรื่อง "บาทหลวง" ไปหลอกชาวบ้านที่นับถือขงเบ้ง มาเล่า....ว่าได้ยินมาจากผู้ที่น่าเชื่อถือ.....แล้วก็สรุปตอนสุดท้ายตาม "สับดาน" คือ ด่าคาทอลิก.....ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงไปแล้ว ส่วนใหญ่ข้อมูลของคุณสุธีน่ะ.....ก็เป็นแค่ "ผมได้ยินมาจากผ้ที่น่าเชื่อถือ"......หรือมาจากหนังสือต้านคริสต์ แล้วเอามาสรุปตอนท้ายด่าว่าคาทอลิกอย่างเกลียดชัง.....ผู้อ่านก็คงเห็นแล้วจากหลายกระทู้ ถ้าลองมีใครด่า......องค์กรทางศาสนาของคุณว่า "บัดซบ" ....โดยอาศัยข้อมูลเลื่อนลอย หรือ ข้อมูลเท็จ .....ผมว่าคนที่ทำเช่นนั้นคงถูกคนที่นับถือศาสนาเดียวกับคุณออกมาเล่นงานอย่างหนักแน่นอน จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 22 ส.ค. 48 20:08:44 A:10.90.4.94 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 88 หลังจากที่ผมไปอ่านทบทวน หนังสือ ของมหาระแบบ ที่คุณสุธี ยกมาในความคิดเห็นข้างบนแล้วน่ะ จึงได้เห็นว่า ความคิดเห็นที่คุณสุธี ที่ post มาหลายประเด็น .....มันก็มาจากหนังสือเล่มนี้น่ะแหละ ประเด็นหนึ่งก็คือประเด็นเรื่อง "การใช้ภาษาบาลี" ของคาทอลิก ก็มีในหนังสือเล่มนี้ด้วย พออ่านจบก็ไม่แปลกใจเลยว่า......ความคิดเห็นแบบกระบือคลั่งของคุณสุธีน่ะเกิดได้อย่างไร ??? โดนปลุกระดม ปลุกปั่นให้ "คลั่งศาสนา" แบบที่คุณสุธีเป็นอยู่น่ะ.......มันประจานให้เห็นความชั่วร้ายขององค์กรคลั่งศานา.....ที่ไม่ต่างกับที่องค์กรที่กำลังกระทำอยู่กับเยาวชนมุสลิมใน 3 จังหวัดภาคใต้น่ะแหละ ปลุกระดมให้เกลียดชังเพื่อนร่วมชาติ แต่นับถือต่างศาสนา.......โดยใช้ "ข้อมูลที่ตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน".......และพวก "กระบือคลั่งศาสนา" ก็หลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จริงไหม????...... 5555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 22 ส.ค. 48 20:36:21 A:10.90.4.94 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ผมว่าคุณรับใช้ ใกล้ชิด องค์กรคลั่งศาสนามากเกินไป.......จน "อคติ" มันกลายเป็น "ท่อนซุงที่ขวางนัยน์ตา" ของคุณไปซะแล้ว....... แล้วรู้ตัวหรือเปล่าว่า การ post ของคุณสุธี ในกระทู้นี้น่ะ....มันเปิดเผยให้เห็น "ตัวตน" ของคุณและองค์กรคลั่งศาสนของคุณได้อย่างล่อนจ้อนจริงๆ 5555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 22 ส.ค. 48 20:42:43 A:10.90.4.94 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 90 55555........จงไล่ขวิดต่อไปเถอะ...... เพราะความคิดที่เต็มไปด้วย "อคติ" ของคุณสุธีน่ะ......มันก็ไม่ต่างกับนายตลกปลาไหลตัวดำดำ ที่ "ตั้งใจ" เข้ามาด่าคริสต์ โดยเฉพาะคาทอลิก อย่างเห็นได้ชัด เพาะตั้งแต่กระทู้นี้.....ผู้อ่านก็ได้รูจุดยืนของคุณ และ องค์กรที่อยู่เบื้องหลัง "ความคิด" ของคุณสุธี......ว่าไม่ต่างกับนายตลกปลาไหลตัวดำดำ ลองมองกลับไปข้างหลัง ข้างๆ ในกระทู้นี้ ...... มีใครร่วมความคิดกับคุณสุธีกี่ความเห็นกันล่ะ กระบือคลั่งศาสนา 5555555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 22 ส.ค. 48 20:53:33 A:10.90.4.94 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เหอ เหอ เที่ยวนี้ ตัวตลก "บอร์ดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ปลาไหลตัวดำดำ.....ได้สมาชิกแก๊งสามช่า มาเพิ่มเป็นทางการ อย่างเต็มตัวอีกคนแล้วละ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 22 ส.ค. 48 20:56:00 A:10.90.4.94 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เรียนคุณเม่ย คุณสาวสวนพลู เห็นหรือไม่ครับว่า เพื่อนของคุณคนนี้ ได้ "หยาบคาย" อีกแล้ว ทั้งที่ผมเองก็ไม่ได้ไปด่าคุณ หรือด่าเขาเลย หลายประเด็นที่ผมยกมาว่า ข้างต้นนั้น ผมด่า "องค์กร" กลุ่มนี้ที่ทำแบบนี้ เมื่อตอนที่คุณตลก ยกเรื่องของคริสต์มาว่า ทางคุณหลายคนก็รุมกระหน่ำ "หยาบคาย" ใส่เขาไม่เลิก ซึ่งครั้งสองครั้งก็ไม่เป็นไร แต่นี่ไม่เลิกเลย ทั้งที่คุณตลก ก็ไม่ได้หยาบคายอะไรตอบโต้ เมื่อคุณ "ไม่พอใจ" ที่ทางคุณตลกนำเสนออะไรออกมาในทำนองจาบจ้วงคริสต์ ทางผมและอีกหลายคนที่ทนไม่ได้ในเรื่องราวที่ผมได้ยกมา ก็ "ไม่พอใจ" เช่นเดียวกัน คุณอารมณ์ประมาณไหน ผมก็คงอารมณ์ประมาณนั้นเช่นเดียวกันนะครับ  แต่ผมก็ไม่ได้ด่าว่าพวกคุณ "หยาบคาย" ดั่งที่คุณ "ว่า" ผมเลย (จะเรียกว่าผมกระแนะกระแหน ทางคุณก็ไม่เบาเหมือนกันแหละ) ไหนว่ามีความเมตตา ต่อเพื่อนบ้าน ต่อชาวโลก  คุณเจ็บใจเพียงใด ทางเราก็เจ็บใจเพียงนั้นเหมือนกัน ทางคุณไม่อายหรือครับ ที่กล่าวหาว่าผม "หยาบคาย" โดยที่ไม่ได้ดูทางฝั่งคุณเลย ถ้าคุณติดตาม คห. ของผมมาโดยตลอด ผมวานให้คุณยกตัวอย่างสักครั้งหนึ่งมาสิครับ ในเรื่องที่ผมหยาบคาย โดยต่อว่าอะไรพวกคุณ  คำว่า "บัดซบ" นั้นผมใช้ด่าพวกที่มันมีพฤติกรรม "บัดซบ" จริง ๆ ถ้าใครมากระทำกับศาสนาของคุณ มาจาบจ้วงศาสนาของคุณ คุณก็คงไม่อยู่นิ่งหรอกใช่ไหมครับ ผมเห็นกระหน่ำใหญ่ไม่เว้น ไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่ว่าหัวหงอกหรือหัวดำ บางคนในบางกระทู้  ผมเห็นกำลังทะเลาะกันอยู่ ผมเข้าไปชี้แจงในบางเรื่อง เพราะเห็นชักเข้าใจผิดไปกันใหญ่ในเนื้อหา ผมก็โดนกล่าวว่าว่าไปเข้าข้างพวกเดียวกันเอง (ทั้งที่ผมไม่ได้กระโจนลงไปตีกับเขาด้วยเลย)  แถมด่าผมเป็นหมูเป็นหมา ไปเลยโน่น ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรรุนแรงเกินไป เพียงแต่ชี้แจงและตำหนิว่าไม่ควรด่าอะไรแบบนั้น ครับ บางคนก็ฟัง บางคนก็ไม่ฟัง ครับ อยากให้ใช้ความคิดนิดนึง ครับคุณเม่ย คุณสาวสวนพลู ... จากคุณ : สุธี - [ 23 ส.ค. 48 06:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เรียนคุณเม่ย คุณสาวสวนพลู เห็นหรือไม่ครับว่า เพื่อนของคุณคนนี้ ได้ "หยาบคาย" อีกแล้ว ทั้งที่ผมเองก็ไม่ได้ไปด่าคุณ หรือด่าเขาเลย ตอบ     คุณฝากให้คิด ไม่ใช่คาทอลิกค่ะ   เพื่อนๆๆในห้องศาสนาก็เป็นเพื่อนเราทุกคนค่ะ แม้กระทั้งคุณมาว่า เรา  คุณก็เป็นเพื่อนค่ะ หลายประเด็นที่ผมยกมาว่า ข้างต้นนั้น ผมด่า "องค์กร" กลุ่มนี้ที่ทำแบบนี้ ตอบ คุณว่าองค์กร  แต่อารมณ์คุณ ในกระทู้ บอกว่า คาทอลิกบัดซบ เรากลับขอบพระคุณด้วยซ้ำ ในการโปรโมท เมื่อตอนที่คุณตลก ยกเรื่องของคริสต์มาว่า ทางคุณหลายคนก็รุมกระหน่ำ "หยาบคาย" ใส่เขาไม่เลิก ซึ่งครั้งสองครั้งก็ไม่เป็นไร แต่นี่ไม่เลิกเลย ทั้งที่คุณตลก ก็ไม่ได้หยาบคายอะไรตอบโต้ ตอบ คุณใช้บรรทัดฐานของคุณมาวัด เอง จะให้ นายปลาไหลมาร่วมวงด้วย เอาเลยค่ะ  จะได้ร่วมกันโปรโมทความเชื่อของเรา ยิ่งด่ายิ่งดังค่ะ เมื่อคุณ "ไม่พอใจ" ที่ทางคุณตลกนำเสนออะไรออกมาในทำนองจาบจ้วงคริสต์ ทางผมและอีกหลายคนที่ทนไม่ได้ในเรื่องราวที่ผมได้ยกมา ก็ "ไม่พอใจ" เช่นเดียวกัน ตอบ ไม่มีใครทำอะไรความเชื่อคุณเลย มีแต่คุณ กระทบกระเทียบ มาว่าเรา เค้าใหญ่คับฟ้าบ้าง สติปัญญาไม่มีบ้าง เลียนแบบบ้าง จนถึงคำว่า บัดซบ เรากลับขอบพระคุณด้วยซ้ำ คุณอารมณ์ประมาณไหน ผมก็คงอารมณ์ประมาณนั้นเช่นเดียวกันนะครับ  แต่ผมก็ไม่ได้ด่าว่าพวกคุณ "หยาบคาย" ดั่งที่คุณ "ว่า" ผมเลย (จะเรียกว่าผมกระแนะกระแหน ทางคุณก็ไม่เบาเหมือนกันแหละ) ตอบ คำว่าก็ผมไม่ด่าว่าพวกคุณ  คำว่าบัดซบ เป็นคำสุภาพที่ใช้ในตัวคุณใช่มั๊ยค่ะ ต่อไปเวลาเจอหน้าคุณ จะได้บอกว่า สวัสดีค่ะ คุณบัดซบ   ไหนว่ามีความเมตตา ต่อเพื่อนบ้าน ต่อชาวโลก  คุณเจ็บใจเพียงใด ทางเราก็เจ็บใจเพียงนั้นเหมือนกัน ตอบ การเจ็บของคุณ คุณคิดเองเออเอง เบียดเบียนจิตใจตัวเอง   ทางคุณไม่อายหรือครับ ที่กล่าวหาว่าผม "หยาบคาย" โดยที่ไม่ได้ดูทางฝั่งคุณเลย ตอบ  ไม่อายค่ะ เพราะเจอคำว่าบัดซบ และตอกกลับว่า หยาบคายนี้ ยังไม่สมน้ำสมเนื้อเลย ขอโทษนะค่ะ เรายังเป็นประกาศกอยู่ค่ะ   ตาต่อตา ฟันต่อฟัน  ใครตบแก้มซ้ายเรา เรายื่นแก้มขวาให้เค้าตบ ก็ต่อเมื่อ กับคนที่ไม่สุดโต่ง และมีความยึดมั่นในตัวเองสูง ถ้าคุณติดตาม คห. ของผมมาโดยตลอด ผมวานให้คุณยกตัวอย่างสักครั้งหนึ่งมาสิครับ ในเรื่องที่ผมหยาบคาย โดยต่อว่าอะไรพวกคุณ  คำว่า "บัดซบ" นั้นผมใช้ด่าพวกที่มันมีพฤติกรรม "บัดซบ" จริง ๆ ตอบ สติไม่อยู่เหรอค่ะ เลยไม่เห็นว่าเขียนอะไรไป ความคิดเห็นที่ 80  คุณเขียนเองน๊ะ เรื่องบัดซบที่ทางคาทอลิกทำ ก็ไม่ได้เพิ่งทำ ก็ต้องมีคนมาโต้แย้งกันบ้างเป็นธรรมดา  ซึ่งก็ไม่แปลกอีกถ้าในอนาคตจะมีคนมาโต้แย้งกันในเรื่องนี้ และทางคุณก็ต้องหามุขใหม่มาแก้ไขไปได้เรื่อย ๆ ถ้าใครมากระทำกับศาสนาของคุณ มาจาบจ้วงศาสนาของคุณ คุณก็คงไม่อยู่นิ่งหรอกใช่ไหมครับ ผมเห็นกระหน่ำใหญ่ไม่เว้น ไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่ว่าหัวหงอกหรือหัวดำ ตอบ คุณมาว่าความเชื่อของเรา และคุณมาบอกว่า ใครมาจาบจ้วงความเชื่อของคุณ อ่านตั้งแต่ต้นใครมาว่าใครก่อน เฮ้อ บางคนในบางกระทู้  ผมเห็นกำลังทะเลาะกันอยู่ ผมเข้าไปชี้แจงในบางเรื่อง เพราะเห็นชักเข้าใจผิดไปกันใหญ่ในเนื้อหา ผมก็โดนกล่าวว่าว่าไปเข้าข้างพวกเดียวกันเอง (ทั้งที่ผมไม่ได้กระโจนลงไปตีกับเขาด้วยเลย)  แถมด่าผมเป็นหมูเป็นหมา ไปเลยโน่น ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรรุนแรงเกินไป เพียงแต่ชี้แจงและตำหนิว่าไม่ควรด่าอะไรแบบนั้น ตอบ ขอบพระคุณ คุณฝากให้คิดค่ะ ตอบตรงไปตรงมาดี  ยิ่งคุณยิ่งแก้ตัวมากเท่าไหร่ คำตอบดีๆๆออกมาอีกเยอะ ครับ บางคนก็ฟัง บางคนก็ไม่ฟัง ครับ ตอบ แรกๆๆก็เห็นแฟนคลับคุณเยอะน๊ะค่ะ พอๆๆกับนายปลาไหล  อ้อ ตนเป็นที่พึงแห่งตน ความเชื่อเรา รวมเป็นหนึ่งค่ะ อยากให้ใช้ความคิดนิดนึง ครับคุณเม่ย คุณสาวสวนพลู ... ตอบ ก็ใช้ความคิดไงค่ะ แรกๆๆด่าความเชื่อเราชนิดไม่เผาผี ตบท้ายด้วย อีกอย่างหนึ่ง ก็เลยตอบอยู่อย่างงี้ไงค่ะ จากคุณ : สุธี  - [ 23 ส.ค. 48 06:33:46 ] จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 23 ส.ค. 48 07:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ผมผิดหวังจังครับคุณสาวสวนพลู คุณยังไม่เข้าใจในเจตนาและความหมายของผมอยู่ดี  เวลาไหนคุณเดิน ๆ อยู่ดี ๆ คุณได้ยินในทีวีพูดคำว่า "บัดซบ"  คุณต้องเดินไปตบทีวีว่ามันพูดหยาบสิครับ  ได้ยินนักวิชาการหรือใครพูดคำว่าบัดซบ ซึ่งเป็นการบรรยายเนื้อหาในเรื่องนั้น ๆ คุณก็ชี้หน้าเขาว่าพูดหยาบ แม้กระทั่ง คห.93 ของคุณที่คุณตอบผมแบบไม่ใช้ปัญญาเท่าไหร่นี่ก็อุดมไปด้วยคำหยาบ ที่คุณด่าเค้าว่าปลาไหล ฯลฯ ทั้งที่คุณและพวกก็ทำเป็นปลาไหลเหมือนกัน แม้เพื่อนของคุณด่าผมเป็นกระบือบ้างล่ะ อะไรบ้างล่ะก็คงไม่หยาบกระมังครับ ผมบอกแล้วผมไม่ด่าคุณสวนพลู ไม่ได้ด่าคุณเม่ย ไม่ได้ด่า คนในนี้ผมด่า "องค์กร" นั้น  และองค์กรนั้นก็คือวาติกันนั่นเอง จำเป็นต้องให้พูดคำ ๆ นี้ทุกคำหรือ คำว่า "องค์กร" นั้นเป็นสำนวนนั่นเองแหละครับ   และโปรดเข้าใจด้วยนะครับ ถ้าคุณอ่านให้ดีและใช้ความคิดนิดนึง ผมด่าการกระทำของวาติกันนั้น ๆ ที่กระทำการเอากับพุทธอย่างหยาบช้าแบบนั้น (ตามที่ผมพิมพ์ไป และคุณอาจจะไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ เพราะผมเชื่อว่าทางคุณก็คงไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น พวกคุณเป็นแค่ผู้รับผลจาก ฝ่ายกำหนดนโยบายมา ปลูกฝังพวกคุณมา ตามแต่ใจของทางวาติกันจะทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง) ผมผิดหวังอย่างยิ่งในเรื่องของความที่อ้างว่ามีเมตตา ๆ รักเพื่อนบ้าน ผมผิดหวังครับ จนผมชักไม่แน่ใจแล้วว่า พวกคุณกำลังเล่นเกมอะไรกันอยู่หรือเปล่า เล่นเกมศรีธนชัยกับชาวพุทธหรือไม่ โดยเอาความเชื่อ ลัทธิของตัวเอง เป็นหลักชัยในการข่มเหงผู้อื่น (ในที่นี้ "ความเชื่อ" ในความหมายของผมไม่ได้หมายถึงศาสนาคริสต์นะครับ แต่ผมเรียกเอาโดยส่วนตัวเองเองว่า คุณนับถือศาสนาวาติกันดีกว่า  เพราะศาสนาคริสต์ไม่ได้สอนในแบบที่คุณกำลังทำ) ถ้าอ่านดี ๆ แล้วผมไม่ได้ด่าว่าคำสอนของคริสต์เลย  ผมด่าว่า  ความประพฤติของวาติกัน ตะหาก  ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าคุณ "อ่าน" ย่อหน้านี้ของผมเข้าใจหรือไม่ หรือคุณจะโมเมเอาไปปะปนกัน แล้วชี้หน้าประจานผมว่า ผมดูหมิ่น ด่าว่า "ศาสนาคริสต์" กัน  ถ้าลองทำงั้นผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับคุณแล้วหล่ะครับ ... แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 09:21:09 จากคุณ : สุธี - [ 23 ส.ค. 48 09:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 95 คุณฝากให้คิดคะ  รู้สึกสงสัยมั้ยคะว่า คุณสุธีคือแฝดของคุณ Anotsu Kagehisa ตอนแรกไม่ทันสังเกต แต่ตอนนี้ชัดแล้วค่ะ อิอิอิ จากคุณ : aiwen^mei - [ 23 ส.ค. 48 10:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 96 บอกคุณสุธีไว้หน่อยว่า ที่ดิฉันหวดไม้หน้าสามใส่ลุงตลกจอมปลิ้นปล้อนนั้นยังน้อยไป คุณก็ระวังไว้ด้วยถ้ายังคงมาในตะเภาเดียวกัน ดิฉันไม่ใช่คริสตชนใจดีที่ยอมให้คนมาใส่ร้ายป้ายสีโดยที่ไม่มีมูลความจริง แต่เกิดจากการสร้างหลักฐานเท็จของกลุ่มคนที่ไม่มีหิริโอตตัปปะบางคนแน่ เพราะคุณฝากให้คิดรู้ทันพวกคุณน่ะสิ ถึงได้กระชากหน้ากาก จับรูดเมือก กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่จะมีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีสักนิดก็หาไม่ ยังกระทำการอยู่อย่างนั้น สมควรแล้วที่ถูกเรียกว่า กระบือ ให้พวกคลั่งลัทธิสนตะพายเอาง่าย ๆ หรือคุณว่าไม่จริง ก็โต้มา ยิ่งโต้ก็ยิ่งเข้าเนื้อคุณนั่นแหละ แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 48 10:52:02 จากคุณ : aiwen^mei - [ 23 ส.ค. 48 10:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ก่อนอื่นผมบอกก่อนนะครับ ไม่เคยใช้ชื่ออะไรนอกจากชื่อนี้เลยนะครับ อย่าเดาเลยครับ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณนี่ครับที่คุณจะตามกัด จิก คุณตลกเขา เพียงแต่ในกรณีหยาบคายที่คุณกล่าวหาผม (ย้ำ อ่านดี ๆ นะครับคุณเม่ย ผมหมายถึงในกรณีหยาบคาย) ผมก็ยกตัวอย่างให้คุณฟังเฉย ๆ แม้กรณีของผมที่ผมโดนก็ตาม  ผมเองก็ไม่เคยไปหยาบคายอะไรกับพวกคุณทั้ง ๆ ที่ผมเจ็บแค้น แบบที่คุณเจ็บแค้นคุณตลก เรื่องราวของพฤติกรรมของวาติกัน คุณอาจจะได้รับการสอนมาอีกแบบหนึ่งที่ เห็นว่าการกระทำของเขานั้นไม่เป็นความผิดอันใด ก็แล้วแต่คุณสิครับ เพราะผมบอกแล้วว่าผมไม่หวังจะหาความรับผิดในหมู่วาติกันอยู่แล้ว  ผมบอกแล้วว่าผมเพียงแค่ทำหน้าที่ของชาวพุทธที่ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมที่ชักจะมากไปแล้วของวาติกัน (ผมใช้คำนี้ดีกว่านะครับ เพราะไม่อยากให้ใครมาเหมาโมเม ฉ้อฉล ว่าผมไปว่าใครอีก) ซึ่งไม่มีใครไปห้ามเขาได้หรอกครับ มันมีอำนาจวาสนาจะตายไป อันนี้ก็แล้วแต่คุณนะครับ  ผมเชื่อว่า ผู้อ่านที่ไม่ได้ "วาติกัน" นิยม นั้นก็มองเห็นครับ โดยเฉพาะเรื่องคำหยาบ (และเข้าใจใน "การใช้") และเรื่องพฤติกรรมอันหยาบช้าของวาติกัน และผมเองก็ไม่ได้ "ด่า" อะไรทางคุณหยาบคายเลย (เรื่องเสียดสีอย่ามาว่ากันนะครับ ทางคุณเสียอีกเสียดสีได้แสบ และบางคนด่าผมเป็นหมูเป็นหมา เป็นกระบือไปโน่นเลย)  เรื่องนี้ก็เช่นกัน ทางคุณยังไม่ได้มองตัวเองและยอมรับในจุดนี้เลยสักครั้งอีกเช่นกัน จากการที่คุณบอกว่าคุณฝากให้คิดบอกว่ารู้ทัน พูดอย่าฝ่ายเดียว แต่ที่เขาด่าผมว่ากระบือเอยอะไรเอย ไม่ยักกะบอกว่าเป็นคำหยาบ โลกของคุณมันประกอบด้วยอะไรกันแน่ครับคุณ เม่ย หรือว่าทางคุณไม่รู้จักคำว่าคุณธรรมกันแล้ว ... จากคุณ : สุธี - [ 23 ส.ค. 48 11:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ก่อนอื่นผมบอกก่อนนะครับ ไม่เคยใช้ชื่ออะไรนอกจากชื่อนี้เลยนะครับ อย่าเดาเลยครับ +++ ไม่ได้เดาค่ะ  แต่ยิ่งมา ก็พูดจาเยิ่นเย้อ อวดตัวว่าแฟร์  และ ฯลฯ ไม่ต่างกันกับคนที่เคยใช้ชื่อ Anotsu Kagehisa ถ้าไม่ใช่ ก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ว่า มีความคิดอคติและหลงเชื่อเหมือนกันเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง กลายเป็นสามช่าไปซะแล้ว เฮ้อ --------------------------------- ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณนี่ครับที่คุณจะตามกัด จิก คุณตลกเขา เพียงแต่ในกรณีหยาบคายที่คุณกล่าวหาผม (ย้ำ อ่านดี ๆ นะครับคุณเม่ย ผมหมายถึงในกรณีหยาบคาย) ผมก็ยกตัวอย่างให้คุณฟังเฉย ๆ แม้กรณีของผมที่ผมโดนก็ตาม  ผมเองก็ไม่เคยไปหยาบคายอะไรกับพวกคุณทั้ง ๆ ที่ผมเจ็บแค้น แบบที่คุณเจ็บแค้นคุณตลก +++ ถ้าคุณแน่ใจว่าคุณไม่ได้หยาบคาย นั่นก็ดีแล้ว เป็นผลดีต่อตัวคุณเอง ส่วนเรื่องที่คุณเข้าใจว่า เจ็บแค้นลุงตลกนั้น เห็นทีคุณจะเข้าใจผิด เพราะดิฉันเวทนาลุงตลกมากกว่า แต่พูดดี ๆ ไม่รู้เรื่อง ก็ต้องเปลี่ยนวิธีการพูด เผื่อจะฉลาดขึ้นมาบ้าง แต่ในที่สุดก็พบว่า ไร้ประโยชน์ไม่ได้ผล คงเพราะสมองส่วนที่รู้จักวิเคราะห์หาเหตุผลถูกล้างและครอบงำไปเรียบร้อยแล้ว --------------------------------- เรื่องราวของพฤติกรรมของวาติกัน คุณอาจจะได้รับการสอนมาอีกแบบหนึ่งที่ เห็นว่าการกระทำของเขานั้นไม่เป็นความผิดอันใด ก็แล้วแต่คุณสิครับ เพราะผมบอกแล้วว่าผมไม่หวังจะหาความรับผิดในหมู่วาติกันอยู่แล้ว  ผมบอกแล้วว่าผมเพียงแค่ทำหน้าที่ของชาวพุทธที่ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมที่ชักจะมากไปแล้วของวาติกัน (ผมใช้คำนี้ดีกว่านะครับ เพราะไม่อยากให้ใครมาเหมาโมเม ฉ้อฉล ว่าผมไปว่าใครอีก) ซึ่งไม่มีใครไปห้ามเขาได้หรอกครับ มันมีอำนาจวาสนาจะตายไป +++ รับทราบว่านี่คือวิจารณญาณของคุณ จะแค่นี้หรือแค่ไหนก็นะ ------------------------------------ อันนี้ก็แล้วแต่คุณนะครับ  ผมเชื่อว่า ผู้อ่านที่ไม่ได้ "วาติกัน" นิยม นั้นก็มองเห็นครับ โดยเฉพาะเรื่องคำหยาบ (และเข้าใจใน "การใช้") และเรื่องพฤติกรรมอันหยาบช้าของวาติกัน +++ ความคิดของคุณและใครบางคนหยาบช้าต่างหากเล่า ----------------------------------- และผมเองก็ไม่ได้ "ด่า" อะไรทางคุณหยาบคายเลย (เรื่องเสียดสีอย่ามาว่ากันนะครับ ทางคุณเสียอีกเสียดสีได้แสบ และบางคนด่าผมเป็นหมูเป็นหมา เป็นกระบือไปโน่นเลย)  เรื่องนี้ก็เช่นกัน ทางคุณยังไม่ได้มองตัวเองและยอมรับในจุดนี้เลยสักครั้งอีกเช่นกัน จากการที่คุณบอกว่าคุณฝากให้คิดบอกว่ารู้ทัน พูดอย่าฝ่ายเดียว แต่ที่เขาด่าผมว่ากระบือเอยอะไรเอย ไม่ยักกะบอกว่าเป็นคำหยาบ +++ คำว่า กระบือ นี่หรือเป็นคำหยาบ ? เลือกคำสุภาพมาใช้แล้วคุณ ------------------------------- โลกของคุณมันประกอบด้วยอะไรกันแน่ครับคุณ เม่ย หรือว่าทางคุณไม่รู้จักคำว่าคุณธรรมกันแล้ว ... +++ นี่ยิ่งน่าหัวร่อ คุณแน่ใจนะว่า คุณเข้าใจคำว่า "คุณธรรม" ดีพอ จากคุณ : aiwen^mei - [ 23 ส.ค. 48 14:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เหอ เหอ ......ถึงเวลาที่จะต้องเปิดหน้ากากของนายสุธี แล้วละ จากกระทู้เก่า.....http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K2730211/K2730211.html......ผมไม่ได้เซฟชื่อกระทู้ไว้น่ะ >>> ความคิดเห็นที่ 36 ฮ่าๆๆ คุณอุษาวดีครับ ผมน่ะไปประชุมที่วัดบวร ฯ อยู่เป็นประจำ อาการประชวรได้เห็นอยู่เสมอ ผมช่วยงานอยู่ที่ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาครับ มาดูข้อเขียนคุณอุษาวดีใน คคห 32 เป็นจุดๆ "จริงๆแล้วไม่ค่อยอยากตอบคุณสุธีเท่าไหร่ เพราะเข้ามาประเด็นเดิมว่า ทำไม คณะสงฆ์ไทย จึงไม่ยอมรับ แถลงการณ์ดังกล่าว"--------- ข้อความนี้คุณอุษาวดีตะแบงไม่ยอมรับมติที่ถูกต้องตามกฏหมายของมหาเถรสมาคม แต่กลับไปยึดมติพระบางรูปบางพวกเรียกซะใหญ่โตว่า มติคณะสงฆ์ไทย 1 การที่คุณวิษณุจะใช้อำนาจตั้งผู้แทนได้นั้น สมเด็จพระสังฆราชจะต้องไม่สามารถปฎิบัติศาสนกิจได้ หรือสิ้นพระชนม์ แต่ที่ผ่านมารอแล้วรอเล่า ก็ไม่มี รายงานแพทย์ฉบับใดยืนยันว่า สมเด็จพระสังฆราชอยู่ในสภาพเหมือนที่คุณอุดมออกมาพูดในรายการช่อง 11 ว่าพระองค์ท่านเป็นโรคความจำเสื่อมอย่างรุนแรง และมีอาการเหมือนคนมาจากอวกาศ-------ข้อความนี้ของคุณอุษาวดี คุณอัพสาโมตอบไปบ้างแล้ว ขอเสริมอีกว่าคณะแพทย์ได้มีความเห็นออกมาแล้ว หมอที่เคยถวายการรักษาก้ออกมาให้สัมถาษณืแล้ว อ่าน คคห ของ พล.ต.อ.อุดม ที่ผมโพสท์ไว้ใน คคหที่ 31 อีกทีก็ได้ผมลงชื่อจริง ยศจริง ตำแหน่งจริง นามสกุลจริงของท่าน ถ้าผมแอบอ้างก็ซวยสิครับ และการที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง วัดบวรฯออกแถลงการสนับสนุนรัฐบาล ทำเป็นไม่เห็นกันเลยนะครับ การคัดค้านที่มาจากสายหลวงตาที่เดียว จากคุณ : สุธี - [ 24 มี.ค. 47 22:40:39 A:202.133.134.122 X: ความคิดเห็นที่ 40 โกหกอย่างไร้หิริโอตัปปะมากเลยเรื่องคำว่า อวกาศ ผมก็มีวีดีโอคลิปคำพูดของนายอุดม ในรายการกรองสถานการณ์ ใครดูวันนั้นได้ยินชัดเจน นอกจากเทปที่ยังไม่ได้แก้ไขเหมือนของที่คุณดูแล้ว ยังมีประจักษ์พยานจำนวนมากที่ได้ดูในวันนั้น เขาพูดออกมาเองเลย ว่าสมเด็จพระสังฆราชพูดเหมือนคนพึ่งกลับมาจากอวกาศ ได้ยินกันสองหูทั่วประเทศ ก็พึ่งรู้ว่าคนจากศูนย์พิทักษ์นี่ โกหกกันหน้าด้านๆ กลางสถานที่สาธารณะอย่างไร้ยางอายเช่นนี้ แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 47 23:10:00 แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 47 23:06:51 จากคุณ : อุษาวดี - [ 24 มี.ค. 47 23:06:07 ] ++++++++++++++ ที่กระทู้นี้ จะได้เห็นนายสุธี คนหนึ่งที่มาจากองค์กรหนึ่งได้ตอบโต้กับคุณอุษาวดี จากอีกสำนักหนึ่ง ตอนที่นายสุธีคนนี้ เข้ามาแบบมีอมยิ้ม....ผมก็ไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่ แต่จากข้อมูลที่นายสุธี คนนี้ เอามา post โดยเฉพาะในกระทู้นี้ ก็ขอฟันธงไปเลยว่า น่าจะเป็นคนเดียวกัน.....มีที่มา ที่ไป แนวความคิดมาจากองค์กรดังกล่าว ผู้อ่านลองพิจารณากันเองก็แล้วกัน และเท่าที่ติดตามมา นายตลกปลาไหลตัวดำดำก็ยอมรับตั้งแต่สมัยเป็น "ชายลึกลับ " แล้วว่าได้รับการอบรมมาจากองค์กรนี้นี้เช่นกัน 55555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 23 ส.ค. 48 20:14:35 A:10.90.5.126 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 100 คุณเม่ยครับ นายสุ๊ คนนี้ ไม่ใช่นายอาโน ศิษย์ ดร. ผู้ชาย คนนั้นหรอก นายอาโน น่ะมีลักษณะการ post ที่มีหลักฐานมาประกอบเสมอ.....แต่เป็นหลักฐานที่ยกเอามาบางส่วน ส่วนนายสุธี คนนี้น่ะ post ด้วยข้อมูลที่เลื่อนลอย.....จากนั้นก็เอาแต่ "ขวิด" ลูกเดียว เพราะนายสุธียังเคยขอหลักฐาน ข้อมูลจากนายตลกปลาไหลตัวดำดำ มาช่วยสนับสนุนข้อมูลที่ยกมาลอยๆ เลย ทั้งๆ ที่นายตลกปลาไหลตัวดำดำ ยังหาหลักฐานมาให้ดูไม่ได้ เรื่องที่ไปตัดต่อข้อมูลจากหนังสือของท่านเสรี พงศ์พิศ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 23 ส.ค. 48 20:31:04 A:10.90.5.126 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 101 นายสุธี จะเชื่ออย่างหัวปัก หัวปำ กับข้อมูลเลื่อนลอย ที่ได้รับจากองค์กรของตน.......ไม่ได้พิจารณาว่าน่าเชื่อถือเพียงใด ลองดูตัวอย่างจากกระทู้นี้ก็แล้วกัน จาก ความคิดเห็นที่ 80 >>> นำใบปลิวของตนไปแจกที่หน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีข้อความในใบปลิวล้วนแล้วแต่ยกย่องพระเจ้าของตนและประนาฒหยามหมิ่นคนที่สร้างรูปเคารพ เคารพรูปเคารพจนถึงสาบแช่งให้ตกนรก เช่น "บรรดาคนที่ไปติดตามพระเจ้าองค์อื่น ๆ ในชีวิตย่อมพบกับภัยพิบัติไม่จบสิ้น ชีวิตในโลกหน้ายิ่งหนีไปพ้นการพิพากษา ให้ตกอยู่ในบึงไฟชั่วนิรันดร์ เพราะพระคัมภีร์ได้กล่าวว่า คนไหว้รูปเคารพ มรดกของเขาอยู่ในบึงไฟ และกำมะถันที่กำลัไหม้อยู่" <<< อย่างนี้ใครๆ ก็กล่าวหา ใส่ร้ายได้ ......แต่ก็คงมีแต่กระบือเท่านั้นที่จะเชื่อว่าเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องจริง มันก็เป็นแค่คำบอกเล่า ใส่ร้าย ตามสับดานนั่นแหละ ขนาดหนังสือ เอกสาร ยังทำการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน ใส่ร้ายได้เลย..... นับประสาอะไร...กับข้อมูลเลื่อนลอย ที่เอามาใส่ร้ายอย่างนี้น่ะ มันแสดงให้เห็นความพยายามที่จะใส่ร้ายอย่างไร้สำนึกต่อบาปของ "กระบือคลั่งศาสนา" ที่ข้างบนก็มีให้เห็นจากกระทู้นี้น่ะ....http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3669236/Y3669236.html.....พระพุทธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติไทย ที่กระทู้นั้น นายตลกปลาไหลตัวดำดำ ป้ายสีใส่ร้ายว่า..."................."แต่คุณดุสิต ถูกศาสนาอื่นเขาขัดขวางการเข้าสภาในการเลือกตั้งครั้งหลังๆ โดยไปทุ่มปัจจัยช่วยเหลือฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่ายังไงต้องกันคุณดุสิตให้ได้ แล้วสมัยต่อมาคุณดุสิตก็สอบตก" ทั้งๆ ที่ ท่านอดีต สส.ดุสิต ไม่ได้สอบตกสักหน่อย....แต่ที่ไม่ได้สมัคร สส. ในสมัยต่อมาก็เพราะเรื่องส่วนตัวของท่าน.....ตามเหตุผลของที่ได้มาจากผู้จัดการออนไลน์ มันแสดงให้เห็น แนวความคิดของผู้คนที่ถูกปลุกระดมให้เกลียดชังศาสนาอื่น....ทำได้ทุกวิธี โดยอ้างว่า "ตอบโต้" ศาสนอื่น ทำตัวเป็นแบบในนิทานอีสป เรื่อง "หมาป่ากับลูกแกะ" อย่างนั้นแหละ สร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา......อ้างว่าเกิดขึ้นในอดีต......เพื่ออ้างความชอบธรรมที่จะ "ตอบโต้" แต่ผลประโยชน์ที่ได้ก็คือ เอาไว้ใส่ร้ายป้ายสีเพื่อนร่วมศาสนา ที่มีแนวความคิดไม่ตรงกับฝ่ายตน.....ว่าไปร่วมมือกับศาสนาอื่นมาทำลายศาสนาของตน จริงไหม??? จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 23 ส.ค. 48 20:51:06 A:10.90.5.126 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ส่วนเรื่อง "คำหยาบ" น่ะ จะบอกให้ก็ได้ว่า.....ทีแรก ผมก็ไม่อยากจะเข้ามาโต้แย้งกับนายสุธี คนนี้หรอก เพราะจากกระทู้เก่าๆ ......หลายผู้หลายคนก็จะถูก ด่าว่า เสียดสี ไปไม่น้อย ผมเองก็ไม่อยากจะเปลืองตัวนักหรอก.....แต่ก็ทนไม่ไหว และผมก็รู้ว่า.....การที่จะ post แบบเรียบๆ กับเหล่ากระบือคลั่งศาสนา .....ก็คงต้องใช้แนวทางการ post แบบนี้น่ะแหละ แต่เท่าที่ผมกระทำเสมอมาในการ post .....ก็คือ เสนอความจริง เพื่อให้ผู้อ่านตัดสินเอาเอง และที่ผ่านมา ก็จับ "โกหก" พวกกระบือคลั่งศาสนาได้ไม่รู้กี่กระทู้แล้ว 5555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 23 ส.ค. 48 20:58:34 A:10.90.5.126 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 103 โอ ว่าจะไม่กลับมาอ่านแล้ว เดี๋ยวนะครับคุณเม่ย คุณ ฝากให้คิด ขอเวลานอกหน่อยครับ ตอนผมเข้ามาเล่นกระทู้พันธุ์ทิพย์ครั้งแรกเลยผมยัง ใช้อะไรไม่เป็นเลย ครั้งแรกผมใช้ "บัตรผ่าน" เมื่อประมาณ พฤษภาคม 2547  ตอนนั้นผมใช้ชื่อว่า DVD ผมเพิ่งมาสมัครโดยใช้ชื่อ "สุธี" หลังจากนั้น ก็คงประมาณ กค. 47 มั๊งครับ (หรือใกล้ ๆ นั้นแหละ) ผมไม่เคยใช้ชื่อ สุธี โดยไม่มีตัวอมยิ้มเลยนะครับ ตั้งแต่เล่นกระทู้พันธุ์ทิพย์มาผมใช้แค่สองชื่อนี้เท่านั้นนะครับ  มีคราวหนึ่ง มีคนเข้ามาใช้ชื่อ sutee (ภาษาอังกฤษ) ครั้งหนึ่งแล้ว ผมก็โดนเข้าใจผิดหนหนึ่งแล้ว เรียนไว้เข้าใจด้วยครับ คุณจะได้ไม่ด่าผิดคน หรือแบ่ง "วาจาทุจริต" ของคุณไปให้คน ๆ นั้น จะได้ถูกคน ... จากคุณ : สุธี - [ 24 ส.ค. 48 07:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เหอ เหอ......คุณสุธี ไม่ผิดคนหรอก.....เพราะที่ผมเข้ามาแย้งคุณ ก็ตรงกระทู้นี้ ส่วนที่คุณสุธี (คนโน้น) ไปตอบโต้กับ คุณอุษาวดี น่ะไม่เกี่ยวกับผมเลย แต่ที่เชื่อว่าเป็นคนเดียวกัน....ก็เพราะ "ข้อมูลเลื่อนลอยที่ให้ร้ายคริสต์" ที่คุณยกเอามา post นี่แหละ.....ที่ทำให้ผมเชื่อน่ะ คุณสุธีเอา "ข้อมูลเลื่อนลอยที่ให้ร้ายคริสต์"......แล้วสรุปด้วยการ "ด่า เสียดสี" ศาสนาอื่นด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก็เพราะคุณเชื่อข้อมูลเหล่านั้นไปแล้ว....คุณจึงแสดงออกด้วยอารมณ์ที่โกรธแค้นรุนแรง ผมน่ะค้นคว้าและพิสูจน์ด้วยตนเอง .....จึงได้พบพฤติกรรมที่เลวร้ายในการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน เอกสารต่างๆ แม้กระทั่งประชุมพงศาวดาร บันทึกการเดินทางของบาทหลวง ฯลฯ เพื่อโจมตีคริสต์ ผู้ที่จัดทำ "เอกสารเท็จ ที่บิดเบือน" เหล่านี้....รู้ดีว่า ความน่าเชื่อถือด้านวิชาการของพวกเขา จะทำให้ผู้คนทั้งหลายเชื่อข้อมูลที่พวกเขาจัดทำขึ้น....โดยไม่ได้สงสัยเลย จึงไม่ได้ไปหาหนังสือเล่มจริงมาเปรียบเทียบ ส่วนผมน่ะ ด้วยความที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ....จึงได้ไปค้นคว้า หาเอกสารมาเปรียบเทียบ แม้บางเล่มจะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เพราะเป็นหนังสือเก่าที่หายาก.....ก็พบกับความจริงอันน่าสมเพชของนักวิชาการ มือถือสากปากถือศีล ใช้ความน่าเชื่อถือด้านวิชาการ.....ทำการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน เอกสารกันอย่างไม่ละอายต่อบาป ตั้งแต่นั้นมา ผมเลยไม่เชื่อข้อมูลที่นำเสนอมาง่ายๆ...... หลายกระทู้ที่ผมขอให้นายตลก ตั้งแต่ยังใช้ชื่อเดิมอยู่.....ให้นำเอกสารตัวจริงไป scan มาให้อ่านเทียบกัน.....แทนที่จะยกมาแบบเป็นท่อนๆ ........ ผลก็คือ ไม่เคย scan มาได้เลยสักครั้งเดียว......ได้แต่บ่ายเบี่ยง เลี่ยงไปเลี่ยงมา ดังนั้น นับประสาอะไรกับ "ข้อมูลที่เลื่อนลอย" ที่คุณได้ยิน ได้ฟัง มาจากองค์กรคลั่งศาสนา....ทางคุณเองก็ไม่เคยคิดสงสัยเลย......เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงไปแล้ว ปากบอกว่าไม่แน่ว่าจะเป็น "เรื่องจริง" หรือไม่.......แต่ตอนท้ายจะ "ด่าทอ เสียดสี" ด้วยถ้อยคำรุนแรง ...มันแสดงถึง "ความโกรธแค้น" ที่คุณมีอยู่ในใจออกมา ลองกลับไปอ่าน "ความคิดเห็น" ของคุณเองในกระทู้นี้นี่แหละ......มันชัดเจนจริงๆ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 24 ส.ค. 48 22:30:22 A:10.90.4.191 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 105 แล้ว "ข้อมูลเลื่อนลอย" ที่ยกเอามาใน ความคิดเห็นที่ 80 อีกอัน ที่ว่า......ในอดีตไปเอาผ้าขาวไปติดที่คอเจดีย์วัดนางปลื้มอยุธยามีข้อความว่า "ชาวอยุธยายินดีขอต้อนรับ คาดินัล ไมเคิล มีชัย กิจบุญชู โดยไม่ให้เกียรติกันเลย" ผมขอถามหน่อยนะ..... 1. คุณได้รับข้อมูลนี้มาจากไหน?? 2. "คอเจดีย์" ที่ว่านี่น่ะ......เป็นส่วนไหนของเจดีย์ 3. วัดนางปลื้ม นี้น่ะ เป็น วัดที่อยู่ตรงไหนของอยุธยา 4. คุณไม่สงสัยเลยหรือว่า....ใครมันจะ "อุตริ" ปีนไปที่ "คอเจดีย์".......แล้วเอาผ้าขาวไปติดเอาไว้.....แล้วคนอยุธยาไม่โกรธแค้นกันเลยหรือ???......เพราะป้ายผ้านี้น่าจะติดในที่ที่น่าจะเห็นกันทั่ว 5. คุณไม่สงสัยเลยหรือว่ากระทำการขนาดนั้น.....ทำไมกล่าวหาเพียงแค่ "โดยไม่ให้เกียรติกันเลย"........เพราะที่ฝรั่งไปถ่ายหนังกัน แล้วปีนป่ายโบราณสถาน คนไทยยังประท้วงกันใหญ่โตแทบทุกครั้ง จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 24 ส.ค. 48 22:45:07 A:10.90.4.191 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ก็แล้วแต่คุณจะคิดสิครับ สิ่งที่ผมโต้กับ คุณสาวสวนพลู ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ คุณเข้ามาแส่เองนั้นคือ 1. แย้ง , ตำหนิ ในครั้งแรกที่มีการนำคำของพุทธไปใช้ (ซึ่งนักวิชาการทางการศาสนาทั่วโลกที่เป็น "ปัญญาชน" เขาทราบกันทั่วแล้ว) ไปใช้ปะปนไปมาอย่างผิดพลาด และลามไปถึงเรื่องเก่าที่ทางคาทอลิกเคยกระทำเอาไว้อย่างไม่ละอายใจ (ซึ่งทางฝ่ายคาทอลิกและพวกไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าละอายแต่ประการใด แต่กลับเห็นว่าเป็นเรื่องชอบธรรมที่จะไปเบียดเบียนรุกรานผู้อื่นได้อย่างเสรี รวมทั้งพวกคุณ ๆ ที่เป็นคนรุ่นหลังที่ถูกปลูกฝังว่าการกระทำแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่เสียหายอะไร) ซึ่งผมก็ได้ด่า "วาติกัน" ไปแล้วด้วยคำทำนองว่า "บัดซบ" , "เลวทราม"  ตามสมฐานที่ทางเขากระทำกับพุทธ (ซึ่งบอกแล้วทางคุณไม่เชื่อ อาจจะเพราะคุณโดนทางนายเหนือของพวกคุณปิดหูปิดตา หรือไม่ก็ทำการเกลื่อนการกระทำโดยการตีความใหม่ ให้ดูดี ให้ดูชอบธรรม แล้วก็ปลูกฝังเยาวชนรุ่นใหม่ให้เชื่อตาม ซึ่งดูยังไงก็ไม่ชอบธรรมอยู่ดีในสายตาของวิญญูชน เพราะในการที่ทางฝ่ายคาทอลิกเอง มีสิทธิอะไรที่นำคำของพุทธไปใช้ ซึ่งทางการเอย ทางพุทธเอย โต้แย้ง ขอร้อง เขียนจดหมาย ประท้วง ไปนานแล้วก็เพิกเฉยเสียอย่างนั้น ซึ่งคุณก็คงไม่เชื่อว่า "เหตุการณ์" เหล่านี้ ทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายคุณเกิดขึ้นจริง) 2. โต้แย้งในทำนอง "ศรีธนชัย" ของพวกคุณเองที่คุยกันแล้ว "เล่นคำ" โดยไม่เข้าใจในความหมายของผม เช่น - ผมแค่ "เล่า" เรื่องธรรมดา ๆ แท้ ๆ ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย และไม่ได้ขอความเห็นหรืออะไรทั้งสิ้น แต่ทางคุณ (ไม่แน่ใจว่าสาวสวนพลู , หรือคุณเม่ยจำไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ 'ฝากให้คิด' อยู่ดี แส่เองแท้ ๆ) ก็กลับเสียดสีผมว่า "ไม่ได้แสดงให้ถึงการใช้สมองอะไร หรือว่าง่าย ๆ คือ "เขียนโง่ ๆ" - ผมด่าวาติกัน (เพราะการกระทำของเขา ซึ่งทางคุณไม่เชื่อ แต่พึงเข้าใจไว้ตรงนี้ก่อนว่า เป็นความเจ็บแค้นของผม เหมือนกับทางคุณเจ็บแค้นคุณตลก ... ตรงนี้คิดตามด้วยนะครับ) ไม่ได้ด่าบุคคลใดโดยเฉพาะเลย แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ผมก็ไม่ได้ด่า สาว ๆ สองคนนั้นเลย แม้แต่ 'ฝากให้คิด' ผมก็ไม่ได้ด่า มีแต่คุณทั้งหมด ด่าผมเสีย ๆ หาย ๆ หยาบ ๆ คาย ๆ ทั้งสิ้น  แต่ทางคุณก็กล่าวหาผมว่าผม "หยาบคาย"  ผมประท้วงไปด้วยเหตุผลข้างต้น แต่ก็ไม่สนใจจะฟัง และทำท่าจะไม่เข้าใจ กลับยืนยันความเชื่อเดิมของตน โดยไม่ลืมหูลืมตา ว่า "ข้อเท็จจริง" เป็นอย่างไร เหตุผลนั้นคือ ทางคุณหยาบ ๆ คาย ๆ กับผมอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน แต่กลับไม่เห็น "ความหยาบคาย" ของตัวเอง เพ่งแต่จะโยน "ความหยาบคาย" นั้น มาที่ผมคนเดียว ผมไม่สนเรื่องราวต่าง ๆ ที่คุณ 'ฝากให้คิด' จะกะล่อนปลิ้นปล้อนไหลลื่นไปต่าง ๆ หรอก เพราะ "เล่ห์ลิ้น" ของทางคุณซึ่งเตรียมการในการแก้ตัวนั้นกระทำกันมานานแล้ว แต่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแล้ว และมองยังไงมันก็จาบจ้าง "เบียดเบียน" กันก่อนแล้ว ทั้งนั้น ครับ  มีสองข้อเท่านั้นกระมัง ที่เป็นเหตุให้โต้แย้งกันกับคุณ "สาวสวนพลู" และ "เม่ย" (ซึ่งก็ยังไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับคุณ "ฝากให้คิด" อยู่ดีแหละ) โปรดติดตามให้ดีแล้วกันว่า ผมเองไม่ได้เคย ด่า "พระเยซู" , "คำสอนของคริสต์" หรือท้าทายอะไรเลย (นอกจากโดนท้าทายในเชิงจาบจ้วงพุทธก่อน ซึ่งก็ไม่ใช่ที่นี่กับคุณสาว ๆ สองคนหรือหนึ่งหนุ่ม (ที่แส่เข้ามาทีหลัง) เลย) ผมเองก็บอกแล้วไม่ทราบเหมือนกันว่า พวกคุณกำลังเล่นเกมอะไรกัน หรือว่าทางฝ่ายคุณโดนสั่งโดนสอนให้เป็นไปอย่างนี้ก็ไม่ทราบนะครับ เอาเป็นว่าจบแค่นี้แล้วกัน นะครับ ไปคุยอะไรที่มันมีสาระมากกว่านี้ดีกว่า อ้อ เรื่องคุณสุธีอีกคนนั้น คุณจะคิดอย่างไร เชื่ออย่างไรแล้วแต่คุณ ผมได้ชี้แจงไปแล้ว ... จากคุณ : สุธี - [ 25 ส.ค. 48 06:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ขอบคุณคุณฝากให้คิดเป็นอย่างสูงค่ะ พอดีเมื่อวานไม่ได้เข้ามาอ่าน เข้าใจแจ่มแจ้งเลยค่ะคราวนี้ จากคุณ : aiwen^mei - [ 25 ส.ค. 48 09:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 108 อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เวลามีใครตั้งกระทู้สงสัยในความประพฤติของพระภิกษุสงฆ์ ก็เกิดอาการหวาดระแวงว่าคนศาสนาอื่นมาโพสต์ แทนที่จะใช้สมองพินิจพิจารณาวิเคราะห์ดูว่า อุบาสก อุบาสิกา ที่ได้พบเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านั้นเป็นจริงหรือไม่ และจะแก้ไขอย่างไร กลับโยนขี้ไปให้คนอื่นโดยไม่เกรงกลัวบาป ตัวอย่างกระทู้ของลุงตลก http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3665855/A3665855.html จากคุณ : aiwen^mei - [ 25 ส.ค. 48 10:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ก็แล้วแต่คุณจะคิดสิครับ สิ่งที่ผมโต้กับ คุณสาวสวนพลู ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ คุณเข้ามาแส่เองนั้นคือ ตอบ อ้อ แล้วว่ากระทบกระเทียบพี่aiwen^mei ละ ไปดูกระทู้ต้นๆๆน๊ะ 1. แย้ง , ตำหนิ ในครั้งแรกที่มีการนำคำของพุทธไปใช้ (ซึ่งนักวิชาการทางการศาสนาทั่วโลกที่เป็น "ปัญญาชน" เขาทราบกันทั่วแล้ว) ไปใช้ปะปนไปมาอย่างผิดพลาด และลามไปถึงเรื่องเก่าที่ทางคาทอลิกเคยกระทำเอาไว้อย่างไม่ละอายใจ (ซึ่งทางฝ่ายคาทอลิกและพวกไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าละอายแต่ประการใด แต่กลับเห็นว่าเป็นเรื่องชอบธรรมที่จะไปเบียดเบียนรุกรานผู้อื่นได้อย่างเสรี รวมทั้งพวกคุณ ๆ ที่เป็นคนรุ่นหลังที่ถูกปลูกฝังว่าการกระทำแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่เสียหายอะไร) ซึ่งผมก็ได้ด่า "วาติกัน" ไปแล้วด้วยคำทำนองว่า "บัดซบ" , "เลวทราม"  ตามสมฐานที่ทางเขากระทำกับพุทธ ตอบ เชิญด่า ขนาดด่าว่า คาทอลิกบัดซบ ยกมาให้ดู เชิญแก้ตัว ตามสะบาย  มาว่าวาติกันอีก เฮ้อ (ซึ่งบอกแล้วทางคุณไม่เชื่อ อาจจะเพราะคุณโดนทางนายเหนือของพวกคุณปิดหูปิดตา หรือไม่ก็ทำการเกลื่อนการกระทำโดยการตีความใหม่ ให้ดูดี ให้ดูชอบธรรม แล้วก็ปลูกฝังเยาวชนรุ่นใหม่ให้เชื่อตาม ซึ่งดูยังไงก็ไม่ชอบธรรมอยู่ดีในสายตาของวิญญูชน เพราะในการที่ทางฝ่ายคาทอลิกเอง มีสิทธิอะไรที่นำคำของพุทธไปใช้ ซึ่งทางการเอย ทางพุทธเอย โต้แย้ง ขอร้อง เขียนจดหมาย ประท้วง ไปนานแล้วก็เพิกเฉยเสียอย่างนั้น ซึ่งคุณก็คงไม่เชื่อว่า "เหตุการณ์" เหล่านี้ ทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายคุณเกิดขึ้นจริง) ตอบ  ถ้าปิดตาได้ เรื่องราวไม่เผยแพร่ขนาดนี้หรอก ข่าวสารมีเยอะ CNN BBC รอยเตอร์ ทำจดหมายไปน๊ะ ที่เค้าเฉย เพราะเค้าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า หันไปดูตัวเองบ้าง ว่า ในส่วนของตัวเองวุ่นวายไม่พอเหรอไง ไปจัดการกับตัวเองก่อน ค่อยมากระแนะกระแหนคนอื่น 2. โต้แย้งในทำนอง "ศรีธนชัย" ของพวกคุณเองที่คุยกันแล้ว "เล่นคำ" โดยไม่เข้าใจในความหมายของผม เช่น - ผมแค่ "เล่า" เรื่องธรรมดา ๆ แท้ ๆ ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย และไม่ได้ขอความเห็นหรืออะไรทั้งสิ้น แต่ทางคุณ (ไม่แน่ใจว่าสาวสวนพลู , หรือคุณเม่ยจำไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ 'ฝากให้คิด' อยู่ดี แส่เองแท้ ๆ) ก็กลับเสียดสีผมว่า "ไม่ได้แสดงให้ถึงการใช้สมองอะไร หรือว่าง่าย ๆ คือ "เขียนโง่ ๆ" ตอบ ก็เล่นคำ ทำให้เกิด วิวาทะไง อย่างงี้เล่นคำไปเรื่อยๆๆ อ้อ คนอื่นความคิดต่ำไปหมด ฉลาดจังเน๊อะ - ผมด่าวาติกัน (เพราะการกระทำของเขา ซึ่งทางคุณไม่เชื่อ แต่พึงเข้าใจไว้ตรงนี้ก่อนว่า เป็นความเจ็บแค้นของผม เหมือนกับทางคุณเจ็บแค้นคุณตลก ... ตรงนี้คิดตามด้วยนะครับ) ไม่ได้ด่าบุคคลใดโดยเฉพาะเลย แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ผมก็ไม่ได้ด่า สาว ๆ สองคนนั้นเลย แม้แต่ 'ฝากให้คิด' ผมก็ไม่ได้ด่า มีแต่คุณทั้งหมด ด่าผมเสีย ๆ หาย ๆ หยาบ ๆ คาย ๆ ทั้งสิ้น  แต่ทางคุณก็กล่าวหาผมว่าผม "หยาบคาย"  ผมประท้วงไปด้วยเหตุผลข้างต้น แต่ก็ไม่สนใจจะฟัง และทำท่าจะไม่เข้าใจ กลับยืนยันความเชื่อเดิมของตน โดยไม่ลืมหูลืมตา ว่า "ข้อเท็จจริง" เป็นอย่างไร ตอบ ข้อเท็จจริง คุณฝากให้คิด เขียนให้ดู ยกหลักฐานตริม เชิญเถียงตามสะบายค่ะ เหตุผลนั้นคือ ทางคุณหยาบ ๆ คาย ๆ กับผมอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน แต่กลับไม่เห็น "ความหยาบคาย" ของตัวเอง เพ่งแต่จะโยน "ความหยาบคาย" นั้น มาที่ผมคนเดียว ตอบ เค้าตอบก็ใช้ภาษาที่เรียบง่ายเข้าใจ คุณเล่นมาด่าความเชื่อคนอื่นก่อน แล้วมาร้องเรียน ต้องการ เอาความสุภาพคืน จะบอกอะไรให้น๊ะ   คุณด่าเสียดสีเรา แปลกใจม๊ะ ทำไมเราไม่ว่าความเชื่อคุณเลย เพราะไม่บ้าจี้ตามเกมส์คุณไง คุณกะให้เราสติแตกมาด่าความเชื่อคุณ และคนในความเชื่อของคุณมารุมด่า เกมส์นี้อะ เด็กๆๆเค้าทำกันจ๊ะ ผมไม่สนเรื่องราวต่าง ๆ ที่คุณ 'ฝากให้คิด' จะกะล่อนปลิ้นปล้อนไหลลื่นไปต่าง ๆ หรอก เพราะ "เล่ห์ลิ้น" ของทางคุณซึ่งเตรียมการในการแก้ตัวนั้นกระทำกันมานานแล้ว ตอบ เอ้าหาว่าเตรียมการแก้ตัวนานแล้ว เอาเค้าไป พิมพ์หนังสืออกมาไม่กี่เล่ม ด่าความเชื่อคนอื่น ชนิดเทสาดเทเสีย ดีแล้ว ยึดติดตรงนั้นอะ  ไปได้ไกลน่าดูเลย แต่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแล้ว และมองยังไงมันก็จาบจ้าง "เบียดเบียน" กันก่อนแล้ว ทั้งนั้น ตอบ ใครเบียดเบียนใครก่อนกันแน่ ครับ  มีสองข้อเท่านั้นกระมัง ที่เป็นเหตุให้โต้แย้งกันกับคุณ "สาวสวนพลู" และ "เม่ย" (ซึ่งก็ยังไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับคุณ "ฝากให้คิด" อยู่ดีแหละ) ตอบ ก็สังเกตสิ มีใครบ้าจี้ ไปด่าเสียดสีความเชื่อคนอื่นบ้าง นอกจากกกกกกกกกกก คิดเองน๊ะ โปรดติดตามให้ดีแล้วกันว่า ผมเองไม่ได้เคย ด่า "พระเยซู" , "คำสอนของคริสต์" หรือท้าทายอะไรเลย (นอกจากโดนท้าทายในเชิงจาบจ้วงพุทธก่อน ซึ่งก็ไม่ใช่ที่นี่กับคุณสาว ๆ สองคนหรือหนึ่งหนุ่ม (ที่แส่เข้ามาทีหลัง) เลย) ตอบ แต่ด่า คาทอลิกบัดซบ  ปากบอกว่าศึกษาอย่างลึกซึ้ง โห ลึกซิ้งน่าดูเลย ผมเองก็บอกแล้วไม่ทราบเหมือนกันว่า พวกคุณกำลังเล่นเกมอะไรกัน หรือว่าทางฝ่ายคุณโดนสั่งโดนสอนให้เป็นไปอย่างนี้ก็ไม่ทราบนะครับ ตอบ ที่ตอบก็เพราะมีพวกอย่างคุณอยู่ไง เลยต้องตอบ ใครจะบ้าจี้ให้มาด่าเสียดสีความเชื่อของตัวเองละ เอาเป็นว่าจบแค่นี้แล้วกัน นะครับ ไปคุยอะไรที่มันมีสาระมากกว่านี้ดีกว่า ตอบ คิดได้ก็ดีแล้ว เข้าตัวเองปล่าวๆๆ อ้อ เรื่องคุณสุธีอีกคนนั้น คุณจะคิดอย่างไร เชื่ออย่างไรแล้วแต่คุณ ผมได้ชี้แจงไปแล้ว ... ตอบ  ด่าเองตอบเอง จบสวยหรูเอง   ความเชื่อใหนเนี่ยะ จากคุณ : สุธี  - [ 25 ส.ค. 48 06:08:40 ] จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 25 ส.ค. 48 13:20:07 ]

ความคิดเห็นที่ 110 55555........กระบือยังไงก็เป็นกระบือ ที่บอกไว้ข้างบนว่า.... >>> ความคิดเห็นที่ 106 ก็แล้วแต่คุณจะคิดสิครับ สิ่งที่ผมโต้กับ คุณสาวสวนพลู ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ คุณเข้ามาแส่เองนั้นคือ.... <<< จำไม่ได้กระทั่งความเห็นที่ตนเองกล่าวห่ ด่าทอไว้ที่ ความคิดเห็นที่ 22 น่ะ....... ลองกลับไปอ่านอีกที......จะเตือนความจำให้ >>> "ส่วนเขาจะกะล่อนหาทางหลีกเลี่ยงเป็นปลาไหล (เหมือนที่พวกเขาให้ฉายาเพื่อนในกระทู้ในนี้แหละ แต่พวกเขาลื่นและบัดซบกว่าเยอะ)" เหอ เหอ ...มันมีกระบือความจำสั้น ได้ใช้คำ "บัดซบ" ก่อนที่ผมจะเริ่มเข้ามาออกความคิดเห็นในกระทู้นี้ซะอีก.......เพราะผมเริ่มเข้ามาที่ ความคิดเห็นที่ 25 นายสุธีเองน่ะ ที่เจ็บแค้นแทนนายตลกปลาไหลตัวดำดำ .....เลยหลุดคำว่า "บัดซบ" ออกมา ถามจริงเถอะ.....มันไม่หยาบคายรึ???? คำว่า "ปลาไหล" มันเป็นคำเปรียบเทียบ ที่รู้กันมานานแล้วระหว่าง ผมกับนายตลกปลาไหลตัวดำดำ....... ก็เพราะพฤติกรรมการ post ในแนวปลาไหลของตัวตลกนั่นแหละ ผมคงต้องย้อนกลับไปว่า.....แล้วกระบือคลั่งศาสนาเข้ามา "เจือก" ทำไมล่ะ พฤติกรรมแบบนี้น่ะแหละ.....ที่ผมเคยตั้งข้อสังเกตไว้ว่า.....ลักษณะการ post ของกระบือคลั่งศาสนามักจะเป็นแบบส่องกระจกแล้ว post มันช่างตอกย้ำให้เห็นชัดเจนจริงๆ 5555555555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 25 ส.ค. 48 19:39:14 A:10.90.4.176 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 111 แล้วในส่วนที่ว่า... >>> ผมไม่สนเรื่องราวต่าง ๆ ที่คุณ 'ฝากให้คิด' จะกะล่อนปลิ้นปล้อนไหลลื่นไปต่าง ๆ หรอก เพราะ "เล่ห์ลิ้น" ของทางคุณซึ่งเตรียมการในการแก้ตัวนั้นกระทำกันมานานแล้ว <<< โถ นายกระบือเอ๊ย คนที่เข้ามาในห้องนี้นานข้ามปี ก็คงจะรู้ว่าที่มาที่ไปของข้อมูลที่ผมไปค้นคว้านำมาตอบน่ะมาจากไหน??? มันก็เริ่มจากที่นายตลกปลาไหลตัวดำดำ สมัยที่ยังเป็น "ชายลึกลับ" นำข้อมูลที่มาจากหนังสือของ ดร. ผู้ชายมาลง.....แถมอ้างว่าอ้างอิงมาจากหนังสือประชุมพงศาวาวดาร จนกระทั่ง ผมต้องไปหาหนังสือนี้มาอ่านจนได้......แล้วก็นำมาแสดงให้เห็น การตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือนประวัติศาสตร์ และที่ยาวนานมากก็คือ กระทู้ที่คุณเลดี้ฯ เอาบทความของ ดร. ผู้หญิงผู้หนึ่งมาตั้งกระทู้ กระทู้เหล่านั้น ถูกลากยาวไปตั้ง 5 ภาค ใน 2 ภาคแรก ผมไม่สามารถหาหนังสือมายืนยันได้......จนกระทั่งถึง ภาคที่ 3 จึงได้ไปหาหนังสือบันทึกของบาทหลวงตาชาร์ด เล่ม 2 เอามาเปรียบเทียบ.....โดยไปค้นได้จาก "หอสมุดแห่งชาติ" จึงสามารถนำข้อมูลจากหนังสือเล่มจริง...มาเทียบกับ ข้อความที่ถูกบิดเบือน.....ให้ผู้อ่านได้พิจารณา ว่าเป็นการตัดต่อ แต่งเติม บิดเบือน เรื่องต่างๆ เหล่านี้น่ะ....มันเก็บอยู่ใน "คลังกระทู้เก่า" น่ะ ลองไปอ่านดู......ก็จะรู้ว่า....มันไม่ใช่อย่างที่คุณบอกว่า "ผมไม่สนเรื่องราวต่าง ๆ ที่คุณ 'ฝากให้คิด' จะกะล่อนปลิ้นปล้อนไหลลื่นไปต่าง ๆ หรอก เพราะ "เล่ห์ลิ้น" ของทางคุณซึ่งเตรียมการในการแก้ตัวนั้นกระทำกันมานานแล้ว" แต่มันตรงกันข้ามกันเลย.....เพราะองค์กรที่ได้ประโยชน์จากการทำเอกสารบิดเบือนให้ร้ายคริสต์น่ะ....มันได้ทำการบิดเบือนให้ร้ายคริสต์มานานแล้ว นานพอที่จะปลุกระดมเหล่ากระบือคลั่งศาสนา ที่เที่ยวไล่ขวิด ใส่ร้ายผู้ที่มีความเห็น ความเชื่อ ไม่ตรงกับตน ......อย่างที่เห็นกันอยู่ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 25 ส.ค. 48 19:58:19 A:10.90.4.176 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 112 นายสุธีเอ๊ย.... รู้หรือเปล่าว่า ในกระทู้นี้น่ะ......นายน่ะได้ถูกปอกเปลือก "ล่อนจ้อน" เหมือนนายตลกปลาไหลตัวดำดำ ไปแล้ว นายทำตัว "สุภาพ" ได้ไม่นานหรอก......เพราะ "สับดาน" เดิมที่ชอบด่า เสียดสี ผู้คนที่ต่างความเชื่อ มันแก้ไม่หายหรอก ผู้อ่านเองจะเป็นผู้ตัดสินเองแหละว่า.....ข้อมูลของใครที่เป็นข้อมูลเท็จ และกลุ่มใด องค์กรใด กันแน่ที่ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ปลุกระดมผู้คน ให้ "คลั่งศาสนา" ได้อย่างที่กระบือคลั่งศาสนาได้แสดงให้เห็นในกระทู้นี้ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 25 ส.ค. 48 20:04:59 A:10.90.4.176 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 113 วานคุณเม่ย หรือ คุณสาวสวนพลูก็ได้ ชช่วยเก็บกระทู้ข้างล่างนี้ ไว้ใน "คลังกระทู้เก่า" ด้วย นี้...http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3669228/Y3669228.html....พุทธ คริสต์ อิสลาม มีการทำสมาธิ เพื่อให้จิตรวม สงบใจ หรือไม่อย่างไร และกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3669236/Y3669236.html......พระพุทธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติไทย เอาไว้ทวงถาม "ความสุภาพ" จากกระบือคลั่งศาสนา เวลาลืมตัวน่ะ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 25 ส.ค. 48 20:08:09 A:10.90.4.176 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ส่วนที่ว่า.. .>>>ผมแค่ "เล่า" เรื่องธรรมดา ๆ แท้ ๆ ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย และไม่ได้ขอความเห็นหรืออะไรทั้งสิ้น แต่ทางคุณ (ไม่แน่ใจว่าสาวสวนพลู , หรือคุณเม่ยจำไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ 'ฝากให้คิด' อยู่ดี แส่เองแท้ ๆ) ก็กลับเสียดสีผมว่า "ไม่ได้แสดงให้ถึงการใช้สมองอะไร หรือว่าง่าย ๆ คือ "เขียนโง่ ๆ" <<< ตอบได้สั้นกว่านั้น... ผมแค่บอกว่า......."กระบือคลั้งศาสนา" ก็คิดได้แค่นี้น่ะแหละ มองอะไรไม่เคยไกลไปกว่าหัวแม่ตีนตนเองเลย นี่ก็ตอกย้ำตัวตนของนายอีกนั่นแหละ 55555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 25 ส.ค. 48 20:14:02 A:10.90.4.176 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ส่วนที่ว่า.... >>> - ผมด่าวาติกัน (เพราะการกระทำของเขา ซึ่งทางคุณไม่เชื่อ แต่พึงเข้าใจไว้ตรงนี้ก่อนว่า เป็นความเจ็บแค้นของผม เหมือนกับทางคุณเจ็บแค้นคุณตลก ... ตรงนี้คิดตามด้วยนะครับ) ไม่ได้ด่าบุคคลใดโดยเฉพาะเลย <<< ลองใช้ "สมองกระบือ" มองกลับให้ดีซิ ผมน่ะ "เล่น" ที่ตัวบุคคล ส่วนคุณน่ะจาบจ้วง "สถาบัน" ของพวกคาทอลิก.....เพราะหลงเชื่อการปลุกระดมโดยข้อมูลที่ถูกบิดเบือน มันเทียบกันได้ไหม???? เวลามีใครมาด่าหรือจาบจ้วง "บุพการี" ของคุณสุธี.....คุณสุธีคงเฉยซินะ ลองใช้ "หัวแม่ตีน" ตรองดูซิ.....ว่ามันเทียบกันได้ไหมระหว่างด่าตัวบุคคล กับ สถาบันที่ผู้คนอื่นเคารพ อันนี้ก็ตอกย้ำ .....ความเป็น "กระบือคลั่งศาสนา" ของคุณน่ะแหละ 5555555555555 จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 25 ส.ค. 48 20:25:36 A:10.90.4.176 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ส่วน เรื่อง "คุณสุธีอีกคนนั้น" ...........มันไม่ได้ขึ้นกับว่า "ผม จะคิดอย่างไร เชื่ออย่างไร" เท่านั้น แต่ผมต้องการเสนอ "ข้อมูล" ให้ผู้อ่านได้ร่วมพิจารณาด้วย........ก็แค่นั้น จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 25 ส.ค. 48 20:32:09 A:10.90.4.176 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]

ความคิดเห็นที่ 117 วานคุณเม่ย หรือ คุณสาวสวนพลูก็ได้ ชช่วยเก็บกระทู้ข้างล่างนี้ ไว้ใน "คลังกระทู้เก่า" ด้วย นี้...http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3669228/Y3669228.html....พุทธ คริสต์ อิสลาม มีการทำสมาธิ เพื่อให้จิตรวม สงบใจ หรือไม่อย่างไร และกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3669236/Y3669236.html......พระพุทธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติไทย เอาไว้ทวงถาม "ความสุภาพ" จากกระบือคลั่งศาสนา เวลาลืมตัวน่ะ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 25 ส.ค. 48 20:08:09 A:10.90.4.176 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ] ขอบพระคุณค่ะ จากคุณ : สาวสวนพลู - [ 25 ส.ค. 48 21:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ความคิดเห็นที่ 113   วานคุณเม่ย หรือ คุณสาวสวนพลูก็ได้ ชช่วยเก็บกระทู้ข้างล่างนี้ ไว้ใน "คลังกระทู้เก่า" ด้วย นี้... http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3669228/Y3669228.html ....พุทธ คริสต์ อิสลาม มีการทำสมาธิ เพื่อให้จิตรวม สงบใจ หรือไม่อย่างไร และกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3669236/Y3669236.html ......พระพุทธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติไทย เอาไว้ทวงถาม "ความสุภาพ" จากกระบือคลั่งศาสนา เวลาลืมตัวน่ะ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 25 ส.ค. 48 20:08:09 A:10.90.4.176 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ] +++ ด้วยความยินดีค่ะ คุณฝากให้คิด ที่น้องสาวสวนพลูทำไว้คลิกดูไม่ได้ เลยต้องเว้นวรรคให้ใหม่ค่ะ และเก็บเข้าคลังกระทู้เก่าให้เรียบร้อยแล้วค่ะ +++ ขอบพระคุณคุณฝากให้คิดที่สละเวลาตรวจสอบข้อมูลเพื่อทำความจริงให้ปรากฏเป็นอย่างสูงค่ะ จากคุณ : aiwen^mei - [ 26 ส.ค. 48 10:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ขอบคุณที่ช่วยเก็บกระทู้นี้ไว้ที่คลังกระทู้เก่าครับ.... เวลาที่ผมอ้างอิงข้อมูลเก่าจะได้มี "หลักฐาน" ยืนยันน่ะ จากคุณ : ฝากให้คิด - [ 26 ส.ค. 48 20:50:33 A:10.90.5.243 X:202.28.181.8 TicketID:000903 ]