CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ชี้แจงเรื่อง รัฐอิสลาม (เชิญชวนพี่น้องคริสเตียนด้วยครับ)

    ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่านครับ

           กระทู้นี้ผมโพสต์ขึ้นเพื่อการชี้แจงความเข้าใจในหลักการทางศาสนาของอิสลาม  อันเนื่องมาจากว่า มีผู้ที่ใช้นามแฝง ที่ชื่อ talok กระทำการดั่งคนไร้วิจารณญาณ โดยวิธีการบิดเบือนหลักการของศาสนาอิสลามให้เป็นไปในทางเสียหาย  โดยที่ทางบรรดาพี่น้องมุสลิมต่างก็ได้ทำการตักเตือนและชี้แจงแล้วแต่ก็ยังดื้อด้าน  นำเอาสิ่งที่ไม่ใช่หลักการทางศาสนาอิสลามมาบิดเบือนให้เป็นหลักการทางศาสนาให้ได้  ซึ่งพฤติกรรมนี้เคยกระทำต่อผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์มาแล้ว (หากชาวคริสต์ท่านใดพบเห็น กรุณายืนยันด้วยก็ดีครับ)
            ดังนั้นผมในฐานะของมุสลิมคนหนึ่งจึงขอชี้แจงอย่างเป็นทางการ  ในหลักการที่ถูกต้องของศาสนาอิสลามเพื่อลบล้างข้อกล่าวหาและข้อมูลที่บิดเบือนของผู้ไม่หวังดี ที่ไม่มีความรู้ทางศาสนาอิสลามเลย

    อ้างอิงจากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3823630/Y3823630.html

              ในประเด็นแรกที่ต้องความเข้าใจกันก่อนก็คือว่า ศาสนาอิสลามนั้น ถือว่าหลักการและข้อบัญญัติทั้งหมดมีที่มาจาก พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน และซุนนะห์ (กิจปฏิบัติ, แนวทาง ,คำกล่าว และพฤติกรรม) ของท่านศาสดามูฮัมมัด (ศ็อลฯ)  ข้อบัญญัติหรือหลักการใด ๆ ทั้งหมดที่ขัดแย้งกับ 2 สิ่งนี้อิสลามถือว่าเป็นโมฆะ  ไม่สามารถใช้อ้างอิง หรือนำไปปฏิบัติโดยอ้างว่าเป็นหลักการของศาสนาได้  ดังที่กุรอานกล่าวว่า
    “จงเชื่อฟังอัลลอฮฺและจงเชื่อฟังรอซูล” (กุรอาน 4:59)
    และดังที่ท่านศาสดาได้กล่าวว่า
    " ฉันได้ทิ้งมรดกแก่ประชาติของฉันไว้ 2 อย่าง คือ อัล-กรุอ่านและ ซุนนะห์ของฉัน ผู้ที่ยึด 2สิ่งนี้ไว้ เขาจะไม่มีวันหลงทาง"

    ดังนั้น หลักฐานอื่นใดที่นอกเหนือไปจาก 2 สิ่งนี้ ไม่เป็นที่อนุมัติและห้ามอย่างเด็ดขาดในการยึดถือและปฏิบัติตาม  เพราะอิสลามไม่ใช่ศาสนาเพื่อความพึงพอใจส่วนบุคคล หรือ ศาสนาเพื่อการประนีประนอมคล้อยตามแนวทางใด

    ประการแรก เรื่องรัฐอิสลาม
              คัมภีร์กุรอานได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าเป้าหมายและจุดประสงค์ของรัฐอิสลามก็คือการสถาปนา การดำรงรักษาและการพัฒนาคุณธรรมซึ่งพระผู้เป็นเจ้าประสงค์ที่จะทำให้ชีวิตมนุษย์มีความเจริญรุ่งเรืองและทำลายความชั่วช้านานาประการที่จะเป็นอุปสรรคต่อความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ รัฐจะต้องวางนโยบายการเมืองบนพื้นฐานแห่งความยุติธรรม บนความจริงและบนความซื่อตรง ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ รัฐอิสลามไม่ได้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเพิกเฉยต่อความทุจริต ความผิด ความอยุติธรรมเพียงเพื่อเห็นแก่ความสะดวกทางการเมืองและความง่ายดายทางการปกครองเท่านั้น ความถูกต้อง ความยุติธรรม และความซื่อตรงจะต้องมาก่อนสิ่งอื่นใดเสมอ

            ในสภาวะสงครามหรือ ในกรณีอื่น ๆ เลือดเนื้อของมนุษย์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะยอมเสียไม่ได้ถ้าหากปราศจากเหตุผลที่สมควรหรือสุดวิสัยจริงๆ อิสลามห้ามกดขี่ข่มเหงสตรี เด็ก และคนชรา คนที่ได้รับความเจ็บป่วย คนที่ไม่มีเสื้อผ้าใส่จะต้องได้รับการปฏิบัติและดูแลรักษาอย่างทั่วถึง โดยไม่คำนึงถึงว่าเขาผู้นั้นจะเป็นคนในสังคมมุสลิมหรือคนที่อยู่ในหมู่ศัตรู สิทธิเช่นนี้และสิทธิอื่นอีกหลายประการเป็นสิ่งที่ธรรมนูญแห่งอิสลามได้กำหนดให้รัฐต้องมอบให้แก่มนุษย์ทุกคน ไม่ว่าเขาจะมีเชื้อชาติอะไร สีผิวใด หรือเป็นชนชั้นไหนก็ตาม

            นอกจากนื้แล้ว อิสลามก็ยังได้กำหนดสิทธิบางประการให้แก่ผู้ที่มิใช่มุสลิมซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐอิสลามเอาไว้ในรัฐธรรมนูญอีกด้วย กล่าวคือ รัฐอิสลามมีพันธกรณีที่จะต้องให้หลักประกันและความคุ้มครองต่อชีวิตทรัพย์สินและเกียรติยศแก่พวกที่มิใช่มุสลิมชึ่งอาศัยอยู่ในรัฐอิสลาม เช่นเดียวกับพลเมืองมุสลิม ภายใต้กฎหมายอันเดียวกันด้วย และรัฐอิสลามก็ไม่มีสิทธิอันใดที่จะไปแทรกแซงหรือก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลของคนที่มิใช่มุสลิม รัฐอิสลามให้สิทธิเสรีภาพแก่คนที่มิใช่มุสลิมทุกคนในอันที่จะนับถือศาสนาและประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อถือของตน

            ส่วนเรื่องของภาษีที่เก็บแก่คนที่ไม่ใช่มุสลิมนั้น เรียกว่า ภาษีญิซซะฮ์ แต่ทั้งนี้มิใช่ว่า  รัฐอิสลามจะเก็บภาษีเฉพาะคนที่มิใช่มุสลิม  คนมุสลิมเองก็ต้องถูกรัฐเก็บภาษีเช่นเดียวกัน นั่นคือภาษีซะกาต

    ซะกาต นั้น ในความเข้าใจของคนต่างศาสนามักเข้าใจว่า มันคือการทำทาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ซะกาต คือทานบังคับ หรือภาษีนั่นเอง ที่เก็บเพื่อไปใช้ในการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส การพัฒนาสังคมและสิ่งสาธารณประโยชน์ของประเทศ    ส่วนการทำทานที่เป็นความสมัครใจนั้น อิสลามเรียกว่า เซาะดาเกาะฮ์ คือเป็นการบริจาคทานโดยความเมตตา ไม่มีการบังคับอัตราการบริจาค หรือช่วงเวลา ซึ่งแตกต่างจากซะกาต

    ในการจัดตั้งรัฐอิสลาม จำเป็นต้องมีองค์ประกอบเบื้องต้นที่สำคัญประการหนึ่ง นั่นคือ ระบบคอลีฟะห์ หรือระบบตัวแทนในการปกครองรัฐ  ซึ่งในปัจจุบันนั้นระบบนี้ได้หายไปแล้วและยังไม่มีการสถาปนาขึ้นมาใหม่

    ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนว่า ไม่มีรัฐใด หรือประเทศใดที่เป็นรัฐอิสลาม อย่างแท้จริง  ดังนั้นพฤติกรรมและการกระทำอันใดก็ตามที่มาจากรัฐหรือประเทศนั้น ๆ จะนำมาใช้กล่าวอ้าง หรือ เป็นหลักฐานในการแสดงอุดมการณ์ของ รัฐอิสลาม ตามความหมายที่แท้จริงไม่ได้  การนำเอาตัวอย่างของประเทศเหล่านี้มาเป็นข้ออ้างในการตั้งรัฐอิสลามจึงไม่สมเหตุผลด้วยประการทั้งปวง

    มีต่อครับ  >>>>>>


    แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 48 21:34:25

    จากคุณ : kheedes - [ วันปิยมหาราช 21:31:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป