ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่านครับ
.....ในหลักการเรื่อง พระเจ้า (God) นั้น มีการอธิบายในหลาย ๆ ทฤษฎี และมักจะพยายามหมายรวมเอาพระเจ้า ในความเชื่อ หรือลัทธิต่าง ๆ เข้ารวมกัน...จนกลายเป็นว่า พระเจ้าในศาสนาหนึ่ง ก็ไม่ได้แตกต่างจากอีกศาสนาหนึ่ง และเป็นต้นเหตุนำไปสู่บทสรุปแห่งการเข้าใจพระเจ้าแบบผิด ๆ และการปฏิเสธพระเจ้าในเวลาต่อมา
.......ศาสนาแห่งบรรดาชาวคัมภีร์นั้น (ยิว คริสต์ อิสลาม) ยอมรับและศรัทธาในการมีอยู่แห่งพระผู้เป็นเจ้า และเป็นสายธารเดียวที่สืบทอดมาจากอาดัม ซึ่งในความเป็นจริงพระเจ้าของชาวคัมภีร์ล้วนแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความเข้าใจเรื่องพระเจ้าของบรรดาชนกลุ่มอื่น ที่มิใช่ชาวคัมภีร์ โดยเฉพาะความเข้าใจเรื่องพระเจ้าของหมู่ชนตะวันออกไกล และชาวชมพูทวีปที่ศรัทธาในเรื่องความสัมพันธ์ของพระเจ้าที่ถูกอธิบายในพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ และวัฏจักรชีวิตแบบวงกลม
.....ในศาสนาอิสลามนั้น พระเจ้า จะมีคำนามว่า "อัลเลาะห์" ซึ่งแปลความหมายได้ว่า พระเจ้าองค์นั้น พระเจ้าองค์เดียว...ประเด็นของการใช้ศัพท์คำว่า "อัลเลาะห์" ในการเรียกพระองค์นั้นมุ่งความหมายหลายประเด็น
1.คำว่า อัลเลาะห์ ในภาษาอาหรับเป็นคำเฉพาะ...หมายความว่า คำนี้จะไม่ถูกเรียกสิ่งอื่นที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงอีก ตัวอย่างเช่น คำว่า "กุรอาน" นั้น ถูกใช้ใน 2 ความหมาย คือ การรวบรวม และการอ่าน เป็นต้น แต่คำว่าอัลเลาะห์นั้น ไม่ใช่เช่นนั้น แต่มีความหมายไปในทางเดียว ที่ไม่ก่อให้เกิดความกำกวมในความหมาย
2.คำว่า อัลเลาะห์ นั้นเป็นคำเอกพจน์ ไม่ระบุเพศ...หมายความว่า อัลเลาะห์นั้น ต้องมีเพียง 1 สิ่ง และไม่ใช่เพศชาย หรือหญิง อันเนื่องมาจากว่า ไวยากรณ์ในภาษาอาหรับนั้น จะระบุคำศัพท์ที่ใช้เฉพาะเพศชาย หรือเพศหญิงไว้ การใช้คำเอกพจน์ ไม่ระบุเพศนั้น คือการแสดงความพิเศษของความหมายที่ซ่อนอยู่ และขอบเขตของการนิยามสิ่งนั้น ๆ
......แล้วพระเจ้า ในศาสนาอิสลาม คือสิ่งใด?
.....อัลกุรอานได้กล่าวถึง พระเจ้าในลักษณะต่าง ๆ ไว้ เรียกว่า คุณลักษณะ (ซิฟัต) และการดำรงอยู่ (ซาต) ...ในการที่จะเข้าใจพระเจ้านั้น จำเป็นต้องเข้าใจถึง สภาวะแห่งพระผู้เป็นเจ้า ด้วย...เมื่อใดที่รู้จักพระเจ้า แต่ไม่สามารถเข้าถึงภาวะแห่งพระผู้เป็นเจ้าได้ ย่อมเกิดข้อกังขามากมายต่อ การดำรงอยู่ของพระองค์ และนำไปสู่การสิ้นศรัทธา และปฏิเสธพระองค์ในที่สุด
คุณลักษณะของพระองค์นั้น มีกล่าวไว้มากมายในกุรอาน แต่คุณลักษณะที่จำเป็น และเพียงพอต่อความเข้าใจในระดับพื้นฐานนั้น มีอยู่ 20 ประการ แบ่งเป็น 13 คุณลักษณะ และ 7 สภาวะได้แก่
1.วุญุด แปลว่า มี - หมายความว่า พระองค์เป็นสิ่งที่มี ไม่ใช่เป็นเพียงจินตนาการเลื่อนลอย หรือแค่สสารในมโนคติ...และการมีอยู่ของพระองค์นั้น ไม่ใช่การมีอยู่แบบวัตถุ ที่ต้องการเนื้อที่ เวลา หรือองค์ประกอบอื่น ๆ มาประกอบขึ้นเป็นพระองค์
2.กิดัม แปลว่า ดั้งเดิม - หมายความว่า พระองค์เป็นอยู่อย่างนั้นตลอดกาล คือการดำรงภาวะอยู่อย่างนิรันด์ ที่ไม่มีจุดเริ่ม หรือจุดจบ ...คำว่า ปฐมเหตุที่ใช้กับพระองค์นั้น ไม่ได้แปลว่า เกิดก่อน แต่แปลว่า มีอยู่อย่างนั้นอยู่แล้ว ดังนั้น ความเข้าใจที่ว่า พระองค์เกิดก่อนทั้งหมดจึงผิดโดยสิ้นเชิง
3.บะกอ แปลว่า คงสภาพ - หมายความว่า การมีอยู่ของพระองค์นั้น จะไม่มีการเสื่อมสูญ หรือสูญสลายไปตามกาลเวลา หรือแปรเปลี่ยนจากสิ่งหนึ่ง ไปเป็นอีกสิ่ง นั่นคือไม่มีการเปลี่ยนแปลงกับพระองค์
4.มุคอละฟะตูฮู้ลฮะวาดิส - หมายความว่า แตกต่างจากทุกสรรพสิ่ง นั่นคือ จะไม่มีสิ่งใด สิ่งหนึ่งเหมือน หรือคล้ายพระองค์...ซึ่งนั่นหมายรวมถึง การพยายามจินตนาการหรือนึกภาพรูปร่างหน้าตาของพระองค์ สิ่งใดที่เกิดมีขึ้น สิ่งนั้นไม่ใช่พระองค์
5.กิยามุฮูบินัฟซิฮี - หมายความว่า ดำรงอยู่ด้วยพระองค์เอง นั่นคือ การดำรงอยู่ในภาวะของพระองค์นั้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งพา หรือเกี่ยวข้องกับสิ่งใด พระองค์ไม่ใช่วัตถุธาตุหรือสิ่งที่มาประกอบกันเป็นพระองค์...นั่นเป็นความเข้าใจพระเจ้าในแบบที่ผิด เพราะความเป็นจริงคือ พระองค์เป็นเอกภาพ เป็นสิ่งเดียว ไม่ใช่สิ่งประกอบ ที่ต้องพึ่งพาอย่างอื่น
6.วะดานียะห์ แปลว่า องค์เดียว นั่นคือ พระองค์เป็นเพียงพระเจ้าองค์เดียว ไม่มีองค์ที่ 2 , 3 หรือมีสิ่งอื่นมาเทียบเคียง
การมีอยู่เพียงพระองค์เดียวนั้น ท่านคอลีฟะห์อาลี (ร.ด.) อธิบายว่า
"...การที่กล่าวว่าพระเจ้าทรงเป็นเอกะ นั้นมีความหมาย 4 ประการ ซึ่ง 2 ส่วนนั้นไม่ถูกต้อง แต่อีก 2 ส่วนนั้นถูกต้อง ...สองส่วนที่ไม่ถูกต้องคือ 1.การกล่าวว่า พระเจ้ามีเพียงหนึ่ง โดยตั้งจำนวนไว้ในใจ เช่นนี้ไม่ถูกต้องเพราะ สิ่งที่ไม่มีสองย่อมไม่อาจผนวกเข้ากับระบบจำนวนเลขได้ 2.พระองค์เป็นเอกะ โดยมีความหมายว่ามาจากกลุ่ม หรือประเภทเดียวกัน ( เช่น นายกรัฐมนตรีที่มีคนเดียว แต่ถูกคัดมาจากกลุ่มหรือประเทศ นั้น ๆ เช่นนายกฯจากประเทศไทย เป็นต้น) เช่นนี้ถือว่าผิด เพราะการเปรียบเทียบไม่สามารถใช้กับพระองค์ได้
...อีกสองส่วนที่ถูกต้อง คือ 1.พระเจ้าทรงมีหนึ่งเดียว ที่หมายความว่าพระองค์ไม่เหมือนกับสิ่งใด ๆ เลย ...กับ 2.พระเจ้าทรงเป็นหนึ่งเดียว ที่หมายความว่า ไม่มากไปกว่าหนึ่ง ไม่อาจจำแนก หรือแปรสภาพได้ ทั้งภายใน ภายนอก ในสติปัญญา หรือในจินตนาการ..."
คุณลักษณะอีก 14 ข้อ...หากมีโอกาส จะได้นำมาอธิบายต่อ
ขอพระผู้เป็นเจ้าอำนวยพรแก่ทุกท่าน
ด้วยจิตคารวะ
จากคุณ :
kheedes
- [
27 ธ.ค. 48 17:29:39
]