แต่ก่อนที่ผมจะมีรัก
ผมคิดเข้าข้างตัวเองเมื่อเห็นเพื่อนที่เป็นแฟนกัน มันสวีทกัน
ว่า ความรักไม่มีก็ไม่ตายหรอก ไม่เคยคิดที่จะถามตัวเองว่า ความรักคืออะไร
และพยายามทำตัวให้เคยชินกับการอยู่คนเดียว
ในฐานะผู้ชายธรรมดา มีความคิดธรรมดา ใช้ชีวิตธรรมดา ไม่ทำตัวล้ำเทรน
กินอยู่ อย่างง่าย ๆ ก็ใครเขาจะมาสนใจล่ะคนธรรมดาอย่างเรา
แต่หลังจากที่เธอคนนั้นได้เข้ามา เข้ามาทำให้ผมรู้จักกับคำว่ารัก
การถูกห่วงใย การเป็นคนสำคัญสำหรับคน ๆ หนึ่ง การถูกหวง
และถูกหึงครั้งแรก ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะมีคนมาหึงเรา
มุมมองในความรักผมก็ได้เริ่มที่จะเปลี่ยนไป
ความรักคือ ความห่วงใยที่คนสองคนมีให้กับกันและกัน
เวลาในชีวิตผมกับเธอเริ่มผูกพันกลมกลืนเป็นของกันและกัน
นับตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ที่บางครั้งเราจะโทรแกล้งปลุกกัน
ให้อีกฝ่ายสะลึมสะลือด้วยความงัวเงียมารับ จะโกรษก็โกรษไม่ได้ซะด้วย
งงอยู่ งึมงำรับเสร็จก็หลับต่อ
มาถึงมหาลัยกินข้าวเช้าด้วยกัน รอส่งเธอขึ้นห้องเรียน บางครั้งบางวันถ้าคิดถึงมาก
ก็มากินข้าวเที่ยงด้วยกัน มีหลายครั้งที่เราไปเจอกันที่โรงอาหารโดยบังเอิญ เธออยู่ในกลุ่มเพื่อนเธอ
ผมอยู่ในกลุ่มเพื่อนผม แต่ความรู้สึกมันก็เหมือนกับกินข้าวเที่ยงอยู่ด้วยกัน
เพื่อนเธอก็ทำเป็นมอง ทำเป็นแซวเธอ ว่าเรามาเฝ้า ชอบจังความรู้สึกนี้
ข้าวเที่ยงก็กินด้วยกันย่อมไม่พลาดหรอกที่ข้าวเย็นก็จะกินด้วยกัน เธอชอบแกล้งทำเป็นเล่น
ฝาขวดน้ำ ให้เราดุเป็นเด็ก ๆ ว่าไม่กลัวมันบาดหรือไง แล้วเธอก็จะทำเป็นหน้าสลดหลังจากโดนดุ
แต่ก็แว๊ปเดียว หน้ากวนๆในแบบของเธอก็กลับมา เจ้าแก้มป่องของเขาเอ้ยยย จับหอมทำโทษซะดีไหมเนี้ย
ห้องสมุดมักเป็นแหล่งพักพิงของเราสองคนในการเป็นที่สำหรับเราได้หลบมุมมาอยู่ด้วยกันโดยไม่มีใครกวน
มีหนังสือให้อ่าน มานั่งคุยถึงเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันนับเป็นเรื่องโชคดีที่เราสองคนชอบเข้าห้องสมุดเหมือนกันมั้ง
เหมือนตอนพบรักแรกเจอที่เราก็เจอกันในห้องสมุดแห่งนี้
วันเวลาก็มักจะวนเวียนซ้ำช่วงเวลาเดิมอยู่นับวัน นับเดือน จนเป็นปี ต่างกันที่รายละเอียดในสถานที่ที่เราไปอยู่ด้วยกัน
บางวันไปเดินเล่น ได้แกล้งเธอ ได้นอนหนุนตักเธอ จับแก้มเธอ แหย่เธอจนเธองอน กว่าจะง้อได้ก็นานเชียว แต่บางครั้งก็มีเรื่อง
ให้เข้าใจผิด ให้ร้องไห้ มือที่เคยแกล้งจับแก้มเธอก็ต้องเอามาคอยเช็ดน้ำตาให้เธอ ปลอบให้เธอหยุดร้องเข้าใจในเหตุผล
ชีวิตที่วนเวียนอยู่กับเธอทำให้ผมมองความรักว่าความรัก ก็คือ การที่ผมได้อยู่กับเธอได้มีเธออยู่ชิดใกล้
จนกระทั่งถึงวันหนึ่ง ที่เธอเข้ามาบอกว่า "เราเลิกกัน"
การเปลี่ยนแปลงในครอบครัวเธอทำให้หน้าที่ในบ้านของเธอที่ต้องรับผิดชอบในการช่วยธุรกิจครอบครัว
เข้ามาเบียดบังเวลาในชีวิตเธอ เวลาที่เธอให้กับผมคงหมดลง หรือลดน้อยจนแทบไม่มี
ความในใจจากปากเธอพรั่งพรูออกมาให้รับรู้ ว่าเธอคิดถึงเรื่องนี้มานานมากแล้ว
หลายครั้งที่เธอต้องปฏิเสทรับงานหลาย ๆ งานที่มีคนเสนอมาให้ เพราะงานพวกนี้
ต้องทำเสาร์อาทิตย์ และเสาร์อาทิตย์เธอก็เลือกที่จะอยู่กับผมมากกว่าที่จะอยู่กับงาน
แต่คราวนี้ เธอคงหลีกเลี่ยงมันไม่ได้อีกแล้ว เธอคงต้องทุ่มเทให้กับงาน จนไม่อาจจะมัวว้าวุ่นใจอยู่กับเขาได้
ถ้าเรายังเป็นแฟนกันอยู่ เธอก็คงจะต้องมัวพะวัง คอยห่วงผมจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน
เราคงต้องถอยออกมากันคนละก้าว เธอบอก
แต่สิ่งที่เขาเห็นคือ การจบชีวิตคู่ของเรา
ผมขอสัญญาในคืนนั้นที่เธอบอกเลิก ว่าให้เรายังคุยกันเหมือนเดิม โทรศัพท์มา good night เหมือนทุกคืนจะได้ไหม
เธอว่า ได้ เราจะโทรคุยกันเหมือนเดิม
แต่กว่าสามสัปดาห์มานี้ ที่ผมรอคอย ไม่มีซักครั้งที่เธอโทรมา หรือแมสเสจมาเหมือนเดิม
นับวันเรายิ่งจะไกลห่างกัน เธออาจจะพยายามทำให้เราตัดใจ ให้ผมไปหาคนใหม่ที่ดีกว่าเธอ
แต่ผมคงไม่มีทางตัดใจจากเธอได้หรอก
ก็ สำหรับผม
เธอน่ะดีที่สุดแล้ว
"รักเธอน่ะ"
เจ้าแก้มยุ้ยของเขา
"และจะรักตลอดไป"
วาเลนไทน์ปีนี้ผมคงต้องนั่งอยู่คนเดียวคอยหาความหมายของคำว่ารักว่า ณ ตอนนี้ สำหรับผมแล้ว
ความรักมันคืออะไร
จากคุณ :
ดอกไม้เล่าเรื่อง
- [
9 ก.พ. 49 15:59:48
]