CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ไม่ทราบว่าเมื่อคืนมีท่านใด อารมณ์ค้างกับรายการถึงลูกถึงคนตอน "เปิดเสรีการขายถุงยางในโรงเรียน" แบบผมบ้างครับ

      เห็นด้วยให้ขาย (6 คน)
      ไม่เห็นด้วยให้ขาย (16 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 22 คน

     27.27%
     72.73%


    ไม่รู้ว่าเมื่อวานคุณๆได้ดูถึงลูกถึงคนในตอนที่เค้าเถียงการเรื่องการขายถุงยางอนามัยในโรงเรียนหรือเปล่า  แน่นอนว่าความคิดความเป็นของผู้ฟังที่ออกมาน่าจะออกมาได้ในสองแนวคือ เห็นด้วย และ ไม่เห็นด้วย .. ผมขอใช้กระทู้นี้เป็นสื่อกลางของผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยในการออกมาแสดงความเห็นกันดีกว่ามั้ยครับ

    ในความเห็นแรกของผมที่จะขอนำเสนอออกไป ผมขอเสนอความเห็นไม่เห็นด้วยกับความคิดการจะขายถุงยางในโรงเรียน ซึ่งผมคิดว่า .. เฮ้ย มันไม่ได้แตกต่างจากการแก้ปัญหารถซิ่งที่แก้กันที่ปลายเหตุ โดยการจัดสนามให้เค้าแข่งกันแต่อย่างไร

    ผมจะพยายามไม่กล่าวถึงความเห็นที่พวกเค้ากล่าวกันในรายการออกไปแล้ว แต่ผมไม่คิดว่าถุงยาง ควรจะเข้าไปอยู่ในโรงเรียนแต่อย่างไร ประเทศเรามีกฏหมาย มีวัฒนธรรม มีขนบธรรมเนียม ประเพณี ในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ ว่ามันควรจะเกิดหลังจากที่หญิงชายได้แต่งงานกันไปแล้ว ถ้าคุณคิดว่า เซ็กซ์คือเรื่องปกติ และสิ่งที่ในประเทศฟรีเซ็กซ์ทำกันนั้นเป็นเรื่องที่ดี ผมว่ามีสองทางครับคือ พยายามหาวิธีสร้าง ไทม์ แมชชีน แล้วย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงขนบธรรมเนียมที่สื่บทอดกันมา และมันกำลังจะพังในยุคนี้ซะ หรือไม่ก็ไปตายแล้วเกิดให้ ขอให้ได้เกิดในแดนฟรีเซ็กซ์

    แน่นอนว่าโลกเปลี่ยนไป เรื่องบางอย่างจึงควรที่จะต้องปรับเปลี่ยนแปลง ตามไป แต่ไม่ใช่การที่จะปรับเปลี่ยนไปโดยไม่มีขอบเขต ขนาดที่ว่า ถ้าคุณโตขึ้นจนสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เมื่อไร อะนี่ถุงยาง สิบสาม สิบสี่ จับคู่ไปมีเซ็กซ์กัน .. อย่างงี้ บ้านเมืองถึงกลียุคแน่นอน ไม่มีอีกแล้ว ผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ที่ดีของลูกในสังคมไทย เพราะเมื่อแม่ ก็มีเซ็กซ์ในช่วงเวลานั้น แม่คนนั้น ซึ่งจะต้องเป็นหลักในการไปพร่ำสอนลูกของตน จะสั่งสอนลูกของตนเองได้อย่างไรกัน

    ผมคิดว่า สิ่งที่ดีที่สุดว่า เวลาใดควรจะมีเพศสัมพันธ์ แน่นอนนั่นคือ เมื่อคุณแต่งงานไปแล้ว แต่ด้วยการที่มนุษย์ มีความต้องการทางเพศไม่ต่างจากสัตว์ทั่วไปเช่นกัน เพียงแต่สังคมไทย เรามีวัฒนธรรมการรักนวลสงวนตัว เข้ามากอยู่กึ่งกลาง ระหว่างคำว่า สิ่งที่ควรจะทำ กับ สิ่งที่อยากจะทำ .. ผมเห็นควรเช่นกันว่า มันก็ควรจะต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่ต้องมีขอบเขต

    แน่นอนว่า ไม่มีพ่อแม่คนใหน อยากรู้ว่าลูกสาว หรืออาจจะรวมไปถึงลูกชายซึ่งในความจริง สังคมเราไม่ได้ใส่ใจอะไรกับผู้ชายมากนัก ต้องไปมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน แต่หากว่ามันเป็นแบบนั้นไม่ได้จริงๆ อย่างน้อย มันต้องไม่ใช่คนที่อยู่ในวัยเรียน ไม่ว่าจะเป็น มหาลัย หรือจะเป็น มัธยม

    การเอาถุงยางมาขายในโรงเรียนนั้นถือว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอย่างแท้จริง ถ้าคุณทำให้เซ็กซ์ในวันเรียนเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว จะมีเด็กดีๆอีกหลายคนเดินเข้ามาในทางนี้ และเมื่อเราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เราก็ต้องตามไปแก้มันตลอดไป นึกได้เลยคับว่า ปัญหาต่อไปคือ โรงเรียนจะต้องเปิดห้องหรือสถานที่ให้เด็กมีอะไรกันหรือเปล่า หากเกิดกรณีที่เด็กแอบไปมีเซ็กซ์กันในที่สาธารณะ ซึ่งในปัจจุบันอาจมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นบ้างแล้ว แต่ถ้าเราปล่อยให้เซ็กซ์ในวัยเรียนเป็นเรื่องปกติ ปัญหาตรงนี้จะระเบิดกลายเป็นเรื่องปกติในสังคมเช่นกัน

    ทางแก้ปัญหามันคืออะไร .. ผมว่านี่คือปัญหาที่ พ่อ แม่ หรือ ครูต้องคิดแก้ .. อย่าลืมนะครับ พ่อแม่ คือ พระในบ้าน ที่ลูกทุกคนควรจะเคารพนับถือ ควรจะกราบไว้ และเชื่อฟังคำสั่งของคนที่มีพระคุณที่สุดในชีวิตของเรา  หากว่าพ่อแม่ สามารถชี้ให้เห็นว่า สิ่งนั้นเป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งเลวๆ ผมเชื่อว่า ลูก จะเชื่อและไม่คิดว่า อยากจะลองแต่อย่างไร

    ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นมาอย่างมากมายคือ พ่อ แม่ รู้จักวิธีทำให้เด็กเกิด แต่ไม่รู้จักว่าจะสอนลูกให้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้อย่างไร เมื่อเด็กไม่มีคนคอยสอน พวกเค้าก็คิดขึ้นมาเอง โดยใช้เพียงสัญชาตญานของการที่เกิดมาเป็นสัตว์ที่ได้ชื่อว่า คน โดยไม่ได้มีคำว่า กฏเกณฑ์ ประเพณี ขนบธรรมเนียม ของประเทศที่วืบทอดกันมาช้านานเข้ามาในหัว .. อยากมีเซ็กซ์ก็มี .. อยากข่มขื่นผู้หญิงก็พาพวกไปรุมโทรมเค้า .. ซึ่งแน่นอน ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้น คนซักพันคน ก็จะต้องมีพวกที่เลวสุดขั้วแบบนี้อยู่อย่างน้อยซักหนึ่งคนแน่นอน  .. เราไม่มีทางทำให้คนเป็นคนดีด้วยกันทั้งหมดอยู่แล้ว .. ขั้นตอนต่อไปคือ กฎหมาย ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกำจัดหรือว่าทำให้คนพวกนี้หาย หรือ ไม่สามารถออกไปอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ ต่างหากที่จะต้องมามีบทบาท โดยเฉพาะกฎหมายที่จะกำจัดสื่อแย่ๆ อย่างพวกสื่อลามกซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ ขนบธรรมเนียบของประเทยไทยถูกทำลายไป ให้หมดไป ... คุณเชื่อมะ .. ปัจจุบันซีดีโป้ซักอัน มันหาง่ายไม่ต่างจากบุหรี่ .. ทำไม มันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในสังคมของเราล่ะ ..  


    แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่าง กฎหมาย ดูเหมือนเป็นภาพเสือที่เอาไว้ขู่ผู้คนเหล่านี้ให้กลัวเท่านั้นเอง .. นั่นล่ะคือปัญหา

    มองย้อนกลับไปอีกฟากนึง ลูกที่มีพ่อแม่ มีปู่ ย่า ตา ยาย คอยดูแล ควรให้ความเอาใจใส่ .. คนพวกนี้เค้ารู้ครับว่า เราจะเลี้ยงคน ให้กลายเป็น มนุษย์ได้อย่างไร ..

    ปัญหา มากมายโดยเฉพาะสังคมมหาลัยบางที่ ( สังคมมหาลัยระดับสูง ผมเชื่อเหลือเกินว่า คนดีนะช่วยกลืนคนเลว ให้เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ และน่าขยักแขยงอยู่แล้วในตัวของมันเอง เพียงแต่ว่าในสังคมใครบางคน พยายาม เอาคำว่า มหาลัยไปทำให้ชื่อเสียง คุณค่ามันลดลง  ) ส่วนนึงน่าจะเกิดจากเด็กตจว. ที่เดินทางเข้ามาศึกษาใน กทม. มากกว่าเพราะ พวกเค้าจะต้องเริ่มใช้ชีวิต ดูแลตัวเอง คิดเองตั่งแต่อายุ สิบแปดปี ซึ่งโอกาสการเดินไปในทางผิดๆมันเยอะเหลือเกิน ..

    ตอนนึงในบทสนทนาเมื่อคืน พูดถึงการที่จะพยายามให้คนไทยเปลี่ยนความคิดว่า ผู้หญิงนั้นไม่ใช่ฝ่ายเสียดายแต่อย่างเดียว .. ซึ่งผมว่า ตลก ที่คิดได้ออกมาแบบนั้น

    ผมคงไม่ต้องบรรยายว่า ทำไมผู้หญิงถึงเป็นฝ่ายเสียหาย .. ผมเชื่อว่าผู้หญิงสามารถพัฒนาทุกอย่างเทียบเท่าผู้ชาย และผู้หญิงควรจะเป็นผู้นำในเรื่องต่างๆ มากกว่านี้ .. นายกคนต่อไปควรจะให้โอกาสผู้หญิงขึ้นมาบ้างซึ่งผมก็สนับสนุน แต่ไม่ใช่เรื่องเพศ ที่ผู้หญิงจะมาคิดว่าตัวเองไม่เสียหายอะไร หากว่าเสียตัว หรือมีเซ็กซ์ไปแล้ว เฉกเช่นผู้ชาย .. ผมว่าให้คนเราพัฒนาในวันนึงที่ ผู้หญิงกับผู้ชายสามารถแบ่งกันตั่งท้องคนละ สี่เดือนครึ่ง ให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาคิดแบบนั้น

    วัยเรียน เป็นวันที่ต้องเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ  ควรคุมไปถึงเรื่องการป้องกันตัวเองจากอันตรายต่างๆของการมีเซ็กซ์ หลังจากที่เราจะเรียนจบออกไป ไปเป็นวัยผู้ใหญ่ .. แต่ไม่ใช่วัยที่จะต้องมาลองเรื่องแบบนี้ และทำให้มันเป็นเรื่องปกติ

    สิ่งที่ต้องแก้คือ ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุที่จะปล่อยให้มาขายถุงยางกันในโรงเรียน หรือมหาลัย ส่วนพวกที่เหลือขอ แก้ยังไง ก็แก้ไม่ได้ ผมว่าควรให้สังคมเป็นตัวที่จะลงโทษพวกเค้าเองจะดีกว่า แน่นอนว่า หากคนในสังคม มีดี มากกว่าเลว .. คนเลวส่วนมาก ก็จะถูกกลืนเข้ามาในกลุ่มคนดี และทำตามกันไปในที่สุด แม้ว่าจะไม่ทั้งหมดก็ตาม แต่อย่าให้คิดเลยครับว่า หากว่าสังคมนี้มีคนเลวมากกว่าคนดี มันจะเกิดอะไรขึ้น .. คิดเอาเองก็แล้วกันว่า การเปิดขายเสรีถุงยางในสถานศึกษา จะทำให้สังคมเปลี่ยนไปในทางใด ..

     
     

    จากคุณ : Yupin - [ 10 ก.พ. 49 13:59:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป