CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ฤๅเธอก็มีอยู่จริง??

    ชั่วชีวิตของผม..ใฝ่ฝันที่จะได้พบกับใครคนหนึ่ง..ที่เหมือนมินามิ
    มินามิ..คือเด็กสาวในการ์ตูนเรื่องหนึ่ง..ที่ผมอ่านมาตั้งแต่เด็ก
    เธอสวย..ตาโต..ฉลาด..และน่ารัก
    เธอตกอยู่ภายใต้ความสับสนของสองหนุ่มที่เคียงข้าง...พี่น้องฝาแฝด หน้าตาถอดกันมาเดี๊ยะ
    แต่พี่ชายดูดีกว่า..เรียนเก่งกว่า เล่นกีฬา(เบสบอล)ดีกว่า
    น้องชาย กลับด้อยกว่าในทุกเรื่อง หากครองใจเธอได้มากกว่า
    เธอเลือกจะรักเขาเพราะเธอรักเขา..รักในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่ในสิ่งที่เขาต้องเป็น
    ผู้หญิงอย่างมินามิ..จะมีไหม?..ผมถามตัวเองมาตั้งแต่ตอนนั้น
    แล้วผมก็ได้เจอ..
    มินามิ..มีจริงหรือนี่??
    ++++

    ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างละครไทยหลังข่าว..หากเป็นเรื่องจริงเมื่อเพื่อนของผมคนหนึ่งเข้ามาสะกิดเบา ๆ เพื่อชวนไปกินเหล้า
    "เอ็งเตะข้า?"
    "ช่าย.." เขาตอบ ทำหน้าตายียวน
    "ไม?" ผมถาม..เงื้อเท้าบ้าง
    "จะชวนไปกินเหล้า"
    เท้าที่เงื้อเลยหมดสภาพ..สภาพของผมตอนนี้ต้องกินเหล้าอย่างเดียว
    "แก้อกหักไงวะ..ไปมะ..วันนี้เพื่อนของข้าจากมอชอขอให้พาไปเที่ยว มีหญิงด้วยนะโว้ย"
    ผมไม่สนใจประโยคหลัง ต่อให้หยาดฟ้ามาดินอย่างไงผมก็ไม่สน เข็ดแล้ว..สำหรับความรัก
    "ไปไหน.."
    "เอาน่า..สองทุ่มเจอกันที่เดิม"
    ++++

    "ต่อ" คือชื่อของเขา เขาที่เป็นเพื่อนสนิทของผม ที่เดิมของเขาก็คือหน้าบ้านของผม
    เขาจะขับรถมารับผมทุกครั้งที่จะออกเที่ยว
    หมอนี่ทั้งรวยทั้งหล่อ..ขี่บีเอ็มรุ่นใหม่รับส่งสาวไม่ซ้ำหน้า
    ผมรักเขาเพราะเขารักผม..เขาไม่เคยมองว่าผมต้องนั่งรถเมล์ไปเรียนทุกวัน
    "ข้าไม่มีเงินไปเที่ยวกับเอ็งทุกวันนะโว้ย" ผมบอกเขาในวันหนึ่ง
    ต่อมองหน้าผม..เขาไม่พูดอะไร นอกจากคำว่า
    "หากเอ็งพูดถึงเรื่องนี้อีก..เอ็งกะข้าเลิกคบกัน"
    "ไม?"
    "เอ็งเป็นเพื่อนข้า..เอ็งมีเท่าไรเอ็งก็ออกมา..เอ็งไม่มีก็ไม่ต้องออก..เข้าใจ๋"
    ผมส่ายหน้า
    "ข้าไม่อยากเอาเปรียบใคร"
    คราวนี้เขาไม่พูด..กระชากคอผมขึ้นรถ..
    "ไอ้รัน..เอ็งจำไว้ เพื่อนของเอ็งคนนี้ คบใครไม่ใช่คบที่เงิน.."
    คืนนั้นผมจึงเป็นคนลูบหลังเขาตอนอาเจียน
    "คราวหลังเอ็งอย่าดูถูกข้าอีกนะ..ไอ้รัน"
    เขาบอกผมก่อนจะทำคอพับหัวทิ่มลงกับพื้น
    +++

    ผมแต่งตัวธรรมดา..
    เสื้อเชิร์ตแขนสั้น กางเกงขาวยาวกระเป๋ารอบตัว
    ดวงตาช้ำอิดโรย..หัวอกหัวใจที่แหว่งวิ่นยังไม่เข้าที่สักเท่าไร
    อกที่หักเพราะใครคนหนึ่ง..หักอย่างยับเยินไม่เหลือชิ้นดี
    จึงยากที่จะประสานได้ในเร็ววัน
    ต่อเข้าใจดี..เขาจึงหาเรื่องพาผมไปเที่ยวแทบทุกคืน เพื่อให้ผมลืมเรื่องราวเหล่านั้นโดยเร็ว
    "ผู้หญิงที่เห็นเงินเป็นพระเจ้า เอ็งจะไปใยดีให้มากทำไมวะ?"
    "ข้ารักเธอ"
    "อย่า.." เขาโบกมือว่อน "คำ ๆ นั้นมีค่ามากกว่า"เธอ"คนนั้น เอ็งเก็บไว้ใช้กับคนที่คู่ควรดีกว่า"
    ผมซึมเศร้า เขาตบหลัง
    "ข้าเข้าใจดี..เป็นข้า ๆ ก็คงแย่เหมือนเอ็งเหมือนกัน"
    ++++

    ถนนข้าวสาร เป็นที่ที่เขาพาผมไป
    ผู้คนยั้วเยี้ยราวกับมีมหกรรมกินฟรี ผมกับเพื่อนและเพื่อนใหม่อีกสี่คนนั่งล้อมวงเหล้าที่โต๊ะของร้านหนึ่ง
    เสียงเพลงดังกล่อมอารมณ์
    3 ใน 6 เป็นผู้หญิง...  1 ใน 3 ของผู้หญิงเป็นคุณหนู
    นอกนั้นยังมีเรียบ ๆ อีกหนึ่ง เต้าหู้ยี้อีกหนึ่ง
    เวลาผ่านไปคุณหนูเริ่มกลายเป็นคนชงเหล้า เต้าหูยี้เริ่มละลายกลายเป็นน้ำเยิ้มไปเยิ้มมา
    ต่อคุยกับหญิงเรียบมากเป็นพิเศษ ผมไม่เคยเห็นเขาคุยกับผู้หญิงคนไหนมากและนานขนาดนี้
    ส่วนผม..ดื่ม..ดื่มเพื่อรักษาหัวใจที่ปวดร้าว
    นาน ๆ ทีถึงจะมีส่วนร่วมในวงสนทนากลั้วเหล้านั้นบ้าง
    กระทั่งต่อไปห้องน้ำ..หญิงเรียบซึ่งนั่งตรงข้ามกับผมก็ขว้างคำถามมาโครมใหญ่
    "นายกินเหล้าเหมือนคนอกหัก..ฉันคงเดาไม่ผิด?"
    ผมอึ้ง..กลืนน้ำลาย..ประโยคแรกที่เธอคุยกับผมมันจี้ใจดำพอดี
    "ถูกต้อง..งวดนี้ออกอะไร?"
    "69 ซื้อนะรับรองถูก" เธอบอกเสียงเรียบ
    ผมยิ้ม มองผมสั้นแค่คอของเธอที่ตัดกับแก้มที่แดงเรื่อ ดวงตาสุกสกาว..ขับเน้นผิวขาวของชาวเหนือให้แจ่มชัดยิ่งขึ้น
    "ความรักมันก็อย่างนี้..แรกรักก็แสนสุข หมดรักก็แสนเศร้า"
    ผมปรบมือ..บ๋อยหันขวับ
    "อะราวนด์เดอะเวิร์ดเป๊กหนึ่ง..เพื่อประโยคอันแสนถูกใจของเธอ.."
    บ๋อยโค้งแล้วจากไป เธอหัวเราะ
    "เมาคงช่วยได้..สร่างเมื่อไรก็เจ็บต่อ"
    คราวนี้ผมนิ่งเงียบ..มองผู้หญิงตรงหน้าอย่างพินิจอีกครั้ง
    ริมฝีปากบางเฉียบหากทรนงนั้นผมไม่เคยได้เห็นจากผู้หญิงหน้าหวานคนไหนมาก่อน ดวงตากลมโตมองนิ่งมายังผมอย่างเท่าทัน
    "ผู้ชาย..อย่างดีก็เสียใจไม่กี่วัน..ผู้หญิงสิ..เสียใจตลอดชีวิต"
    "พูดเหมือนคนอกหัก..รึว่า?"
    "สั่งออนเดอะร๊อคให้ฉันด้วยดีกว่า.."
    นั่นเป็นคำตอบของเธอ
    ++++

    คณะของเธอยังอยู่เที่ยวกรุงเทพฯ อีกพักใหญ่
    ต่อพาผมไปกับเขาด้วย พวกเราดูหนังกันสองสามรอบ ทานข้าวกันสองสามครั้ง
    ตอนเธอไม่เมา..น้อยครั้งที่ผมจะได้ยินเสียงของเธอ
    ต่อแสดงความสนใจเธอจนเห็นได้ชัด..แต่ที่ผมสังเกตไม่ได้ก็คือทีท่าเฉย ๆ ของเธอ
    จังหวะหนึ่งผมถามเธอ
    "กลับเชียงใหม่เมื่อไร?"
    "ฉันอยากไปเที่ยวทะเล.."
    เธอมักจะไม่ค่อยตอบให้ตรงคำถามเท่าใดนัก เธอจะพูดในสิ่งที่เธออยากพูดเสมอ
    "ที่ไหน?"
    "ทะเลไงล่ะ.."
    ++++

    ทะเลที่เธอหมายถึง..คือเกาะเสม็ดเพชรเม็ดงามของทะเลตะวันออกของไทย
    ต่อกระวีกระวาดจัดการทุกอย่างให้พร้อมสรรพ ทั้งการจองที่พัก และการขับบีเอ็มคันหรูเป็นพาหนะ
    แต่เธอไม่ยอมนั่งหน้าคู่กับเขา
    "เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องสบายคนเดียว ฉันสี่คนมาด้วยกันก็ต้องลำบากด้วยกัน"
    แต่คุณหนูไม่คิดอย่างนั้น..เธอขอไปนั่งหน้าด้วยเหตุผลที่ว่า
    "ฉันหายใจไม่ออก"
    ดีที่บีเอ็มคันนั้นใหญ่พอที่จะใส่ผู้หญิงร่างเล็ก ๆ 2 คนกับผู้ชายอีก 2 คนในเบาะหลังได้ไม่อึดอัดมากนัก
    เจ้ารูปหล่อเพื่อนของผมถึงกับลอบเบ้ปากกับผม
    แต่ผมช่วยเขาไม่ได้..ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเขาถูกใจหญิงเรียบคนนี้มากกว่าคุณหนูคนนั้น
    ผู้หญิงสองคนถูกขนาบกลางไว้ด้วยผู้ชายสองคน
    เต้าหู้ยี้นั่งติดกับผม..ส่วนเธอ นั่งติดกับเพื่อนของต่อ
    หูของผมจึงต้องชาเพราะเสียงคุยเจี้อยแจ้วของเต้าหู้ยี้
    เกือบสามชั่วโมงที่เธอคุยไม่หยุด..ไม่เหมือนกับหญิงเรียบ..นาน ๆ ทีถึงจะมีเสียงขึ้นมาหากถูกถาม
    จมูกโด่งขนตางามและริมฝีปากบางเชิดนั้นจึงเป็นสิ่งที่ผมได้เห็นตลอดระยะการเดินทาง
    ผมลงความเห็นว่าเธอเหมือนนางเอกการ์ตูนญี่ปุ่น..เธอเหมือนมินามิ..
    มินามิที่มักไม่ค่อยพูด..หากสื่อสารด้วยดวงตา
    ผมจับหางตาเธอได้บ่อยครั้ง..บ่อยครั้งจนผมรู้สึกเสียดายที่ผมไม่เหลือหัวใจไว้ให้ใครอีกแล้ว..
    ผู้หญิง..ความรัก..
    ความรัก..ผู้หญิง..
    เหมือนก้อนเมฆที่พลิ้วผ่านเปลี่ยนรูปได้เสมอ
    ผู้หญิงที่บูชาเงินเป็นพระเจ้า...มากกว่าความรัก
    พอกันที..
    +++++

    โขดหินและหาดทรายเป็นที่ที่เราทั้งหกใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับมัน
    บางคนเล่นน้ำ บางคนเดินย่ำริมหาด บางคนนั่งรับลมใต้ร่มไม้..
    ส่วนผม..เมา
    แต่เธอ..หญิงเรียบคนนั้น..เลือกโขดหินเป็นที่นั่งเหม่อมองไปยังท้องทะเลอันกว้างใหญ่
    ผมไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร..ผมไม่อยากรู้..
    ในหัวของผมกลับเป็นภาพอดีตอันหวานชื่น กับคนที่เคยบอกคำว่า "รัก" ให้กันและกันมาตลอดเวลา
    กระทั่งต่อมาทรุดตัวลงข้าง ๆ ผมถึงได้รู้สึกตัว
    เขาคงสลัดคุณหนูทิ้งได้ชั่วคราว
    เขาถอนใจ..
    "เป็นไร?" ผมถาม
    "เอ็งจะเชื่อข้าไหม? ถ้าข้าจะบอกเอ็งว่า..ข้าชอบเธอว่ะ"
    "ใคร?"
    เขาพยักหน้าไปทางเธอ
    ผมหัวเราะ
    "ไม่บอกข้าก็รู้..ว่าแต่.."
    ผมมองหน้าเขา
    "ทำไม?" ผมถาม
    เขานิ่งไปนิด..ก่อนจะเอ่ยเสียงจริงจังออกมา
    "เธอแปลกดี..เธอไม่สนใจข้าเลย..ผู้หญิงอย่างนี้แหละที่ข้าชอบและรอมานานแล้ว.."
    ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
    ชายหนุ่มร่างสูง..รูปหล่อ..ร่ำรวย..จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ไม่สนใจ
    ผิดกับผม..ธรรมดา..ค่อนไปทางจน
    จะมีสักกี่คนที่เห็นใจ
    แม้แต่คนที่เคยบอกว่ารัก..ยังเลือกที่จะทิ้งไป..เมื่อมีชายคนอื่นที่เหมาะสมกว่าเข้ามาแทน
    "แล้ว?"
    "ข้ายังไม่มีโอกาสเลยว่ะ.."
    "ตอนนี้ไง..เข้าไปจีบเลยสิวะ"
    ผมยุส่ง
    "เฮ่ย.." เขาส่งเสียง..หน้าแดง "คนนี้ข้าคิดว่าข้าเอาจริงโว้ย..จะใจร้อนไม่ได้..เดี๋ยวเสียของ.."
    เราสองคนหัวเราะให้แก่กัน
    มันคงดังเกินไป..จนทำให้เธอหันมา..
    สีหน้าของเธอเรียบเฉย..หากแววตาที่เธอมองผม..กลับทำให้ผมใจหาย
    มัน..มัน..บาดลึกไปถึงขั้วใจ
    ++++

    จากคุณ : รันนรา - [ 20 มี.ค. 49 22:02:50 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป